|
หัวข้อ: ..ทางสายกลาง.. เริ่มหัวข้อโดย: พรานไพร ที่ 22 พฤศจิกายน, 2559, 06:55:25 PM (http://www.uppic.org/image-7312_5834278A.jpg) (ขอบคุณเจ้าของภาพประกอบ) ~ ทางสายกลาง ~ ทางสองสายหมายย้ำนำเสนอ จงอย่าเผลอเดินตามมิงามสรรพ์ เป็นทางผิดติดหล่มจมบ่วงทัณฑ์ เพราะว่ามันหย่อนขึงและตึงเกิน ทางสายแรกหย่อนยานการขัดข้อง มัวแต่ครองสบายหมายสรรเสริญ ไม่บากบั่นหันหน้ากล้าเผชิญ หลงเพลิดเพลินเดินตามกามคุณ คือรูป รส กลิ่น เสียง เคียงสัมผัส ไม่ยอมขัดเกลาใจให้คลายวุ่น เพียรไม่ถึงมรรคผลขาดต้นทุน คือแรงบุญจากฤดีที่ผ่องเพ็ญ หากเปรียบงานทางโลกโยกสารัตถ์ ก็วิบัติขัดข้องต้องขุกเข็ญ เพราะขี้เกียจหย่อนยานงานไม่เป็น จึงมิเห็นผลงามตามตั้งใจ ทางสายสองท่านว่า..ยิ่งสาหัส เพราะเคร่งครัดเกินเหตุเขตวิสัย ต้องพินาศขาดผึงด้วยตึงไป ท่านจึงไม่แนะนำให้ทำตาม ทางสายกลางดีกว่าอานิสงส์ เป็นทางตรงบ่งชี้สายที่สาม ไม่หย่อนและตึงเกินประเมินความ ผลจึงงามสืบต่อเพราะ"พอดี" แม้นความรักปักจิตสถิตขวัญ ควรยึดมั่นสายกลางหว่างวิถี ไม่มากหรือน้อยไปในวิธี จึงโสภีงามชัด..มัชฌิมา ฯะ ..พรานไพร.. :letter: หัวข้อ: Re: ..ทางสายกลาง.. เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 23 พฤศจิกายน, 2559, 12:56:02 PM เพราะมัชฌิมเป็นธรรมนำเกื้อหนุน
รักอบอุ่นจับจิตคิดรักษา ถนอมสายกลางรื่นชื่นชีวา จิตวิญญาณ์ตามติดมิคิดไกล หากรักหย่อนผ่อนปรนมากโอนอ่อน จะเพิ่มร้อนทุกข์แท้ยากแก้ไข และหากขึงตึงมากก็ขาดไป พังลงได้ตามอารมณ์บ่มบ่วงเวร สติมีมรณาเป็นที่ตั้ง ความตายยังอยู่ข้างอย่างโดดเด่น ความรักมีความจากพรากเป็นเกณฑ์ มิละเว้นกับใครคนใดเลย หากวันนี้ยังได้อยู่เป็นคู่ขวัญ จงเก็บวันทรงจำที่พร่ำเอ่ย จารจารึกเกื้อกูลคนคุ้นเคย เป็นพจน์เปรยบทกวีอันพิราม สิริวตี |