เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: เจิดจำรัสรัตนกานท์ ที่ 26 พฤศจิกายน, 2560, 06:54:44 PM



หัวข้อ: บุหลันจันทรา
เริ่มหัวข้อโดย: เจิดจำรัสรัตนกานท์ ที่ 26 พฤศจิกายน, 2560, 06:54:44 PM
ฝากคำกลอนลอยล่องไปสู่ใจเจ้า
แม่นงเยาว์เสาวลักษณ์นางอัปสร
พิศเพียงพักตร์เจ้านั้นดั่งจันทร
แม้ชายาพระสี่กรมิเปรียบเปรย

บุหลันเลื่อนเคลื่อนลับกลับเมฆา
หากแม้นว่าได้ร่วมเรียงเคียงเขนย
กับนวลน้องภัณฑิราทรามเชย
มีสุขเอยแลเกษมเปรมสำราญ

จะให้สัตย์ ณ ที่นี้จงจำไว้
พี่ขอให้ศรรามาจงแผลงผลาญ
หากพี่นั้นผิดวจีจงรอญราญ
ให้ฟ้าดินเป็นพยาน ณ บัดนี้

จะขอมีแต่เจ้าเพียงหญิงเดียว
ไม่แลเหลียวหญิงอื่นดาษดื่นมี
หากแม้นผิดคำสัตย์ขัดวจี
ขอให้พี่มรณีสิ้นชีพไป

เจิดจำรัสรัตนกานท์
26/11/60

https://www.youtube.com/watch?v=OUy4vO6nNNc


หัวข้อ: Re: บุหลันจันทรา
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 พฤศจิกายน, 2560, 08:08:17 PM


~* บุหลันลอยเลื่อน *~

บุหลันลอยเลื่อนฟ้า.......โลมทรวง
สูงค่าเกินคู่ควง.............ไขว่คว้า
เงาเมฆบดบังดวง..........เดือนดั่ง
ถมทับด้วยเหว่ว้า..........สุดเอื้อมมือสอย

ยังคอยหวนห่มห้อม......คำนึง
ศรรักปักตราตรึง...........อกแล้
ขืนขัดข่มร้าวรึง.............มิอาจ
ลืมรักเหมือนหมดแม้.....หม่นม้างบุหลัน

Soul Searcher
Inspired to write 27/11/2017

ป.ล. ไปเจอในอินเตอร์เนทเลยคัดลอกมา
ให้อ่านกันครับ
เครดิตจาก:

http://blog.wordthai.com/เพลงบุหลันลอยเลื่อน/

“บุหลันลอยเลื่อน” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งพระองค์ทรงเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์ทั้งทางด้านกวีนิพนธ์และการดนตรีที่ชำนาญการเป็นเยี่ยม ยากจะหาผู้ใดมาเทียบ...”

“...ในคืนวันนั้นหลังทรงซอสามสายจนดึกแล้วเสด็จเข้าที่บรรทมทรงพระสุบินว่า “พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปในสถานที่แห่งหนึ่ง ตามปรากฏในพระสุบินนิมิตนั้นว่า เป็นสถานที่สวยงามอย่างยิ่งจนไม่มีที่แห่งใดในโลกเสมอเหมือน  ทอดพระเนตรเห็นดวงจันทร์ค่อยๆลอยเคลื่อนเข้ามาใกล้พระองค์ทีละน้อยๆและสาดแสงสว่างไปทั่วบริเวณ ทันใดนั้นปรากฏเป็นเสียงทิพยดนตรี แว่วกังวานหวานไพเราะเสนาะพระกรรณเป็นอย่างยิ่ง พระองค์เสด็จทรงประทับทอดพระเนตร และทรงสดับเสียงดนตรีอันไพเราะอยู่ด้วยความเพลิดเพลินพระราชหฤทัย จากนั้นดวงจันทร์ก็ค่อยๆลอยถอยเลื่อนเคลื่อนห่างออกไปในท้องฟ้า  พร้อมทั้งสำเนียงเสียงทิพยดนตรีนี้นก็ค่อยๆเบาจางห่างจนหมดเสียงหายไป

พลันเสด็จตื่นบรรทมแม้เสด็จตื่นรู้พระองค์กระจ่างแจ้งแจ่มพระทัย แล้ว สำเนียงดนตรีในพระสุบินยังแว่วกังวานพระโสตอยู่ จึงโปรดให้ตามมหาดเล็กเจ้าพนักงานการดนตรี เข้ามาต่อเพลงไว้ในยามราตรีนั้นเอง พระราชทานนามเพลงว่า “เพลงบุหลันลอยเลื่อน หรือเพลงบุหลันลอยฟ้า” หรือบางทีเรียกกันว่า “เพลงทรงพระสุบิน” และเคยเรียกว่า “เพลงสรรเสริญพระจันทร์” เพราะเคยใช้เป็นเพลงสรรเสริญพระบารมีมาสมัยหนึ่ง ต่อมาเกิดเพลงสรรเสริญพระบารมีทำนองสากล จึงเรียกเพลงนี้ว่าเพลงสรรเสริญพระจันทร์ เป็นเพลงสรรเสริญบารมี(แบบ)ไทย ซึ่งเคยใช้บรรเลงเป็นเพลงชาติไทยในสมัยหนึ่ง...”


y10bpAlcpRo