หัวข้อ: .๐..ซากหัวใจถมทับที่อัปรา..๐. เริ่มหัวข้อโดย: พันคม ที่ 14 ธันวาคม, 2559, 11:13:10 AM (http://www.uppic.org/image-F4FD_55606133.jpg)
.๐..ซากหัวใจถมทับที่อัปรา..๐. . ความสงบที่สงัดไร้อัดอก ล้างสกปรกจากใจเคยใหญ่หลวง กลางพนาฟ้าพราวแลดาวดวง สลัดบ่วงพันธะเคยคละคลอ . สายลมหนาวยังเหน็บสู่ผิวเนื้อ อุ่นจากเสื้อขาวบางคลุมร่างห่อ พลิ้วลมโบกบางเบาก็หนาวออ ทรวงถดท้อ-พอใจอย่างไรกัน . พิกุลแก้วหอมกรุ่นกำจายกลิ่น แม้นเดินดินดั่งล่วงสรวงสวรรค์ สาวเท้าย่างข้างแคร่ริมคูคัน มีแสงจันทร์วันเพ็ญส่องเห็นทาง . ไร้ที่นอนหมอนมุ้งแบบฟุ้งเฟ้อ ไร้ความเห่อแสงสีเคยสว่าง ไร้รักโลภโกรธหลงเจาะจงวาง หวังจะม้างให้หมดจากกมล . หรีดเรไรร่ำร้องดังก้องอยู่ ผ่านเข้าหูแล้วหายด้วยไม่สน จิตคุมจิต จับไว้ ในตัวตน ไม่หมุนวนจนฟุ้งเป็นคุ้งแคว . ทิ้งรักร้างว่างเปล่าทุกคราวนึก เคยรำลึกแล้วเศร้าก็เอาแผ่ น้ำตาพรากหลากรดมิหมดแล ใครไม่แคต้องตายหรือไรเรา . สุขและทุกข์รุกทับเริ่มลับหาย ดวงฤดีเดียวดายเคยกรายเข้า ภาพเคยลวงล่อมานมานานเนา เหลือบางเบาบนแคร่ข้างคูคลอง . สรรพสิ่งเกิดแก่เจ็บและดับ ก้มหน้ารับเรื่องร้ายด้วยใจผ่อง สืบปลายเท้าก้าวย่างวางทุกข์กอง จิตตรึกตรองตัวรู้อยู่ภายใน . หยาดน้ำค้างกลางค่ำยังฉ่ำหยด ความสลดเคยเกลื่อนมิเคลื่อนไหว เมื่อตะกอนนอนก้นจึ่งพ้นภัย ซากหัวใจถมทับจึงอัปรา . จิตวิวัฒน์ความเหว่พลันหายวูบ ลืมร่างรูปร่วงโรยเคยโหยหา อารมณ์ร่วมท่วมท้นเมื่อพ้นมา พบสุขสันต์หรรษาเป็นอารมณ์ . เก็บตัวรู้หลากล้นคุ้ยค้นจิต ครองสติแนบติดสนิทสนม เก็บซากเศษเหตุทุกข์เคยรุกจม ทิ้งทับถมรอยกรีดอดีตกาล . สุข-ทุกข์กับขณะนี้ ณ ตรงนี้ ตลอดทิวาราตรีที่เคลื่อนผ่าน อดีต-อนาคต มิโปรดปราน เมื่อหัวใจที่แหลกลาญสมานแล้ว . .๐..พันคม..๐. ภาพ..จากอินเตอร์เนท gsl-CT82YrE?fs&hl=th_TH&autoplay=1 หัวข้อ: Re: .๐..ซากหัวใจถมทับที่อัปรา..๐. เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 14 ธันวาคม, 2559, 02:41:32 PM ลืมอดีต-อนาคตหมดทุกอย่าง
ความสว่างแจ่มชัดช่างผ่องแผ้ว ทาบทางธรรมบทจรดเป็นแนว เกิดช่อแก้วทรวงในให้อ่อนโยน เสียงเพลงขลุ่ยพลิ้วพรมข่มความหลับ ทิ้งทุกข์กับเศร้าใส่ในกระโถน จึงเห็นพร่างพรรณรายแม้ไกลโพ้น ร่วมถ่ายโอนสิ่งอันใดไม่จีรัง สายลมมากระเพื่อมความเคลื่อนไหว และสายใจทั้งมวลล้วนความหวัง ต่างสายรักมิเคยทรุดหรือหยุดยั้ง จึ่งเวียนวังแหวกว่ายบนสายเรา หากจะวางทุกสิ่งทิ้งตรงนี้ คงจะมีมากน้อยความหงอยเหงา ความรักเคยใสบางตามเป็นเงา จึงวางคำว่าเราแค่รับรู้ สิริวตี |