เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: มนต์คำ ที่ 18 ตุลาคม, 2560, 10:14:20 PM



หัวข้อ: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 18 ตุลาคม, 2560, 10:14:20 PM
[
ถึงห่างยังห่วง

ไกลเกินเอื้อมเชื่อมฟ้าทบหล้าเทียบ
อยากเลาะเลียบร่วมทางก็ห่างเหิน
ในอกใจเงียบงำระกำเกิน
หรือบังเอิญพบพาน เพื่อผ่านเลย

ได้ประสบดวงขวัญแล้วผันพราก
จำต้องจากร้างไกลโอ้ใจเอ๋ย
นานเพียงไหนหวานรื่นได้ชื่นเชย
ได้แต่เผยสร้อยกานท์ล่องผ่านลม

สุขเถอะนะนุชเจ้าหากเศร้าสร้อย
ฝากลมร่ำคำร้อยทยอยผสม
ละล่องผ่านน่านฟ้าเคล้าปรารมภ์
มาห้อมห่มนิ่มน้องคลายหมองทรวง

คิดถึง.....

มนต์คำ
18-10-2560


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: ❀ Sasi ❀ ที่ 19 ตุลาคม, 2560, 07:17:14 AM
วุ้ย..กลอนหวาน แนวเดียวกะแม่บ้านเลย :21:
แนวเดียวกันเล้ย....ช้อบชอบ :12:

ยังงี้ต้องตั้งทู้ต้อนรับแล้ว :letter:



เคยประสบพบกันในวันก่อน
คิดถึงตอนนั้นนักรักโชติช่วง
ชอบชมชื่นรื่นสุขทุกใยยวง
แม้เลยล่วงเวลายังตราตรึง

จากกันนานเนิ่นแล้วยังแพร้วเพริศ
จิตเตลิด ในภวังค์ยังนึกถึง
เฝ้าร่ำร้องเรียกขานพานรำพึง
ดังอลอึง คอยอยู่นี่...ศรีธัญญา

 :0493: :sobbing:


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 19 ตุลาคม, 2560, 07:16:29 PM
ขอบคุณที่มาต่อกลอนนะขอรับ แต่กระผมไม่ถนัดต่อกลอนตลก ขอยอมแพ้ครับผม


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 20 ตุลาคม, 2560, 08:47:45 AM
บางอย่างที่หายไป

บางสิ่งอย่างเลือนบทค่อยถดถอย
เหลือร่องรอยเก่าคร่ำกระดำกระด่าง
เป็นภาพบนผืนผ้าอันฝ้าฟาง
ลอกร่อนกลางสายกาลที่ผ่านไป

แต่บางสิ่งงดงามมาทรามสิ้น
ต้องพังภินท์กลางโลกที่โยกไหว-
ด้วยอารมณ์ซมสั่นโถมปั่นใจ
โดยมิได้ใช้สติดำริตรอง

เสียดายความงามล้วนควรประดับ
มาย่อยยับปรักป่นอย่างหม่นหมอง
สิ้นสุดแล้วความฝันร่วมครรลอง
มีอันต้องร้าวรานก่อนการควร

ดั่งสายน้ำฉ่ำใสหลากไหลล้น
ยามล่องเลยผ่านพ้นไม่วนหวน
น้ำใจเจ้าเล่าจะพรากไม่หลากทวน
หรือจึงด่วนร้างลา  สิ้น อาลัย

คิดถึง..


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 20 ตุลาคม, 2560, 09:45:05 PM
ฉันอ่านคำของเขาที่เกลาขัด
งามจรัส,ใจดู ใจรู้ค่า
คมและลึกวลีที่ติดตา
เขาแต้มทามนต์ใดให้หลงคำ?

เสมือนอ่านวิญญาณสานความคิด
เสมือนชุบชีวิตให้เย็นฉ่ำ
ล้วนผลึกปรากฏพร่างพจน์ล้ำ
ฉันชุ่มฉ่ำอ่านเล่นไม่เว้นวาง

สิริวตี

ขออภัยที่ไม่ได้ต่อกลอนด้านบนนะคะ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 21 ตุลาคม, 2560, 12:38:08 AM
เพราะรัก

ลมหนาวโชยแผ่วพลิ้วไล้ผิวน้ำ
ไหวระส่ำรายระลอกกระฉอกฝั่ง
สายลมโหมห้อมเห่ประเดประดัง
ลานเทยังสะท้านดุจลานทรวง

อยู่ไหนนะคนดีคนที่ซึ่ง
ใจดวงหนึ่งสุดแสนจะแหนหวง
ยินแต่เสียงพลิ้วพรมของลมลวง
พัดเพเลยผ่านล่วงผู้ห่วงคอย

ใจเจ้าคงรวนเรหันเหห่าง
ลานเทร้าง นางรอนไม่ย้อนถอย
ทิ้งพี่คร่ำครวญหานัยน์ตาปรอย
เพียงร่องรอยที่เหลือไว้เจือลาน

หนาวสะทกอกสะท้านร้าวรานนัก
เกินจะหักอาวรณ์เคยอ่อนหวาน
เฝ้าแต่รอนงพะงาอยู่ช้านาน
ทรมานทรกำก็จำทน

ฝากสร้อยสาส์นกานท์ผสมปนลมล่อง
ผ่านห้วงห้องท้องทะเลข้ามเวหน
หอบปรารมภ์ลามบ่าถึงหน้ามน
จากทรวงคนร้าวราน ณ ลานเท!

คิดถึง..
มนต์คำ
20-10-60

ยินดีครับสิริวตี ขอบคุณที่มาเยือน


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 21 ตุลาคม, 2560, 12:58:43 PM


ครั้นลมหนาวคืบคลาน เข้าลาญล่วง
ลุลานห่วง คืนวันมิหันเห
จากลานใจถ่องถ้วน ไร้รวนเร
ฝ่าลมเพลมพัด วรรษากาล

ถึงคนดีที่หนึ่ง ซาบซึ้งจิต
ดลประดิดประดอย พร้อยประสาน
หวังสมัครสมิต สนิทนาน
สุขสราญรมย์รี่สรีระ

หากลวงล่อฉ้อฉล กลลมเล่ห์
หนุ่มลานเทกลายขื่น ดื่นระดะ
หลงคารม ป่นปี้ลี้มละ
ราวกวะหวังวืด มืดมลาน

...ขอร่วม”ลาน”ด้วยคนนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 21/10/2017



หัวข้อ: Re: ตอบสิริวตี
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 21 ตุลาคม, 2560, 06:31:59 PM
ฉันอ่านคำของเขาที่เกลาขัด
งามจรัส,ใจดู ใจรู้ค่า
คมและลึกวลีที่ติดตา
เขาแต้มทามนต์ใดให้หลงคำ?

เสมือนอ่านวิญญาณสานความคิด
เสมือนชุบชีวิตให้เย็นฉ่ำ
ล้วนผลึกปรากฏพร่างพจน์ล้ำ
ฉันชุ่มฉ่ำอ่านเล่นไม่เว้นวาง

สิริวตี

ขออภัยที่ไม่ได้ต่อกลอนด้านบนนะคะ


หากมีมนต์ดลใจในอักษร
จะเว้าวอนอ้อนคำค่ำยันสาง
เพื่อฝากให้ครบถ้วนบอกนวลนาง
โดยมิพรางความนัยจากใจเลย

จะวาดลักษณ์ถักคำแล้วทำสร้อย
วางให้พร้อยเพียบลานต่อกานท์เผย
ขอเพียงคนซึ้งคำที่พร่ำเปรย
จะเอื้อนเอ่ยอ้อนอรรถไว้มัดทรวง

ขอบคุณขอรับสิริวตี ขออภัยที่ตอบช้า


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 21 ตุลาคม, 2560, 06:45:26 PM


ครั้นลมหนาวคืบคลาน เข้าลาญล่วง
ลุลานห่วง คืนวันมิหันเห
จากลานใจถ่องถ้วน ไร้รวนเร
ฝ่าลมเพลมพัด วรรษากาล

ถึงคนดีที่หนึ่ง ซาบซึ้งจิต
ดลประดิดประดอย พร้อยประสาน
หวังสมัครสมิต สนิทนาน
สุขสราญรมย์รี่สรีระ

หากลวงล่อฉ้อฉล กลลมเล่ห์
หนุ่มลานเทกลายขื่น ดื่นระดะ
หลงคารม ป่นปี้ลี้มละ
ราวกวะหวังวืด มืดมลาน

...ขอร่วม”ลาน”ด้วยคนนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 21/10/2017


ลานเทถิ่นเทใจทิ้งไปแล้ว
ลับเลือนแววอาวรณ์อันอ่อนหวาน
เหลือแต่ความขื่นขมจนซมซาน
เป็นเศษซากกากชานเกินสานใย

สู้ลัดเลาะเสาะหามาถึงถิ่น
คนคุ้นชินไม่รู้ว่าอยู่ไหน
คงจะลืมเลือนค่าสัญญาใจ
จึงปล่อยให้รอคว้างกลางลานเท

ด้วยความยินดีครับ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 22 ตุลาคม, 2560, 08:41:06 AM


เสนาะถ้อยร้อยเรียงช่างเคียงคุ้น
ฉาบละมุนอุ่นไอให้สนเท่ห์
สดับพจน์อ่อนไหวในทั้งเพ
คล้ายขับเสภาพร่ำร่ำเพลงยาว

...มีความรู้สึกเหมือนเคยได้ต่อกลอน
กันมาเลยครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 21/10/2017



หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 22 ตุลาคม, 2560, 02:07:29 PM


เสนาะถ้อยร้อยเรียงช่างเคียงคุ้น
ฉาบละมุนอุ่นไอให้สนเท่ห์
สดับพจน์อ่อนไหวในทั้งเพ
คล้ายขับเสภาพร่ำร่ำเพลงยาว

...มีความรู้สึกเหมือนเคยได้ต่อกลอน
กันมาเลยครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 21/10/2017



อาจเคยพบสบกันในวันก่อน
บนลานกลอนเกลื่อนคำลำนำกล่าว
ร่อนเร่ไปหลายเวบหวังเก็บดาว
แต่ก็ร้าวทุกที่จึงหนีมา

ครับผมน่าจะเคยต่อกลอนกัน
+++++++++++++

เพ้อ.....

พี่พร่ำเพ้อละเมอหาแก้วตาเจ้า
ทนเงียบเหงาเฝ้าแลชะแง้หา
ไม่เห็นเงายอดขวัญกัลยา
ในอุราร้อนรุ่มราวสุมไฟ

ฝากสายลมพรมผ่านไปหว่านล้อม
ลำเพยพร้อมรำพันเพื่อสั่นไหว
จงคิดถึงคะนึงหาทุกคราไป
ทั้งดวงใจเป็นพลีให้พี่ครอง

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 22 ตุลาคม, 2560, 03:50:54 PM
โอ้ความรักของใครไม่เห็นหน
ร้อยกมลห่วงหาทุกห้วงห้อง
หวานด้วยหยาดหยาดคำท่วงทำนอง
หรือว่าต้องมนต์รักปักศรฤทธิ์?

อันทะเลมิเหลือคลื่นที่เคยเคลื่อน
ความรักอาจร้างเลือนและไร้สิทธิ์
รักตนเองก่อนใครใจจงคิด
อาจมิผิดหวังร้าวเศร้าระทม

สิริวตี

แบบว่ารักตนเองดีก่าาาาา แหะๆ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 22 ตุลาคม, 2560, 07:21:33 PM
โอ้ความรักของใครไม่เห็นหน
ร้อยกมลห่วงหาทุกห้วงห้อง
หวานด้วยหยาดหยาดคำท่วงทำนอง
หรือว่าต้องมนต์รักปักศรฤทธิ์?

อันทะเลมิเหลือคลื่นที่เคยเคลื่อน
ความรักอาจร้างเลือนและไร้สิทธิ์
รักตนเองก่อนใครใจจงคิด
อาจมิผิดหวังร้าวเศร้าระทม

สิริวตี

แบบว่ารักตนเองดีก่าาาาา แหะๆ

ช่างหอมหวานยิ่งนักความรักนั้น
หากต่างมีใจมั่นพลันสุขสม
แต่ยามร้างรากันสิ้นวันชม
หวานก็กลายเป็นขมต้องข่มใจ

แต่จะห้ามหัวใจมิให้รัก
มันยากนักหักได้กระไรไหว
ถึงรู้ว่าร้อนรุ่มดังสุมไฟ
หามีใครเล่าเอยไม่เคยรัก

รักตัวเองดีแล้วครับ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 23 ตุลาคม, 2560, 08:12:48 AM
ร้างแล้วหรือรักในหัวใจเจ้า
เหลือเพียงเงาพร่าเลือนที่เคลื่อนไหว
ยังเขยื้อนวูบวาบเป็นภาพไกว
แกว่งอยู่ในกลางทรวงทุกช่วงวัน

เพราะคิดถึงจึงตามมาข้ามเขต
อยากถามเหตุอันใดจึงได้ผัน-
ห่างเหมือนสิ้นเยื่อใยอาลัยกัน
ลืมคำมั่นสัญญาเคยพาที

หากว่าใครเคยโศกวิโยคยับ
ไม่เทียบกับข้างในหัวใจพี่
จะอยู่ได้อย่างไรเมื่อไมตรี
ต่างเคยมีต่อกันต้องบั่นรอน

ไกลสุดฟากฟ้าไหนมิใคร่เกี่ยง
ขอแต่เพียงอย่าคลายรักถ่ายถอน
ต่อให้ข้ามนทีสีทันดร
กี่มอดมรณ์ซอนหาไม่รามือ

ขอแค่ได้รู้
จะพาใจไปวางให้นางถือ
จะเก็บหรือจะคั้น ก็มันคือ
ใจที่ดื้อ เกินรั้งมาขังแล้ว

มนต์คำ ร่ำไรเรื่อยเปื่อย


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 23 ตุลาคม, 2560, 12:05:10 PM
โอ้ความรักของใครไม่เห็นหน
ร้อยกมลห่วงหาทุกห้วงห้อง
หวานด้วยหยาดหยาดคำท่วงทำนอง
หรือว่าต้องมนต์รักปักศรฤทธิ์?

อันทะเลมิเหลือคลื่นที่เคยเคลื่อน
ความรักอาจร้างเลือนและไร้สิทธิ์
รักตนเองก่อนใครใจจงคิด
อาจมิผิดหวังร้าวเศร้าระทม

สิริวตี

แบบว่ารักตนเองดีก่าาาาา แหะๆ

ช่างหอมหวานยิ่งนักความรักนั้น
หากต่างมีใจมั่นพลันสุขสม
แต่ยามร้างรากันสิ้นวันชม
หวานก็กลายเป็นขมต้องข่มใจ

แต่จะห้ามหัวใจมิให้รัก
มันยากนักหักได้กระไรไหว
ถึงรู้ว่าร้อนรุ่มดังสุมไฟ
หามีใครเล่าเอยไม่เคยรัก

รักตัวเองดีแล้วครับ

อันความรักเดี๋ยวก็รักเดี๋ยวก็ร้าง
เดี๋ยวก็จากเดี๋ยวก็จางจึงประจักษ์
ใครจะมีศรัทธาสามิภักดิ์
ก็เหมือนมาทายทักแล้วผ่านไป

เหมือนลมโชยพัดแผ่แพรพรมหญ้า
การเหือดหายของน้ำตาคราร้องไห้
เสมือนความบางเบาของเงาไม้
ที่วูบไหวหายลับไปกับกาล

สิริวตี


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 23 ตุลาคม, 2560, 12:46:03 PM
ตอบสิริวตี

หากเข้าถึงความงาม ของความรัก
จะประจักษ์ด้วยใจยากไขขาน
ร้อยอรรถาธิบายอย่าหมายจาร
รสชื่นหวานซ่านซึ้งอันพึงมี

แม้ร้าง-รานหวานรื่นกี่หมื่นครั้ง
หัวใจยังไม่วายไม่หน่ายหนี
จึงสืบทอดกัปกัลป์อนันต์ปี
ฝากไว้ที่ทุกใจผ่านวัยวัน

เหตุที่รักร้างเลือน เพราะเงื่อนไข
กำหนดไว้ให้เป็นดั่งเช่นฝัน
หากแต่รักเพราะรักประจักษ์พลัน
ไม่มีวันเศร้าหมอง จงลองดู

รักที่ไม่มีเงื่อนไขงดงามมาก

มนต์คำ ร่ายคำ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 ตุลาคม, 2560, 06:23:47 PM
ตอบสิริวตี

หากเข้าถึงความงาม ของความรัก
จะประจักษ์ด้วยใจยากไขขาน
ร้อยอรรถาธิบายอย่าหมายจาร
รสชื่นหวานซ่านซึ้งอันพึงมี

แม้ร้าง-รานหวานรื่นกี่หมื่นครั้ง
หัวใจยังไม่วายไม่หน่ายหนี
จึงสืบทอดกัปกัลป์อนันต์ปี
ฝากไว้ที่ทุกใจผ่านวัยวัน

เหตุที่รักร้างเลือน เพราะเงื่อนไข
กำหนดไว้ให้เป็นดั่งเช่นฝัน
หากแต่รักเพราะรักประจักษ์พลัน
ไม่มีวันเศร้าหมอง จงลองดู

รักที่ไม่มีเงื่อนไขงดงามมาก

มนต์คำ ร่ายคำ

มีด้วยหรือรักนี้ที่เอ่ยพร่ำ
มีแต่รักชอกช้ำช่างอดสู
ความเวิ้งว่างเดียวดายได้เป็นครู
รักแบบนั้นซ่อนอยู่กับผู้ใด?

มีสาเหตุการเกิดหรือเปล่านะ
ที่ว่ารักนั้นจะจากเงื่อนไข?
หรือว่าเป็นวลีที่ใครใคร
เอ่ยเพื่อให้เปิดใจเท่านั้นเอง

สิริวตี


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 24 ตุลาคม, 2560, 06:52:09 PM
ตอบสิริวตี

หากเข้าถึงความงาม ของความรัก
จะประจักษ์ด้วยใจยากไขขาน
ร้อยอรรถาธิบายอย่าหมายจาร
รสชื่นหวานซ่านซึ้งอันพึงมี

แม้ร้าง-รานหวานรื่นกี่หมื่นครั้ง
หัวใจยังไม่วายไม่หน่ายหนี
จึงสืบทอดกัปกัลป์อนันต์ปี
ฝากไว้ที่ทุกใจผ่านวัยวัน

เหตุที่รักร้างเลือน เพราะเงื่อนไข
กำหนดไว้ให้เป็นดั่งเช่นฝัน
หากแต่รักเพราะรักประจักษ์พลัน
ไม่มีวันเศร้าหมอง จงลองดู

รักที่ไม่มีเงื่อนไขงดงามมาก

มนต์คำ ร่ายคำ

มีด้วยหรือรักนี้ที่เอ่ยพร่ำ
มีแต่รักชอกช้ำช่างอดสู
ความเวิ้งว่างเดียวดายได้เป็นครู
รักแบบนั้นซ่อนอยู่กับผู้ใด?

มีสาเหตุการเกิดหรือเปล่านะ
ที่ว่ารักนั้นจะจากเงื่อนไข?
หรือว่าเป็นวลีที่ใครใคร
เอ่ยเพื่อให้เปิดใจเท่านั้นเอง

สิริวตี

ตรองดูเถิดสาวเจ้าจะเข้าใจ
รักแบบไหนไม่ขมไม่ข่มเหง
คอยปกป้องผองภัยไม่เคยเกรง
คนร้องเพลงกล่อมนอนแต่ก่อนไง (รักของบุพการี)

รักที่พร้อมเข้าใจไม่ถือสิทธิ์
คือรักมิตรเพื่อนพ้องไม่ต้องไข-
เจ้าก็คงรู้แน่อยู่แก่ใจ
หากรักได้ทุกสิ่งจะยิ่งดี

แต่รักที่หมายเข้าเป็นเจ้าของ (รักใคร่ชายหญิง)
อาจต้องมองรอบล้วนอย่างถ้วนถี่
ยามแรกรักมักเห็นแต่เด่นดี
ครั้นนานปีผันแปรไม่แน่นอน

ครับผม เห็นด้วยว่ารักตัวเองดีที่สุด


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 24 ตุลาคม, 2560, 07:05:06 PM
กระนั้นหรือทั้งมวลล้วนคือรัก
แสนซาบซึ้งค่านักในอักษร
คล้ายมีมนต์กวีใครมาให้พร
คลายความร้อนเพลิงสุมให้ชุ่มเย็น

รักพ่อแม่งดงามเกินใครเทียบ
รักเพื่อนพ้องง่ายเงียบยามทุกข์เข็ญ
รักคือใจอิสระไร้ประเด็น
รักคงไม่ลำเค็ญเช่นนี้ฤๅ?

สิริวตี
 ^^


หัวข้อ: Re: ภาพฝัน-ในสายฝน..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 25 ตุลาคม, 2560, 01:49:18 PM
 :14:


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 25 ตุลาคม, 2560, 06:11:01 PM
กระนั้นหรือทั้งมวลล้วนคือรัก
แสนซาบซึ้งค่านักในอักษร
คล้ายมีมนต์กวีใครมาให้พร
คลายความร้อนเพลิงสุมให้ชุ่มเย็น

รักพ่อแม่งดงามเกินใครเทียบ
รักเพื่อนพ้องง่ายเงียบยามทุกข์เข็ญ
รักคือใจอิสระไร้ประเด็น
รักคงไม่ลำเค็ญเช่นนี้ฤๅ?

สิริวตี
 ^^

ความรักใคร่ใครว่าต้องปร่าขม
ต้องขื่นตรมซมเศร้าเท่านั้นหรือ
ความยิ่งใหญ่แห่งรักประจักษ์คือ-
ต่างฝ่ายต่างยึดถือความซื่อตรง

จึงสืบทอดเผ่าพันธุ์ถึงวันนี้
ถ้าไม่มีความรักผลักหนุนส่ง
โลกก็คงค้ำคา แต่ป่าดง
สิ้นสุดแล้วเผ่าพงศ์วงศ์มนุษย์

มนต์คำ ขอรับ


หัวข้อ: Re: ภาพฝัน-ในสายฝน..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 25 ตุลาคม, 2560, 07:17:49 PM
 :14:


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 29 ตุลาคม, 2560, 09:15:56 PM
ฉันเพลี่ยงพล้ำเพราะรักเธอเข้าแล้ว
รักดวงตาบ้องแบ๊วและใสซื่อ
หากรอยยิ้มขายต่อจะขอซื้อ
เพราะมิอยากแย่งยื้อจากใครใคร

เสียงของเธอทุ้มทุ้มทั้งนุ่มหนา
ฉันมิอาจมองหน้ายามเธอใกล้
มิอยากจ้องมองเธอกลัวเพ้อไกล
ฉันจึงนั่งสุขใจ....ได้แต่มอง!

สิริวตี

แอบมาป่วนแหะๆ
 :30:


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 29 ตุลาคม, 2560, 11:34:30 PM
ดั่งต้องมนต์คนธรรพ์ผู้ขานขับ
กวีรับเพลงคู่ดูแคล่วคล่อง
หลงมนต์คำสิ้นท่าเพราะคะนอง
เสพร้อยกรองเริงร่าเพราะท้าทาย

หลงระเริงติดตรึงถึงอดีต
ตามสังคีตคนธรรพ์กรีดลั่นสาย
นิมิตเห็นรักแท้แค่ผ่านกลาย
และละลายไร้เงาช่างเศร้าใจ

ทุกสังคีตของท่านนั้นบาดลึก
เร้ารู้สึกถึงมานจนสั่นไหว
เปิดผนึกอารมณ์ที่ข่มไว้
ปล่อยเสรีโผไปเก็บไม่ทัน


พิณนรี


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 30 ตุลาคม, 2560, 08:16:52 PM
ฉันเพลี่ยงพล้ำเพราะรักเธอเข้าแล้ว
รักดวงตาบ้องแบ๊วและใสซื่อ
หากรอยยิ้มขายต่อจะขอซื้อ
เพราะมิอยากแย่งยื้อจากใครใคร

เสียงของเธอทุ้มทุ้มทั้งนุ่มหนา
ฉันมิอาจมองหน้ายามเธอใกล้
มิอยากจ้องมองเธอกลัวเพ้อไกล
ฉันจึงนั่งสุขใจ....ได้แต่มอง!

สิริวตี

แอบมาป่วนแหะๆ
 :30:
มิใช่ของซื้อขายหน่ายแล้วทิ้ง
หากรักจริงจากใจมิใช่สอง
จะยกหัวใจให้ใส่พานทอง
วางให้น้องเดี๋ยวนี้ไม่รีรอ

อย่าแค่ป่วนรวนเรแล้ว เท รัก
ให้แตกหักเสียหายมิหมายต่อ-
สายสัมพันธ์ยืดยาวเป็นเหล่ากอ
ถ้ามาล้ออย่างนี้ พี่ไม่ยอม

พี่คำ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 30 ตุลาคม, 2560, 08:34:26 PM
ดั่งต้องมนต์คนธรรพ์ผู้ขานขับ
กวีรับเพลงคู่ดูแคล่วคล่อง
หลงมนต์คำสิ้นท่าเพราะคะนอง
เสพร้อยกรองเริงร่าเพราะท้าทาย

หลงระเริงติดตรึงถึงอดีต
ตามสังคีตคนธรรพ์กรีดลั่นสาย
นิมิตเห็นรักแท้แค่ผ่านกลาย
และละลายไร้เงาช่างเศร้าใจ

ทุกสังคีตของท่านนั้นบาดลึก
เร้ารู้สึกถึงมานจนสั่นไหว
เปิดผนึกอารมณ์ที่ข่มไว้
ปล่อยเสรีโผไปเก็บไม่ทัน


พิณนรี

เพราะเสกมนต์พ่นเป่าเคล้าอักษร
เป็นบทกลอนชวนให้หัวใจฝัน
หากหลงแล้วหรือจะรอดพลอดรำพัน
มาช่วยกลั่นกรองกลประพนธ์ความ

ว่ารักเอย หอมหวน อบอวลนัก
ครั้นประจักษ์ซึมซาบด้วยวาบหวาม
เหมือนทั้งโลกสวยสดช่างงดงาม
ผูกรูปนามแนบในหัวใจครอง

พรมสังคีตประณีตคำส่งนำสื่อ
เพื่อจะยื้อใจนุชสุดสนอง
เอาสายใยใจนำค้ำประคอง
หมายให้น้องคิดถึงเพียงหนึ่งเดียว

นะจ๊ะ  พี่มนต์



หัวข้อ: ลมเหนือ..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 03 พฤศจิกายน, 2560, 11:47:48 AM
ผลัดพรรษา พร่างพรมด้วยลมเหนือ
พาหนาวเจือห้อมโหมแผ่โลมหาว
แปรเปลี่ยนภาพ ปลดเปลื้องบางเรื่องราว
ทิ้งรอยร้าวเก่ากรังให้พังลง

ใบไม้แห้งพลิ้วพลิกระริกหล่น
แคว้งคว้างร่วงปะปนรอป่นผง
ปล่อยกิ่งก้านหยัดชูให้อยู่คง
ค่อยบรรจงแตกรัดระบัดตา

เดี๋ยวจะค่อยต่อดอกแล้วออกช่อ
เบ่งบานล้อเหมันต์อย่างหรรษา
ส่งกลิ่นหอมเร้ารุมภุมรา
ให้ร่อนหารสหวานสุมาลย์งาม

ผกโต้ลมกรรโชกสู้โบกปีก
ร่อนหลบหลีกรุดเร่งไม่เกรงหนาม
ยอมแม้ร่างกายตนต้องป่นทราม
เพื่อติดตามด่ำตาลต่อปราณตน

เป็นวิสัยภุมรินเที่ยวบินเร่
ตามกลิ่นหอมห้อมเห่ในเวหน
สิ้นหอมหวานหยาดย้อมประนอมทล
ก็โผพ้นดอกดวงสิ้นห่วงใย

พี่มิใช่ภุมรินเที่ยวบินร่อน
ดวงสมรก็มิใช่ดอกไม้ไหน
เจ้ากอปรเกียรติเกินการประมาณใด
จึงครองใจพี่มั่นแต่นั้นมา

จากลมเหนือเจือหนาวอีกหนาวหนึ่ง
ใจยังคงตราตรึงคะนึงหา
บางสิ่งอาจแปรผันตามกาลพา
แต่สัญญาต่อกันยังมั่นคง

มนต์คำ
3-11-60


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 07 พฤศจิกายน, 2560, 08:03:16 AM
ฉันเพลี่ยงพล้ำเพราะรักเธอเข้าแล้ว
รักดวงตาบ้องแบ๊วและใสซื่อ
หากรอยยิ้มขายต่อจะขอซื้อ
เพราะมิอยากแย่งยื้อจากใครใคร

เสียงของเธอทุ้มทุ้มทั้งนุ่มหนา
ฉันมิอาจมองหน้ายามเธอใกล้
มิอยากจ้องมองเธอกลัวเพ้อไกล
ฉันจึงนั่งสุขใจ....ได้แต่มอง!

สิริวตี

แอบมาป่วนแหะๆ
 :30:
มิใช่ของซื้อขายหน่ายแล้วทิ้ง
หากรักจริงจากใจมิใช่สอง
จะยกหัวใจให้ใส่พานทอง
วางให้น้องเดี๋ยวนี้ไม่รีรอ

อย่าแค่ป่วนรวนเรแล้ว เท รัก
ให้แตกหักเสียหายมิหมายต่อ-
สายสัมพันธ์ยืดยาวเป็นเหล่ากอ
ถ้ามาล้ออย่างนี้ พี่ไม่ยอม

พี่คำ

สานสัมพันธ์ฉันเพื่อนพ้องและน้องพี่
มอบไมตรีด้วยนะเชิญถนอม
พี่ยกพานทำไมหรือใจพร้อม?
อย่ามาย้อมแมวขายไม่ง่ายเลย

สิริวตี

คริๆๆๆ...แบร้ๆ
 :27: :21:


หัวข้อ: Re: ลมเหนือ..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 พฤศจิกายน, 2560, 11:18:22 AM
ผลัดพรรษา พร่างพรมด้วยลมเหนือ
พาหนาวเจือห้อมโหมแผ่โลมหาว
แปรเปลี่ยนภาพ ปลดเปลื้องบางเรื่องราว
ทิ้งรอยร้าวเก่ากรังให้พังลง

ใบไม้แห้งพลิ้วพลิกระริกหล่น
แคว้งคว้างร่วงปะปนรอป่นผง
ปล่อยกิ่งก้านหยัดชูให้อยู่คง
ค่อยบรรจงแตกรัดระบัดตา

เดี๋ยวจะค่อยต่อดอกแล้วออกช่อ
เบ่งบานล้อเหมันต์อย่างหรรษา
ส่งกลิ่นหอมเร้ารุมภุมรา
ให้ร่อนหารสหวานสุมาลย์งาม

ผกโต้ลมกรรโชกสู้โบกปีก
ร่อนหลบหลีกรุดเร่งไม่เกรงหนาม
ยอมแม้ร่างกายตนต้องป่นทราม
เพื่อติดตามด่ำตาลต่อปราณตน

เป็นวิสัยภุมรินเที่ยวบินเร่
ตามกลิ่นหอมห้อมเห่ในเวหน
สิ้นหอมหวานหยาดย้อมประนอมทล
ก็โผพ้นดอกดวงสิ้นห่วงใย

พี่มิใช่ภุมรินเที่ยวบินร่อน
ดวงสมรก็มิใช่ดอกไม้ไหน
เจ้ากอปรเกียรติเกินการประมาณใด
จึงครองใจพี่มั่นแต่นั้นมา

จากลมเหนือเจือหนาวอีกหนาวหนึ่ง
ใจยังคงตราตรึงคะนึงหา
บางสิ่งอาจแปรผันตามกาลพา
แต่สัญญาต่อกันยังมั่นคง

มนต์คำ
3-11-60


อากาศเริ่มหนาวแล้วแม่แก้วเอ๋ย
ไยเฉยเมย เมินขานคำหวานส่ง
ลมเหมันต์ลัดล่วงห่วงพะวง
เจตจำนงคงมั่นมิ่งขวัญเรียม

พลิ้วลมเหนือเจือใจไล้ผิวผ่าน
สอดบรรสานกาจกวีฝีปากเยี่ยม
หยอดคารมเยื้อนอรรถไร้ทัดเทียม
ปานตระเตรียมคมหยาดบำราศม้าง

ความหมองหม่นท้นในท่วมใจจิต
ประหนึ่งชิดเชยนั้นถูกกั้นขวาง
จักขจัดให้สิ้นระบิลทาง
ลดเบาบางจ่อมจม เพี้ยงคมคำ

สุมามาลย์ใดหนอชูช่อชื่น
จนรุ่มรื้นปรารมภ์ห่มเช้าค่ำ
หากมิใช่ไม้ดอกบางชอกช้ำ
ไยหยัดย้ำพร่ำพ้อ มิพอเพียง

ฤาเพราะรักลาญลพ พบเมื่อสาย
มีคู่หมั้นคู่หมาย จึงบ่ายเบี่ยง
ฤาเพราะพิษแผลเก่า เคล้าคลอเคียง
จึงหลบเลี่ยงเปิดใจให้ความรัก

ฤาเกรงชายชาติกวีมีพันธะ
เพิ่มภาระหน่วงนัยให้เหนื่อยหนัก
ฤาหวังตัดเยื้อยุ่งเพื่อมุ่งมรรค
จึงงด พักเว้าวอนสุนทรกรรณ

แม้เหตุผลกลใดไม่ปรากฎ
เหมือนเพ้อพจน์พราวพร่างในหว่างฝัน
ร้อยทอถักพริ้งแพรกแทรกจาบัลย์
ฤาแค่นั้นเกินใจ คิดไขว่คว้า...

...”ลมเหนือ..” ไพเราะมากครับ
เลยขออนุญาตมาต่อความยาว...นะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 9/10/2017



หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 09 พฤศจิกายน, 2560, 08:27:19 PM
สานสัมพันธ์ฉันเพื่อนพ้องและน้องพี่
มอบไมตรีด้วยนะเชิญถนอม
พี่ยกพานทำไมหรือใจพร้อม?
อย่ามาย้อมแมวขายไม่ง่ายเลย

สิริวตี


ยินดีรับไมตรีฉันพี่น้อง
บ้านร้อยกรองสานฝันประชันเผย-
จินตนาการกลั่นประพันธ์เปรย
หลากคำเอ่ยล้วนเอื้อนตามเงื่อนกลอน

ครับผม


หัวข้อ: คลุมเคลือ..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 09 พฤศจิกายน, 2560, 08:51:31 PM
แม้เหตุผลกลใดไม่ปรากฎ
เหมือนเพ้อพจน์พราวพร่างในหว่างฝัน
ร้อยทอถักพริ้งแพรกแทรกจาบัลย์
ฤาแค่นั้นเกินใจ คิดไขว่คว้า...

...”ลมเหนือ..” ไพเราะมากครับ
เลยขออนุญาตมาต่อความยาว...นะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 9/10/2017
***********************

ท่องลานฝันผันผ่านตามกาลเปลี่ยน
เหมันต์เวียนรอบวง ดงบุผา
ก็ผลิกลีบบีบกลิ่นรวยรินพา
ให้ย้อนถึงคะนึงหาเวลานั้น

คราวผูกร้อยสร้อยสารคำหวานก่อ
จะร่ำรอทรมามิราฝัน
ขอแต่เพี่ยงชีพนี้ให้มีกัน
นานชั่วกัปนับกัลป์มิผันไกล

พานผู้อื่นหมื่นแสนมิแม้นเหมือน
จึงผูกเงื่อนคล้องลงอสงไขย
รอบรรสบพบพ่วงสองดวงใจ
นานเท่าใดไม่ท้อจะรอคอย

ไม่เคยมีเงือนไขอื่นใดครอบ
ความรักมอบให้นุชแม้สุดสอย
ก็จะไม่บั่นรอนทอนทยอย
เพียงฝากรอยอักขราลงตราไว้

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: คลุมเคลือ..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 10 พฤศจิกายน, 2560, 07:10:02 AM
แม้เหตุผลกลใดไม่ปรากฎ
เหมือนเพ้อพจน์พราวพร่างในหว่างฝัน
ร้อยทอถักพริ้งแพรกแทรกจาบัลย์
ฤาแค่นั้นเกินใจ คิดไขว่คว้า...

...”ลมเหนือ..” ไพเราะมากครับ
เลยขออนุญาตมาต่อความยาว...นะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 9/10/2017
***********************

ท่องลานฝันผันผ่านตามกาลเปลี่ยน
เหมันต์เวียนรอบวง ดงบุผา
ก็ผลิกลีบบีบกลิ่นรวยรินพา
ให้ย้อนถึงคะนึงหาเวลานั้น

คราวผูกร้อยสร้อยสารคำหวานก่อ
จะร่ำรอทรมามิราฝัน
ขอแต่เพี่ยงชีพนี้ให้มีกัน
นานชั่วกัปนับกัลป์มิผันไกล

พานผู้อื่นหมื่นแสนมิแม้นเหมือน
จึงผูกเงื่อนคล้องลงอสงไขย
รอบรรสบพบพ่วงสองดวงใจ
นานเท่าใดไม่ท้อจะรอคอย

ไม่เคยมีเงือนไขอื่นใดครอบ
ความรักมอบให้นุชแม้สุดสอย
ก็จะไม่บั่นรอนทอนทยอย
เพียงฝากรอยอักขราลงตราไว้

มนต์คำ


จารจิตลิขิตพร้อย......ประพันธ์
อักขระลงยันต์...........ข่มใช้
เสมือนหนึ่งความฝัน..สรวงสู่
ผนึกซ่อนแอบไว้........เสน่ห์เคล้าคลุมเครือ

ยามโจ่งแจ้งขจ่างชัด จำกัดสิทธิ์
กรอบความคิด ฟุ้งฝันอาจหวั่นไหว
หากคลุมเครือเสน่หาเอื้ออาลัย
ระทึกนัยนิยามตีความตน

อรรถรสบทกลอนสุนทรพากย์
เปลี่ยนฟ้าฟาก ขับร้อยคล้อยเวหน
ครั้นหมอกพร่าพรางมัวสลัวยล
ลึกลับดลดื่มด่ำ...คำกวี

...ขออนุญาต  สาวความยืด...ต่อนะครับ
Soul Searcher
Inspired to write 10/11/2017

wnR_Q_sAryw




หัวข้อ: รักดอกซ้อน..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 12 พฤศจิกายน, 2560, 08:29:08 AM
รักดอกซ้อน..

พาทีหวานหยดย้อย..............หยาดวาง
ครวญคร่ำรำพันพลาง............หว่านล้อม
ใจเอยอย่าจืดจาง.................ยามห่าง กันเนอ
เก็บดอกรักช่อค้อม................เสียบไว้แซมขวัญ

รำพันนี้เพื่อย้ำ.....................ความนัย
ใจหนึ่งห่วงอาลัย.................ไป่เว้น
กาลวนรอบวงไป..................ฤาเคลื่อน
บ่เลื่อนรักหลีกเร้น................หลบลี้ไกลสมร

ดูกรรักดอกซ้อน.................แทรกแซม
วานอย่าเก็บมาแกม.............อกเจ้า
ตัวพี่อาจรอนแรม...............เพียงร่าง
ทรวงต่างห้องหับเฝ้า...........โอบล้อมห้อมแหน

แทนหมอนแทนแผ่นผ้า......ห่มคลุม
คลายเหน็บหนาวเร้ารุม.......นิ่มเนื้อ
เอารักก่อกักกุม...............ยามหม่นทรวงเนอ
ใจต่อใจโอบเอื้อ..............ห่อนเรื้อสวาทหาย

ใดกรายใดลอบกล้ำ............ลามรม
วานอย่าพลอยชื่นชม..........พาทย์พร้อง
อาจขมขื่นรันทม................ยามผ่านกาลเนอ
เพียงพี่ควรเกี่ยวคล้อง.........ร่วมห้องรวมหอ

คลอคำนำร่ายร้อย.............ไมตรี
ความซ่านซึ้งพึงมี..............เพียบพร้อม
ยลกรองร่ายพาที...............นัยเกลี่ย
ลามเกลื่อนเปื้อนป่ายย้อม.....เหนี่ยวน้อมคะนึงหา

เวลาเวียนผ่านพ้น...........เทือกไพร
ใบแก่ร่วงหล่นไป............ดื่นพื้น
ยังแต่ดอกกวัดไกว..........ระริกลู่
ตาลฉ่ำช่อหยาดรื้น..........ก่อนร้างเลือนหวาน

คราญเอยรักก่อแล้ว.........ยืนยง
รสชื่นหวานยังคง............เที่ยงแท้
ใดใดอาจปลดปลง..........รานป่น
มีแต่รักพี่แล้................บ่รู้จางหาย

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: รักดอกซ้อน..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 12 พฤศจิกายน, 2560, 10:31:34 AM


โชยชายหอมยิ่งแล้.............ดอกรัก
หอมอื่นชื่นฉมนัก................ดาดด้อย
ชำแรกแทรกทรวงภักดิ์........ฝังติด ตรึงนา
งามขีดลิขิตถ้อย.................ปักซึ้งใจเสมือน

ดาวเดือนยามเคลื่อนคล้อย...คคนานต์
ยุรยาตรเยื้องปาน...............เทพท้วย
เอ่ยเอื้อนอรรถสะคราญ........ครวญคร่ำ
แทบด่าวดิ้นดับม้วย.............สยบเย้ายวนสลวย

รวยใดฤาเปรียบแม้น...........รวยริน
รวยดอกรักสุบิน..................ระบัดพลิ้ว
ร่วมฝันร่วมอยู่กิน................เฉกคู่ รักเฮย
เติมดอกรักรายริ้ว................หว่างรุ้งรวงไสว

ยามไกลยามดอกซ้อน..........แซงแซม
แวดวัดใจรอนแรม...............เหนื่อยล้า
เตือนจิตใช่เหน็บแนม...........หนอบอก
เกรงอ่อนไหวเหว่ว้า..............รุ่มเร้าโลมขวัญ

จำนรรจ์ใดฝากถ้อย.............พาที
หวังผูกร้อยไมตรี.................ตราบเจ้า
ยึดมั่นในสัญญี....................ยั้งหยัด
จักตอบแทนรักเฝ้า...............หนึ่งนี้นวลถนอม

...โคลงไพเราะยิ่งนักครับ มิอาจห้ามใจได้
จึงขออนุญาตร่วมต่อโคลงด้วยนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 12/11/2017




หัวข้อ: รักซ้อน..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 12 พฤศจิกายน, 2560, 02:18:24 PM
ออมรักออมจิตไว้.........รอวัน
คอยร่วมร้อยสัมพันธ์......ชิดใกล้
คอยสิ้นสุดแรงทัณฑ์......ทบท่วม
รอวาสน์หนุนเนื่องให้......สบเจ้านวลสมร

รักซ้อน..

จะบอกเจ้าอย่างไรว่าใจพี่
นับจากนี้ก็คงแค่สงสาร
เห็นแต่ความทุกข์ท้อทรมาน
ครองลมปราณแผ่วโหยร่างโรยรา

ยังคงอยู่สู้ต่อแค่รอจาก
รอกาลพรากภพชาติวาสนา
จงปลดบ่วงผูกพันแห่งสัญญา
หลับเถิดหนาหน้ามนเพื่อพ้นทุกข์

กาลเวลาแปรผันทุกวันเปลี่ยน
พาเปลวเทียนวาบกระจ่างสว่างสุก
ส่องแสงเรืองรองวามเมื่อยามลุก
เพียงแค่ปลุกแสงชีพก็รีบเลือน

รักก็เริ่มลาบทเมื่อหมดหวัง
แค่ประทังร่างสู้อยู่เป็นเพื่อน
จึงได้แต่ร่วมทุกข์ไร้สุขเยือน
อยู่กับเงื่อนเวลาก่อนลากัน

รอปลดปล่อยพันธะวาระพราก
ยิ่งนานมากดวงใจก็ไหวหวั่น
รักดอกซ้อนเบ่งบานบนลานพรรณ
ความงามนั้นแทรกล่วงทั้งห้วงใจ

ซ้อนดอกรักช่อเก่าที่เศร้าโศก
เพียงลมโบกช่อก้านก็พาลไหว
แปรเปลี่ยนเป็นดอกโศกแล้วโยกไกว
รอเก่าร้างลับไปเพื่อใหม่แทน

จึงกัดกินอารมณ์จนซมสั่น
เพราะรูปนั้นฝังทรวงจนหวงแหน
หวังได้ร่วมพิศวาทก็ขาดแคลน
เพราะสองแขนยากประคองทั้งสองคน

จะบอกเจ้าอย่างไรว่าใจพี่
รอคนดีตอบรับอย่าสับสน
สิ้นภาระหนักหน่วงที่พ่วงตน
จะประคองหน้ามนจงทนรอ

มนต์คำ

ปล. มีจริงครับเคยเห็น แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมโสดครัับ สาวๆหนีหมดเหลือแต่คุณ Soul เอชักยังไง 555555555
ขอบคุณยินดีครับ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 12 พฤศจิกายน, 2560, 09:40:47 PM
มนต์สะกดตอกย้ำซ้ำดวงจิต
มนต์ประชิดแห่งรักมักหลอกล่อ
พร่ำคาถาบทไหนก็ไม่พอ
อาจมนต์หนอเสกผิดชีวิตคน

เชื่อมวิญญาณสานแทรกเป็นม่านซ้ำ
อารมณ์คำหวานซ้อนซ่อนสับสน
ดอกรักพรูร่วงปานพรมลานปน-
ลมโบกบนลับพรายปลิวหายไป

สิริวตี

แอบมาป่วนกระทู้ คริๆๆ
 :21:


หัวข้อ: Re: รักซ้อน..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 13 พฤศจิกายน, 2560, 08:41:01 AM
ออมรักออมจิตไว้.........รอวัน
คอยร่วมร้อยสัมพันธ์......ชิดใกล้
คอยสิ้นสุดแรงทัณฑ์......ทบท่วม
รอวาสน์หนุนเนื่องให้......สบเจ้านวลสมร

รักซ้อน..

จะบอกเจ้าอย่างไรว่าใจพี่
นับจากนี้ก็คงแค่สงสาร
เห็นแต่ความทุกข์ท้อทรมาน
ครองลมปราณแผ่วโหยร่างโรยรา

ยังคงอยู่สู้ต่อแค่รอจาก
รอกาลพรากภพชาติวาสนา
จงปลดบ่วงผูกพันแห่งสัญญา
หลับเถิดหนาหน้ามนเพื่อพ้นทุกข์

กาลเวลาแปรผันทุกวันเปลี่ยน
พาเปลวเทียนวาบกระจ่างสว่างสุก
ส่องแสงเรืองรองวามเมื่อยามลุก
เพียงแค่ปลุกแสงชีพก็รีบเลือน

รักก็เริ่มลาบทเมื่อหมดหวัง
แค่ประทังร่างสู้อยู่เป็นเพื่อน
จึงได้แต่ร่วมทุกข์ไร้สุขเยือน
อยู่กับเงื่อนเวลาก่อนลากัน

รอปลดปล่อยพันธะวาระพราก
ยิ่งนานมากดวงใจก็ไหวหวั่น
รักดอกซ้อนเบ่งบานบนลานพรรณ
ความงามนั้นแทรกล่วงทั้งห้วงใจ

ซ้อนดอกรักช่อเก่าที่เศร้าโศก
เพียงลมโบกช่อก้านก็พาลไหว
แปรเปลี่ยนเป็นดอกโศกแล้วโยกไกว
รอเก่าร้างลับไปเพื่อใหม่แทน

จึงกัดกินอารมณ์จนซมสั่น
เพราะรูปนั้นฝังทรวงจนหวงแหน
หวังได้ร่วมพิศวาทก็ขาดแคลน
เพราะสองแขนยากประคองทั้งสองคน

จะบอกเจ้าอย่างไรว่าใจพี่
รอคนดีตอบรับอย่าสับสน
สิ้นภาระหนักหน่วงที่พ่วงตน
จะประคองหน้ามนจงทนรอ

มนต์คำ

ปล. มีจริงครับเคยเห็น แต่ไม่ใช่ผมนะ ผมโสดครัับ สาวๆหนีหมดเหลือแต่คุณ Soul เอชักยังไง 555555555
ขอบคุณยินดีครับ


ริรักรู้บั่นไซร้............ยืนยาว
กีรติทิฐิพราว...........บั่นมล้าง
อโหสิเรื่องราว..........อดีตผ่าน
เสียสละสุข สร้าง-.....สุขให้คือรัก

หากที่ใดมีรักมักมีทุกข์
เคยชื่นสุขกลับขมระทมก่อ
ยิ่งแอบซ่อนซ้อนรักภักดิ์พะนอ
นี่แหละหนอทุกข์หนักแห่งรักเลย

ยามเมื่อรักหายหนเพียงทนอยู่
ความตราตรูราร้างห่างเมินเฉย
อยู่เพื่อทำหน้าที่ ที่คุ้นเคย
ไร้ชิดเชยหวานคำเคยพร่ำเพ้อ

แล้วใดหนาพร่ารักปรักหาย
เหลือเพียงกายแต่ใจหลุดไผลเก้อ
เหมือนความฝันลอยลมห่มละเมอ
เคยพบเจอรู้จำแล้วอำลา

คิดจะปลูกดอกรักปักชำซ้อน
หวังลบรอนรานล่มที่ขมปร่า
เติมความสุขสดใสในชีวา
กลับละเลยภายหน้าสถานะ

อาจสุขสมสดใสในเบื้องแรก
แล้วจำแปลกแยกปมถมระดะ
ทนปวดร้าววันคืนขื่นมน
ครบวาระพลัดพรากก็จากจร

แล้วล่ะหรือรักซ้อนซุกซ่อนเงื่อน
ที่ชุบเชือนแชกลบลบเกลื่อนกร่อน
ให้กลับฟื้นรื่นรมย์สมดั่งกลอน
เปรยออดอ้อน รักมั่นนิรันดร์ยิน

คงวลีโปรายปรายคล้ายห่มฟุ้ง
เป็นภาพรุ้งงดงามอารามถิ่น
บริสุทธิ์สดใสในสุบิน
ก็เพียงจินตนาการงานกวี...

wsHNUOgJJZU

Soul Searcher
Inspired to write 13/11/2017

ป.ล. นั่นสิครับเป็นเรื่องที่ได้ยิน
กันอยู่บ่อยๆครับ
ส่วนผมสถานะ: ชราภาพ ครับ...หึหึ

...ยินดีที่ได้ร่วมต่อกลอนกับคนเก่งๆครับ
เป็นการช่วยพัฒนาตัวเองครับ




หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 17 พฤศจิกายน, 2560, 08:46:23 PM
มนต์สะกดตอกย้ำซ้ำดวงจิต
มนต์ประชิดแห่งรักมักหลอกล่อ
พร่ำคาถาบทไหนก็ไม่พอ
อาจมนต์หนอเสกผิดชีวิตคน

เชื่อมวิญญาณสานแทรกเป็นม่านซ้ำ
อารมณ์คำหวานซ้อนซ่อนสับสน
ดอกรักพรูร่วงปานพรมลานปน-
ลมโบกบนลับพรายปลิวหายไป

สิริวตี

แอบมาป่วนกระทู้ คริๆๆ
 :21:

หาได้เสกมนต์ใดเพียงใจมั่น
ฝากรำพันร่ายเรียงพอเพียงให้
แทรกซอนทรวงล่วงถึงหนึ่งฤทัย
ขับหมองไหม้ขื่นขมให้ล่มลาญ

หากพรหมวาดพาดลู่เป็นคู่แล้ว
คงมิแคล้วผูกขวัญคล้องบรรสาน
หากมิใช่คู่ครองทำนองกานท์
ฤาอาจผ่านด่านใจ ซึ้งนัยนั้น

ขอรับ
พี่มนต์คำ


หัวข้อ: เลือกที่จะฝัน..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 18 พฤศจิกายน, 2560, 08:31:44 PM
คงวลีโปรายปรายคล้ายห่มฟุ้ง
เป็นภาพรุ้งงดงามอารามถิ่น
บริสุทธิ์สดใสในสุบิน
ก็เพียงจินตนาการงานกวี...

Soul Searcher
Inspired to write 13/11/2017

เลือกที่จะฝัน

เขียนดอกไม้ผลิบานตระการถิ่น
หอมรวยรินรื่นรสสวยสดสี
วาดภมรร่อนหาช่อมาลี
พรายรวีฉาบไล้ในสายนั้น

หากจะสร้างมายาภาพเอาทาบจิต
จักนิมิตโลกงามทุกยามฝัน
ทั้งเขาเราต่างกรายสู่ปลายมรรค์
ผ่านคืนวันหลับใหลอยู่ในเงา

เมื่อเลือกได้จึงชอบแต่กอบสุข
ไยจักเก็บกำทุกข์ให้รุกเผา
โบราณว่าแล้วแต่จิตจะคิดเอา
จักทุกข์เศร้าโสมนัสพึงคัดกรอง

กระนั้นจึงสรรศัพท์ประดับไว้
หวังเพียงให้ผ่านพ้นความหม่นหมอง
อยากให้โลกงดงามทุกยามมอง
จึงร่ำพร้องพาฝันผ่านวันคืน

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: เลือกที่จะฝัน..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2560, 09:02:38 AM


คล้อยเชื่อคงจบสิ้น.....ระบิลความ
เห็นต่างชวนติดตาม....ตื่นเต้น
ประชาธิปไตยงดงาม...ระบอบ
ไร้ปกปิดซ่อนเร้น.........ต่างให้ความเห็น

ประเด็นชวนถักถ้อย.....พาที
อิสระเสรี.....................พินิจแย้ง
เรียนรู้จากวิถี..............เถียงถก กันนา
ใช่ทะเลาะเบาะแว้ง......ปลุกเร้ารังสรรค์

บ้างเลือกที่จะฝันปั้นนิมิต
ทิ้งชีวิตเฝื่อนขมมิรมย์รื่น
แอบหลบในวลีหนีกล้ำกลืน
เพื่อสดชื่นรื่นร้อยพร้อยคำเรียง

ครั้นคืนสู่โลกจริง สิ่งเหินห่าง
กลับเคว้งคว้างหัวใจให้บ่ายเบี่ยง
เห็นบกพร่องด่างพร้อยคล้อยลำเอียง
มิเทียบเคียงเฟื่องฝันฉันทาตน

เฉกความรักรังสรรอันดูดดื่ม
ชวนปลาบปลื้มปราถนาพาสับสน
มิอาจพบพราวพร่างอย่างประพนธ์
กรอบกมลปิดกั้นสัมพันธ์แคล้ว

จึ่งคลุกคลีวจีจารในลานศิลป์
เพ้อพร่ำจินตนาการวิมานแก้ว
กลายแปลกแยกปรานโปรดสันโดดแนว
เริงรักแพรวพหล กับมนต์คำ

...ขออนุญาต แสดงความเห็นต่าง
ตามระบอบประชาธิปไตยนะครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 19/11/2017

 :12:



หัวข้อ: คิดแบบไหนได้แบบนั้น..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2560, 10:26:27 AM
จินตนากล่าวอ้าง.........รำพันธ์
ครวญคร่ำนับอนันต์..............เนื่องครั้ง
คิดถึงคะนึงวัน....................ไกลห่าง
วนกลั่นอารมณ์ทั้ง.............หมดล้วนเรื่องฝัน

ความจริงพูนสุขพร้อม............พอเพียง
เวียนถักถ้อยประเดียง............ประดับด้วย
จงรัก อักษราเรียง................คำร่าย
สอดแทรกอารมณ์ท้วย...........ขับให้ชื่นหวาน

ใดใดในโลกล้วน.................มายา
รวมรูปสังขารา...................ผนวกนี้
ถึงคราวย่อมอัปรา...............รานป่น
ยังแต่พลังงานลี้.................หลีกเร้น บ่สูญ

เป็นบันทึกแห่งฟ้า..............ตราตรึง
นามว่ากรรมเหนี่ยวดึง..........ภพตั้ง
ก่อเกิดจากคำนึง...............สลักจิต
ผูกติดภพชาติรั้ง................ตื่นรู้จึงสลาย

จึงวาดใจทั่วถ้วน................ให้งาม
ทุกขณะจิตยาม..................ชีพยั้ง
สรรพสิ่งต่างนิยาม...............ปรุงแต่ง
ลวงหลอกหยอกยั่วทั้ง..........หมดนั้นภาพหลอน

ความแตกต่างสร้างให้โลกใบนี้
ใช้เป็นที่เรียนรู้ดั่งครูสอน
มีสุขทุกข์หม่นเหงามีร้าวรอน
ทุกช่วงตอนปั้นแต่งในแหล่งใจ

หลากความคิดผิดถูกเอาผูกคล้อง
สุดท้ายต้องวางลงหมดสงสัย
แต่สิ่งหนึ่งเร้นหลบสงบใน
ห้วงหทัยลึกล้ำยังอำพราง

คืออำนาจพาดนำแต่กำเนิด
แต่ต้องเปิดใจเป็นจึงเห็นร่าง
ก่อนอื่นต้องเปลื้องทุกข์ลงทุกทาง
อยู่ตรงกลางพอดีพอมีเป็น

ยินดีครับ ผมเชื่อว่าโลกจะเป็นไปตามใจเราบันดาลครับ สิ่งแวดล้อมจะดีถ้าเราต้องการให้มันดีครับ
ความคร่ำครวญ ความรัก ความสุข ความทุกข์ทั้งในบทกลอนและในชีวิตนอกบทกลอนล้วนเป็นมายาที่สร้างได้ตามใจปรารถนาครับ 555 เป็นมุมมองและความเชื่อของผมเท่านั้นครับ ไม่ต้องเห็นด้วยกับผมก็ได้ครับ เพราะโลกใบนี้คือโลกเสรี แห่งทวิภาวะ

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: คิดแบบไหนได้แบบนั้น..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2560, 06:36:28 PM


จินตนามากน้อย............ต่างคน
กำหนดน้าวบันดล..........จิตน้อม
หญิงชายปะเปปน..........ใครบอก ได้ฤา
จริงเท็จรึแมวย้อม...........ขุดร้องเร่ขาย

กายใจเกิดดับล้อม.........นรา
สรรพ์สิ่งแพร้วพรางตา....ผูกรั้ง
สสารมิสูญครา...............แปรเปลี่ยน สภาพเฮย
คืนพลังงานยั้ง................หยัดเหย้าวนเวียน

กงเกวียนกรรมติดต้อย....ตามตน
บุญบาปย้อมกมล...........โชกช้ำ
ดีชั่วอกุศล......................ดึงดูด ดลเฮย
ภพชาติเร่ารนย้ำ.............หยั่งข้ามอสงไขย

“ใดใดในโลกล้วน..........มายา”
เฉกเช่นยกโยงมา............แม่นแล้
ต้องทำอย่างไรหนา.........วานบอก
สัจธรรมเที่ยงแท้.............จึ่งแจ้งกลางใจ

นานาหลายหลากล้วนอนิจจัง
โลกุตระยัง บ่ มิเห็น
โลกียะเร่าร้อนซ้อนประเด็น
ส่งเยียบเย็นย้อนยอกซอนซอกทรวง

มิอาจวางความคิดจิตกระหวัด
รสสัมผัสกามคุณวิบุลบ่วง
ยังหลงไหลได้ปลื้ม มิลืมลวง
หยิบปลอมปวงมายามาชิดเชย

ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ
ปฏิเสธเหตุผลกมลเอ่ย
คงบาปบรรพ์ชิงสุกเคล้าคลุกเคย
จึงพ่ายเกยกิเลสเภทผลา

ผ่านกี่ภพกี่ชาติมิอาจช่วย
กี่มอดม้วยขื่นขมคลื่นลมฝ่า
มิอาจสร้างเรี่ยวแรงแห่งปัญญา
คณนาด่าวดิ้นด้วยยินยอม

...ทวิภาวะ..คงคล้ายกับเหรียญที่มีสองด้าน
ที่ตรงข้ามกัน แต่ก็คือเหรียญเดียวกัน..มั้งครับ...

มิรู้ชั่วจักรู้....................ดีใด
มิหลับฤ รู้ไย................ตื่นแล้
มิมืดมิดกระไร.............รู้สว่าง
ห่อนทุกข์สุขสมแท้.......สิรู้เป็นไฉน

Soul Searcher
Inspired to write 19/11/2017



หัวข้อ: ภาวะตรงข้ามและความเป็นขั้ว..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2560, 07:43:06 PM
(http://www.bloggang.com/data/vinitsiri/picture/1285383493.png)

ภายในใจหนึ่งนั้น..........แบ่งเป็น
สองส่วนคือฉ่ำเย็น........แหละร้อน
ความดำขุ่นรำเค็ญ........ครึ่งหนึ่ง
ขาวสะอาดวนซ้อน........ประจุไว้สมดุล

คือทวิภาวะแต้ม..........จิตใจ
ดำจุดขาวมีใน............อีกข้าง
ขาวมิผ่องยองใย.........มีจุด ดำเนอ
จึงปะปนคละค้าง.........ทั่วถ้วนใจคน

มนุษย์โลก ตั้งขั้ว เป็นตัวตน
บวก-ลบ รัก-ชัง วน ระคนอยู่
ต่างเก็บกอบลอบเร้นว่าเป็นกู
แล้วยกชูจับจัดสู่อัตตา

ดั้นปะปนวนคละดงมนุษย์
ต่างยื้อหยุดสุดใจจะใฝ่หา
สรรพสิ่งเพียงภาพที่ฉาบทา
เพียงหลับตาก็เลือนเหมือนไม่มี

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: ภาวะตรงข้ามและเป็นขั้ว..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 20 พฤศจิกายน, 2560, 10:03:54 AM


ชัง-รักเคียงอยู่ยั้ง..........โลกา
แต่แรกเริ่มนานมา.........เนื่องน้าว
ตำนานทุกข์โศกหนา.....ล้วนจาก
ชัง-รักที่ปวดร้าว...........เก่งกล้านรสีห์

คราใดที่จิตไร้...............สมดุล
ปั่นป่วนชุลมุน...............รุ่มเร้า
อัตตาก่อเกื้อหนุน..........โยงใหญ่
ยิ่งยึดยิ่งหม่นเศร้า.........ไขว่คว้าสุขสนอง

มองดูกิเลสเย้า..............ใจตน
ว้าวุ่นวายสับสน.............สุดขั้ว
ชั่วดีคละเปปน...............ประหนึ่ง
ยั้งเหยียบสองแคมกลั้ว..เกลือกลิ้งมิถอน

เว้าวอนเพียงสื่อซึ้ง.........ศรัทธา
ฉันทะวิริยะพา................ประสิทธิ์สร้าง
จิตตะวิมังสา..................หนุนเนื่อง
แผ้วผ่านเรื้อโลกขว้าง.....สู่ไร้อาสัญ

อายตนะตาดูหูสดับ
ชื่นฆาน ฉับลิ้มหวานผ่านชิวหา
กายสัมผัสไออุ่น ใจครุ่นครา
คลื่นกระทบอุรา พาชัง-รัก

บุพสัญญาหวนชวนรำลึก
สังขารคึกแต่งเติมเสริมทอถัก
สร้างภพชาติพึ่งพามิราพัก
ดุจชนักปักแน่นกลางแก่นทรวง

จึงยากคิดรับมือรื้อระบบ
แม้ทางพบอิดออดเฝ้ากอดหวง
มิอาจทิ้งเยื่อใยในทั้งปวง
เพราะว่าบ่วงผูกมัดรัดรึงแท้

ถึงสุดท้ายปลายทางหว่างสะอื้น
สุดจะฝืนคืนทวงร่วงโรยแก่
จะโอดครวญไปไยให้งอแง
จำพ่ายแพ้ ครั้นกาลล่วงผ่านเลย

Soul Searcher
Inspired to write 20/11/2017

 


หัวข้อ: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: มนต์คำ ที่ 22 พฤศจิกายน, 2560, 08:32:07 PM
คิดถึง

ขณะฝนหล่นเทคะเนนึก
อึกทึกอกใจช่างไหวหวั่น
ถวิลนุชสุดถอนอาวรณ์ครัน
นับคืนวันเวียนพ้นยิ่งหม่นใจ

เจ้าสุขทุกข์เยี่ยงไรดวงใจพี่
ป่านฉะนี้อยู่เย็นเป็นไฉน
ร้างอ้อมแขนเคยอุ่นละมุนละไม
จักเศร้าสร้อยน้อยใจเพียงใดกัน

ประจิมทิศหม่นเทาใต้เงาพลบ
ล้อมตระหลบแดนดิน ถึงถิ่นฝัน-
หมองด้วยคิดถึงนุชสุดรำพัน
กลางค่ำคืนเงียบงันเกินบรรยาย

เสียงหยาดฝนหล่นพรมสายลมพัด
ราวจะซัดสาดทรวงให้ร่วงหาย
อณูน้ำแทรกเถือผ่านเนิ้อกาย-
จนหนาวภายในนั้นสั่นสะท้าน

รอเถอะนะจะถนอมเฝ้ากล่อมเห่
ครั้นบุพเพเวียนวงรอบสงสาร
บรรจบแล้วอย่าร้างให้รอนราน
ให้พบพานผูกคล้องครรลองเดียว!

มนต์คำ


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 พฤศจิกายน, 2560, 12:26:18 PM


ขณะฝนหล่นพรำกำซาบสาด
แทรกซึมบาดอาวรณ์เข้าซ้อนเกี่ยว
ผสานสอดคิดถึงฟั่นคลึงเกลียว
โยงยึดเหนี่ยวรั้งรึงตรึงตราคล้อง

หลากวลีพรูพรั่งดังห่าฝน
พลัดผิดหนแผกฟ้าชะตาข้อง
ให้เหินห่างร้างไกลเกินใฝ่ปอง
ได้แต่ร้องคร่ำครวญชวนปวดร้าว

คราสดับพจน์พร่ำจำนรรจ์พร้อย
ประหนึ่งคล้อยดวงแดช่วยแปล, ป่าว
คล้ายร่วมทุกข์ร่วมโศกวิโยค ราว
บางครั้งคราวคิดถึง...คะนึงตาม

...มาช่วย บิลท์อารมณ์ครับ...
Soul Searcher
Inspired to write 23/11/2017

VeAN2ni_Tfc



หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 23 พฤศจิกายน, 2560, 07:50:15 PM
ดั่งต้องมนต์คนธรรพ์ผู้ขานขับ
กวีรับเพลงคู่ดูแคล่วคล่อง
หลงมนต์คำสิ้นท่าเพราะคะนอง
เสพร้อยกรองเริงร่าเพราะท้าทาย

หลงระเริงติดตรึงถึงอดีต
ตามสังคีตคนธรรพ์กรีดลั่นสาย
นิมิตเห็นรักแท้แค่ผ่านกลาย
และละลายไร้เงาช่างเศร้าใจ

ทุกสังคีตของท่านนั้นบาดลึก
เร้ารู้สึกถึงมานจนสั่นไหว
เปิดผนึกอารมณ์ที่ข่มไว้
ปล่อยเสรีโผไปเก็บไม่ทัน


พิณนรี

เพราะเสกมนต์พ่นเป่าเคล้าอักษร
เป็นบทกลอนชวนให้หัวใจฝัน
หากหลงแล้วหรือจะรอดพลอดรำพัน
มาช่วยกลั่นกรองกลประพนธ์ความ

ว่ารักเอย หอมหวน อบอวลนัก
ครั้นประจักษ์ซึมซาบด้วยวาบหวาม
เหมือนทั้งโลกสวยสดช่างงดงาม
ผูกรูปนามแนบในหัวใจครอง

พรมสังคีตประณีตคำส่งนำสื่อ
เพื่อจะยื้อใจนุชสุดสนอง
เอาสายใยใจนำค้ำประคอง
หมายให้น้องคิดถึงเพียงหนึ่งเดียว

นะจ๊ะ  พี่มนต์


แม้สังคีตพลิ้วพรมตามลมพัด
คล้ายถูกมัดดั่งลมทำชมเกี้ยว
เคลิ้มร้อยรสพจนารถผู้ปราดเปรียว
เกินจะเลี้ยวหลบลี้ไปที่ใด

หลงคารมคมกลอนอ้อนฉอเลาะ
ด้วยเสนาะมนต์คำทำหวั่นไหว
หลงคำหรือหลงคนก็จนใจ
หรืออะไรนั้นก็ขอชื่นชม

น้องดาว

เขียนเก่งจังค่ะ แหมเข้าคู่กันดีชะมัดกับคุณโซล   :5pa9: :5pa9:


หัวข้อ: Re: คิดถึง..
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 24 พฤศจิกายน, 2560, 09:57:22 AM


คงโดดเดี่ยวไร้คู่...........เคียงกาย
หัวอกลูกผู้ชาย..............เหว่ว้า
นารีก็ห่างหาย...............เหินหด
ไม้ดอกหมางเมินหน้า....ป่าไม้แผลงผลิน

...เอ๊ะไงหว่า...ล้อเล่นนะครับ เดี๋ยว
ท่านมนต์คำ พาลตกใจ จะหนีหายไปอีกคน

ชักชวนถ้อยถักแท้...........ชื่นชม
ฝีปากเจ้าคารม...............ช่างพลิ้ว
อักขระสวยคม................สมชื่อ
สาวต่างก็ยกนิ้ว..............แต่แล้วเลือนหาย

ปล่อยชายให้เหี่ยวแห้ง....หัวโต
ทิ้งผ่องแผ้วมโน..............ขื่นขว้าง
เหินห่างหากโทโส..........บังเกิด
เปลี่ยนกลับสลับข้าง.......สวาสดิ์ซ้องสวิงสวาย

...เอ๊ะ...เผลอทีไรวกเข้าเรื่องเดิม...แหะแหะ
ก็อาจารย์”น้องดาว” และเพื่อนๆที่หายกันไป
เข้ามาวางกลอนบ่อยๆสิครับจะได้ช่วยกัน
ตะล่อมท่านมนต์คำ...หึหึ

Soul Searcher
Inspired to write 24/11/2017

 :12: