เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนให้แง่คิด => ข้อความที่เริ่มโดย: พันคม ที่ 04 พฤศจิกายน, 2559, 08:02:04 PM



หัวข้อ: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 04 พฤศจิกายน, 2559, 08:02:04 PM
(http://www2.tnews.co.th/userfiles/image/4(2001).jpg)
.*..กระนั้นหรือ..*.
.
ผู้อยู่ห้วงสรวงสวรรค์บนชั้นฟ้า
หอมดอกปาริชาติมิเคยห่อน
หอมเช้าสายบ่ายนั้นนิรันดร
กลิ่นขจรแสงขจายมิคลายจาง
.
ล่วงคืนวันหมุนวนกมลเทพ
ทรวงส้องเสพความสุขที่บุญสร้าง
ไร้สังขารสัมผัสกับสรรพางค์
เมื่อไร้ร่างผูกพันด้วยฉันท์ใด
.
กรุ่นแห่งกลิ่นทิพย์ผกาทั้งฟ้าสรวง
กาลเลยล่วงช่วงผ่านคืนวันใหม่
หอมตลบอบอวลเย้ายวนใน
สี่ห้องแห่งหฤทัยไยเด็ดดม
.
ก็ฉันใดฉันนั้นสรรมากล่าว
สวยสกาวพราวเด่นใดเห็นสม
ต้องสวมสอดออดอ้อนเป็นก้อนกลม
หรือเชยชมชิดรู้ในอุรา
.
สุขอยู่ไหนทุกข์อยู่ไหนไยรู้สึก
รักอยู่ไหนไยรำลึกและโหยหา
เธออยู่ไหนฉันอยู่ไหนในชะตา
แล้วกายาเทพไท้มี-ไม่มี
.
สำคัญที่ดวงจิตพิศวาส
อยู่ต่างภพต่างชาติมิอาจหนี
สำมะหาอะไร ในกายี
สมมุตินี้เหตุไฉนไยต่างกัน
.
ดูเมฆหมอกมัวหม่นบนท้องฟ้า
ท้องนภาเวิ้งว้างใครสร้างสรรค์
โลกมีเช้ามีค่ำมีกลางวัน
สรวงสรรค์มีหรือไม่ลองไตร่ตรอง
.
มีมากมายกลับคล้ายมีค่าน้อย
เห็นบ่อยบ่อยกลับบ่นว่าหม่นหมอง
กับเศษแร่แปรค่าเรียกว่าทอง
หมามันมองตาเป็นมัน..กระนั้นฤา
.
.*..พันคม..*.



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 04 พฤศจิกายน, 2559, 08:34:35 PM
คงแค่จิตลอยคว้างกลางอากาศ
ที่หมายมาดรูปกายได้ยึดถือ
ประกอบกับอำนาจใหญ่อยู่ในมือ
มาแย่งยื้อเปลี่ยนกรรมดำเนินจร

สุขและทุกข์อยู่เคียงเพียงป่วนแปลก
ควรมองแยกตระหนักสักพักก่อน
เมื่อมีทุกข์สุขจางห่างแน่นอน
เมื่อมองย้อนสุขมากทุกข์จากไป

รักอยู่ยงคงติดที่คิดจับ
กระแสรับ-ส่งสิ้นถวิลได้
แต่มิมีรักแท้เกิดแก่ใคร
รักนิรันดรไซร้ให้ตนเอง

สมมุตินี้ต่างกันแค่วันล่วง
คนเกิดก่อนนั้นพ่วงความรู้เก่ง
และต่างกายสังขารมานยำเกรง
ดี-ชั่วเร่งเสริมสงบลบมายา

สรวงสรรค์มีหรือไม่น้องไม่รู้
ขอให้สู้ทุกวันฟันและฝ่า
ทำจิตดีมีใจในเมตตา
ตะวันลาพินิจคิดไตร่ตรอง

เธออยู่หนแห่งใดในโลกนี้
ฉันอยู่นี่ที่นั่งฟังสนอง
พระธรรมงามตามคำล้ำเลิศลอง
จึงประคองคู่ใช้ใส่ฤดี

อันเศษแร่แปรทองของเดิมธาตุ
คล้ายปัดกวาดแคล่วคล่องต้องวสี
แม้หมู่หมามามองปองสิ่งนี้
กระนั้นหรือคือที่ดีแต่มอง

กลิ่นตลบอบอวลเย้ายวนเทพ
หากส่งเสพต้องด้วยจิตคิดสนอง
ชื่นชมชิดคิดดูก็รู้ครอง
อุระพ้องสวมสอดกลมกอดเกลียว

ทิ้งสังขารละหายสิ่งภายนอก
สลัดออกเห็นแก้วแม้แววเดี๋ยว
วะวามแวมบนเวิ้งว้างสว่างเชียว
ดวงจิตต่างท่องเที่ยวเลี้ยวจรมา

สิริวตี

....วันนี้เบลอๆ ขอโทษด้วยนะคะที่แต่งแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง...

ทำไมกระทู้ธรรมะ ยากขึ้นทุกวันเลยอ่าคะ
 :29:









หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 05 พฤศจิกายน, 2559, 09:52:13 AM
สามซ่อน
..
แอบซ่อนในหนุ่มเหน้า..คือชรา
กายแกร่งซ่อนโรคา.....ป่วยไข้
ชีวิตซ่อนมรณา...........เคียงคู่
สามซ่อนฉะนี้ไซร้.......เที่ยงแท้เป็นธรรม

(อ้างอิงจากกระทู้ ยินดีต้อนรับ"คุณพันคม"...)



ธรรมบทรสลิ้ม               ชิมชวน               
มานะทิฐิมวล                 ใหญ่น้อย             
ธรรมกถึกระลึกหวน         เพียงภาพ             
อาบจิตพินิจพร้อย           สะท้อนธรรมหทัย

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"
...ขอขอบพระคุณสำหรับข้อคิดทางธรรมครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 5/11/2016
ป.ล. ขอย้ายมาต่อที่นี่ด้วยนะครับ





หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 05 พฤศจิกายน, 2559, 07:36:59 PM
คงแค่จิตลอยคว้างกลางอากาศ
ที่หมายมาดรูปกายได้ยึดถือ
ประกอบกับอำนาจใหญ่อยู่ในมือ
มาแย่งยื้อเปลี่ยนกรรมดำเนินจร

สุขและทุกข์อยู่เคียงเพียงป่วนแปลก
ควรมองแยกตระหนักสักพักก่อน
เมื่อมีทุกข์สุขจางห่างแน่นอน
เมื่อมองย้อนสุขมากทุกข์จากไป

รักอยู่ยงคงติดที่คิดจับ
กระแสรับ-ส่งสิ้นถวิลได้
แต่มิมีรักแท้เกิดแก่ใคร
รักนิรันดรไซร้ให้ตนเอง

สมมุตินี้ต่างกันแค่วันล่วง
คนเกิดก่อนนั้นพ่วงความรู้เก่ง
และต่างกายสังขารมานยำเกรง
ดี-ชั่วเร่งเสริมสงบลบมายา

สรวงสรรค์มีหรือไม่น้องไม่รู้
ขอให้สู้ทุกวันฟันและฝ่า
ทำจิตดีมีใจในเมตตา
ตะวันลาพินิจคิดไตร่ตรอง

เธออยู่หนแห่งใดในโลกนี้
ฉันอยู่นี่ที่นั่งฟังสนอง
พระธรรมงามตามคำล้ำเลิศลอง
จึงประคองคู่ใช้ใส่ฤดี

อันเศษแร่แปรทองของเดิมธาตุ
คล้ายปัดกวาดแคล่วคล่องต้องวสี
แม้หมู่หมามามองปองสิ่งนี้
กระนั้นหรือคือที่ดีแต่มอง

กลิ่นตลบอบอวลเย้ายวนเทพ
หากส่งเสพต้องด้วยจิตคิดสนอง
ชื่นชมชิดคิดดูก็รู้ครอง
อุระพ้องสวมสอดกลมกอดเกลียว

ทิ้งสังขารละหายสิ่งภายนอก
สลัดออกเห็นแก้วแม้แววเดี๋ยว
วะวามแวมบนเวิ้งว้างสว่างเชียว
ดวงจิตต่างท่องเที่ยวเลี้ยวจรมา

สิริวตี

....วันนี้เบลอๆ ขอโทษด้วยนะคะที่แต่งแล้วอ่านไม่รู้เรื่อง...

ทำไมกระทู้ธรรมะ ยากขึ้นทุกวันเลยอ่าคะ
 :29:

.*..เหลืออะไร..*.
.๒.
ทิ้งเถ้าให้เพียงห่อก็เท่านี้
ทุกชีพที่ผุพังในสังสาร์
มิมีใครเหนือใครในชะตา
เมื่อถึงคราต้องตายก็คือตม
.
ร่างที่เคยหล่อสวยก็หายสิ้น
อีกแม้กลิ่นของกายก็หายฉม
น้ำหนองเยิ้มไหลยืดพะอืดพะอม
ใครจะรื่นอภิรมย์กับกายเรา
.
จะเหลือเพียงวิถีแห่งชีวิต
คอยตามติดตัวตนเป็นต้นเถา
เพื่อก่อเกิดกายใหม่ในร่มเงา
การกระทำก่อนเก่าเป็นกฎเกณฑ์
.
ก่อนที่ท่านจะถึงซึ่งวันนี้
ไยไม่ทำความดีให้ดังเด่น
หลีกและลดกฎกรรมไม่ทำเวร
ก่อนเป็นเช่นไม้ช่วงยามร่วงใบ
.
จะมาสวดกุสลากี่คราครั้ง
มิอาจรั้งขุมนรกอันหมกไหม้
หากชั่วชีพหยาบช้าจนสาใจ
กุสลามากเท่าใดก็ไม่พ้น
..
จะชักผ้ากี่ผืนแสนหมื่นพับ
นอนนิ่งนับในโลงมิอาจร่น
หนทางม่องเท่งทัวร์ความชั่วตน
ยังดั้นด้นสู่กรงนรกานต์
.
.*..พันคม..*.


หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 05 พฤศจิกายน, 2559, 07:54:44 PM
สามซ่อน
..
แอบซ่อนในหนุ่มเหน้า..คือชรา
กายแกร่งซ่อนโรคา.....ป่วยไข้
ชีวิตซ่อนมรณา...........เคียงคู่
สามซ่อนฉะนี้ไซร้.......เที่ยงแท้เป็นธรรม

(อ้างอิงจากกระทู้ ยินดีต้อนรับ"คุณพันคม"...)

ธรรมบทรสลิ้ม               ชิมชวน               
มานะทิฐิมวล                 ใหญ่น้อย             
ธรรมกถึกระลึกหวน         เพียงภาพ             
อาบจิตพินิจพร้อย           สะท้อนธรรมหทัย

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต"
...ขอขอบพระคุณสำหรับข้อคิดทางธรรมครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 5/11/2016
ป.ล. ขอย้ายมาต่อที่นี่ด้วยนะครับ
..สามไม่ซ่อน..
.
ในมืดเก็บมิได้........กับตน
คือหนึ่งสุริยน..........ส่องจ้า
สองศศิมณฑล........ลอยเด่น
สามสัจจะมีห้า.......ยากแท้มืดมน
.
พระพุทธตรัสสอนว่า
ในความมืดไม่สามารถเก็บงำสามสิ่งนี้ได้
พระอาทิตย์ พระจันทร์และความสัตย์
เพราะอย่างไรมันต้องเผยออกมา


หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 05 พฤศจิกายน, 2559, 10:22:06 PM

หากกมลมืดไซร้        สุริยา                   
ฤาส่องแสงนำพา       สว่างได้               
งามคืนค่ำจันทรา       นวลเด่น               
ฤาจักเย็นยวนไซร้       รุ่มร้อนระทมทน   

ถกลธรรมพร่ำพร้อง    พจมาน               
ไหลหลั่งดังสายธาร     ผ่านเพี้ยง           
จรุงจิตวิญญาณ           กระจ่าง               
สว่างใจโลมเลี้ยง        ห่อห้อมหทัยหาญ

วันวานรานล่วงแล้ว      เรไร                   
ครวญคร่ำหฤทัย          ไป่ย้อน               
ฤาสุขทุกข์ไฉน             หวนกลับ             
ขานขับใดซับซ้อน        อดีตแม้นมั่นมิวาง

Soul Searcher
Inspired to write 5/11/2016





หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 07 พฤศจิกายน, 2559, 10:49:49 AM

มะลิจางกลิ่นร้าง.......จากตน
สูญกลิ่นเคยระคน.....คละหล้า
ใดฤาต่างกับชนม์.....ชีพแห่ง สัตว์เอย
มิอาจหยัดยืนท้า.......แผ่นฟ้าดินใด
.
ดวงใจเปรียบมิแคล้ว....มาลี
แตกต่างตรงความดี.....มากน้อย
หลายหลากจริตมี........จวบม่อง
ชีพอย่าจบเรียบร้อย.....ค่อยเศร้าโศกฮือ
.
จิตคนคือดอกไม้.........นั่นแล
อาจเปลี่ยนสีปรับแปร....อย่างนั้น
ตูมบานเหี่ยวยามแล.....เทียมเล่ห์
หลอกมนุษย์มากรั้น......ยากรื้อเลวดี



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 07 พฤศจิกายน, 2559, 06:53:32 PM


หากมาลีเปรียบแม้น            จิตคน                    
สี่เหล่านิลุบล                        กล่าวไว้                
มนุษย์หลากหลายดล            ระดับ                   
กัณฑ์ปรับตามเกณฑ์ไซร้        กระจ่างแจ้งเจตไสว

Soul Searcher
Inspired to write 6/11/2016




หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: รุทร ที่ 07 พฤศจิกายน, 2559, 09:10:05 PM
มาลีพรรณผ่องแผ้ว        ฉันใด
เสมือนหนึ่งจิตข้างใน      อย่างนั้น
ภายนอกขัดล้างใส         สะอาด
หากมิอาจล้างขั้น            ขุ่นข้างในเอ๋ย



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 07 พฤศจิกายน, 2559, 09:56:05 PM


อักขระเปรยเปรียบแม้น     มาลี
ใสสดรสวลี                      กิ่งก้าน
สดับตรับโคลงปรีดิ์           ประหนึ่ง
ตราติดตรึงสะอ้าน            คับข้องฤาไฉน

Soul Searcher
Inspired to write 6/11/2016



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 08 พฤศจิกายน, 2559, 10:14:08 AM

ใจเคยฝึกดั่งไม้...........ดอกงาม
ขจัดหลากเลวทราม......เสื่อมสิ้น
ดอกสวยผลิออกดาม.....ดวงจิต
มวลหมู่ภมรดิ้น...........ไต่ผู้จิตเกษม



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: รุทร ที่ 08 พฤศจิกายน, 2559, 10:52:02 AM

ปรีดิ์เปรมสนั่นอื้อ     รสธรรม
พิสุทธิ์มาลีรำ            ปลุกผู้-
หลับกลับตื่นจึงนำ     นบต่อ
ตามติดลิขิตรู้             ส่งสร้อยพจน์ศิลป์

มะลิบานเมื่อพร้อมแล้วหอมหาย
เช้ามาสายสายหยุดก็หยุดกลิ่น
พืชดอกผลงามสวยเพราะด้วยดิน
อนาคตมีกินเพราะปัจจุบัน


หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 08 พฤศจิกายน, 2559, 11:43:15 AM


ชีวินเรานั่นไซร้................เกิดดับ
ขณะจิตปลายสลับ...........สู่ต้น
รวดเร็วกว่าจิตจับ.............ชวนะ
ใครสติละเอียดข้น............จึ่งรู้จิตเห็น
..
ฟ้าอุ่นดอกไม้บานสะคราญหล้า
กิ่งไม้หนายามหลากพิรุณลั่น
ค่ำคืนงามเย้ายวนเพราะนวลจันทร์
อ่อนประชันชนะแข็งหากแกร่งเกิน

 :32:


หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 พฤศจิกายน, 2559, 06:40:28 PM

กระแสธรรมกลิ่นนั้น        กำจรไกล
อวลอุ่นละมุนละไม           เฟื่องฟุ้ง
ดอกแก้วกรุ่นไสว             กำจายจ่าง
สว่างจิตวิศิษฏ์วุ้ง             วหะเวิ้งวังเวียนกรรม

สราญเชย เอ่ยเอื้อน ยามเยือนเย้า
คราผลิเฝ้า ปทุมมา ประหม่าเขิน
ครั้นสพรั่ง สโรชา สง่าเชิญ
มิเฉยเมิน ภมรดิ้น ถวิลชม

กระแสธรรม เมตตา พาวัลลภ
มาประสบ พบชื่น คลายขื่นขม
แม้ศัตรู หมู่มาร คิดผลาญจม
ที่หมายข่ม ขยาดแพ้ แก่ทางธรรม

Soul Searcher
Inspired to write 8/11/2016




หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 09 พฤศจิกายน, 2559, 12:22:04 PM


ชีวินเรานั่นไซร้................เกิดดับ
ขณะจิตปลายสลับ...........สู่ต้น
รวดเร็วกว่าจิตจับ.............ชวนะ
ใครสติละเอียดข้น............จึ่งรู้จิตเห็น
..
ฟ้าอุ่นดอกไม้บานสะคราญหล้า
กิ่งไม้หนายามหลากพิรุณลั่น
ค่ำคืนงามเย้ายวนเพราะนวลจันทร์
อ่อนประชันชนะแข็งหากแกร่งเกิน

 :32:


คือรอยเส้นเล่นสายลายสัมผัส
ผูกกระหวัดจัดไว้ให้สรรเสริญ
ล้วนลึกซึ้งตรึงจิตลิขิตเพลิน
ธรรมดำเนินสงบคนพบธรรม

ห่างลำเข็ญเล่นสร้าง      สมงาม
โศลกท่านอันพิราม        เสพล้น
พูนพันเพิ่มเติมตาม        สว่าง
บุรุษรุดรีบพ้น              จักล้อวัฏสังสาร์

สิริวตี


หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 09 พฤศจิกายน, 2559, 12:30:05 PM

กระแสธรรมกลิ่นนั้น        กำจรไกล
อวลอุ่นละมุนละไม           เฟื่องฟุ้ง
ดอกแก้วกรุ่นไสว             กำจายจ่าง
สว่างจิตวิศิษฏ์วุ้ง             วหะเวิ้งวังเวียนกรรม

สราญเชย เอ่ยเอื้อน ยามเยือนเย้า
คราผลิเฝ้า ปทุมมา ประหม่าเขิน
ครั้นสพรั่ง สโรชา สง่าเชิญ
มิเฉยเมิน ภมรดิ้น ถวิลชม

กระแสธรรม เมตตา พาวัลลภ
มาประสบ พบชื่น คลายขื่นขม
แม้ศัตรู หมู่มาร คิดผลาญจม
ที่หมายข่ม ขยาดแพ้ แก่ทางธรรม

Soul Searcher
Inspired to write 8/11/2016




ละเอียดอ่อนกว่านุ่นละมุนกลิ่น
กระจ่างจินต์ประทินสายมิหมายต่ำ
สะพรั่งความงามสมระดมนำ
ประสบจำขานเพราะเสนาะจินต์

แม้หากรู้รู้สร้างแต่ทางเอก
มากปัจเจกจำเพาะฉอเลาะถวิล
ปฏิบัติหัดใกล้ใช่โบยบิน
จะเจอสิ้นสงบงามตามทางมรรค

สิ่งใดมีสีดำจำมีขาว
สิ่งใดพราวมีผิดมิปิดหลัก
สิ่งใดเกิดมีแก่แน่นอนนัก
สิ่งใดรักมีพรากมีจากลา

สิริวตี



หัวข้อ: Re: .*..กระนั้นหรือ..*.
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 10 พฤศจิกายน, 2559, 06:07:57 AM


ละเอียดคำพร่ำเพ้อ            ฤาพอ
ละเอียดจิตพิศพะนอ           หน่ายสิ้น
ละเอียดด่ำกรรมหนอ          กำหนด
ละเอียดจรดแดดิ้น              ดับแม้นจำนง

Soul Searcher
Inspired to write 10/11/2016