หัวข้อ: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 พฤศจิกายน, 2560, 12:40:44 PM (http://preview.ibb.co/g7a8vG/20171127_175544.jpg) (http://ibb.co/i2LaaG)
หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 พฤศจิกายน, 2560, 12:42:00 PM (http://preview.ibb.co/fZQcNw/9616.jpg) (http://ibb.co/e9X2pb)
ณ นครอุดรปัญจาล์ ท้าวอาทิตย์ราชา พระนางจันทราราชินี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 พฤศจิกายน, 2560, 12:43:34 PM ๏ ตั้งต้นความตามนิทานนานนักหนา อตีเต “นครอุดรปัญจาล์” มีนามาลือเลื่องประเทืองไผท ๏ ทั่วทุกแหล่งแห่งหนชนผาสุก นิรทุกข์เนิ่นนานกาลสมัย ดินอุดมน้ำดีกว่าที่ใด พืชพรรณไม้ดอกผลมีบริบูรณ์ ๏ “ท้าวอาทิตยวงศ์” องค์กษัตริย์ ครองสมบัติกรุงไกรเลิศไอศูรย์ ทศพิธราชธรรมเรืองจำรูญ ทรงเกื้อกูลถึงร้อยเอ็ดนครา ๏ คู่องค์เอกอัครมเหสี “นางจันทราเทวี” ศรีสง่า น้ำพระทัยใฝ่ธรรมล้ำเมตตา ปวงประชาเชิดชูคู่ราชัน ๏ จิรกาลนานมาพารานี้ ปราจีนทิศสถิตที่สระสวรรค์ สีสายน้ำงามตระการปานอำพัน นับอนันต์โกสุมปทุมมาลย์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 พฤศจิกายน, 2560, 12:45:14 PM ๏ รายรอบสระสวรรค์มากพันธุ์ไม้ ร่มรื่นแท้แลวิไลยิ่งไพศาล ใจกลางสระเป็นประตูสู่บาดาล จึงพบพานจอมนาคาผู้อารี ๏ นาคฉายาว่า “ท้าวชมพูจิต” ไร้เดชฤทธิ์แต่นำหนุนบุญวิถี บำเพ็ญศีลอวยทานด้านความดี จึงเป็นศรีแห่งสระประจำเมือง ๏ มักจำศีลสงบกายใต้หว้าใหญ่ ชนทั่วไปสักการมานานเนื่อง อำนวยพรนคร รัช ราษฎร์รุ่งเรือง บุญประเทืองด้วยนาคาบารมี ๏ ยามน้ำแล้งพญานาคปากให้น้ำ ชลชื่นฉ่ำทั่วแดนดินทุกถิ่นที่ น้ำมากพลันผันธาราเมืองนาคี ชั่วตาปีมิวิตกอุทกภัย ๏ ประจำปีมีงานการบวงสรวง กิจทั้งปวงเสริมกุศลดลสุกใส เพิ่มพระเกียรติกษัตราลือชาไกล ชาวเวียงชัยวัฒนาสถาวร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 พฤศจิกายน, 2560, 12:46:00 PM ๏ คืนหนึ่งพระมเหสีมีนิมิต ชวนให้คิดแปลกมิเคยเลยแต่ก่อน ว่าเทวามาอุ้มองค์เอมอร เหินฟ้าจรสู่วนหิมวันต์ ๏ วางพระองค์ให้ทรงคชสารศิลป์ เที่ยวชมถิ่นพิไลกลางไพรสัณฑ์ ผ่านสระใหญ่ช้างถวายบุษบัน อัศจรรย์สุบินสิ้นราตรี ๏ อุษาสางปรึกษาพระฤๅสาย อยากทราบคำทำนายให้ถ้วนถี่ ด้วยครุ่นคิดจิตวุ่นวายร้ายหรือดี จอมธานีสั่งหาโหราจารย์ ๏ โหราเฝ้าจึงเล่าความตามที่ฝัน ฤกษ์ยามอันทรงสุบินสิ้นโวหาร เมื่อโหรรับพระราชโองการ ทูลภูบาลถ้อยความตามตำรา ๏ “คำทำนายถวายไท้ในการณ์นี้ พระองค์มีโชคอนันต์อันเลอค่า ดั่งจำนงทรงครรภ์พระราชบุตรา จุติตรงลงจากฟ้าสุราลัย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 พฤศจิกายน, 2560, 10:13:00 AM ๏ ทรงบุญญาธิการปานโกสินทร์ ครองแผ่นดินสืบสายปลายสมัย” พอจบคำทำนายพระภูวไนย ดวงฤทัยแช่มชื่นรื่นสราญ ๏ ทรงถนอมกล่อมขวัญพระครรภ์อ่อน งดเผ็ดร้อนเสวยพระกระยาหาร ทศมาสมาถึงซึ่งวันวาร พระประสูติกาลมานอานันท์ ๏ พร้อมธนสมบัติพิพัฒน์เลิศ การณ์บังเกิดขุมทองผ่องสีสัน ทั้งสี่มุมปราสาทพิลาสสุพรรณ ดุจเทวัญประทานกาญจนา ๏ ยังปีติยินดีที่ยิ่งล้น ถึงปวงชนญาติพงศ์ร่วมวงศา องค์ทรงธรรม์รับขวัญพระลูกยา ให้นามว่า “สุธนราชกุมาร” ๏ ศุภลักษณ์วิไลเลิศในภพ ทรงคุณครบบุญฤทธิ์พิสิฐพิศาล เจริญวัยราชัยหาพระอาจารย์ ผู้เชี่ยวชาญวิชามาเป็นครู หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 พฤศจิกายน, 2560, 10:13:48 AM ๏ สอน“ไตรเพท”“คัมภีร์พระเวท”ศาสตร์ พระสามารถเรียนไวใครมิสู้ ผู้สอนสั่งทั้งมวลล้วนเชิดชู เป็นวิญญูองค์เอกอเนกอนันต์ ๏ ทั่วธานินทร์สิ้นครูผู้ใดสอน ลาบิดามารดรจรไพรสัณฑ์ หมายทิศาปาโมกข์โลกอภิวันท์ คือยุคันต์* อาจารย์ชาญวิชา ๏ เอกาองค์บุกพงไพรใจหาญฮึก ธนูศาสตร์ล้ำลึกหมายศึกษา แล้วสมหวังดั่งคิดด้วยกฤษฎา พบมหาโยคีที่เกริกไกร ๏ จึงฝากตัวเป็นศิษย์เรียนศรศิลป์ สมดั่งจินต์มุ่งมั่นแลฝันใฝ่ ทรงศึกษาจริงจังอย่างตั้งใจ สำเร็จได้ดังปองเพียงสองปี ๏ วันกราบลาพระอาจารย์ท่านกล่าวว่า “จะนำพาขึ้นยอดคีรีศรี สู่อาศรมศรศักดิ์สิทธิ์เลิศฤทธี ในนั้นมีศาสตร์อมร “ศรศิลป์ชัย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 พฤศจิกายน, 2560, 10:14:39 AM ๏ ผู้เรียนจบการศึกษามาก่อนก่อน ต่างหมายปองครองศรที่ยิ่งใหญ่ แต่ผันผ่านนานปีมิมีใคร น้าวคันศรนี้ให้โก่งได้เลย ๏ สายศรแกร่งปานเหล็กกล้าหนักกว่าหิน” พระสุธนได้ยินโยคีเอ่ย จึงตั้งจิตพิษฐานกาลก่อนเคย สร้างบุญไว้ขอได้เชยชมฤทธา ๏ หยิบคันศรขึ้นจับกระชับมั่น แล้วน้าวคันศรสมมาดปรารถนา แผลงศรศิลป์บินไปในเมฆา แผดเสียงก้องท้องวนาผาสะท้าน ๏ แล้วลูกศรย้อนคืนแหล่งสำแดงฤทธิ์ เป็นนิมิตคู่บุญญามาสมาน องค์โยคีมีวาจาสาธุการ “เทพประทานจงน้อมนำประจำกาย ๏ พิชิตมารสานคุณธรรมนำชาวโลก พ้นทุกข์โศกสุขสันต์กันทั้งหลาย ศาสตราหรือคืออำนาจฉกาจร้าย พึงมีจิตคิดหมายใช้ด้านดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 ธันวาคม, 2560, 09:26:20 AM ๏ อำนาจอยู่กับผู้ที่มีธรรมะ ธรรมย่อมจะนำมงคลดลสุขี ถ้าอธรรมดำรงไว้ให้ราคี อันหลักนี้พึงดำริซึ้งนิยาม ๏ พระบุตราได้มาครองต้องมีจิต สุจริตประจักษ์ไปในโลกสาม เทพบันดาลประทานให้ผู้ใจงาม” พอจบความกราบลาคืนธานี ๏ มิทันพลบพบพรานไพรแปลกใจนัก มานั่งดักหนทางกลางไพรศรี เมื่อประจันพลันพรานอัญชลี พระจึงมีพจนาปุจฉาไป ๏ “ทำธุระอะไรที่ในป่า เป็นนักล่ามิเห็นมีเนื้อที่ไหน หรือเพียงหาพวกยาสมุนไพร แล้วเหตุใดที่มานั่งท่ากัน” ๏ “กระหม่อม พรานบุญฑริก ขอรับ หากินกับไพรสาณฑ์นานเหลือนั่น สารพัดสัตว์ตื่นหนีทุกชีวัน ด้วยเสียงลั่นเมฆาศรนารายณ์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 ธันวาคม, 2560, 09:27:27 AM ๏ ปู่เล่าเรื่องศรศิลป์ชัยไว้นานมาก ใจจึงอยากอภิวันท์ดังมั่นหมาย กระหม่อมนี้มีธนูเคียงคู่กาย ลูกผู้ชายสายเลือดพรานชาญพนา ๏ เมื่อรู้องค์ทรงชัยได้ศรศิลป์ คู่กายินสมศักดิ์อนรรฆค่า ที่กระทำด้วยดำริมุทิตา มิได้คิดริษยาใจอาธรรม์” ๏ พระสุธนยลท่าทีวจีขาน จึงตอบพรานด้วยวาทะสมานฉันท์ “ทำสัตว์ตื่นก็ขอให้อภัยกัน มิหมายเป็นเช่นนั้นด้วยฉันทา ๏ แม้นเรารักธนูมั่นกันทั้งสอง ควรปรองดองผูกสัมพันธ์กันเถิดหนา อาวุโสท่านแน่นอนเกิดก่อนมา ละยศถาฯ ขอเรียกขานพี่พรานบุญ ๏ มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดในภายหน้า ร่วมสัญญากันไว้หมายเกื้อหนุน เดือดร้อนใดให้ช่วยเหลืออยากเจือจุน” มอบการุณย์แล้วเอ่ยลาคืนนาคร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 ธันวาคม, 2560, 09:28:37 AM ๏ พรานบุญแสนซาบซึ้งตราตรึงจิต ด้วยมิคิดได้รับเกียรติมาแต่ก่อน จึงหมอบราบกราบก้มพนมกร กล่าวสุนทรตอบไปใจตื้นตัน ๏ “ขอร่วมทางกลับเคหาในครานี้ ต่อไมตรีมิตรใหม่ให้คงมั่น” พระสุธนมิขัดตัดสัมพันธ์ จึงชวนกันคืนนครอุดรปัญจาล์ ๏ ร่วมกินร่วมค้างหว่างไพรพฤกษ์ เรื่องใดนึกข้องจิตคิดปุจฉา พรานเล่า “มีลูกเมียพร้อมหน้าพร้อมตา อยู่ชายป่าฐานะก็พออยู่ดี ๏ แต่หม่อมฉันนั้นนิสัยติดไพรสัณฑ์ อยู่เคหาถ้านานวันปานไฟจี้ เมื่อเข้าป่าผาสุกทุกข์มิมี ใช้ชีวีจัดเจนตระเวนไพร” ๏ ถามถึงองค์ชายาพระสุธน “คงมากมายหลายคนด้วยหาได้ สาวร้อยเอ็ดนครามิว่าใคร ปลงฤทัยอยู่ใต้เบื้องพระบาทา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 ธันวาคม, 2560, 10:09:14 AM ๏ พระสุธนจึงมีวาทีตอบ “มิชื่นชอบหญิงใดในโลกหล้า แม้จำนงคงไม่ถึงซึ่งเวลา มิต้องตาต้องจิตเหมือนปิดใจ ๏ สักวันคงพบเนื้อคู่ชื่นชูชิด ฉันมิใช่ไร้ดวงจิตพิสมัย” เหมือนเปิดอกคุยกันพร้อมครรไล เผยความนัยแก่มิตรมิปิดบัง ๏ จนมาถึงซึ่งนิเวศเขตไพรสณฑ์ ทางสองแพร่งแห่งหนคนละฝั่ง กล่าวอำลาพาทีไมตรียั้ง พระสุธนมุ่งสู่วังเมืองปัญจาล์ ๏ ขึ้นเฝ้าพระชนก ชนนีท่าน รื่นสราญเชิดศักดิ์ยิ่งนักหนา เป็นเอกองค์มงกุฎราชบุตรา ทรงเดชาประเทืองเลื่องไผท ๏ กาลภายหน้าปกไพร่ฟ้าประชารัฐ เป็นกษัตริย์โลกเชิดชูผู้ยิ่งใหญ่ สืบสันตติวงศ์องค์ราชัย คือนิรัติศัยแห่งวงศ์วาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 ธันวาคม, 2560, 10:11:15 AM ๏ กล่าวถึงอีกเมืองซึ่งชื่อพ้อง “ปัญจาละ” ที่สองใหญ่ไพศาล อยู่ทิศประจิมแดนแสนกันดาร ด้วยราชันนั้นใจพาลถืออาธรรม์ ๏ เกิดข้าวยากหมากแพงทุกแห่งหน ประชาชนทุกข์เข็ญทั่วเขตขัณฑ์ ต่างนครอุดรปัญจาล์นั้น จึงพากันทยอยโยกย้ายไป ๏ ที่ทุกข์ร้อนหมายผ่อนคลายไปหาเย็น นั้นย่อมเป็นปกติแห่งวิสัย ชาวปัญจาล์ประจิมน้อยเหลือใจ องค์ราชันนั้นแจ้งนัยเหตุคดี ๏ หลังประชุมเสนามหาอำมาตย์ เพิ่งสามารถรู้ความตามวิถี ว่าเหล่ามวลมหาประชาชี ย้ายถิ่นหนีทุกข์ยากจากพารา ๏ สู่อุดรปัญจาล์นาครสวรรค์ ที่พืชพันธุ์อุดมสมบูรณ์กว่า ดินน้ำดีด้วยบารมีจอมนาคา ผู้ขึ้นมาทำหน้าที่บริบาล หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 ธันวาคม, 2560, 10:12:28 AM (http://preview.ibb.co/k39nQG/DSCF9635.jpg) (http://ibb.co/niSJXw)
พราะราชาแห่ง ประจิมปัญจาล์ บัญชาให้พราหมณ์ไปจับจอมนาคา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 ธันวาคม, 2560, 10:13:48 AM ๏ ราชาฟังดังนั้นพลันกริ้วเหลือ นาคโอบเอื้อมิมาถึงถิ่นสถาน บริภาษจอมนาคาว่าสาธารณ์ กระทำการโดยฉันทาถืออาธรรม์ ๏ จึงระดมพราหมณ์ที่มีพระเวท มากฤทธิ์เดชยิ่งใหญ่ในเขตขัณฑ์ ให้เข้ามารวมกลุ่มประชุมประชัน เพื่อคัดสรรผู้อาสาจับนาคี ๏ เมื่อได้พราหมณ์ตามจิตที่คิดหมาย จอมราชันบรรยายให้หน้าที่ “จับเป็นมาก็ได้ตายก็ดี รางวัลมียศศักดิ์มากตอบแทน” ๏ พราหมณ์ทูลลาคลาไคลมิได้ช้า มุ่งอุดรปัญจาล์ทำตามแผน สืบถามหาสระน้ำประจำแดน จนมั่นแม่นโคนหว้าใหญ่รอยไม่จาง ๏ จึงทดลองมนตรากับยาสั่ง พ่นลงยังสระใหญ่ใสกระจ่าง ในฉับพลันธารพลุ่งไอฟุ้งคว้าง จากใจกลางสระงามน้ำขุ่นตม หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 ธันวาคม, 2560, 10:14:55 AM ๏ พราหมณ์ปลื้มใจในวิชาฤทธิ์ยาขลัง [/color][/size]มีพลังเหมือนหมายใจสุขสม จวนจะค่ำทำเพิงค้างกางฝนลม ทวนอาคมคาถาวิชามาร ๏ วางแผนมั่นเข้าวันใหม่เข้าในป่า เก็บว่านยาพิษร้ายเพียงไฟผลาญ มากพอที่บีฑานาคามลาน จึงเริ่มงานที่เป็นไปดั่งใจคิด ๏ แลถึงคราพญานาคราช ต้องมนตราพยาบาทนั่งไม่ติด ร้อนรุ่มนักดังอัคคีเผาชีวิต ปานเข็มพิษทะลวงดวงฤทัย ๏ เกิดสังหรณ์ร้อนจิตผู้คิดร้าย มุ่งทำลายด้วยเวทเดชยิ่งใหญ่ อยากให้การณ์อันระแวงนั้นแจ้งใจ จึงคลาไคลขึ้นเหนือพื้นปฐพี ๏ แล้วจำแลงแปลงกายเป็นชายหนุ่ม มาดักซุ่มดูลาดเลาเฝ้าพื้นที่ หาพบเห็นผู้ใดใจมิดี ไม่อยากรอจรลีตามร่องรอย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 ธันวาคม, 2560, 10:15:41 AM ๏ ได้พบพราหมณ์หมองูพักอยู่ยั้ง รู้ผู้ที่มีพลังต้องร้างถอย อกประอุกทุกข์ใหญ่มิใช่น้อย เสโทย้อยย่ำย่างตามทางมา ๏ ดังกุศลผลบุญหนุนนำให้ พบพรานไพรพอดีที่ชายป่า จึงทักทายไต่ถามความนานา “ท่านเป็นชาวพาราแห่งใดฤๅ” ๏ พรานบุญตอบมอบน้ำใจไม่เย่อหยิ่ง ตามความจริงจากใจอันใสซื่อ “ชาวอุดรปัญจาละนามระบือ ชนเลื่องลือแดนอุดมสมบูรณ์ดี” ๏ “เหตุจากไหนใครบันดาลเช่นนั้นได้ จึงปลอดภัยไร้ทุกข์เป็นสุขศรี” พรานบุญตอบ “เป็นความชอบของนาคี บารมีปกปักรักษ์มานาน” ๏ “ถ้าจู่จู่มีผู้จ้องปองร้ายนาค มีฤทธิ์มากเกินที่นาคีต้าน ความคิดเห็นเป็นไฉนในดวงมาน แม้นเหตุการณ์คับขันกระนั้นแล้” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 ธันวาคม, 2560, 10:16:33 AM ๏ พรานบุญว่า “หามีใครในเมืองนี้ ความคิดมีอย่างท่านนั้นกล่าวแน่ หรือว่าคนคนนั้นคือท่านแท้ ที่แปลกหน้ามาตั้งแง่ให้งวยงง ๏ ต้องม้วยมรณ์ด้วยศรพรานเป็นการตอบ คิดมิชอบกับนาคาค่าสูงส่ง” เห็นท่าทีที่รักกันเป็นมั่นคง ดังจำนงนาคจำแลงเลิกแปลงกาย ๏ เป็นนาคีแล้วมีคำพร่ำเฉลย ว่า “ท่านเอ๋ยเราทุกข์สุขสลาย ด้วยมีพราหมณ์มากฤทธิ์ใช้พิษร้าย ย่ำกล้ำกรายกายินถึงวิญญาณ์ ๏ เขาตั้งหลักพักกายชายไพรศรี คงเตรียมการณ์ผลาญชีวีเราวันหน้า ขอไหว้วานท่านด้วยช่วยเมตตา เรานาคานี้จะเทิดพระคุณ” ๏ พรานแน่ชัดว่าสัตย์จริงมินิ่งอยู่ ขออาสามาเป็นผู้ช่วยเกื้อหนุน จะปกปักรักษ์นาคาที่การุณย์ คอยค้ำจุนปัญจาล์มาเนิ่นนาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 ธันวาคม, 2560, 10:41:07 AM ๏ “ท่านจงกลับคืนวังตั้งใจเถิด เหตุร้ายใดจักไม่เกิดขึ้นกับท่าน ข้าจะเฝ้าสระเอาไว้ป้องภัยพาล ถ้าใครมากระทำการอันพิกล ๏ ต้องม้วยมรณ์ด้วยศรพรานผลาญชีวิต สมโทษทัณฑ์ที่มันคิดอกุศล” นาคาว่า “ถ้าทำร้ายก่อนคลายมนต์ เราต้องทุกข์รุกรนนานนิรันดร์ ๏ ควรสำทับกับเขาให้คลายมนต์ก่อน ตามขั้นตอนน้ำในสระจะแปรผัน ไว้ชีวีดีหรือไม่ต่อไปนั้น มิกีดกันท่านตามจิตพินิจความ” ๏ ตกลงได้เหมือนดังที่ตั้งจิต วิเคราะห์กิจถ้วนถี่มิหยาบหยาม เขาก็ศิษย์มีครูมิวู่วาม ต้องทำตามแผนการวางงานไว้ ๏ จำประจัญมันผู้ที่มีจิตต่ำ มายีย่ำผู้ทำดียอมมิได้ มิประมาทรู้ว่าพลาดอาจมีภัย จึงซุ่มกายภายในร่มไม้บัง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 ธันวาคม, 2560, 10:42:20 AM ๏ หลังอุษามาอีกวันไม่ทันสาย เห็นพราหมณ์ร้ายผู้ที่มีมนต์ขลัง แบกกิ่งไม้สะพายถุงพะรุงพะรัง แล้วมาตั้งศาลเพียงตาหน้าสระงาม ๏ เริ่มพิธีพลีกรรมทำคุณไสย พ่นลงไปจนจบคำรบสาม น้ำพวยพุ่งฟุ้งไอสมใจพราหมณ์ ว่านพิษตามลงเติมเพิ่มพลัง ๏ พรานบุญเห็นเป็นพราหมณ์ร้ายไม่ผิดพลาด ประชิดพลันสันดาบฟาดลงกลางหลัง พราหมณ์ฟุบลงยังคงซัดหมัดอีกครั้ง แต่ก็ยั้งมิให้ถึงวายชนม์ ๏ ตีนเหยียบบ่ามือคว้าหัวห้ามตัวถอย จ่อคอหอยด้วยดาบกำราบก่น พราหมณ์กลัวเสียชีวินสุดดิ้นรน ขอปรานีชีวิตตนพัลวัน ๏ พรานตะคอกบอกอยากมีชีวีต่อ อย่ารั้งรอคลายมนตราฝังอาถรรพ์ มิอาจเบี่ยงบ่ายได้ในครานั้น รับปากพลันยันกายตั้งนั่งภาวนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 ธันวาคม, 2560, 10:43:30 AM ๏ พรานจ้องสระน้ำใหญ่ไอฟุ้งอยู่ ประเดี๋ยวดูระงับหายปลายคาถา จึงมั่นใจพราหมณ์ร้ายคลายมนตรา มิรอราดาบสะบัดตัดคอพราหมณ์ ๏ “ประเพณีตีงูให้หลังหัก ปู่สั่งนักย้ำเน้นเป็นข้อห้าม ช่วงเวลาเข้าตาอับกลับอ่อนตาม พอก้าวข้ามภาวะอันตราย ๏ คิดเรื่องหลังครั้งเก่าทำเอาแค้น ถ้าหากแม้นมีโอกาสดังมาดหมาย จักหวนย้อนมาย้ำคิดทำลาย จึงความตายนั้นแท้ควรแก่การณ์ ๏ เพราะทำตัวชั่วช้าอาญาหนัก ใจคิดจักทำลายหมายประหาร ถึงเทพไทไม่เมตตาคนสาธารณ์ รับโทษฐานเลวทรามตามกฎกรรม” ๏ จอมนาคาในครานั้นอาการร้อน ค่อยค่อยผ่อนกลายเป็นเย็นชื่นฉ่ำ รู้มนตราราคีที่กระทำ ได้คืนคำคลายสิ้นแสนยินดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 ธันวาคม, 2560, 10:13:39 AM ๏ แปลงเป็นหนุ่มหน้ามนเหมือนคนก่อน จึงรีบจรขึ้นตรวจตราหน้าสระศรี เมื่อได้พบโดยพลันพรานบุญชี้ ให้ดูผีศัตรูผู้คิดร้าย ๏ จอมนาคีดีใจปานได้แก้ว “เป็นพระคุณบุญแล้วหนอสหาย ให้เราได้แทนคุณท่านอันมากมาย มิกลับกลายยึดมั่นคำสัญญา ๏ แต่เราสองต้องช่วยกันจัดการศพ อย่างเคารพศัตรูร้ายวายสังขาร์ คิดอภัยไม่ขอต่อเวรา ปล่อยเป็นเหยื่อแร้งกาไม่น่างาม” ๏ ช่วยกันเคลื่อนศพไปสู่ไพรสัณฑ์ ห่างสระนั้นฝังให้มิได้หยาม สำเร็จการพรานจะไปไกลเขตคาม นาคเอ่ยนามพรานว่า “มหามิตร ๏ ขอร้องให้ได้แทนคุณเพื่อนบุญเถิด น้ำใจท่านนั้นประเสริฐแสนซึ้งจิต ที่เมตตาอารีต่อชีวิต เชิญสถิตสุขอุรา ณ บาดาล” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 ธันวาคม, 2560, 10:14:32 AM ๏ พรานเกรงใจไม่ปัดขัดประสงค์ เจ้านาคาพาลงสระพิศาล ถึงวังทองมองอร่ามงามตระการ ร่วมปฏิสันถารสมานกัน ๏ เชิญพรานไพรให้นั่งบัลลังก์คู่ หมายเชิดชูเกียรติมิตรสนิทมั่น พรานบุญค้าน “ท่านนะหรือคือราชัน ข้าต่ำชั้นเพียงพรานไพรไม่บังควร” ๏ “ท่านผู้ที่มีคุณนำหนุนนัก เรื่องยศศักดิ์ฐานะคนละส่วน อย่าให้เสียแรงรักที่ชักชวน เลิกเรรวนพึงสดับรับรางวัล ๏ ให้ท่านครองอาณาห้าปราสาท ดำรงราชเวียงชัยไอศวรรย์ ห้าร้อยนางนาคีโสภีพรรณ จักคัดสรรเป็นบริจาริกา” ๏ พรานสนองน้ำใจไม่อาจขัด ครองสมบัตินาคีอันมีค่า อยู่ได้เจ็ดราตรีเจ็ดทิวา เฝ้าทูลลาเจ้าบาดาลกลับบ้านเมือง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 ธันวาคม, 2560, 10:16:08 AM ๏ จอมนาคาว่า “ขัดข้องหมองสิ่งไหน จักดูแลแก้ไขได้ทุกเรื่อง สิ่งใดผิดมิตรบุญจึงขุ่นเคือง คิดย่างเยื้องคืนหลังดังวาที” ๏ พรานพรรณนา “หามีที่ข้องขัด สารพัดสิ่งอำนวยอวยสุขี แต่วาสนาข้าน้อยด้อยเพียงนี้ น่าจะมีความสุขกลับทุกข์ทน ๏ ห่วงเมียลูกผูกใจไม่ห่างหาย อยู่นานช้าจะว่าตายกลางไพรสณฑ์ อีกอย่างข้าลาไพรใจกังวล ด้วยเป็นคนเคยชินถิ่นวนา” ๏ “เพื่อนไปดีก็มิขัดอัชฌาศัย แก้วแหวนใดสมบัติปรารถนา นับโกฏิมอบตอบแทนให้ไปขายค้า เพื่อนำพาบำรุงบำเรอตน” ๏ พรานบุญว่า “ข้าดำรงอยู่พงไพร ทรัพย์มากไปใครเห็นเป็นฉงน ขอเพียงนิดติดมือไปไม่มากล้น พอคลายจนเมียลูกสุขสบาย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 ธันวาคม, 2560, 10:14:05 AM ๏ “จักคิดอ่านฉันใดตามใจท่าน แม้นทัดทานรั้งอยู่ดูเสียหาย การณ์จากไกลไมตรีมีมิกลาย ยังจักหมายแทนคุณเกื้อหนุนกัน ๏ กาลข้างหน้าคราใดท่านได้ทุกข์ ขอดลสุขดำรงอยู่คงมั่น ดั่งจำนงจงมาหน้าสระพลัน กู่กระชั้นสัญญาณขานสามลา ๏ แม้มิพบเห็นใครผู้ใดอยู่ นายประตูจักนำท่านนั้นมาหา” ตกลงกันเป็นคำมั่นคำสัญญา นาคนำพาขึ้นบนพื้นปฐพี ๏ กล่าวคำลาพากันคืนพื้นเพเก่า ถิ่นลำเนาเคยอาศัยได้สุขศรี เมื่อรำพึงถึงในใจคนนี้ บ้านคือที่ครองสุขทุกชีวัน ๏ ดั่งสัตว์พรากจากดงอยู่กรงทอง ย่อมหม่นหมองครองทุกข์สิ้นสุขสันต์ ถิ่นกำเนิดเกิดกายทั้งหลายนั้น สายใยรักผูกพันมั่นมิเลือน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 ธันวาคม, 2560, 10:14:58 AM ๏ พรานบุญถึงเคหาภรรยาเห็น สิ้นลำเค็ญสุขใดไม่แม้นเหมือน แม้ไม่เหลือเนื้อ ยา คืนมาเรือน เล่าเรื่องเยือนแดนนาคาเมืองบาดาล ๏ มอบแก้วแหวนเงินทองของเมืองนาค เห็นไม่มากแต่มูลค่ามหาศาล เมียพรานบุญสุขสบายไปอีกนาน เกินกว่าการล่าเนื้อเพื่อยังชนม์ ๏ อันพรานไพรมิใจต่ำความโลภหลาย คนมากมายหยามหมิ่นสิ้นกุศล ผู้ย่ำยีชีวิตจิตมืดมน การมองคนผิวเผินจะเกินจริง ๏ อยู่มินานพรานบุญวุ่นใจนัก แม้นอนพักเคหาน่าสุขยิ่ง สัญชาตญาณพรานไพรไม่อาจทิ้ง อยากเอนอิงในพนาคาคบไม้ ๏ จึงสั่งเสียลูกเมียว่า “ในครานี้ เงินทองมีพอเพียงเลี้ยงตนได้ เข้าดงดานนานกว่าคราใดใด ถึงแดนไกลที่ไม่เคยเลยก่อนมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 ธันวาคม, 2560, 10:15:49 AM ๏ แดนดงริมหิมพานต์อันลึกล้ำ เพียงยินคำคนครั้งเก่าเล่านักหนา อยากจะไปให้เห็นเป็นบุญตา แนววนาวิจิตรพิสดาร” ๏ เตรียมธนูหน้าไม้ของใช้สอย เผือก มัน กลอยหาได้หว่างไพรสาณฑ์ เสบียงกรังทั้งหยูกยาที่อาธาร* เมื่อจัดการครบครันจึงผันจร ๏ เบนหน้าบ่ายไปสู่อุดรทิศ เขตป่าปิดเดินยากมากสิงขร ด้วยจิตพรานผู้ชาญป่ามิอาทร เที่ยวแรมรอนนอนวนาหลายราตรี ๏ จนลุล่วงห้วงน้ำงามประหลาด รุกขชาติแปลกตากว่าทุกที่ ดุจเทวัญสรรค์บุปผาสุมาลี หลากหลายสีชื่นฉมชวนดมดอม ๏ น้ำใสสวยด้วยกลุ่มปทุมมาศ ดารดาษอุบลบานซ่านกลิ่นหอม ดุจแข่งขันกันชูกรอันอ่อนน้อม สะพรั่งพร้อมชมเพลินจำเริญใจ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 ธันวาคม, 2560, 09:12:42 AM ๏ ใกล้เวลาสายัณห์กระชั้นนัก หาที่พักสักคราค่อยมาใหม่ มองที่เหมาะจำเพาะค้างมิห่างไกล ลัดเลาะไปพบอาศรมบรมมุนี ๏ พรานสบายใจนักขอพักค้าง มิเดือดร้อนนอนห้างให้ยากที่ เดินมุ่งหน้าไปหาเจ้ากุฎี วันทาพระฤษีมีเมตตา ๏ พรานบุญถามความเป็นผู้อยู่โดดเดี่ยว “ภาระเกี่ยวภักษาหารใครสรรหา ยามเจ็บป่วยใครช่วยอวยหยูกยา เหล่าสัตว์ร้ายมีไหมมาบีฑากาย ” ๏ พระมุนีชี้แจง “แหล่งอาหาร ทุกวันวารขบฉันนั้นเหลือหลาย เลือกเพียงผลที่หล่นพื้นดื่นกระจาย ทั้งลิงป่ามาถวายให้ทุกวัน ๏ ส่วนหยูกยานานาพรรณสมุนไพร เกินต้องการสัญจรในพนขัณฑ์ ทุกก้าวย่างมิห่างยาสารพัน ต่างสามัญพิเศษเวชวนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 ธันวาคม, 2560, 09:13:52 AM ๏ สัตว์ร้ายใดไม่บีฑาวิสาสะ เบียดเบียนละทุกสิ่งอหิงสา การป้องกันนั้นหรือคือเมตตา มิได้มีเดชามาค้ำชู ๏ แล้วโยมเป็นพรานไพรหรือไรเล่า มิหาบเขา หนังใดสงสัยอยู่ เดินเข้าดงหลงผิดทิศมิรู้ หรือมาสู่เจตนาว่าอย่างไร” ๏ “ฉันเป็นพรานนานมาพนาเวศ ถ้วนทุกเขตท่องถึงสิ้นถิ่นไหนไหน เพียงป่านี้ที่เพิ่งมาเพราะว่าไกล เดินทางได้ลำบากยากเอาการ ๏ พบห้วงน้ำงามปานธารสวรรค์ ฤๅเทพสรรค์ถวายให้แก่ท่าน” คำโยคี “มีมาแต่ช้านาน อยู่ในเขตหิมพานต์มหาพน” ๏ “เมื่อวานผ่านมาเห็นเป็นบุญนัก พรุ่งนี้จักชมความงามอีกหน ด้วยติดตาตรึงใจคล้ายต้องมนต์ ชะตาดลประสบพบสิ่งดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 ธันวาคม, 2560, 09:14:47 AM ๏ องค์โยคีมีคำกล่าวห้ามว่า “พรุ่งนี้หนาคือวันปัณรสี ซึ่งเหล่านางโศภินกินรี ใช้น้ำในสระนี้ชำระองค์ ๏ โยมรอไว้สักวันให้ผันผ่าน พบโฉมยงทรงสะคราญพานลุ่มหลง อกร้อนไฟราคะยากจะปลง เป็นมั่นคงจริงจังขอฟังคำ” ๏ พรานยินวาจามุนีที่กล่าวขอ เหมือนเติมต่อใจอยากเห็นเต้นตุ้มต้ำ “เพียงแอบแลแต่ไกลไกล” พรานไพรย้ำ “จะมิทำให้ตกตื่นขอยืนยัน” ๏ องค์โยคียังมีคำห้ามว่า “อย่า... กินรีมีนาสาพิเศษสรรค์ เหนือลมแลแม้มีผู้อยู่ไกลกัน จับกลิ่นอันแปลกไปได้ไวนัก” ๏ พรานตอบต่อ “ข้อนี้นั้นฉันถนัด การส่องสัตว์จมูกดีต้องมีหลัก” ผู้ทรงศีลสิ้นวาทีที่จะทัก จึงหยุดพักวาระสนทนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 ธันวาคม, 2560, 06:26:17 AM ๏ รุ่งสุรีย์สีทองส่องสว่าง แสงพรายพร่างลอดใบไม้ในป่า พรานมุ่งตรงลงกุฎีด้วยปรีดา สอบทิศหาใต้ลมจนสมจินต์ ๏ พบสุมทุมพุ่มพฤกษ์ดังนึกคิด ที่ปกปิดบังกายได้หมดสิ้น สงบนิ่งจริงดังว่าทำมาชิน มิอาจยินแม้เสียงผายลมหายใจ ๏ มินานเห็นกินนรีที่ขอบฟ้า ล่องลิ่วมาตรงทิศจนชิดใกล้ ถึงยังแท่นศิลาหมายตาไว้ มิระแวงระไวพรานไพรมอง ๏ ถอดปีกหางวางเคียงเรียงเสร็จสรรพ ลงน้ำตามลำดับองค์หนึ่งสอง สามสี่ห้าหกถึงนุชคนสุดท้อง พรานบุญจ้องนิ่งกริบมิพริบตา ๏ ทุกนงรามงามเหลือเหนือมนุษย์ แต่น้องสุดสดใสพิไลกว่า พี่ขานนามน้องกระจะ “มโนราห์” ลักขณาอัปสรใดไม่เปรียบปาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 ธันวาคม, 2560, 06:27:51 AM ๏ คิดถึงคำพระสุธนเมื่อหนก่อน ร้อยนาครธิดาใดไม่สมาน ถ้วนทั้งในโลกายุพาพาล พระมิมีดวงมานปฏิพัทธ์ ๏ ฤๅชะตาฟ้าเบื้องบนดลมานี้ กินรีคือคู่องค์วงศ์กษัตริย์ เมื่อใคร่ครวญหวนคำนึงถึงแน่ชัด พรานบุญตัดอารมณ์ข่มใจลา ๏ กลับคืนหลังหวังพบปะพระฤษี เผยวจีเข้าจุดอยากปุจฉา ที่หมายผลและต้นเหตุเจตนา “อยากจะจับมโนราห์ฉันใดดี ๏ การมาดหมายมิใช่ว่าเกิดราคะ กักขฬะมิดูกายตนใช่ที่ รู้ว่าเธอกึ่งเทพเป็นเทวี ศักดิ์สตรีควรคู่พระภูมินทร์ ๏ จับนางหมายไปถวายพระสุธน เจริญชนม์เอกากายใฝ่ถวิล หญิงมากมายถวายตัวทั่วธาณินทร์ หากแต่จินต์ยังมิภักดิ์รักนางใด หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 ธันวาคม, 2560, 06:28:47 AM ๏ เชื่อมั่นมากหากพบหน้าโนราห์น้อง พระองค์ต้องตรึงจิตพิสมัย วิธีการจับนางควรอย่างไร ผิพลั้งไปโอกาสต้องขาดลอย ๏ ทำบ่วงบาศไปคาดคล้ององค์น้องนั้น สระกว้างครันคงยากอยู่สักหน่อย พุ่งไปจับสับสนแน่มิใช่น้อย อลหม่านพานจะพลอยให้งวยงง ๏ ด้วยทั้งเจ็ดกินรีนี้สะสวย ร่างสำรวยละม้ายทำให้หลง คิดยิ่งขัดตัดมิขาดมาดจำนง จึงเจาะจงขอความคิดพระสิทธา” ๏ พระฤษีมีคำพร่ำเฉลย หลังพรานเผยใจมาดปรารถนา “โยมพรานเอ๋ยอย่าเลยไม่ได้การนา มิใช่เนื้อมิใช่ปลาคว้าดังใจ ๏ หรือเด็ดดังตั้งฤดี “นารีผล” เขาก็คนเดินดินที่บินได้ ทั้งเชื้อเทพเทวัญอันเรืองไกร ชนมิใช่นกกาหนาโยมพราน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 ธันวาคม, 2560, 06:05:13 AM ๏ การบินได้ใช้ปีกหางสร้างประดิษฐ์ อิทธิฤทธิ์แห่งมนตราเทวาสมาน ชาวไกรลาสนิวาสโพ้นหิมพานต์ เลิศโอฬารประเทืองปานเมืองแมน ๏ มิอืดอาดปราดเปรียวเฉลียวฉลาด ความสามารถเหินฟ้าได้ว่องไวแสน อันมนุษย์ดุจเราไซร้อย่าหมายแม้น ใช่ดูแคลนฝีมือพรานผู้ชาญไพร ๏ มีบ่วงบาศนาคราชนั้นเพียงหนึ่ง ที่สามารถรัดรึงดึงไว้ได้” พรานบุญฟังนั่งยิ้มกระหยิ่มใจ ยกมือไหว้พระสิทธาลาทันที ๏ จิตพระผู้ทรงพรตกำหนดว่า เมื่อพรานป่ารู้ความหมายต้องหน่ายหนี อยากปกปักรักษ์ชีวินกินนรี นาคบาศที่หามิได้หายตอแย ๏ มิรู้ว่าพาทีกลับชี้ช่อง พรานสมปองเหมือนจิตคิดไว้แน่ ความหวังดีมีผลร้ายได้จริงแท้ ฉะนี้แลพึงกำหนดพจนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 ธันวาคม, 2560, 06:06:15 AM ๏ พูดพล่ามไปไม่ยั้งระวังปาก ยิ่งพูดมากคนฟังเขาชังหน้า ภูมิรู้มีหรือไม่ในเจรจา เหมือนเปิดผ้าให้เขาเห็นเปล่าเปลือย ๏ พรานกระหยิ่มยิ้มย่องท่องทางเก่า จำลำเนาเดิมได้มิใคร่เหนื่อย คัดที่ควรค้างสบายตามชายเฟือย* เหมือนฉะเฉื่อย* รู้ไปมาครากี่วัน ๏ กลางดวงจิตคิดการณ์ไกลใจสุขแสน เดินสู่แดนปัญจาละสระสวรรค์ เมื่อมาถึงจึงกู่ร้องก้องถิ่นนั้น สามลาอันเคยสัญญากับนาคี ๏ สิ้นคำขานนายทวารพลันมาพบ นั่งนอบนบระยอบขอบสระศรี ยินวาจาเข้าใจในทันที จูงพรานรี่ดิ่งตรงลงบาดาล ๏ เวลาชั่วอึดใจไปด้วยเวท เข้าถึงเขตนาคะราชฐาน ต่างชื่นชมยินดีที่พบพาน มิตรสัมพันธ์มั่นสมานเหมือนผ่านมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 ธันวาคม, 2560, 06:07:12 AM ๏ “เพื่อนมีทุกข์ขุกเข็ญใดให้ช่วยเหลือ หรือเพียงเมื่อระลึกถึงจึงมาหา จงแถลงแจ้งเหตุเจตนา ถือเสียว่ากันเองห้ามเกรงใจ” ๏ พรานบุญฟังดังนั้นพลันตอบถ้อย “เรื่องมีอยู่มิรู้น้อยหรือว่าใหญ่ มินานมาท่องป่าที่มิเคยไป จนเข้าในชายวนหิมพานต์ ๏ ได้พบนางกินรีศรีไกรลาส ผิวผุดผาดเลิศพิไลเกินไขขาน ดุจอนงค์ลงมาจากพิมาน ทรงสะคราญเกินใครในโลกา ๏ นึกถึงปัญจาละราชบุตร ผู้พิศุทธ์เรื่องสตรีมิปรารถนา อยู่เดียวดายไร้คู่เคียงอุรา แม้ร้อยพันพระธิดาหายินดี ๏ จักจับนางมโนราห์พาถวาย ด้วยมั่นหมายพระครองคู่อยู่สุขี หนทางเดียวเทียวนะท่านในการนี้ พระฤษีเลิศฌานท่านหยั่งรู้ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 ธันวาคม, 2560, 08:07:05 AM ๏ นาคบาศของท่านเท่านั้นแท้ ฉะนี้แลเหตุที่ว่าลงมาสู่ ด้วยถือว่าพญาจิตชมพู นั้นคือผู้เอื้อปัญจาล์มาแต่ไร” ๏ “กล่าวให้ปลื้มจะยืมนาคบาศหรือ สิ่งนั้นคือของคู่องค์คงมิได้ พญาครุฑศัตรูรู้เมื่อใด มาบีฑาข้าก็ไร้ซึ่งสาตรา ๏ ขอสิ่งใดจักมอบให้ได้ทั้งสิ้น ของที่อยู่คู่ชีวินอย่าเลยหนา” พรานบุญย้ำ “คำท่านเคยเอ่ยสัญญา มิได้ว่ามีข้อเว้นนัยเช่นนี้ ๏ ให้เงินทองของมีค่าในครานั้น นับอนันต์แต่ก็มิพอที่ จักเทียบด้วยช่วยเหลือเอื้อชีวี เอ่ยพาทีนี้มิได้หมายทวงคุณ ๏ สิ่งสำคัญอันให้นี้เท่าชีวิต พิสูจน์ได้ในจิตคิดเกื้อหนุน เนื่องความดีที่เคยทำคอยค้ำจุน” คำพรานบุญขอ หว่านล้อมพร้อมกันเลย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 ธันวาคม, 2560, 08:08:06 AM ๏ “เสร็จงานพลันฉันรีบพามาคืนให้ มิครองไว้เนิ่นนานหรอกท่านเอ๋ย” นาคราชไม่อาจปัดขัดคำเปรย จึงเฉลยวาจาว่า “ตกลง ๏ โปรดตระหนักนาคบาศนั้นมาตรว่า ดวงชีวาแต่ให้ตามความประสงค์ ห่างกายไปไร้เงาเศียรเจียนปลิดปลง ขอดำรงสัญญาสัจจาจริง” ๏ พรานบุญรับนาคบาศจากหัตถา พร้อมศึกษาวิธีใช้ได้ทุกสิ่ง เอ่ยคำลาคลาไคลไม่ประวิง นาคพาดิ่งขึ้นสู่พื้นปฐพี ๏ มิหันเหห่วงเคหามุ่งหน้าใหม่ สู่สระใหญ่ให้ทันวันปัณรสี หมายรอยเดิมเคยเดินไว้ได้อย่างดี ในหนนี้ใช้เวลามิช้านัก ๏ มาถึงทันวันที่หมายไม่คลาดเคลื่อน หาสุมทุมพุ่มเสมือนเรือนตั้งหลัก เตรียมแผนการงานใหญ่ไว้พร้อมพรัก จึงนอนพักค้างคืนอย่างชื่นใจ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 ธันวาคม, 2560, 08:09:13 AM ๏ ฝ่ายเหล่านางกินรีธิดาราช แห่งไกรลาสนคราเมื่อฟ้าใส ขึ้นกราบพระมารดรเช่นก่อนไร จะลาไปสรงสนานธารปทุม ๏ พระมารดาครานี้พิไรพร่ำ ฝากฝังคำสั่งสอนอกร้อนรุ่ม สังหรณ์ใจภัยร้ายหมายเร้ารุม “เจ้ารวมกลุ่มเอาไว้ให้จงดี” ๏ จะหักห้ามทรามวัยมิไปนั้น เหมือนบีบคั้นใจธิดาหาใช่ที่ ด้วยนานมากาเลประเพณี จอมเทวีจำซ่อนทุกข์กลางฤทัย ๏ ยังสั่งคำย้ำความไปตามห่วง “เจ้าทั้งปวงคือดวงจิตพิสมัย ขอศุภโฉลกมีโชคชัย” เจ็ดกินรีดีใจรีบไคลคลา ๏ เมื่อใส่ปีกใส่หางเช่นนางหงส์ ออกบินตรงขึ้นไปในเวหา ร่อนเล่นลมชมเพลินเนินพนา แล้วดิ่งลงตรงธาราพาชื่นบาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 ธันวาคม, 2560, 08:12:43 AM ๏ ถอดปีกหางวางเรียงตามลำดับไล่ จากพี่ใหญ่น้องน้องลงสรงสนาน สภาวะเหมือนธรรมดามาเนิ่นนาน ไร้สัญญาณบ่งชี้ภัยบีฑา ๏ พรานบุญจ้องน้องนุชคนสุดท้อง เทียบพี่ผองยังจำน้องงามกว่า มองเขม็งเล็งไว้ไม่ละตา แล้วปล่อยบาศนาคามุ่งหน้าไป ๏ บ่วงมนตรานาคาเห็นเป็นนาคี พุ่งเร็วรี่เข้ารัดบาทนางได้ โนราห์น้องร้องหวีดหวาดแทบขาดใจ เหล่าพี่พี่มิร่ำไรเข้าไขว่คว้า ๏ เห็นนาคีที่คาดรัดบาทน้อง ถอยห่างร้องอยากช่วยแท้แต่มิกล้า ใส่ปีกหางต่างโผผันดั้นเมฆา บินร่อนไปร่อนมาสาละวน ๏ โนราห์ร่ำพร่ำวจีเรียก “พี่จ๋า มาช่วยน้องด้วยเถิดหนาอย่าเหินหน น้องกลัวแสนแม้นใจมลายพ้น สุดดิ้นรนให้หลุดที่ฉุดดึง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 ธันวาคม, 2560, 08:14:22 AM ๏ หกกินนรีบินรี่รุดฉุดน้องรัก เหนี่ยวรั้งหนักไร้แรงสำแดงถึง พรานบุญเห็นเป็นแน่ชัดการรัดรึง นายพรานจึงออกจากพงตรงไปพลัน ๏ เห็นหกนางต่างยื้อยุดฉุดน้องอยู่ ยกธนูขึ้นตั้งท่าว่าจะลั่น จำปล่อยน้องร้องร่ำเพ้อรำพัน ต่างเสียขวัญเตลิดหนีสุดชีวิน ๏ พรานเก็บปีกเก็บหางวางในย่าม กระทำตามแผนการผ่านพ้นสิ้น จึงคลายบ่วงมนตราแห่งนาคินทร์ เรียกยุพินขึ้นคงคามาไวไว ๏ เรียกกี่ครั้งยังสิ้นแรงตัวแข็งทื่อ มิคิดดื้อแต่กลัวเกินเดินไม่ไหว เหมือนอุระจะกลวงขาดดวงใจ ชลนัยน์ไหลลงสายคงคา ๏ พรานบุญเห็นมิเป็นผลดั่งตนหมาย ขยับกายมุ่งตรงลงไปหา ยินเสียงร้องของนางมโนราห์ ห้ามไว้ “อย่ามายื้อยุดฉุดชีวัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 ธันวาคม, 2560, 08:15:26 AM ๏ กินรีมิชินกลิ่นมนุษย์ ถ้าขืนฉุดตัวข้าจักอาสัญ จะขึ้นจากสระนี้ขอพี่นั้น จงผายผันปลีกกายไปให้ไกล” ๏ พรานบุญว่า “อย่ามาไล่จักได้หนี เชื่อวาทีก็โง่นักจักหาไหน” มโนราห์ว่า “ปีกหางสองอย่างไซร้ เมื่อเก็บไว้จักหนีกันฉันใดนา” ๏ พรานบุญฟังดังว่าล่าถอยห่าง เพื่อให้นางได้แต่งองค์ทรงภูษา เมื่อทุกสิ่งเสร็จสรรพพรานกลับมา นางจึงนั่งวันทาว่าคำวอน ๏ “โปรดเมตตาปรานีน้องนี้เถิด เราต่างเกิดร่วมโลกามาแต่ก่อน มีน้องพี่บิดาและมารดร ที่ห่วงหาอาทรอยู่ยิ่งนัก ๏ หนังมังสานั้นหามีค่าไม่ ปล่อยน้องไปเถิดเป็นคุณได้บุญหนัก รู้ว่าท่านนั้นมิใช่คนใจยักษ์ จะมาควักตับไตน้องไปกิน” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 ธันวาคม, 2560, 09:35:13 AM ๏ พรานบุญฟังดังนั้นพลันตอบถ้อย “อันข้าน้อยไม่ได้หมายหยามหมิ่น รู้ศักดิ์ชั้นท่านสูงค่ากว่าเมฆินทร์ ข้าเพียงดินต้อยต่ำมิลำพอง ๏ มิยีย่ำกล้ำกรายถูกกายท่าน แม้ดวงมานก็มิหมายให้หม่นหมอง อุตส่าห์นำนาคบาศมาคาดคล้อง อย่าขอร้องปล่อยกายให้ป่วยการ ๏ ทำทั้งนี้ตั้งที่หมายไว้เป็นเลิศ จักชูเชิดพระบุญญามหาศาล ท่านครองคู่พระสุธนผลโอฬาร สุขสราญในสมบัติขัตติยวงศ์ ๏ พระบุตราเอกากายมิหมายใคร สาวอื่นใดในโลกนี้มิประสงค์ เชื่อแน่นักพบพักตร์ท่านรักมั่นคง จนลุ่มหลงเสน่หายอดนารี” ๏ “ดุจนกกาค่าด้อยต่ำต้อยศักดิ์ พระองค์รักเมตตาหาใช่ที่ คงจะไล่ให้คืนป่าพนาลี เกรงตัวพี่ถูกพระองค์ลงอาญา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 ธันวาคม, 2560, 09:37:22 AM ๏ “เรารู้จักรักกันฉันพี่น้อง รู้พระทัยไม่ขุ่นข้องแน่นักหนา เลิกชวนให้ไขว้เขวเสียเวลา อย่าชักช้าขอเชิญออกเดินทาง” ๏ มโนราห์ท่าข้องขัดอึดอัดอยู่ พรานบุญขู่จะลากกายให้ก้าวย่าง จำดำเนินเดินพิไรร่ำไปพลาง ด้วยบาทนุชนุ่มบางอย่างสำลี ๏ ต้องย่ำหินดินกรวดแสนปวดร้าว หนามสั้นยาวตำกายแผลหลายที่ เดินร้องร่ำพร่ำหาพระชนนี “โอ้ป่านนี้ต้องโศกาเหลืออาลัย ๏ ครบน้องพี่ที่เย็นเช้าขึ้นเฝ้าหา แต่นี้ไปไม่เห็นหน้าน้องอยู่ไหน กรรมวิบัติพลัดพรากจากกันไกล ชั่วชีวีนี้คงไม่ได้พบกัน ๏ กราบเทพไทที่สถิตทุกทิศา ฝากวาจาแว่วไว้กลางไพรสัณฑ์ แม้นพระแม่ตามมาช้ามิทัน รู้ชีวันลูกตอนนี้มิมลาย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 ธันวาคม, 2560, 09:38:34 AM ๏ มโนราห์ล้านักขอพักก่อน พรานบุญอ่อนมิเร่งเร้าเอาเหลือหลาย รู้ถึงความลำบากมีมากมาย การพากายเดินไพรอันไม่เคย ๏ สุดจะอ้อนวอนใดต่อไปแล้ว โอ้อกแก้วมโนราห์นิจจาเอ๋ย อกร่ำร้องหมองดวงแดนักแม่เอย แต่เกิดเลยมิเคยช้ำลำบากใด ๏ พระบิดรมารดามาพี่พี่ หากแม้นมีความต้องการสิ่งอันไหน สารพัดจัดหาทั้งข้าไท มิปล่อยให้ทุกข์หนักเลยสักครา ๏ ต่อแต่นี้ชีวินคงสิ้นสุข ต้องระทมจมทุกข์แน่นักหนา คนอื่นไกลไหนเล่าเขาเมตตา ต้องโหยหาแต่บ้านจนวันตาย ๏ ค่อยถอดเครื่องประดับทับภูษา วางตามแถวแนววนามาเป็นสาย นานวันเกินเดินทางแทบวางวาย ยังเร่ร่ายพักค้างกลางพงพี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ธันวาคม, 2560, 08:13:35 AM ๏ ตัดบทตอนย้อนไปกรุงไกรลาส หกพี่น้องล่องอากาศถึงกรุงศรี ขึ้นรายงานพระนางจันท์กินรี เผยวจีว่า “น้องมโนราห์ ๏ โดนพรานไพรใช้บ่วงนาคราช นุชนาฏถูกยื้อยุดหมายฉุดคร่า แม้พี่พี่นี้ดึงกันสุดปัญญา พรานเงื้อง่าธนูใส่จำใจจร” ๏ พระมารดาผวาหวั่นสะท้านสะทก แปลบหัวอกเสียดสยองดังต้องศร วาโยอั้นอัดลิ่มปิ้มม้วยมรณ์ พระองค์อ่อนซวนซบสลบลง ๏ นางกำนัลช่วยกันทั้งราชฐาน พยาบาลหาโอสถน้ำสระสรง ทั้งกราบทูลปทุมราชขัตติยวงศ์ จึ่งพระองค์เสด็จหามิช้านาน ๏ เมื่อฟื้นมาราชันพลันปลอบว่า “นิ่งเถิดหนาข่มฤทัยไม่ฟุ้งซ่าน เชื่อการพรากเนื่องจากกรรมบรรพกาล ต้องมีมารแทรกกลางแยกห่างไกล หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ธันวาคม, 2560, 08:14:14 AM ๏ ยังมิสิ้นชีวาอนาคต คงเลี้ยวลดคืนมาถิ่นอาศัย” พระมารดาว่า “อย่าห้ามขอตามไป เป็นฉันใดจะได้รู้ซึ่งลู่ทาง” ๏ องค์ราชัยไกรลาสมิอาจยั้ง จึงปล่อยดังดำริมิขัดขวาง “สุดชายป่าอย่าล้ำไปถิ่นไพรร้าง หักหมองหมางคืนหลังยังธานี” ๏ พระมารดาคลาไคลใส่ปีกหาง กินรีทั้งหกนางผู้เป็นพี่ พากันออกดำเนินเหินเมฆี ร่อนลงที่สระใหญ่เหมือนใจจง ๏ ตามรอยทางย่างไปในพนัส เห็นถนัดเครื่องหมายมิให้หลง เพชรประดับมโนราห์บนผ้าทรง ให้รู้ทางอีกอย่างคงมีชีวัน ๏ ย่างด้วยบาทขวาซ้ายหลายวันผ่าน ทรมานเจียนว่าจะอาสัญ นึกสงสารมโนราห์ยิ่งกว่านั้น ถูกบีบคั้นชีวินสิ้นเสรี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 ธันวาคม, 2560, 08:15:09 AM ๏ แสนรันทดสลดทรวงด้วยห่วงหา ชลนานองในพงไพรศรี พบเสือสิงห์ลิงค่างบ่างชะนี แม่ยังมีพจนามาเว้าวอน ๏ ขอช่วยลูกผูกใจอย่าไกลจาก พร่ำคำฝากสิ้นเถื่อนแถวแนวสิงขร ร้องรำพันดั้นด้นฝ่าพนาดร สุดอาวรณ์แทบวางวายหลายวันวาร ๏ จะมีใครไหนหนามาช่วยแม่ อนาถแท้เวทนาน่าสงสาร ทนเจ็บหนักด้วยรักลูกผูกดวงมาน เศร้าซมซานแรมนิราศแทบขาดใจ ๏ ต้องรีบรุดสู่จุดหมายให้ทันลูก แม้กายถูกหนามเกี่ยวตำจนช้ำไหม้ ฝ่าพระบาทฉ่ำโลหิตจำปิดไว้ ฉีกผ้าคาดรัดให้ได้เดินทาง ๏ ส่วนนางกินนรีพี่ทั้งหก น้ำตาตกห่วงอาลัยไปทุกอย่าง น้องจากลาพาแม่เศร้าเฝ้าแรมร้าง หวั่นชีพดับอับปางอยู่กลางไพร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 ธันวาคม, 2560, 09:12:26 AM ๏ มโนราห์มาใกล้ชายป่าแล้ว “โอ้แม่แก้วคงตามมาหาทันไม่ เมื่อออกพ้นเขตป่าอย่าตามไป มากมีภัยบีฑาสารพัน ๏ ขอหยุดยั้งนั่งอีกคราด้วยล้านัก ก่อนที่จักพ้นนิเวศเขตไพรสัณฑ์ การจากลาครานี้ชั่วชีวัน จะพบกันฉันใดไม่เห็นทาง ๏ อยากให้แม่หักจิตคิดถึงลูก ความพันผูกพังภินท์สิ้นทุกอย่าง คิดเสียว่ามโนราห์มาวายวาง บุญร่วมสร้างมากับแม่เพียงแค่นี้” ๏ ถอดเครื่องทรงชั้นนอกเหมือนบอกเหตุ พาดปางไม้ชายนิเวศสุดไพรศรี พรานปลอบว่าพ้นป่าได้เดินง่ายดี มินานถึงซึ่งธานีบุรีรัก ๏ พ้นดงดานสู่บ้านไร่เขตชายป่า สนธยาหยุดยั้งเพื่อตั้งหลัก กระท่อมปลายนามีเป็นที่พัก สิ้นยศศักดิ์เยี่ยงทาสีที่ซมซาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 ธันวาคม, 2560, 09:13:34 AM ๏ ที่ชายป่าพระมารดาเห็นผ้าทรง ฝากไว้แม้นแทนองค์ยอดสงสาร พระรีบคว้ามาอิงแอบแนบดวงมาน ปวดวิญญาณเกินห้ามหักรักอาลัย ๏ “โอ้ทูนหัวของแม่นับแต่นี้ โอกาสมีพบหน้ากันต่อวันไหน หรือตราบสิ้นชีวันจากกันไป ก็จักไม่อาจคืนมาชื่นชม ๏ โธ่อกเอ๋ยพรานไพรช่างใจร้าย ล้างมลายชีวินสิ้นสุขสม พิฆาตสัตว์ตัดชีวาตามอารมณ์ ยังเข่นข่มกินรีที่ประทุษ ๏ พรากลูกนกลูกกายังว่าชั่ว บาปหมองมัวราคินมิสิ้นสุด อรชรอ่อนแอกว่ามายื้อยุด เจ้ามีจุดปองร้ายหมายอะไร ๏ หมายทรัพย์สินเงินทองของมีค่า จะมิขัดปรารถนาหามอบให้ ชิงลูกรักเหมือนมาควักดวงฤทัย โถพรานไพรมิสักนิดคิดเมตตา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 ธันวาคม, 2560, 09:14:26 AM ๏ สุดคิดอ่านการใดอย่างไรต่อ นึกคำขอปทุมราชไว้ “มาตรว่า สุดแดนไพรไม่พบปะมโนราห์ ตัดใจลาคืนหลังยังธานี” ๏ เรียกลูกทั้งหกให้ใส่ปีกหาง เหินฟ้ากว้างข้ามวนาน้ำตาปรี่ เหมือนจะสิ้นเรี่ยวแรงแห่งกายี ดวงฤดีไร้สุขทุกข์ท่วมท้น ๏ แม้ถึงวังยังอาลัยใจโหยหา ชลนารินไหลวันหลายหน ทุกข์แม่จึงควรซึ้งใจลูกหลายคน ครามีคู่ครองกมลร้างแรมไกล ๏ ยามชื่นชู้คู่ชมสุขสมรัก ควรตระหนักรักแม่หาโรยราไม่ มิต้องรอให้รักเศร้าเหงาอาลัย จึงคิดย้อนคืนในอ้อมอกเดิม ๏ มิควรร้างห่างรักจากอกแม่ ยิ่งท่านแก่กายลงควรส่งเสริม ท่านเป็นสุขสิ่งใดหมายต่อเติม ความรักเพิ่มแทนคุณบุญอำพน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 ธันวาคม, 2560, 09:16:21 AM ๏ ย้อนถึงมโนราห์ในครานั้น จากไพรสัณฑ์สู่นาไร่หลายแห่งหน พรานบุญมุ่งสู่กรุงไกรไม่กังวล แลสุขล้นใกล้เสร็จสำเร็จงาน ๏ ถึงพอดีที่วาระพระสุธน ออกเยี่ยมยลสวนขวัญสวรรค์สถาน ที่งามมากหลากพฤกษาผกามาลย์ พร้อมข้าราชบริพารย่านยาตรา ๏ พรานบุญแลเห็นแต่ไกลจำได้มั่น จรจรัลมาดักทางอยู่ข้างหน้า พระสุธนดีใจได้เจรจา มิตรไมตรีมีมาหาเสื่อมคลาย ๏ ในครานั้นมโนราห์ก้มหน้านิ่ง หวั่นใจยิ่งอาญาพระฤๅสาย มิช้านานพรานนำคำบรรยาย ทูลถวายมโนราห์เริ่มพาที ๏ “คราหม่อมฉันนั้นเดินไพรอันไพศาล ถึงชายป่าหิมพานต์ผ่านสระศรี บุญนำพาพบธิดากินรี เจ็ดน้องพี่มาสรงในคงคา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 ธันวาคม, 2560, 09:17:26 AM ๏ พระองค์น้ององค์นี้สวยที่สุด ปิ่นมงกุฎเอกอนงค์แห่งวงศา พร้อมเอวองค์วงพักตร์ลักขณา ทั่วโลกามิเทียบมาเปรียบปาน ๏ สมควรคู่รักดำรงองค์ราชบุตร ด้วยประดุจเทวามาสมาน หม่อมฉันคิดพินิจดูอยู่เป็นนาน ตามเหตุการณ์ที่ผลักดันหม่อมฉันไป ๏ เหมือนฤดีมีหวังตั้งแต่ต้น ร้อนชีวินดิ้นรนไปจนได้ หิมพานต์นั้นแสนหวั่นกาลก่อนไร กลับมีใจมุ่งมั่นออกสัญจร ๏ เมื่อพบนางครานั้นฉันรู้แน่ เป็นคู่แท้พระบุตรามาแต่ก่อน ถ้ามิใช่จับมาไม่ได้แน่นอน นึกถึงตอนฤๅษีที่ป้องกัน ๏ คำที่บอกนอกจากบ่วงนาคบาศ มิสามามารถจับแน่มิแปรผัน บังเอิญการณ์มินานมาก่อนหน้านั้น กระหม่อมฉันช่วยชีวิต “จิตชมพู” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 ธันวาคม, 2560, 09:18:24 AM ๏ จึงสามารถยืมนาคบาศได้ เป็นความนัยอันนักพรตคงอดสู ด้วยหวังดีที่พูดไปโดยไม่รู้ บารมีท่านเองผู้นำนางมา” ๏ พระสุธนยินวาทีมีคำถาม “น้องนงรามลูกเต้าใครจากไหนหนา แลนามนั้นฉันใดเล่ากานดา เผยวาจาให้แจ้งกระจ่างใจ” ๏ เมื่อยินคำบัญชาโนราห์น้อง จำเป็นต้องเงยหน้าหาช้าไม่ อัญชลีแล้วหมอบราบกราบทูลไป “หม่อมฉันไซร้มีนามมโนราห์ ๏ เป็นธิดาราชาปทุมราช จากนครไกรลาสพระเจ้าข้า” พระสุธนยลพักตร์ลักขณา เสน่หาซ่านซึ้งตรึงฤดี ๏ จึงตรัสสั่งนางทาสีสาวพี่เลี้ยง “นำเสลี่ยงรับนางไปให้ถึงที่ พักผ่อนกายในวังรมณีย์” มิรอรีพี่เลี้ยงรับโดยฉับพลัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 ธันวาคม, 2560, 11:09:56 AM ๏ “เชิญสรงสระนทีมีประทิ่น สิ่งทั้งสิ้นทุกประเภทพิเศษสรร ภักษ์ โอสถ เครื่องทรง เสาวคันธ์ กระแจะจันท์ให้พร้อมสรรพนับคณา” ๏ นางในเชิญมโนราห์ลับตาพ้น พระสุธนขอบใจพรานนั้นนักหนา สั่งขุนคลังกลับวังในอย่าได้ช้า จัดเงินตราเป็นรางวัลพรานทันใด ๏ “เพชรนิลให้ก่ายกองทองพันชั่ง จนสมตั้งจิตมาจัดหาให้” หากแต่พรานค้านว่า “ค้างคาไว้ ต้องรีบไปคืนนาคบาศมิอาจรอ ๏ ค่อยมารับรางวัลอันมีค่า สร้างเคหาฐานะจะกอปรก่อ การล่าสัตว์ตัดใจต่อไปพอ เลิกทำต่อแต่นี้มิมีแล้ว ๏ ขอทำบุญไถ่บาปอันหยาบช้า ที่ได้พรากมโนราห์พระนางแก้ว แม้เดินป่ามิราแน่แต่เปลี่ยนแนว จักแน่แน่วขอเพียงคุณสมุนไพร” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 ธันวาคม, 2560, 11:10:58 AM ๏ เมื่อจำนรรจ์กันเสร็จเสด็จต่อ รักที่ก่อมากฤทธิ์พิสมัย นึกถึงหน้าดวงตาเศร้าเหงาอาลัย ฝังฤทัยภาพโศภินกินรี ๏ ถึงเวียงวังกลางสวนขวัญพลันไปหา ปรารถนาปลอบประโลมแม่โฉมศรี พบเห็นนางมิสร่างโศกวิโยคฤดี พระจึงมีพจนาปลอบยาใจ ๏ “โทมนัสค่อยตัดใจไม่หน่วงหนัก ขอจงพักผ่อนกายให้สดใส ห่วงบิดรมารดาพรากมาไกล กาลต่อไปต้องได้พบประสบกัน ๏ รู้ความรักญาติกาจำลาจาก ย่อมทุกข์มากยิ่งนักหนักมหันต์ ขอเอารักจากอกพี่เทียมชีวัน มากำนัลทั้งหมดเพื่อทดแทน ๏ ต้องเป็นโชคชะตาฟ้าลิขิต สองชีวิตเราเกิดกายอยู่ไกลแสน บุญนำพาน้องมาถิ่นถึงดินแดน เชื่อมั่นแม่นเราคู่กันแต่บรรพกาล” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 ธันวาคม, 2560, 11:13:59 AM ๏ มโนราห์ฟังปรารภนั่งซบหน้า ชลนารินลงน่าสงสาร ส่งผ้าซับชลนัยน์ให้ดวงมาน มิกล้าจักหักหาญจำรับไว้ ๏ พระมองเห็นหัตถาทั้งขวาซ้าย เป็นแผลลายด้วยรอยหนามผิวช้ำไหม้ หยิบโอสถจะทาให้ยาใจ นางหลีกเลี่ยงเบี่ยงกายไปตกใจกลัว ๏ พระสุธนย้ำว่า “อย่าหน่ายหนี เพราะไม่มีพี่เลี้ยงแล้วทูนหัว พี่ขออยู่ดูแลน้องมิหมองมัว” เสียงระรัวมโนราห์ว่า “อย่าเลย ๏ น้องดูแลตนเองได้มิใช่เด็ก ตัวเล็กเล็กที่ไหน” ฝืนใจเอ่ย พระสุธนมิยั้งฟังคำเปรย ชิดทรามเชยกุมประคองทั้งสองกร ๏ มโนราห์ทรวงสั่นสะท้านสะเทิ้น สุดขัดเขินมิต้องกายชายมาก่อน ร้องห้ามไว้ไม่สมหวังฟังคำวอน จำโอนอ่อนนั่งขดระทดระทวย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 ธันวาคม, 2560, 11:12:54 AM ๏ ทรงชโลมโอสถหมดทุกที่ ลูบกายีกรซ้ายขวาบาทาด้วย มโนราห์อนงค์ยังงงงวย ยอมให้ช่วยพึ่งพาพยาบาล ๏ ตั้งแต่วันนั้นมาหาขาดไม่ พระเอาใจยิ่งนักรัก สงสาร มโนราห์คลายขมขื่นชื่นดวงมาน เมื่ออาการเจ็บไข้กลับหายดี ๏ หลายวาระพระสุธนรักล้นอก แต่วิตกอยู่ภายในใจเต้นถี่ ด้วยมิเคยเลยก่อนมาเรื่องนารี การพลอดรักสัตรีมีฉันใด ๏ พระกุมกรเหมือนก่อนมาทาโอสถ เหลือจะอดหักจิตพิสมัย จึงจุมพิตหัตถ์งามเจ้าทรามวัย เผยความนัยขอความรักมโนราห์ ๏ มโนราห์บ่ายเบี่ยงเลี่ยงกายหนี แล้วอ้อนวอนวจีว่า “พี่จ๋า มองน้องเป็นเชลยไพร่หรือไรนา เห็นกำพร้าจึงลวนลามตามอารมณ์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 ธันวาคม, 2560, 11:14:09 AM ๏ คนวนาจากป่าชัฏพลัดเคหา คงจำนงลงอาญาจนสาสม” “ที่พี่ทำด้วยความรักอยากชื่นชม มิหมายข่มเหงกันทั้งใจกาย” ๏ ทรงกอดก่ายกายชิดสนิทแน่น โนราห์แสนอกสั่นพระขวัญหาย ยังวอนว่า “ พระองค์คงเป็นนาย น้องพรานป่ามาถวายเป็นทาสพระองค์ ๏ มิควรคู่ผู้เป็นพระราชบุตร เสมือนฉุดรั้งศักดิ์ศรีมิเสริมส่ง ยากยิ่งนักรักครองคู่อยู่ดำรง” พระจุมพิตสนิทอนงค์พร้อมพลอดพลาง ๏ “พี่มิเคยรักใครในโลกนี้ เป็นสัจจังดังวจีที่เอ่ยอ้าง พี่สวาทปรารถนาพระน้องนาง มิมีใครไหนขัดขวางวางกังวล” ๏ “น้องเสมือนลูกไก่ในกำมือ พี่ปล่อยไปได้ชื่อสร้างกุศล” มิยับยั้งฟังวาจานฤมล สวาทล้นอุระแล้วแม่แก้วตา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 ธันวาคม, 2560, 11:15:14 AM ๏ เฝ้าชมชิดพิสมัยไม่เหหัน ทรวงสนิทติดพันไซ้นาสา พระโอษฐ์แอบแนบพร้อมหอมพักตรา หัตถ์เคล้าคลึงปทุมาเป็นช้านาน ๏ การโลกีย์มีกฎรสสวาท มนุษยชาติทั่วถึงย่อมซึ้งซ่าน สุขกระสันปานท่องแมนแดนพิมาน สวาทหวานประหวัดอัศจรรย์ ๏ จนอนงค์ปลงจิตสนิทมนัส ปฏิพัทธ์เริงรุดสุดสวรรค์ สองเปรมปรีดิ์ราตรีกาลทั้งวารวัน เคล้าคลอกันไม่ลาละประเวณี ๏ ครองเกษมสุขมาคราครบมาส เรียกอำมาตย์เจ้าตำแหน่งแต่งสวนศรี ขึ้นมาเฝ้าเล่าความตามคดี แล้วจึงมีพระบัญชาให้คลาไคล ๏ “ช่วยกราบทูลพระบิดาพระมารดร ฝากคำวอนชี้แจงแถลงไข เผยเค้าความตามที่ผ่านแต่พรานไพร ทูลถวายยอดดวงใจมโนราห์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 28 ธันวาคม, 2560, 10:03:18 AM ๏ เราแสนรักสลักทรวงดั่งดวงจิต ยอดปิยะสนิทเสน่หา บัดนี้ไซร้ได้เนื้อเย็นเป็นชายา จึงขอพระเมตตาองค์ราชัน ๏ อยากจะนำพระนางเข้าวังราช ภูวนาถเต็มพระทัยไฉนนั่น เกรงอาญาถ้าพานางเข้าวังพลัน ขอฝากคำจำนรรจ์ไปวันทา” ๏ อำมาตย์พลันรับบัญชาทำหน้าที่ จรลีนำสารไปปรึกษา ท้าวอาทิตยวงศ์องค์ราชา แห่งอุดรปัญจาล์เหมือนดั่งจินต์ ๏ เมื่อขึ้นเฝ้าท้าวไทได้ทูลสาร บริบูรณ์แต่มูลการณ์เล่าขานสิ้น จนเมื่อเล่าจบลงองค์ภูมินทร์ สืบระบิลไถ่ถามตามสงกา ๏ “นางมาจากแห่งหนตำบลไหน เป็นลูกเต้าเหล่าใครใกล้ไกลหนา ทั้งรูปโฉมโนมพรรณนั้นเล่านา พิศโสภาหรือกรำกร้านประการใด” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 28 ธันวาคม, 2560, 10:04:15 AM ๏ อำมาตย์ทูลพระองค์ว่า “นงนาฏ จากไกรลาสนคราโพ้นป่าใหญ่ ธิดาพระปทุมราชาชัย กับคู่พิสมัย จันท์กินรี ๏ เอกอนงค์วงพักตร์ลักขณา ทรงโสภาผิวพรรณวรรณฉวี หานางใดเปรียบมิได้ในโลกนี้ เลิศสกุลกุลสตรีที่จริงแท้” ๏ อาทิตย์วงศ์ทรงฟังนั่งพินิจ คงเป็นคู่เคยอยู่ชิดสนิทแน่ เกิดกันคนละฟากฟ้าลับตาแล โอ้ขวัญแม่ยังมาพบหน้ากัน ๏ คิดดังนั้นพลันพระองค์จึงปลงจิต ขอมิ่งมิตรมาอยู่เป็นคู่ขวัญ ราชบุตรสุดใฝ่หามานานวัน จงครองคู่อยู่สุขสันต์นิรันดร ๏ ครานั้นพระชนกพระชนนี ทรงยินดีรักผูกพันแม่ขวัญอ่อน เตรียมจัดขบวนรับกลับนคร เกียรติขจรฟูเฟื่องเลื่องลือชา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 28 ธันวาคม, 2560, 10:05:05 AM ๏ เสริมโกสุมปทุมมาศทุกราชรถ อย่างสวยสดรวยรินกลิ่นบุปผา มโหรีปี่กลองก้องมรรคา จนถึงหน้าสวนขวัญอันพิไล ๏ พระสุธนยินดีเป็นที่ยิ่ง เชิญชวนมิ่งขวัญมิตรพิสมัย เฝ้ากราบพระบิดาราชาชัย ดวงฤทัยล้วนเริงรื่นและตื้นตัน ๏ ทรงเพ่งพิศศรีสะใภ้ผูกใจรัก เฉิดโฉมจริงยิ่งนักเจ้าจอมขวัญ ชวนปลื้มในกิริยาวิลาวัณย์ สวาทมั่นขึ้นมานักหนาแล้ว ๏ พระมารดาเรียกหาว่า “ลูกเอ๋ย งามจริงเอยต้องอย่างพระนางแก้ว ศุภลักษณ์เลอเลิศโฉมเพริศแพร้ว แม้มีแววเศร้าอาลัยกลางนัยนา” ๏ ท้าวอาทิตยวงศ์ทรงโปรดให้ พระสุธนนำดวงใจสุณิสา ขึ้นประทับราชรถคืนพารา ดวงฤดีปรีดากว่าใครใคร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 ธันวาคม, 2560, 10:18:34 AM ๏ ถึงเวลาวาระอุปภิเษก ทุกเมืองเอกรับบรรหารร่วมงานใหญ่ ครบร้อยเอ็ดนคราอาณาไท้ มาร่วมงานฉลองในวาระนั้น ๏ ตบแต่งวังสะพรั่งงามอร่ามสี หลากมาลีมากฝีมือสุดลือสรร มหาพราหมณ์ตามพิธีมีครบครัน เจ็ดคืนวันสมโภชใหญ่ในเวียงวัง ๏ ประชาชนได้ชมมหรสพ ทุกสาขามาครบตามรับสั่ง บรรเลงเพลงกล่อมหอห้องกึกก้องดัง ประดุจหวังให้ลือเลื่องถึงเมืองแมน ๏ ทรงเกษมซ่านซึ้งถึงวงศา ชาวประชายินดีมีสุขแสน ชื่นชมมโนราห์ทั่วดินแดน เป็นหัวแก้วหัวแหวนแห่งกรุงไกร ๏ ในครานั้นพรานบุญผู้หนุนชัก เป็นสื่อรักมิ่งมิตรมาชิดใกล้ เข้าเฝ้าทูลถวายพระพรชัย แล้วจึงได้รับรางวัลอันโอฬาร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 ธันวาคม, 2560, 10:19:39 AM ๏ แล้วขอเฝ้าพระมารดาในครานั้น สิ่งสำคัญฝากไว้ให้คำขาน ต้องการจะอภิปรายหลายประการ พระนางมีบรรหารตามใจจง ๏ “การขึ้นเฝ้าพระมารดามีสาระ ขอเปิดเผยนัยยะอันประสงค์ ดังจะเล่าเค้าความไปตามตรง ที่จำนงมีเหตุเจตนา ๏ ปีกและหางมโนราห์นำมานี้ พระชนนีโปรดด้วยช่วยรักษา มิมอบให้พระสุธน มโนราห์ ฟังวาจาเหตุผลมีจักชี้แจง ๏ หากมอบน้องมโนราห์รักษาไว้ ถ้าวันใดพระองค์ทรงกันแสง รำลึกเมืองพระมารดาขึ้นมาแรง หวาดระแวงจะโผผินคืนถิ่นเดิม ๏ แม้นมอบพระสุธนกังวลว่า นางคงอ้อนวอนให้หามาส่งเสริม หรือเกิดน้อยพระทัยใดมาเติม ก็จักเพิ่มโอกาสนิราศวัง” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 ธันวาคม, 2560, 10:20:25 AM ๏ นางจันทราเทวีฟังที่กล่าว สิ้นเรื่องราวพระองค์ทรงรับสั่ง ชมพรานไพรนัยความคิดมิผิดพลั้ง รอบคอบดังมหาเสนาบดี ๏ อยากประทานรางวัลอันมีค่า พรานบุญว่า “มากล้นพ้นเหลือที่ ขอพระองค์จงรักษาดังว่านี้” อัญชลีพระมารดาลาครรไล ๏ ตามครรลองผองชนบนโลกหล้า ปรารถนาสินทรัพย์เกินนับได้ ธรรมดาคงหายากว่ามากไป เช่นพรานไพรเป็นผู้ที่รู้พอ ๏ บางคนบุญ ทุนทรัพย์น้อยค่อยสะสม ได้ชื่นชมเมื่อปลายชนม์ผลที่ก่อ สู้ขยันหมั่นเพียรไปใจมิท้อ ควรเยินยอเป็นแบบอย่างวางชีวี ๏ บางเศรษฐีมีทรัพย์ล้นพ้นเหลือหลาย มิใช้จ่ายทำตนคนตระหนี่ ยิ่งมีมากยิ่งโลภมากยิ่งอยากมี หมายเป็นผียังนำพาหาทิ้งไว้ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 ธันวาคม, 2560, 06:15:24 AM ๏ ตั้งแต่นั้นมโนราห์หรรษาล้น เคียงครองคู่พระสุธนชนม์สดใส สองสนิทพิศวาสมิคลาดไกล ปานอยู่ในสรวงสวรรค์ทุกวันวาร ๏ ความรักรื่นชื่นชมเมื่อสมรัก สุขยิ่งนักเหนือกำหนดแห่งรสหวาน ถึงเมืองแมนแสนไกลใดมิปาน เริงสราญโลกพิไลใสเรืองรอง ๏ พระมารดาปรานีมโนราห์ ยิ่งนักหนาปลอบโยนให้คลายหม่นหมอง ทดแทนรักที่พรากไกลใฝ่เหลียวมอง คอยปกป้องด้วยฤดีมีเมตตา ๏ มโนราห์รับปรานีที่ท่านมอบ สนองตอบด้วยรักยิ่งนักหนา พอทดแทนอกแสนช้ำลูกกำพร้า วางชีวาในวังอย่างเจียมตน ๏ ธรรมดานารีเมื่อมีคู่ รักอุ้มชูเคียงครองคลายหมองหม่น มิคิดไกลใจกายตราบวายชนม์ พร้อมเสพสุขและทุกข์ทนมอบดวงมาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 ธันวาคม, 2560, 06:16:15 AM ๏ จักกล่าวมาถึงมหาปุโรหิต ท้าวอาทิตยวงศ์ทรงสมาน ไว้พระทัยในธุระราชการ ยิ่งเนิ่นนานอำนาจนับอนันต์ ๏ ผิว์เป็นผู้รู้พอก็หาไม่ ยังมักใหญ่ในจิตคิดกระสัน ถึงบังอาจปรารถนาเป็นราชัน ใฝ่เกินฝันแผนการนั้นมากมี ๏ ยึดตำแหน่งโหรามาควบไว้ โดยใส่ไคล้ว่าแก่เกินเมินศักดิ์ศรี หมั่นทูลต่อราชาว่าข้าฯนี้ เป็นผู้มีครูเด่นเช่นโหรา ๏ คอยหว่านล้อมพระองค์จนปลงจิต พลอยเห็นผิดมิคำนึงเรื่องหึงสา จึงได้ควบตำแหน่งมั่นแต่นั้นมา อนิจจาพระเหนือเกล้ามิแจ้งใจ ๏ ยังมอบหมายภาระราชกิจ ยิ่งใกล้ชิดยิ่งเห็นทางสร้างเงื่อนไข “หอกข้างแคร่” แก่บัลลังก์อยู่วังใน คิดแผนการอันไกลจนเกินกาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 ธันวาคม, 2560, 06:16:57 AM ๏ ฝากบุตรเข้าในวังหวังอำนาจ ถึงมหาอำมาตย์เหมือนใจหมาย เริ่มตั้งหลักผลักดันให้บุตรชาย ผู้ถวายงานธุระพระสุธน ๏ เป็นคู่ซ้อมสกาเวลาว่าง วันหนึ่งคุยกันพลางคำมีผล เผยความว่าปรารถนาแห่งใจตน หากกุศลมีหมายอยากได้มา ๏ ตำแหน่งอันเอกอุปุโรหิต เป็นเป้าหมายในชีวิตอันสูงค่า เดินตามรอยครรลองของบิดา ขอพระสุธนราชาล่วงหน้าไว้ ๏ พระสุธนเออออพอพ้นผ่าน มิได้เป็นทางการคำขานไข แต่หลังจากที่กาลผ่านพ้นไป ความนั้นได้ซุบซิบกันลั่นเวียงวัง ๏ ปุโรหิตอวิชชาพาโลแสน ยิ่งคิดแค้นมิตามผลที่ตนหวัง กลับเป็นข้อต่อเติมเพิ่มชิงชัง ความอหังการ์ตนล้นเกินการ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 มกราคม, 2561, 12:51:22 PM ๏ เมื่อเข้าเฝ้าปทุมราชโอกาสให้ มักใส่ไคล้พระสุธนมิพ้นผ่าน ว่าอาจแย่งบัลลังก์ในมินาน ตามสันดานของจิตที่คิดคด ๏ ราชานิ่งเฉยไว้ไม่ปักจิต ทรงคาดเดาเข้าใจผิดมิคิดปด มิสงสัยนัยข้อทรยศ และทั้งหมดล้วนหมายให้ลูกยา ๏ อกระอุปุโรหิตยิ่งคิดแค้น ถ้าหากแม้นสบโอกาสดังปรารถนา จักกำจัดพระสุธน มโนราห์ ด้วยดวงจิตริษยาใจอาธรรม์ ๏ วันหนึ่งทัพอสุราลือชาฤทธิ์ มาประชิดชายแดนแคว้นเขตขัณฑ์ ที่ประชุมอำมาตย์โอกาสนั้น หารือกันถึงจอมทัพรับศึกเมือง ๏ ปุโรหิตคิดหมายให้พระสุธน ออกไปพ้นจากวังกระด้างกระเดื่อง เสนอไท้ให้บุตราปัญญาเรือง แสดงฝีมือลือเลื่องเปรื่องเดชา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 มกราคม, 2561, 12:52:26 PM ๏ หมู่เสนาอำมาตย์มิอาจขัด ทูลราชาอนุมัติจอมทัพหน้า วันที่พระสุธนเฝ้าทูลลา ขอฝากฝังมโนราห์ยอดยาใจ ๏ องค์อาทิตยวงศ์ทรงกล่าวว่า “สุณิสาคือดวงจิตพิสมัย ของพ่อนี้เช่นกันอย่าหวั่นใด วางฤทัยเถิดหนาอย่ากังวล” ๏ กลับคืนสู่ห้องหอพะนอนุช แสนห่วงสุดเสน่หามาหมองหม่น ค่อยค่อยกล่าวเล่าความตามยุบล “มีอมิตรคิดประจญเมืองปัญจาล์ ๏ พี่เป็นราชบุตรเรียนยุทธ์จบ ตามขนบรบศัตรูคือผู้กล้า มิอยากเห็นเป็นภาระพระบิดา ขอน้องยาเข้าใจนัยคดี” ๏ “พี่อย่าห้ามน้องขอตามเสด็จด้วย เหนืออื่นใดเอาใจช่วยเสด็จพี่ ขอเป็นคนปรนนิบัติคอยพัดวี โปรดปรานีน้องผู้พรากจากเมืองมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 มกราคม, 2561, 12:53:23 PM ๏ มีเพียงภัสดาพระองค์เดียว ที่โน้มเหนี่ยวฤทัยให้หรรษา ทุกภาวะระแวงภัยเมื่อไกลตา” ยอดชายาฝากคำพร่ำงอนง้อ ๏ “พระบิดรมารดาปรานีนัก แลแสนรักคนดีพี่จะขอ นำน้องฝากพระมารดาอย่าทดท้อ มินานพอศึกเสร็จสรรพรีบกลับวัง ๏ ถ้าพาน้องไปได้ไฉนพี่ ทิ้งคนดีอ้างว้างอยู่ข้างหลัง ศึกเสี่ยงภัยต้องใจนิ่งเป็นจริงจัง หากพะวงภวังค์อาจพลั้งแพ้ ๏ และการที่จอมทัพออกรับศึก มิใครนึกนำชายาออกหน้าแน่ จักอับอายให้วิพากย์กันมากแท้ ขอให้แม่มิ่งมิตรจงคิดตรอง” ๏ มโนราห์อารีมิดื้อรั้น ยอมสละอภิวันท์สรรพ์สนอง พระสุธนนำนางขึ้นวังทอง ฝากนวลน้องไว้กับท่านพระมารดา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 มกราคม, 2561, 09:24:27 AM ๏ “ลูกวันทาลาไกลในครานี้ ห่วงมากมีกังวลนักเป็นหนักหนา หนึ่งนั้นคือนวลน้องมโนราห์ เหมือนเธอขาดญาติกามาอยู่ไกล ๏ ดูผิวเผินเกินหยั่งรู้ศัตรูมิตร ใครจักคิดเอ็นดูผู้อาศัย มองเห็นแต่พระแม่เจ้ากับท้าวไท ที่มอบรักฝากใจได้แท้จริง” ๏ พระมารดรย้อนคำย้ำความว่า “แม่เข้าใจในวาจาเจ้าทุกสิ่ง รักจากลาย่อมอาลัยไม่ท้วงติง แต่สำคัญเป็นอันยิ่งการสงคราม ๏ จักต้องมีจิตมั่นห้าวหาญนัก ขอจงหักความห่วงหามารดาห้าม น้องจักไม่มีภัยใดก็ตาม เชื่อเถิดความรักแม่นั้นปานแก้วตา” ๏ พระโลมลูบจูบลาโนราห์น้อง ชลนัยน์ไหลนองอาบใบหน้า ก้มลงกราบพระบาทภัสดา “พี่รีบไปรีบมาหนาน้องรอ” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 มกราคม, 2561, 09:25:30 AM ๏ มารดาห้าม “อย่าร่ำร้องเป็นลางร้าย” ภูษาซับปรางขวาซ้ายกอดพระศอ “จงไปดีมีชัยไม่ทดท้อ แม่นี้ขอดูแลน้องมิหมองมัว” ๏ พระสุธนหักหม่นใจไปทัพหน้า เมื่อสุดคำร่ำลาแม่ทูนหัว หน้าที่ชาติกับหัวใจไม่พันพัว สละสุขส่วนตัวเพื่อปวงชน ๏ เสด็จตรวจกองทัพนับพลรบ ศาสตราครบจึงพระองค์ทรงม้าต้น อีกหนึ่งร้อยไอยรามารวมพล พร้อมบัดดลรัวกลองชัยมุ่งไปพลัน ๏ แลอาทิตย์ราชามาคืนหนึ่ง บรรทมกึ่งราตรีนิมิตฝัน เป็นที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ พระอันตะไส้ใหญ่นั้นไหลทะลัก ๏ พุ่งออกจากพระอุทรร่อนเวหน สามรอบวนจักรวาลอาการหนัก ตื่นบรรทมทันใดวุ่นใจนัก จึงหวังจักฟังคำโหรทำนาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 04 มกราคม, 2561, 09:26:50 AM ๏ ปุโรหิตคิดการอันโหดเหี้ยม โดยตระเตรียมแผนงานอันหลากหลาย ทั้งจูงจิตราชันนั้นงมงาย ทูลถวายความใดได้ดั่งจินต์ ๏ และป้องกันมิให้ใครขัดขวาง บนหนทางที่ตั้งหวังถวิล จึงรับคำทำพิธีพลีมลทิน สะเดาะเคราะห์ธานินทร์ตามบัญชา ๏ “โรงพิธีที่จัดตั้งหลังวังราช ให้เสนาอำมาตย์ล้อมแน่นหนา ห้ามผู้อื่นเข้าไปในชายคา พระองค์ต้องเอกาอยู่แดเดียว ๏ โดยจำศีลภาวนาเจ็ดราตรี การพิธีอย่ามีใครไปข้องเกี่ยว คนรุกล้ำปะรำไม่ได้แท้เทียว แม้เฉียดเฉี่ยวพิธีขลังพังลงพลัน ๏ สิ่งของบูชายัญนั้นมากนัก ส่วนหนึ่งจักหาได้จากไพรสัณฑ์ สัตว์นานารวมห้าร้อยชีวัน ชีวิตคนก็เท่ากันทำการพลี” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 มกราคม, 2561, 09:01:36 AM ๏“ข้าจักสั่งพรานไพรให้ถ้วนหน้า เร่งรีบจับสัตว์ป่าส่งกรุงศรี คนนั้นใช้ผู้ชั่วช้าประดามี คัดจากที่จองจำเป็นสำคัญ” ๏ “อีกชีวันนั้นเน้นจำเป็นนัก ต้องทรงหักฤทัยห้ามไหวหวั่น อีกเอกอุชีวาที่ว่านั้น จักต้องบั่นชีวินแห่งกินนร” ๏ ราชันฟังนั่งอึ้งตะลึงหลง “อันเจาะจงต้องข้ามเขินเนินสิงขร ไปจับเหล่ากินราวิชาธร โดยรีบร้อนคงอับจนหมดหนทาง” ๏ ในครานั้นปุโรหิตเข้าชิดใกล้ ชี้แนะให้ราชันนั้นใจกว้าง “อยู่ในวังนี้แน่แท้หนึ่งนาง เชื้อชาติอย่างเดียวกันนะมโนราห์” ๏ ราชันฟังดังนั้นว่า “หาได้ไม่ เธอคือยอดดวงใจของบุตรข้า เป็นดวงเนตรและวิญญาณพระมารดา ห้ามเกี่ยวข้องสุณิสาแห่งข้านะ” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 มกราคม, 2561, 09:02:35 AM ๏ ปุโรหิตคิดคำขานมาหว่านล้อม จักน้าวน้อมให้ละเหี่ยเสียสละ กล่าวความต่อ “ข้อนี้หรือคือภาระ ที่ราชะจักต้องป้องปวงชน ๏ หาไม่แล้วมิแคล้วตายมลายหมด การณ์กำหนดให้น้องนางสร้างกุศล แม้นปล่อยกาลผ่านไปก็ไม่พ้น ยังทำให้ทุกคนต้องมรณา ๏ พระสุธนยังหนุ่มแน่นแสนองอาจ ต้องสามารถหาใหม่ได้ในภายหน้า ในตอนนี้พระองค์ต้องป้องพารา มิอาจผันบัญชาเป็นอื่นใด” ๏ ราชันอึ้งตะลึงงันตันคำแย้ง จักสำแดงคัดค้านทางด้านไหน ปุโรหิตถือนริศคิดปลงใจ กราบลาไปออกคำสั่งดังต้องการ ๏ ขึ้นทูลความพระมารดา “ราชาสั่ง ห้ามผู้ใดใครยับยั้ง ฟังบรรหาร ด้วยธานีมีเคราะห์ร้ายมลายลาญ ต้องเตรียมงานพลีชีวาบูชายัญ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 มกราคม, 2561, 09:03:21 AM ๏ คนและสัตว์ตัดศีรษะละห้าร้อย อีกหนึ่งนั้นเพียงน้อยต้องอาสัญ กินนรวงศ์องค์ใดหาไม่ทัน เมื่อคับขันต้องเป็นนางมโนราห์ ๏ อีกเจ็ดวันนั้นเอาเข้าพิธี กินรีบูชายัญด้านวังหน้า” ก่อนกลับหลังสั่งเตรียมพร้อมล้อมอาณา เริ่มตั้งศาลเพียงตาฝ่ายกาลี ๏ พระมารดรร้อนอุราผวาจิต วิปริตอันใดไฉนนี่ หรือภูตพรายฝ่ายดำงำธานี สิงฤดีกษัตริย์วิปลาสไป ๏ มโนราห์มาขวัญหายมลายสิ้น องค์ภูมินทร์คิดร้ายได้ไฉน “โอ้องค์พี่พระสุธนอยู่หนใด มิช่วยน้องต้องบรรลัยในครานี้ ๏ ก่อนจะจากฝากฝังอย่างแน่นหนัก สละรักหักใจลาทำหน้าที่ รู้ห่วงน้องหมองใจไม่อยากลี้ เหมือนดั่งมีลางสังหรณ์ก่อนจากลา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 มกราคม, 2561, 09:56:21 AM ๏ พระมารดรวอนว่า “อย่าตระหนก แม่จะปกป้องลูกสุณิสา แสนรักหวงประหนึ่งดวงนัยนา ใครจะมาทำร้ายมิได้แท้ ๏ ลูกอยู่ยั้งในวังบรรทมที่ ลั่นดาลไว้ให้ดีนอกจากแม่ อย่าเปิดรับกับใครไร้ข้อแม้ ต้องรีบแก้รอราช้าไม่ทัน ๏ แม่จะเข้าเฝ้าองค์พระทรงฤทธิ์ กราบทูลว่าอย่าหลงผิดพลาดมหันต์ ต้องแก้ไขเป็นอะไรให้เป็นกัน” พระมารดาว่ากระนั้นผันผายจร ๏ ออกมุ่งหน้าไปหาอาทิตย์ราช หมู่อำมาตย์ทูลมารดาว่า “ช้าก่อน องค์ราชันท่านไปท้ายนคร” พระมารดรบ่ายหน้าจะคลาไคล ๏ อำมาตย์ทูลพระมารดาว่า “บัดนี้ ทรงสะเดาะเคราะห์พิธีเข้ามิได้ พระบรรหารนั้นเน้นมิเว้นใคร เสนาในล้อมไว้หลายสิบชั้น หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 มกราคม, 2561, 09:57:10 AM ๏ ต้องชะลอการเฝ้าดังกล่าวขาน จนกว่าผ่านเจ็ดราตรีที่กวดขัน” พระมารดา “รอช้าไม่ได้อย่างนั้น ใครหรือกล้ามาขวางกั้นราชินี” ๏ อำมาตย์น้อม“หม่อมฉันทำตามรับสั่ง ต้องยับยั้งคุมเข้มอย่างเต็มที่ สละให้ได้แท้แม้ชีวี ขอพระองค์ทรงปรานีไว้ชีวัน ๏ ด้วยหากการพิธีนี้พังสิ้น ชาวพาราทั่วธานินทร์จักอาสัญ ปุโรหิตทำนายไว้สำคัญ พระมารดาและราชันก็อันตราย” ๏ พระมารดรมิผ่อนตามคำค้านว่า ขอมุ่งหน้าไปหลังวังดังมั่นหมาย โรงพิธีมีทหารนับพันนาย ล้อมศาลาเรียงรายกายติดกัน ๏ พระองค์อ้อนวอนเสนาหาฟังไม่ นิ่งมิไหวเขยื้อนเหมือนปูนปั้น พระมารดาจนปัญญาจะผลักดัน ร้องครวญคร่ำรำพันถึงมโนราห์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 มกราคม, 2561, 09:57:55 AM ๏ “แม่รักลูกผูกพันปานชีวาตม์ ยังมิอาจช่วยลูกสุณิสา ช่างกระไรหนอใจพระราชา สิ้นเมตตาแล้วยังจะมล้างชนม์” ๏ จำย้อนคืนกลับหลังยังวังหลวง การทั้งปวงที่หมายมิได้ผล “ฤๅมโนราห์เจ้าเข้าตาจน จะถูกคนใจร้ายเชือดเลือดไหลนอง ๏ เวรกรรมมากพรากเมืองมาน่าอนาถ ยอมร้างญาติร่วมสมสู่เป็นคู่สอง ลูกสุธนรักใคร่ได้เคียงครอง มิอาจป้องเมียรักจากไพรี ๏ มนุษย์หนอยอว่าสัตว์สุดประเสริฐ แล้วไฉนหมายละเมิดซึ่งศักดิ์ศรี เห็นแก่ตนหลงมนต์มารกาฬกาลี สร้างราคีเลวร้ายให้นริศ ๏ ร้ายดีใดใช่จากเคราะห์เพราะด้วยเหตุ เรื่องทุเรศงมงายเข้าใจผิด ล้วนแต่เกิดจากกรรมนำชีวิต คนสิ้นคิดหมายดับสรรพชีวา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 มกราคม, 2561, 09:19:36 AM ๏ มาถึงห้องบรรทมในหทัยห่อ คิดแก้ไขฉันใดต่อดีเล่าหนา เคาะทวารเรียกขานมโนราห์ เมื่อพบหน้าพระแม่กอดพลอดรำพัน ๏ “เขาล้อมองค์ราชาแน่นหนานัก แม่มิได้พบพักตร์ดังหมายมั่น จักคิดอ่านฉันใดต่อไปกัน ช่วยแม่นั้นแก้เหตุการณ์อันเลวร้าย” ๏ มโนราห์มาโศกเศร้าเกินกล่าวขาน เรื่องขัดราชโองการนั้นอย่าหมาย หากได้พบภัสดาเพื่อลาตาย มิเสียดายชีวาลับลาไป ๏ พระมารดา มโนราห์โศกาหนัก ยิ่งแสนรักยิ่งโศกวิโยคใหญ่ เจ็บยิ่งยวดปวดร้าวเศร้าฤทัย เกินจักคิดแก้ไขไม่สมประดี ๏ ครานั้นปุโรหิตประดิษฐ์ศาล จะทำการบูชายัญบั่นเกศี จัดเตรียมการอันใดใช้ในพิธี หกราตรีจึงพร้อมพรั่งสมดังใจ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 มกราคม, 2561, 09:20:20 AM ๏ วันที่เจ็ดตอนบ่ายในวันนี้ บูชายัญการพลีที่ยิ่งใหญ่ ทหารต่างเตรียมการทุกด้านไว้ คุมแข็งขันกันมิให้ใครคัดค้าน ๏ พระมารดา มโนราห์ในครานั้น แสนโศกศัลย์ถึงวาระวันประหาร มโนราห์ว่า “ลูกนี้พลีลมปราณ หากเป็นการป้องชีวิตพระบิดร ๏ พระมาดาแลวงศาคณาญาติ ประชาชาติไอศูรย์อดิศร แต่เสียใจไม่ได้ลาพระภูธร แลยอกรกราบบาทภัสดา ๏ พระองค์ไปสู้สงครามลามประชิด เมื่อทำกิจเสร็จสรรพกลับมาหา รู้ว่าน้องต้องดับดิ้นสิ้นชีวา พี่คงสุดโศกาเศร้าอาลัย ๏ ขอฝากคำทั้งน้ำตาว่าลาแล้ว ลูกแน่แน่วดวงจิตพิสมัย แต่ชาตินี้มิกลายคืนเป็นอื่นไกล ขอมั่นภักดิ์ภูวไนยไปนิรันดร์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 มกราคม, 2561, 09:21:10 AM ๏ วาสนาน้องน้อยในชาตินี้ จำจากพี่ด้วยภัยใหญ่มหันต์ ขอพระองค์จงสุขศรีชื่นชีวัน ไว้ชาติหน้าค่อยพบกันมั่นมิคลาย” ๏ ยังคงไม่ถึงที่..สิ้นชีวิตชีวิต มโนราห์มาฉุกคิดมิทันสาย บอกกับพระมารดร“ก่อนจะตาย อยากขอรำถวายชุดกินรี ๏ พรานไพรเก็บปีกหางทั้งหลายไว้ อยู่ที่ไหนโปรดช่วยหามาเร็วรี่” พระมารดาฟังดังนั้นพลันยินดี “อยู่กับแม่แลปรานีให้ลูกยา ๏ ตอนนี้ขอสิ่งไหนแม่ให้หมด มิเอากฎใดมาผูกแล้วลูกจ๋า แม่มิดีหน้าที่ด้านพระมารดา มิอาจป้องภัยบีฑาดังวาที ๏ สิ่งอันใดให้ฤดีลูกมีสุข ถึงแม่ทุกข์อย่างไรไม่หลีกหนี ถ้าปล่อยให้เขาทำลายวายชีวี เป็นหมื่นปีบาปมิล้างจากกลางใจ” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 มกราคม, 2561, 07:30:55 AM ๏ รำพึงพลางย่างสู่ห้องบรรทมสถาน แล้วหยิบย่ามของพรานนั้นมาให้ “ปีกและหางเช่นนางหงส์จงพาไป เพื่อสวมใส่ดังถวิลจินตนา” ๏ มโนราห์ยินดีเป็นที่ยิ่ง นี่คือสิ่งสุดหมายมาดปรารถนา จึงสวมใส่แล้วร่ายรำตามลีลา เหมือนเช่นหน้าบัลลังก์พระบิดร ๏ และพระมารดาจันท์กินรี ราชินีไกรลาสเขตสิงขร พระแม่คิดท่ากรีดกรายคล้ายละคร เยื้องย่างฟ้อนร่วมหกพระพี่นาง ๏ ออกตั้งท่าร่ายรำตามแม่สอน ประนมกรยักย้ายส่ายปีกหาง จนยินเสียงอื้ออึงมาหน้าพระปรางค์ กู่ก้องพลาง “เร็วเถิดเปิดทวาร ๏ อย่าช้าจนพ้นฤกษ์ยามตามวางไว้ ถ้ากระชั้นนั้นจักใช้กำลังทหาร ร่วมฉุดชักหรือผลักดันที่ลั่นดาล กระทำการนี้ตามคำบัญชา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 มกราคม, 2561, 07:38:34 AM ๏ พระมารดา “มิเปิดให้ใครฆ่าลูก แม่ทำใดไม่ถูกแล้วลูกจ๋า มิช้านานเขาพังดาลทวารา ควักดวงตาดวงแดของแม่ไป” ๏ มโนราห์ยินท่านมารดาเอ่ย “โอ้แม่เอ๋ยลูกมิอยากพรากไปไหน เมื่อเหตุการณ์บีบคั้นถึงบรรลัย ก็จำเป็นจำใจจากไกลกัน ๏ ขอฝากคำย้ำความยามลูกนี้ จรลีจากไปไกลเขตขัณฑ์ ความจงรักภักดีมีนิรันดร์ จักคงมั่นมิลาละพระสุธน” ๏ เสียงเลื่อนลั่นการกระทุ้งทวารก้อง โนราห์น้องบินจรร่อนเวหน ลอดทางช่องพระแกลแก้อับจน ออกมาพ้นปราสาทราชวัง ๏ ยังบินวนบนอากาศมิอาจร้าง อกอ้างว้างอาลัยแทรกใจหวัง จักไปพบภัสดาละล้าละลัง สงครามยังมีภาวะอันตราย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 มกราคม, 2561, 07:39:44 AM ๏ อยากพบพี่ที่สุดรักต้องหักห้าม นึกถึงความถูกต้องมองความหมาย เจอกันใหม่ถ้าไม่ตรมจนล้มตาย ต้องไปหาพระฤๅสาย พระมารดร ๏ ท่านคือบุพการีที่นำหนุน อันทรงคุณความดีมีมาก่อน นานนับปีที่พระองค์ทรงทุกข์ร้อน ห่วงอาทรลูกถูกจับเข้าปัญจาล์ ๏ ครบสามรอบร่อนเวหนวนวังหลวง จึงตัดห่วงบินจรร่อนถลา ขึ้นกินลมเหินไปในเมฆา มุ่งไกรลาสนครามิช้าที ๏ ครั้นมาถึงซึ่งริมหิมพานต์ ร่อนลงแวะกราบกรานพระฤษี ตั้งใจจะแถลงแจ้งคดี เผื่อว่าพระสวามีจะผ่านมา ๏ ถึงอาศรมบังคมองค์ผู้ทรงพรต หลังประณตพระมุนีมีปุจฉา “โยมลูกเต้าเหล่าใครจากไหนนา ดูหน้าตาแต่งองค์ต่างวงศ์กัน” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 มกราคม, 2561, 10:37:02 AM ๏ “ตัวลูกนี้กินรีมโนราห์ จากไกรลาสบรรพตาเชิงสวรรค์ ครั้งมาลงสรงสระศรีมิไกลนั้น นาคบาศพรานมาพันผลักดันไป ๏ ถวายตนให้สุธนราชบุตร ทรงพิศุทธ์มอบรักจริงอันยิ่งใหญ่ ลูกได้เป็นชายาพระทรงชัย ครองรักในปัญจาล์มานับปี ๏ วันหนึ่งปัจจามิตรคิดประจญ พระสุธนป้องพาราทำหน้าที่ ออกทัพหน้าท้าชิงชัยกับไพรี แล้วเกิดมีเรื่องร้ายขึ้นในวัง ๏ พระบิดาน่ามีจิตคิดหนักหน่วง ด้วยความห่วงศึกที่รับเป็นทัพหลัง หากราชบุตรามาพลาดพลั้ง ต้องทรงตั้งทัพใหญ่ไปรอนราญ ๏ จนพระองค์ทรงนิมิตอันผิดแปลก ซึ่งแต่แรกก่อนไรไม่เคยผ่าน ว่าอันตะพระทรงฤทธิ์พิสดาร ทะลักไปในจักรวาลสามรอบวน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 มกราคม, 2561, 10:37:54 AM ๏ จึงให้หาปุโรหิตผู้คิดร้าย มาทำนายความฝันอันเป็นผล เกิดเตรียมการบูชายัญผลาญสัตว์ คน เป็นเบื้องต้นละห้าร้อยไม่น้อยเลย ๏ ยังหมายดึงหนึ่งชีวินกินรี สิ้นเมตตาปรานีโอ้อกเอ๋ย องค์ราชัยไม่คัดค้านการสังเวย และพระองค์มิทรงเผยพระวรกาย ๏ พระมารดาปรานีมิมีช่อง จะปกป้องลูกดังตั้งใจหมาย เขาอ้างราชโองการมั่นไม่คลาย ลูกมิถึงที่ตายด้วยมารดา ๏ พรานไพรฝากปีกหางแต่ครั้งก่อน ให้องค์พระมารดรทรงรักษา ท่านมอบให้สวมใส่พลันทันเวลา ภัยบีฑามาถึงจึงบินจร ๏ ขอฝากองค์ผู้ทรงศีลปิ่นกุศล ถ้าหากว่าพระสุธนผู้ทรงศร ทรงทราบความตามมาจากนาคร คงแวะเพื่อขอพรพระสิทธา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 มกราคม, 2561, 10:39:20 AM ๏ ขอท่านช่วยแถลงแจ้งการณ์นี้ ย้ำวจีจากใจให้ทราบว่า โปรดย้อนกลับคืนยังวังราชา ขอร้องอย่าได้คิดติดตามไป ๏ หิมพานต์มากภัยใหญ่มหันต์ พนาวันคีรีวงอสงไขย สุดจักห้ามปรามพระองค์ยังจงใจ โปรดมอบให้ซึ่งผ้ารัตกัมพล ๏ เก็บไว้ใช้ยามภัยมาเวลาสั้น หลีกไม่ทันครั้นคลุมกายคล้ายล่องหน อีกธำมรงค์วงนี้ให้ไว้แทนตน พอนำหนุนอุ่นกมลคนไกลกัน ๏ และโอสถเทเวศวิเศษแท้ เพื่อช่วยแก้อันตรายกลางไพรสัณฑ์ หิมพานต์มีภัยมากมายครัน จำประจัญทีละด่านนานหลายปี ๏ ความมุ่งหวังตั้งใจจริงต้องยิ่งใหญ่ มิมีใครเคยดั้นด้นพ้นไพรศรี เป็นฉันใดใช้เดชาบารมี” ฝากวลีแล้ววันทาขอลาจร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 มกราคม, 2561, 09:32:04 AM ๏ ออกทะยานผ่านไปในเวหน ติดลมบนเหนือเมฆาถลาร่อน เส้นทางเดิมจากคงคาถึงนาคร แต่ครั้งก่อนบินผ่านเนิ่นนานมา ๏ ถึงไกรลาสเวียงชัยดั่งใจหวัง บินร่อนลงตรงหน้าวังดังปรารถนา หยุดยั้งอยู่ริมประตูนครา เอ่ยบัญชานายทวารชานเวียงชัย ๏ “มโนราห์ลาไกลไปนานนัก สองพระองค์ยังคงรักอยู่หรือไม่ กราบทูลว่ามโนราห์มากรุงไกร โปรดฉันใดตามเมตตาพระปรานี” ๏ นายทวารชาญชัยรีบไปเฝ้า กราบทูลเจ้าไกรลาสรุ่งเรืองศรี ครบถ้วนความตามอรรถคดี กินรีมโนราห์เผยอารมณ์ ๏ “มิเข้าเมืองมาพลันยังหวั่นจิต ด้วยนางคิดการณ์ไกลไม่เหมาะสม เพราะว่าเคยได้ออกนอกสังคม จากชื่นชมอาจติฉินชนนินทา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 มกราคม, 2561, 09:33:17 AM ๏ องค์ราชัน ราชินีศรีไกรลาส ทราบทันทีกระวีกระวาดออกมาหา รวมทั้งหกกินรีพี่กานดา พรั่งพร้อมหน้าพร่ำพลอดกอดกันกลม ๏ ส่งเสียงพร้องน้องเอ๋ย โอ้ลูกเอ๋ย ได้กลับคืนมาชื่นเชยแสนสุขสม แล้วสอบถามความทุกอย่างหลังชื่นชม รื่นอารมณ์มโนราห์เผยวาที ๏ “พรานไพรเหมือนใจร้ายใช้นาคบาศ เข้ามาคาดรัดกายมิให้หนี นำดำเนินเดินฝ่าวนาลี มิกดขี่ข่มเหงเคร่งเกินไป ๏ จรจรัลสู่ปัญจาล์ในครานั้น กว่าสิบวันพากายมิใคร่ไหว ก่อนถึงวังข้างสวนขวัญอันพิไล หม่อมฉันได้พบหน้าพระสุธน ๏ ทรงเมตตาปรานีเป็นที่ยิ่ง เอาใจใส่ทุกสิ่งจิตกุศล ช่วยรักษาพยาบาลเจ็บผ่านพ้น พระทรงพลมิเคยมีนารีใด หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 มกราคม, 2561, 09:36:17 AM ๏ เมื่อพระมอบดวงจิตพิศวาส ลูกสามารถสัมผัสจิตพิสมัย แม้อยากขัดตัดรักสุดหักใจ ปลงฤทัยอยู่ใต้เบื้องพระบาทา ๏ พระครองคู่อยู่กับลูกอย่างสุขศรี ทรงปรานีรักหวงดั่งดวงยิหวา พระชนกพระชนนีมีเมตตา ทั้งไพร่ฟ้าทั่วแคว้นแสนชื่นชม ๏ จนสงครามลามประชิดติดเขตขัณฑ์ องค์ราชันเห็นบุตราว่าเหมาะสม ออกทัพหน้าครานั้นพลันตรอมตรม แต่จำข่มใจลารักษาเมือง ๏ ก่อนจากไกลได้ฝากฝังอย่างแน่นหนัก รู้ว่ารักลูกมากมายห่วงหลายเรื่อง คล้ายกังวลคนมิไกลใจขุ่นเคือง เลี้ยงไม่เชื่องด้วยจิตคิดอาธรรม์ ๏ เนื่องกาลนั้นราชันอาทิตย์ราช เกิดนิมิตผิดคาดประหลาดฝัน ห่วงบุตราปราชัยภัยอนันต์ เปิดช่องให้คนร้ายนั้นปั่นฤดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 มกราคม, 2561, 08:56:20 AM ๏ ทำนายฝันราชันว่ากาลีนัก พระองค์จักอาสัญพร้อมมเหสี ไอศูรย์สิ้นปิ่นเสนาประชาชี เกิดอัคคีโลกันต์ผลาญพารา ๏ แล้วจะบูชายัญเป็นการใหญ่ สัตว์ คนใช้ละห้าร้อยไม่น้อยกว่า และอีกหนึ่งกินรีหมายบีฑา พระมารดาท่านดูรู้เล่ห์กล ๏ ปุโรหิตคิดแผนงานการล้มล้าง แม้หาทางช่วยอย่างไรไม่เป็นผล เพราะเขาวางรูปแบบอันแยบยล คุมกองพลนับแสนแทนราชัน ๏ แยกท่านท้าวเข้าพิธีที่วังหลัง เหมือนกักขังพระวรกายไว้ที่นั่น ถือบัญชาราชัยไว้สำคัญ อุบายอันอำมหิตคิดการณ์ไกล ๏ ห้ามเฝ้าแม้แต่ราชินีท่าน สั่งทหารล้อมแน่นหนาฝ่ามิได้ จึงหมดทางต้านทานประการใด ลูกต้องลี้หนีภัยจากไกลมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 มกราคม, 2561, 08:57:00 AM ๏ เชื่อนักหนาสวามีมิทอดทิ้ง รู้ความจริงทั้งผองต้องมาหา แต่จะถึงซึ่งไกรลาสนครา หรือชีวาสิ้นเสียหว่างกลางอรัญ” ๏ พระบิดาฟังวาทีดังที่กล่าว ว่า “เรื่องราวรักพรากมากโศกศัลย์ สองกำเนิดเกิดกายแสนไกลกัน ยังพบพักตร์รักมั่นเทพบันดาล ๏ เป็นบุพเพนำพาดลมาให้ สร้างบุญร่วมกันไว้ยิ่งไพศาล ถ้าเช่นนั้นพบกันได้ไม่เนิ่นนาน จงทำใจให้สราญรอวารวัน ๏ การสำคัญพ่อบัญชาต่อหน้านี้ ฟังให้ดีมโนราห์เจ้าจอมขวัญ ซึ่งความรักของพ่อแม่แลพี่นั้น มิรังเกียจเดียดฉันท์กันสักนิด ๏ แต่ลูกไปเป็นชายาของมนุษย์ สูญเสียความบริสุทธิ์จากดวงจิต แม้ว่าพ่อแม่พี่มิได้คิด หากยังผิดขอเวลาล้างราคี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 มกราคม, 2561, 08:57:39 AM ๏ เหล่ากินนรกินรีนี้ทั้งหลาย ล้วนรังเกียจกลิ่นกายคนเหลือที่ จะติฉินนินทามากพาที พระปรางค์มีอยู่มากมายชายเวียงวัง ๏ มโนราห์ค้างยังปรางค์ในสวน ตามสมควรแก่การณ์อันพ่อสั่ง เจ็ดปีเจ็ดเดือนเศษเขตอยู่ยั้ง มิใช่อยู่ลำพังอย่างเดียวดาย ๏ พ่อพี่พี่และมารดามาเยี่ยมได้ มิจากไกลลาร้างจนห่างหาย อีกสาวใช้ห้าร้อยมาล้อมขวาซ้าย ที่มอบหมายดูแลมโนราห์ ๏ ตักน้ำในสระสินธุ์ประทิ่นพร้อม วันละห้าร้อยกระออมสรงอุษา เพื่อชำระกลิ่นมนุษย์จากกายา และล้างคำครหาดั่งว่าไว้” ๏ มโนราห์หลายคราเหงาเศร้ายิ่งล้น ห่วงกังวลภัสดามาได้ไหม พักเรื่องมโนราห์ค้างข้างกรุงไกร พาย้อนไปศึกปะทะพระสุธน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 มกราคม, 2561, 07:41:12 AM ๏ ตั้งแต่ยกโยธาไปครานั้น แลพระองค์ทรงมุ่งมั่นสรรค์กุศล แม้นใช้ศรพรหมาสตร์พิฆาตชน ริปูกายมลายป่นในทันที ๏ มิทรงเน้นเข่นฆ่าปัจจามิตร เพียงประชิดทะลวงไล่ให้หลีกหนี จนถึงจอมฤทธาคู่ราวี เปล่งวจีบัญชาว่าจงฟัง ๏ “ถ้าหมายมั่นการต่อสู้ริปูแท้ มิได้มีข้อแม้มาแต่หลัง หากยิงศรศิลป์ชัยไม่ยับยั้ง ทัพท่านทั้งสิ้นจะมรณา” ๏ แล้วพระองค์ได้ทรงสำแดงเดช ร่ายพระเวทยิงศรรามข้ามเวหา เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนฟ้า วนกลับมาเข้าแหล่งแห่งจำนง ๏ ผู้จอมทัพสดับฤทธิ์ศรรามราช ก้มลงกราบพระบาทดังประสงค์ รู้พระทัยไม่เมตตาพาปลดปลง การณรงค์ระงับถอยทัพไป หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 มกราคม, 2561, 07:41:57 AM ๏ พระสุธนจึงสั่งเดินทางกลับ เมื่อการศึกเสร็จสรรพอย่างยิ่งใหญ่ มิมีผู้พ่ายแพ้แลมีชัย คงมั่นในดำริสันติวิธี ๏ แม้นทั่วไปในโลกหล้ามาขบคิด หลีกเลี่ยงพิษการสงครามตามวิถี เจรจาปราศรัยมิตรไมตรี ทั้งโลกนี้ย่อมพบสงบเย็น ๏ เพราะความโลภมากล้ำเหลิงอำนาจ ประชาชาติส่วนมากจึงยากเข็ญ มหาอำนาจหวังสร้างประเด็น ให้เกิดความลำเค็ญกลางโลกา ๏ พระสุธนถอยทัพย้อนกลับหลัง จากชายแดนเหมือนดังปรารถนา อกไห้หวนถึงนวลน้องมโนราห์ พระบิดรมารดาจากมาไกล ๏ ชนบทสดสีสันพันธุ์พฤกษา สกุณาจำเรียงส่งเสียงใส แม้ดาษดื่นสิ่งรื่นรมย์มิชมใด กลับมาถึงซึ่งกรุงไกรไม่เนิ่นนาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 มกราคม, 2561, 07:42:44 AM ๏ ขึ้นเฝ้าพระบิดาอาทิตย์ราช ประชุมอยู่หมู่อำมาตย์เต็มราชฐาน การสงครามความเช่นไรทูลรายงาน พระภูบาลชื่นชมสมฤทัย ๏ แต่ส่วนลึกนึกขึ้นมาโศกาหนัก รู้ลูกรักมโนราห์ค่ายิ่งใหญ่ เมื่อเกิดเรื่องมิดีต้องหนีไป ความเสียใจราชบุตรสุดอนันต์ ๏ จะดำรัสขัดพระทัยพูดไม่ออก อยากจะบอกความนัยให้อัดอั้น พระสุธนทูลลาบิดาพลัน รีบผายผันไปกราบท่านพระมารดร ๏ บังคมบาทราชมารดาหน้าพระที่ ราชินีทรงกันแสงเรี่ยวแรงอ่อน สลดสุดด้วยบุตราเหลืออาวรณ์ ยกพระกรค่อนอุระโศกระบม ๏ พระสุธนห้ามมารดาอย่ากันแสง โปรดสำแดงเหตุใดให้ขื่นขม พระแม่โศกลูกพลอยเศร้าร้าวระทม ขอจงข่มฤดีมีวาจา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 17 มกราคม, 2561, 09:19:12 AM ๏ พระมารดาว่า “แม่นี้ผิดอนาถ มิสามารถป้องลูกสุณิสา เหตุด้วยองค์ทรงฤทธิ์พระบิดา ทรงนิมิตผิดแปลกว่าอันตะนั้น ๏ ไหลออกวนโลกาทักษิณาวัตร คิดหวั่นใจภัยวิบัติอาจมหันต์ ปุโรหิตจิตที่มีอาธรรม์ ทำนายฝันราชาว่าร้ายนัก ๏ จักสูญเสียพาราอาญาสิทธิ์ ทั้งชีวิตวงศ์วานมลานหนัก ต้องบูชายัญร้ายตามทายทัก เหมือนดังผลักบาปใหญ่ให้ราชัน ๏ สัตว์ห้าร้อยชีวาหาไม่ยาก ห้าร้อยมากนักโทษที่คดีมหันต์ หนึ่งกินรีหมายบีฑาบูชายัญ เจาะจงนั้นด้วยจิตที่คิดร้าย ๏ วางแผนการอันแยบยลตั้งตนใหญ่ ออกคำสั่งอย่างไรได้ดังหมาย แยกราชัยไปหลังวังสั่งล้อมกาย กิจทั้งหลายอ้างพระราชโองการ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 17 มกราคม, 2561, 09:36:17 AM ๏ แม่เองยังขอเข้าเฝ้ามิได้ พลากรกั้นไว้มิให้ผ่าน จะช่วยลูกมโนราห์ฝ่ามือมาร ทุกทางปิดสุดคิดอ่านแก้การณ์ร้าย ๏ จึงลั่นดาลทวาราแห่งปราสาท สองเราหวาดอกสั่นจนขวัญหาย มโนราห์ขอปีกหางก่อนวางวาย รำถวายตามถนัดฝึกหัดมา ๏ มิเห็นทางใดช่วยได้จึงไม่ขัด เธอร่ายรำตามถนัดหลายท่วงท่า ทหารวังเข้าพังดาลทวารา พร่ำวาจาไหว้วอนก่อนลาไกล ๏ ฝากคำมั่นกับแม่แต่ชาตินี้ ความจงรักสวามีคงยิ่งใหญ่ ขอเป็นคู่อยู่รองบาททุกชาติไป สุดอาลัยจบคำต้องอำลา ๏ แม่รู้ลูกเสียใจใหญ่มหันต์ แต่ต้องรักษ์ชีวันสุณิสา ยอมมิได้ให้เขาย่ำเห็นตำตา แม่มิว่าถ้าลูกจะเคืองระคาย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 17 มกราคม, 2561, 09:37:07 AM ๏ พระสุธนยินวาจามารดาท่าน ปิ่มดวงมานนั้นจะแตกสลาย สิ้นเรี่ยวแรงแห่งพระวรกาย พระโลหิตติดตามสายอัสสุชล ๏ โทมนัสแสนหนักเมียรักหนี พระชนนีปลอบเท่าใดไม่เป็นผล ระทมทอดกอดประคองกันสองคน แสนวิโยคโศกท้นพระหทัย ๏ “มโนราห์นวลน้องรักของพี่ ดวงฤดีพี่ถูกควักจากอกได้ เหมือนเหว่ว้าลาแดนมาแสนไกล โถทำไมยังมีผู้บีฑา ๏ พี่แสนห่วงอาลัยจะไกลจาก ถึงเอ่ยปากฝากท้าวไทไว้นักหนา ที่แท้องค์ทรงฤทธิ์พระบิดา กลับเป็นมารผลาญชีวาไม่อารี ๏ ช่างกระไรใจดำหนอทำได้ ลูกสะใภ้ไร้ค่าสิ้นราศี นึกถึงจิตลูกสักนิดก็มิมี โถสุดที่อัดอั้นเกินบรรยาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 18 มกราคม, 2561, 09:53:46 AM ๏ พระแม่จ๋าโปรดเมตตาเพลานี้ เหลือกายีชีวินสิ้นความหมาย เมื่อถูกล้วงดวงใจไปจากกาย อยู่ก็รอวันตายอย่างทรมาน ๏ ตัดสินใจไปตามหาโนราห์น้อง ดีกว่าทนหม่นหมองในราชฐาน ถ้าแรมร้างห่างกันมิทันกาล ขอมลานเสียในกลางไพรวัลย์ ๏ แม้นพบน้องมโนราห์สัญญาไว้ พาดวงใจทรามชื่นคืนเขตขัณฑ์ ขอพระแม่แลองค์พระทรงธรรม์ อยู่สุขสันต์อย่าห่วงใยให้กังวล” ๏ พระแม่พร่ำคำด้วยรักห่วงนักหนา “มโนราห์บินไปในเวหน ลูกเดินด้วยบาทาประสาคน จักข้ามพ้นหิมพานต์ฉันใดนา” ๏ พระสุธน “แต่ต้นนางยังมานี่ เมื่อถึงทีลูกต้องท่องไปหา คงเป็นกรรมที่สร้างปางก่อนมา ขอองค์พระมารดาโปรดปรานี” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 18 มกราคม, 2561, 09:55:59 AM ๏ “หากจำเป็นจำไปไม่อาจขัด ลูกจงจัดพลไกรชาญไพรศรี คชสารการอาชาเสนาบดี ให้พอที่เกื้อหนุนจนอุ่นใจ” ๏ พระสุธนตอบวาจามารดาท่าน “ทวยทหารนั้นนำพาหาได้ไม่ ต่างจากการป้องกันเมืองเรื่องชิงชัย การนี้ไปตามอนงค์องค์ชายา ๏ กำลังเมืองใช้เรื่องตนมีผลลบ ยกสมทบไปตามเมียเสียยศถา หากผู้ใดต้องดับดิ้นสิ้นชีวา ย่อมจะพาเกิดบาปกรรมติดตามตน ๏ ขอมุ่งไปในวนาเอกากาย เป็นหรือตายสุดแท้แต่กุศล” สิ้นวาทีทัดทานพระสุธน จึงพระชนนีช่วยอวยพรชัย ๏ ก่อนจากไกลไปลาอาทิตย์ราช กราบพระบาทอำลาน้ำตาไหล พระบิดาน้ำตาคลอ “พ่อผิดไป ขออภัยเถิดหนาอย่าขุ่นเคือง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 18 มกราคม, 2561, 09:57:00 AM ๏ พ่อวิตกอกใจไม่ปกติ จนดำริวิปริตผิดหลายเรื่อง หวั่นญาติพงศ์วงศ์วานทั้งบ้านเมือง โลหิตต้องนองเนืองธรนินทร์” ๏ “ขอเดชะพระบิดาการลานี้ มิใช่ที่เคืองบิดาแล้วลาถิ่น การณ์อันว่าลาแดนจากแผ่นดิน ฝากระบิลไว้กับท่านพระมารดร ๏ ขุ่นเคืองพระบิดาหาได้ไม่ ท่านผู้ให้ชีวามาแต่ก่อน มิก่อกรรมนำวิบัติขอตัดรอน แต่อยากวอนพระบิดาฟังวาที ๏ ซึ่งพระองค์ทรงวางใจให้อำนาจ ผู้ฉลาดทิ้งธรรมนำวิถี วางพระทัยมิได้ตรองให้ดี จึงเกิดมีเบื้องหลังตั้งชนวน ๏ อันคนพาลสันดานพิษย่อมคิดร้าย มุ่งยีย่ำทำลายให้ปั่นป่วน ให้ถือราชโองการนั้นมิควร เพราะแปรปรวนจากเมตตาของราชัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 19 มกราคม, 2561, 11:22:14 AM ๏ ขอเรียกหาโหราจารย์ท่านผู้เฒ่า แลพระองค์ทรงกล่าวเล่าความฝัน ตามนิมิตคิดว่าร้ายทั้งหลายนั้น มายืนยันอีกสักปากลูกอยากฟัง” ๏ ราชันให้เสนาหาอำมาตย์ ไปตามราชโหราเมื่อมานั่ง เล่าซ้ำความตามนิมิตมิผิดพลั้ง โหราตั้งกระดานขานทำนาย ๏ “อันตะในนิมิตนั้นยืนยันว่า ผู้ที่มาจากอุระพระฤๅสาย คือองค์ราชบุตรวิสุทธิ์กาย ทักษิณาโลกาหมายก้องกำจร ๏ โลกทั้งสามเทิดพระนามในภายหน้า ทรงบุญญา พระยศปรากฏกระฉ่อน ตำรานี้ชี้ชัดมิตัดรอน พระภูธรนิมิตฝันอันทรงคุณ” ๏ จบคำของโหราในครานั้น ความสำคัญตรงเจตเหตุเกื้อหนุน ผลอนันต์สรรค์สร้างในทางบุญ ราชาวุ่นทัศนะกลางพระทัย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 19 มกราคม, 2561, 11:23:12 AM ๏ ราชบุตรปุจฉาพระฤๅสาย “การทำนายโหรามีหน้าที่ไหม มิเรียกหาท่านมานั้นด้วยฉันใด ลูกยังมิเข้าใจในข้อนี้” ๏ “ปุโรหิตว่าโหรามาเลือนหลง เฒ่าชะแรแก่ลงจนเหลือที่ เขานั้นเคยเรียนรู้ได้ครูดี พ่อจึงมีความวางใจให้ทำแทน” ๏“พระองค์ฟังความข้างเดียวจริงเจียวหนอ กรรมจึงก่อให้ลูกทุกข์เหลือแสน ถึงวาระลูกจะไปไกลดินแดน สมมาตรแม้นเขาตั้งความหวังมา ๏ หากพระองค์เชื่อตามคำทุกสิ่ง อันตรายมากหลายจริงยิ่งนักหนา ศัตรูร้ายใดที่หมายบีฑา ยังด้อยกว่าคนใกล้ชิดที่คิดคด ๏ ไม่ระแวงระวังด้วยวางจิต ถูกหรือผิดเชื่อคำตามทั้งหมด ภัยพิษงูมิสู้พิษมิตรทรยศ ผู้ทรงพรตพ่ายมารในหัวใจตน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 19 มกราคม, 2561, 11:23:58 AM ๏ ประมวลการณ์อันนี้ตามที่คาด ปุโรหิตติดอำนาจขาดกุศล เมื่อซึ้งความตามแต่องค์พระทรงพล จะแก้กลที่เขาวางไว้อย่างไร” ๏ ครานั้นอาทิตย์ราชอนาถนัก ผิดพลาดหนักจริงแท้ยากแก้ไข สั่งมหาอำมาตย์พลันในทันใด “จงรีบไปจับปุโรหิตร้าย ๏ ตัดหัวมันเสียบประจานรู้กันทั่ว ที่ทำตัวชั่วช้าพาเสียหาย มิสมดังวางฤทัยไปมากมาย ยังกลับกลายคิดคดกบฏรัช” ๏ อำมาตย์รับกระทำตามบรรหาร พวกใจมารทั้งผองต้องกำจัด ลงโทษทัณฑ์เหตุอันใดชี้ให้ชัด เป็นการตัดผู้เอาอย่างทางมิดี ๏ พระสุธนทูลลาคืนปราสาท หลังราชาอนุญาตสู่ไพรศรี ถึงอย่างไรยื้อไม่อยู่รู้ข้อนี้ พระภูมีจำอำนวยอวยพรชัย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 20 มกราคม, 2561, 10:23:12 AM ๏ เสด็จถึงวังทองเห็นห้องหอ น้ำตาคลอปวดดวงมานปานตักษัย พระยี่ภู่ดูว่างร้างอาลัย ทรงร่ำไห้กอดพระเขนยเคียง ๏ “แท่นพระที่มีเราสองครองสุขสันต์ มาเงียบงันร้างกายไร้สรรพเสียง ภาพอดีตชิดใกล้ได้ร่วมเรียง กลับเหลือเพียงรอยเลือนรางกลางอารมณ์ ๏ โอ้อกเอ๋ยมิเคยคิดรักฤทธิ์ร้าย พังทลายลงครืนให้ขื่นขม รักแสนหวานพานสลายกลายเป็นลม คงต้องตรมเช่นนี้ชั่วชีวิน” ๏ มิอาจจักพักผ่อนนอนหลับใหล ร้อนฤทัยอยู่ในห้วงห่วงถวิล เตรียมข้าวของยามต้องไปไกลธานินทร์ คว้าศรศิลป์ออกเดินทางร้างเวียงวัง ๏ ตัดสินใจบ่ายหน้าสู่ป่าแน่ มิหันแลพระปรางค์ที่ข้างหลัง ปณิธานการณ์นี้ไปไม่หยุดยั้ง ตราบที่ยังมิพบน้องมโนราห์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 20 มกราคม, 2561, 10:24:11 AM ๏ บ้านพรานบุญผู้คุ้นเคยอยากเอ่ยถาม มูลเค้าความหนหลังหวังปุจฉา ชาวบ้านชี้ทางไปสู่ปลายนา ถึงชายคาเรียกขานพบพานพลัน ๏ พรานบุญตื่นตระหนกอกระทึก มิได้นึกเสด็จหากะทันหัน ลงเบื้องล่างล้างบาทาอภิวันท์ ก่อนชวนกันขึ้นเคหาต่อพาที ๏ ยกขันน้ำนำหมากพลูสู่ที่ตั่ง แล้วลงนั่งเจรจา “มาถึงนี่ เยี่ยมเยียนกันดูหม่อมฉันนั้นอยู่ดี หรือยังมีธุระประการใด” ๏ “ขอให้เล่าเค้าหลังแต่ครั้งต้น พี่สืบค้นมโนราห์มาจากไหน บัดนี้นางคืนยังวังเวียงชัย อยากถามไถ่ปัญหานานาประการ” ๏ “กรุงไกรลาสนิวาสไกลเกินใฝ่หา นางเหินฟ้ามาสรง ณ สระพิศาล ใกล้กุฎีฤษีริมหิมพานต์ จับนงคราญนั้นได้ในคงคา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 20 มกราคม, 2561, 10:25:09 AM ๏ “สัญจรไพรให้ถึงซึ่งถิ่นนั้น ทิศใดกันมั่นหมายใคร่ปุจฉา” “พระองค์ไปหนใดนั้นฉันนำพา เนินวนาย่างย่ำจนชำนาญ” ๏ “เรื่องส่วนตนอย่ามีผลถึงคนอื่น คงนานนักจักได้คืนราชฐาน หรือชีวันนั้นอาจจะมลายลาญ มิเป็นการขอว่าอย่าไปเลย” ๏ พรานบุญว่า “หาถูกต้องมองการณ์สั้น เพราะหม่อมฉันผู้ก่อไว้ใช่ไหมเอ่ย หมายต่อสานงานประสงค์ให้ลงเอย ดังเฉลยพระบุตราอย่าเกรงใจ” ๏ “ถ้ากระนั้นเมื่อพรานพี่มีใจช่วย คิดอำนวยก็มิขัดอัชฌาสัย ขอพี่นำสู่วนามุ่งหน้าไป แค่พอให้เห็นกุฎีฤษีพอ ๏ จักขอบใจในการอันช่วยนี้ ย่อมมิดีหากจะพาเดินหน้าต่อ พี่ก็มีลูกเมียต้องครองพะนอ สิ่งที่ขอถ้าตกลงปลงใจตาม” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 22 มกราคม, 2561, 09:01:13 AM ๏ พรานบุญพร้อมยอมความตามที่ว่า ล่วงพ้นริมหิมวาน่าเข็ดขาม รู้บุญน้อยด้อยเดชฤทธิ์ใจคิดคร้าม มิอาจข้ามวนามายามนต์ ๏ เมื่อตกลงปลงใจได้ทั้งสอง ตามครรลองแห่งเจตน์และเหตุผล พรานขอพักเจราสาละวน การเตรียมตนลำเลียงเสบียงกรัง ๏ เป็นถั่วงาปลาแห้งแป้งสาลี ตามเคยที่ออกไพรสณฑ์แต่หนหลัง ยาสำคัญ มันมะพร้าวอีกข้าวตัง เมื่อสมดังต้องการพรานกล่าวคำ ๏ “พระองค์ควรค้างพักสักคืนก่อน นี่ไม่นานตะวันรอนจะค่อนค่ำ” “ไปทันทีเมื่อพี่พร้อมจะน้อมนำ หมายตรากตรำย่ำย่างร้างแรมไพร” ๏ พรานยินคำจำนงลงเคหา นำมุ่งหน้าเดินตรงสู่ดงใหญ่ แล้วปรึกษาวาทะเฉลยนัย “ขอพระองค์จงได้ฟังวาที หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 22 มกราคม, 2561, 09:01:53 AM ๏ จักถ่ายทอดตลอดทางกลางไพรสัณฑ์ ซึ่งหม่อมฉันรู้ใดเรื่องไพรศรี การกิน พัก จักหลีกภัยในพงพี ก่อนจะลุถึงกุฎีมีเวลา” ๏ พระสุธนสนใจที่หมายสื่อ มิดึงดื้อรู้ดีมากมีค่า พรานไพรจะประสิทธิ์วิทยา ที่สืบทอดกันมาหลายชั่วคน ๏ ยิ่งเข้าในไพรพฤกษ์ลึกรกชัฏ เริ่มเลาะลัดยากครันยังดั้นด้น ก่อนตะวันผันลาพากังวล พรานชวนพระสุธนหาที่พัก ๏ สอนวิชานิทราไพรให้ข้อแรก อธิบาย “ให้จำแนกเป็นสองหลัก หนึ่งถ้ามีเวลาทำที่พำนัก ขัดห้างมักให้อยู่เหนือธรณี ๏ ข้อที่สองมองเห็นว่าเวลาน้อย มิอาจคอยด้วยค่ำไวไพรวิถี จำต้องหาคาคบไม้ต้นใดมี ให้พอที่เอนอิงพักพิงกาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 22 มกราคม, 2561, 09:02:37 AM ๏ ใบไม้สรรกันน้ำค้างกั้นกางฝน พอข้ามพ้นราตรีเหมือนที่หมาย ความสูงดูอยู่ด้านบนพ้นสัตว์ร้าย สามารถย้ายเปลี่ยนท่าเวลานอน” ๏ พระสุธนสนใจความตามที่ว่า สอดสายตาขึ้นด้านบนวนเวียนว่อน ดุจวิหคนกกาบินหาคอน เห็นปางไม้หลายอันซ้อนในสุมทุม ๏ ถามพรานว่า “คาคบที่ฉันชี้นั่น เปลือกไม้มันเรียบดีมิมีตุ่ม กิ่งแผ่ผายหลายคอนชะง่อนงุ้ม ใบปกคลุมแน่นหนาพี่ว่ากระไร” ๏ “พระองค์ควรขึ้นไปดูให้ชัด คล่องหรือขัดท่านั่งนอนผ่อนคลายไหม หากอึดอัดขัดท่าหาต่อไป” พอเข้าใจพระสุธนโหนเถาวัลย์ ๏ เมื่อถึงยังปางไม้เอนกายเล่น ไม่ดีเด่นแต่มิอับจนคับขัน กู่ก้องมาว่า “ใช้ได้สบายครัน ขอพี่นั้นหาแห่งหนของตนเอง” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 มกราคม, 2561, 09:28:09 AM ๏ พรานบุญฟังดังนั้นหันซ้ายขวา ปีนพฤกษาปุบปับกระฉับกระเฉง ใกล้ค่ำลงวงเรไรเริ่มบรรเลง เป็นเสียงเพลงกล่อมวนายามราตรี ๏ ผู้เดินทางกลางไพรต้องใจมั่น มิเขลาขลาดหวาดหวั่นพรั่นภูตผี เสียงสัตว์ร้ายใดใดมิไยดี ชั่วคืนที่สงบจิตสุขนิทรา ๏ แสงสุรีย์สีทองส่องฟ้าใส ลงสู่พื้นพงไพร ล้างใบหน้า จัดเสบียงเรียงตั้งทั้งข้าวปลา พรานบุญว่า “วันนี้เรียนสีไฟ ๏ ถ้าหน้าแล้งฟืนแห้งดีมิลำบาก มักฟันถากผิวไม้ใช้ขุยไผ่ การเสียดสีวิธีทำสำแดงไว้ หน้าฝนใช้หินประกบแล้วตบตี ๏ การเดินทางกลางวนาเรื่องอาหาร มิควรกินจนอาการอิ่มเต็มที่ ยามเดินทางจะอึดอัดขัดท่าที เคล็ดเหล่านี้มีส่วนควรคำนึง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 มกราคม, 2561, 09:29:09 AM ๏ เมื่อเสร็จสรรพดับไฟให้สนิท อย่าให้ติดขึ้นภายหลังอีกครั้งหนึ่ง พระสุธนสนใจฟังอย่างลึกซึ้ง เรียบร้อยจึงชวนเชิญกันเดินทาง ๏ ช่วงไม้ป่าหนาแน่นเดินแสนยาก ทั้งกิ่งคั่นก้านขวากต้องถากถาง มีที่เพลินเดินสบายชมไพรพลาง เมื่อพื้นล่างโล่งตาหญ้าไม่มี ๏ จนใกล้ย่ำสนธยาหาที่พัก ขอตั้งหลักผ่อนคลายกลางไพรศรี อย่างน้อยค้างกลางวนาเจ็ดราตรี ก่อนจะถึงซึ่งกุฎีสิทธาจารย์ ๏ พร้อมเดินทางมิร้างราหาความรู้ หลายหมวดหมู่ “วันนี้ว่าเรื่องอาหาร ผลไม้ในวนาถ้าพบพาน เหมือนพื้นบ้านหลากหลายในพงพี ๏ มะม่วง กระท้อน หว้า พลา มะไฟ ที่แน่ใจว่ารู้จักเป็นสักขี เลือกกินไล่เล็มไปได้ทันที ผลใดที่แปลกตาอย่าเพิ่งกิน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 23 มกราคม, 2561, 09:30:01 AM ๏ เห็นนกกาหรือว่าสัตว์จัตุบาท มันสามารถกินได้หมายถวิล เรากินได้มิตายแน่แต่มิชิน เรื่องรสกลิ่นและแสลงมีแฝงมา ๏ ที่แน่ใจได้หนาพวกวานร มันกินก่อนเรากินได้ไร้ปัญหา พลาดกินผลไม้พิษจะมรณา ยินเขาว่ามีมากหลายในหิมวันต์ ๏ ไร้อาหารพานให้หาวานรยาก ต้องจับจากย่านอื่นไปในเขตขัณฑ์ มีเคล็ดลับการจับวานรนั้น ต้องคัดสรรหวายน้ำทำบ่วงคล้อง ๏ แต่งบ่วงให้เรียวคล้ายปลายยอดหญ้า ย่องช้าช้าเข้าใกล้สายตาจ้อง ได้จังหวะตวัดรัดดังปอง ตัวไหนร้องเจียนจะตายให้ปล่อยไป ๏ บางตัวนั้นสัญชาตญาณมันมากหลาย ดิ้นจนตายนำพาหาได้ไม่ ต้องหาตัวกลัวอีกอย่างเหมือนต่างใจ หงอมิได้ดิ้นนักจึ่งจักดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 24 มกราคม, 2561, 09:22:03 AM ๏ ค่อยลูบหัวตัวมันมินานคุ้น จึงเจือจุนชิมผลไม้ได้เต็มที่ พรานแนะนำทำให้ดูรู้วิธี จรลีไปพลางกลางพงไพร ๏ ค่ำพักค้างรุ่งสางคงเดินดงต่อ มากหัวข้อหลักการพรานสอนให้ เป็นวิชาพาตนหลีกพ้นภัย ยามท่องในวนาเอกากาย ๏ พระสุธนสนใจใฝ่เรียนรู้ ความเป็นอยู่ในดงดอนกินนอนง่าย ข้างหน้ามีอุปสรรคอีกมากมาย คงมิคลายความหวังตั้งมั่นมา ๏ วันนี้พรานบุญว่าเรื่องหาน้ำ ต้องน้อมนำก่อนขึ้นเขินแนวเนินผา แต่หมดไป ไม่พอบ้างเป็นบางครา ต้องรู้จักหลักการหาน้ำมากิน ๏ ถ้าฝนตกหยกหยกผ่านมินานมาก หาได้จากพวกแอ่งหรือแก่งหิน ถ้าแล้งนานพานเหือดหายลงใต้ดิน ครองชีวินด้วยน้ำตามเถาวัลย์ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 24 มกราคม, 2561, 09:23:08 AM ๏ หาเถาวัลย์อันใหญ่ยาวเท่าแขนขา ฟันให้สูงสักสองวาขาดสะบั้น แล้วรีบตัดข้างล่างให้ใกล้โคนพลัน กระบอกไผ่ตัดใหม่นั้นมารองรับ ๏ แม้ได้น้ำถึงสองสามกระบอกไผ่ ห้ามวางใจหลงปลื้มดื่มปุบปับ ดูเยื่อไผ่ไม่เปลี่ยนสีที่ซึมซับ จึงจะนับว่าดื่มได้ไร้พิษภัย ๏ พระสุธนด้นวนาศึกษาศิลป์ การอยู่กินใช้ชีวากลางป่าใหญ่ จนมาถึงปลายทางที่วางไว้ พอลับเหลี่ยมไศลเห็นกุฎี ๏ มิกว้างใหญ่ซ่อนในสุมทุมพฤกษา จึงยินคำ “เราอำลากันที่นี่ ขอบใจยิ่งสิ่งทั้งหลายได้ปรานี ขอให้พี่คืนหลังยังปัญจาล์” ๏ พรานอำนวยอวยชัยให้สมมาด ก่อนนิราศลาลับกลับเคหา ถือสัจจะกระทำตามสัญญา จำร้างราอาลัยจากไกลแล้ว หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 24 มกราคม, 2561, 09:24:04 AM ๏ พรานบุญกลับลับไปจนไกลพ้น พระสุธนออกเดินทางอย่างแน่แน่ว แม้นบุญมีคู่กันมาอย่าคลาดแคล้ว โอ้น้องแก้วมโนราห์พี่มาตาม ๏ คะนึงในก้าวไปพลางดังที่คิด หวังบูชิตพระสิทธามาไต่ถาม เรื่องสาระสระศรีที่ลืองาม แลเค้าความทั้งสิ้นกินรี ๏ ถึงอาศรมสอดส่ายสายตาจ้อง เขม้นมองทั่วทั้งลานสถานที่ ดูเงียบเหงาเปล่าดายไม่เห็นมี พระฤษีที่หมายได้กราบกราน ๏ แล้วยินเสียงสวดมนต์ดังหลังอาศรม ลอยตามลมมาแต่ไกลใจเสียวซ่าน เดินตามเสียงไล่เลียงไปในดงดาน จึงพบพานมุนีที่โคนไทร ๏ กราบฤษีพจีเอ่ยเฉลยพจน์ สิ่งทั้งหมดอยากถามตามสงสัย สิทธาจารย์มิหันแลแต่อย่างใด คำนึงในสงบร่างอย่างนิ่งนาน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 มกราคม, 2561, 09:01:32 AM ๏ “ท่านนี้หรือคือบุตราอาทิตย์กษัตริย์ ที่ชายามาพลัดพรากสถาน กินรีมโนราห์ยุพาพาล อกร้าวรานคืนไกรลาสนครา ๏ ถ้าเช่นนั้นขอท่านฟังความสั่งไว้ จงหักใจจากนางเสียเถิดหนา หิมพานต์นั้นมากมายภัยบีฑา กลัวต้องสิ้นชีวาเสียกลางทาง” ๏ “มโนราห์มาหาท่านกระนั้นหรือ สิ่งใดคือความที่เล่าเอาไว้บ้าง วอนท่านช่วยด้วยเมตตาอย่าอำพราง ดวงจิตนางเคืองหรือว่ายังอาลัย” ๏ “นางยังคงจงรักภักดีมั่น ที่จำลามานั้นเป็นเรื่องใหญ่ แม้นมิหนีชีวันมหันต์ภัย ต้องหักใจคืนดงสู่วงศ์วาน” ๏ ฤษีเล่าเค้าความตามรับข่าว ทุกเรื่องราวจำนงส่งต่อสาร รู้เหตุผลต้นปลายหลายประการ เป็นสัจจังดังคำท่านพระมารดา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 มกราคม, 2561, 09:02:32 AM ๏ “ขอยืนกรานค้านคำห้ามปรามนั้น ยังยึดมั่นปณิธานการเดินหน้า เหลือแต่กายไร้ดวงใจในอุรา มีชีวาต่อไปทำไมกัน ๏ แม้นบุญมีถึงที่หมายได้เหมือนมาด บุญมิส่งคงถึงฆาตกลางไพรสัณฑ์ ความตั้งใจในชาตินี้ชั่วชีวัน มิขอหันกลับหลังอย่างเดียวดาย” ๏ “ยังมิสิ้นกระแสความตามที่ฝาก ใกล้ค่ำมากแล้วค่อยต่อข้อขยาย เข้าอาศรมหลับนอนพอผ่อนคลาย พรุ่งนี้สายหมายกลับลำดับความ” ๏ ต้องยอมทำตามดาบสกำหนดให้ จำหักใจหยุดยั้งตั้งคำถาม อาศรมเก่าคราวแวะมาโล่งตางาม กลับล้นหลามผลไม้เป็นก่ายกอง ๏ ยินพระสิทธาจารย์ท่านแถลง “ขอช่วยแบ่งผลไม้ให้เป็นสอง วางคนละมุมไว้บนใบตอง ส่วนหนึ่งนั้นปันเป็นของให้ท่านกิน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 25 มกราคม, 2561, 09:03:21 AM ๏ อีกส่วนอาตมาฉันคราเช้า เหลือท่านเอาไปไหนได้ทั้งสิ้น” พระสุธนฉงนใจในแดนดิน ใครยลยินศรัทธามาทำบุญ ๏ “ผู้ใดนำมาถวายให้ท่านหนา เป็นคนป่ายังมีที่เกื้อหนุน หรือท่านหาด้วยฤทธิ์อิทธิคุณ ยังข้องใจใครเจือจุนหนุนนำพา” ๏ “เหล่าวานรจรในถิ่นไพรนี้ มองน้ำจิตมิตรไมตรีมีคุณค่า มักถวายผลไม้ให้อาตมา ด้วยคุณแห่งเมตตาบารมี ๏ เราอยู่กันสันติมิเคืองขัด ปฏิบัติด้วยรักเทียมศักดิ์ศรี ละเกียจกันฉันทาให้ราคี ถือศานติวิธีมีสัมพันธ์ ๏ ขอท่านพักผ่อนกายคลายเหนื่อยอ่อน นั่งหรือนอนหนึ่งราตรีอยู่ที่นั่น” พระฤๅษีชี้ไปด้านในนั้น แล้วจึงหันกลับหลังนั่งภาวนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 มกราคม, 2561, 08:35:27 AM ๏ เรื่องกาลก่อนย้อนหลังหมายหยั่งรู้ พระบุตราที่มาอยู่ ณ เบื้องหน้า ในอดีตชาติกาลสรรค์บุญญา หรือบาปกรรมนำพาเวราใด ๏ ทรงเดชะบารมีฤดีกุศล พาข้ามพ้นหิมพานต์นั้นได้ไหม หรือถึงทีชีวันต้องบรรลัย กำหนดใจนิ่งเนาจนเข้าฌาน ๏ แจ้งฤดีที่น้อมนำกรรมวิบาก อันเกิดจากดวงจิตพิษฐาน รักวิโยคโศกศัลย์บรรพกาล ชาติก่อนผ่านพ้นมาบารนี ๏ “สุธน” หรือคือ “พระรถเสน” สร้างบาปเวรไว้กับพระมเหสี “มโนราห์” ครานั้นหรือคือ “เมรี” ต้องตามหาสวามีชั่วชีวา ๏ จึงตั้งจิตอธิษฐานไว้ เกิดชาติหน้าฉันใดผลัดไปหา ขอให้เป็นองค์พระภัสดา ต้องเอกาแรมร้างกลางพงไพร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 มกราคม, 2561, 08:36:14 AM ๏ แลบั้นปลายได้อยู่เคียงคู่สอง สมดังปองชมชิดพิสมัย สืบบุพเพสันนิวาสทุกชาติไป คือความนัยแห่งกรรมที่นำทาง ๏ เช้าอีกวันฉันภักษาผลาผล พระสุธนกินผลไม้หลากหลายอย่าง ลิ้มชิมปลื้มดื่มด่ำจำไปพลาง เพื่อหากินเองบ้างที่กลางดง ๏ หลังสำเร็จเสร็จสิ้นกินอาหาร สิทธาจารย์ว่าคดีที่ประสงค์ เริ่มเอ่ยคำย้ำถามขึ้นตามตรง “ยังจำนงออกเดินทางหรืออย่างไร” ๏ พระสุธน “มิวนกลับหรอกครับท่าน ยังยืนกรานมั่นกมลไปจนได้ จักดั้นด้นจนชีวันถึงบรรลัย มิเปลี่ยนใจกลับหลังอย่างแน่นอน” ๏ สิทธาจารย์ท่านรู้ใจไม่แปรผัน แต่ก็ยังฟังยืนยันกันเสียก่อน จักมอบของฝากให้ไม่รีบร้อน ตามขั้นตอนที่นางเจตนา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 26 มกราคม, 2561, 08:36:55 AM ๏ เปรยวาทะ“ฉะนี้ผู้มีรัก สุดจะหักจากใจอาลัยหา ปุถุชนมิพ้นล่วงบ่วงกามา อนิจจาทั้งที่รู้อยู่ว่าไฟ ๏ เพลิงโลกีย์ที่แผดเผาเร่าร้อนยิ่ง ยังหมายอิงชื่นชู้อยู่ชิดใกล้ รักที่พรากจากแดนสุดแสนไกล ยังตามไปหมายชมสมดังปอง” ๏ “จริงดังพระสิทธาว่าไว้แท้ ยามรักแปรร้างไกลใจหม่นหมอง เหมือนมาติดบ่วงกามตามครรลอง มิอาจครองศีลคงดังองค์มุนี ๏ ท่านหลุดพ้นโลกีย์หนีห้วงทุกข์ มาอยู่สุขสงบใจกลางไพรศรี” “พระบุตราอย่าคิดไกลไปเช่นนี้ อาตมาก็ยังมีโลกียะ ๏ เมื่อยังเกิด แก่ เจ็บ ตายหนีไม่พ้น ต้องเวียนวนว่ายไปในวัฏฏะ แม้ว่าชั่วชีวีมีมานะ มิอาจละราคินได้สิ้นเลย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 มกราคม, 2561, 09:25:59 AM ๏ ผู้ทรงพรตงดวาทะผละลุกจาก แม้ยังมากอรรถคดีที่ต้องเผย เดินไปท้ายอาศรมก้มแล้วเงย กลับมาถึงจึงเอ่ยเผยวาที ๏ “มโนราห์ครานั้นรำพันว่า หากบุตราดึงดันไปสู่ไพรศรี มอบสิ่งอันสรรฝากไว้ทั้งหลายนี้ สามอย่างที่พึงน้อมนำประจำกาย ๏ หนึ่งนั้นหรือคือผ้ารัตกัมพล เมื่อคลุมองค์ทรงล่องหนร่างคนหาย อีกทั้งยาวิเศษกันอันตราย คุณมากมายเลือกใช้ดังใจจง ๏ แม้นจักใช้ในด้านการรักษา ป้องกายาสมตามความประสงค์ ออกฤทธิ์ไล่สิ่งเลวร้ายในแดนดง พึงตั้งจิตจำนงตรงกับการณ์ ๏ และธำมรงค์วงหนึ่งซึ่งมอบไว้ เพื่อเป็นกำลังใจให้พ้นผ่าน อุปสรรคหนักล้นผจญมาร จนข้ามพ้นหิมพานต์อย่างปลอดภัย” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 มกราคม, 2561, 09:26:56 AM ๏ เมื่อรับของสำคัญอันมีค่า จึงวันทาลาเดินทางอีกครั้งใหม่ พระมุนีอำนวยอวยพรชัย “จงโล่งรอดตลอดในหิมวา” ๏ เมื่อผ่าน ณ สระใหญ่อกไห้หวน จิตปั่นป่วนด้วยคิดถึงคะนึงหา “โอ้ยามนี้นวลน้องมโนราห์ จะโศกาหรือสดใสในเวียงวัง ๏ อันรักหญิงจะจริงแท้สักแค่ไหน กาลผ่านไปนานเนิ่นเกินคาดหวัง รักหวานชื่นอาจขื่นขมชมกลับชัง ลืมความหลังหมดค่าหาใหม่ครอง” ๏ วางกังวลด้นไปกลางไพรพฤกษ์ หมู่มฤคแน่นหนาตาแลจ้อง มิหลีกลี้หนีไกลชม้ายมอง เพราะทั้งผองมิเคยรู้ฤทธิ์ผู้คน ๏ จึงมีความวางใจในมนุษย์ จิตพิศุทธิ์อยู่ในฝ่ายกุศล หากพบพานผู้มีมารครองกมล หนีไม่พ้นตกภาวะอันตราย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 27 มกราคม, 2561, 09:27:42 AM ๏ หมู่วิหคนกกาถลาร่อน พนาดอนอุดมสมบูรณ์หลาย พระชมเพลินเดินพลางเยื้องย่างกราย เพราะหนทางยังสบายไร้ภัยพาล ๏ ผลไม้ที่รู้จักมากอักโข ลูกใหญ่โตสุกสดรสฉ่ำหวาน ลิ้มชิมไปไม่เสาะหาเวลานาน เท่าที่ผ่านค่อยกินเติมเพิ่มแรงกาย ๏ ตะวันรอนนอนค้างกลางไพรสณฑ์ เช้าดั้นด้นฝ่าดงดอนก่อนจะสาย ขึ้นแล้วลงกูฏผามามากมาย ยังเร่ร่ายพงไพรไม่ร้างรา ๏ กำลังเดินเพลินป่าน่าฉงน มาพบคนดักทางอยู่ข้างหน้า ดีใจนักทักถามความเป็นมา “ท่านพักค้างอยู่กลางป่าหรือว่าไร” ๏ มิคุ้นหูยินอู้อี้ทีตอบรับ เป็นคำศัพท์สำเนียงเสียงแปลกใหม่ พร้อมทีท่าภาษากายขยายนัย ว่าชวนไปพำนักพักที่ตน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 มกราคม, 2561, 09:42:30 AM ๏ โต้ตอบกันมินานกลับปรับภาษา เจรจารู้เรื่องดีพอมีผล ว่าเดินดงหลงป่ามาไกลล้น เคยเป็นชนปาติกะนครมา ๏ คะยั้นคะยอให้ไปที่พัก พระสุธนคิดหนักอยู่นักหนา แลไฉนไยหลบมิสบตา เรียน“ไตรเพท”“พระเวท”มาหาเคยยิน ๏ นามบุรีที่ว่าจากมานั้น ข้อสำคัญประมวลเอาเค้าทั้งสิ้น หรือ “ผีโป่ง ผีป่า”ออกหากิน จบถวิลหยิบพรหมาสตร์ฟาดลงพลัน ๏ แต่ยั้งไว้มิได้จ้องปองชีวิต คนป่าแท้แค่สะกิดให้กายหัน แต่ร่างกลับลับหายกลายเป็นควัน ร้องเสียงสั่นโหยหวนทวนลมไป ๏ พระสุธนเห็นผลมีดังที่คิด สงบจิตแผ่เมตตากลางป่าใหญ่ โอปปาติกะอมนุษย์ใด ขอต่างคนต่างครรไลไม่บีฑา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 มกราคม, 2561, 09:43:22 AM ๏ ล่วงถึงแนววนาลีแปลกสีสัน ดูเงียบงันมิเคลื่อนไหวไร้สัตว์ป่า พ้นขอบคันพันธุ์ชัฏเห็นขัดตา หยุดเพ่งพิจารณานิ่งอยู่นาน ๏ นี่คงถึงซึ่งนิเวศเขตไม้พิษ ต้องพินิจก่อนหาเป็นอาหาร ตาคนเรามิเท่าทันสัญชาตญาณ วานรชาญด้วยใช้เลี้ยงกายมา ๏ ดั่งพรานไพรได้สอนขั้นตอนชัด ถึงวาระปฏิบัติเหมือนดังว่า จึงย้อนรอยถอยสู่ถิ่นพสุธา มากพฤกษาอุดมดีมิมีภัย ๏ หยุดยั้งลงตรงโคนต้นหว้าดก มีทั้งนกลิงกังค่างฝูงใหญ่ ตัดหวายเหลาเอาทำบ่วงทันใด ย่องขึ้นไปจดจ้องคล้องลิงน้อย ๏ ตัวแรก สอง สาม สี่ที่คล้องนั้น เสียงร้องลั่นวิ่งวนจนต้องปล่อย พอถึงตัวที่ห้าน้ำตาย้อย กลัวจนหงอยนิ่งงันสะท้านกาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 29 มกราคม, 2561, 09:44:09 AM ๏ พระสุธนจับตัวลูบหัวหลัง ก็เชื่อฟังคำกันเหมือนมั่นหมาย ร่วมครรไลให้นั่งยังบ่าซ้าย จึงเคลื่อนย้ายเดินหน้าฝ่าดงดำ ๏ เงียบสงัดสัตว์น้อยใหญ่ไม่พบเห็น ดูเยือกเย็นแต่ใจไม่ชื่นฉ่ำ ชวนตระหนกอกระทึกความลึกล้ำ ต้องเดินย่ำแต่ละย่างระวังระไว ๏ ผลาผลหล่นและลูกสุกเต็มกิ่ง วานรนิ่งจะไขว่คว้าก็หาไม่ พระสุธนดั้นด้นฝ่าพนาลัย แวะต้นไหนวานรเมินต้องเดินพ้น ๏ สัญจรนานตะวันบ่ายจวนใกล้ค่ำ ถึงธารน้ำเห็นลูกไม้มากหลายต้น ลิงโดดลงจากบ่าสาละวน เก็บเอาผลมากินด้วยยินดี ๏ เลี้ยงชีวิตมิผิดแปลกแยกคนสัตว์ กิจวัตรกินภักษาคือหน้าที่ มากน้อยบ้างพอประทังยังชีวี และเพื่อมีพลังกายไม่อ่อนแอ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 มกราคม, 2561, 09:48:30 AM ๏ เมื่ออิ่มหนำสำราญกันทั้งสอง เห็นควรต้องพักแถวนี้คงดีแน่ มิต้องหาเรื่องอาหารพานเชือนแช มื้อเช้าแลยังได้ตะพายไป ๏ ป่าอาถรรพ์ผ่านพ้นอีกหนหนึ่ง บรรลุถึงซึ่งนทีที่กว้างใหญ่ ไม้ผลย้อยห้อยระย้าสุดตาไกล สัตว์นานาคลาคล่ำในผืนไพรวัลย์ ๏ พระสุธนดีใจได้ปลดปล่อย เจ้าลิงน้อยมิอยากไกลให้เหหัน แต่ด้วยต่างภาษาพูดจากัน แม้ผูกพันจำร้างแยกทางจร ๏ มุ่งดั้นด้นแดนดงลงน้ำท่า ขึ้นเนินผาข้ามหลายปลายสิงขร ตะวันมาพากายย่างค่ำค้างนอน ยังแรมรอนมิราร้างความตั้งใจ ๏ จนมาถึงเห็นซึ่งหน้าป่าหวายกรด น้ำพิษหยดจากปลายหนามดินคล้ำไหม้ ควันเหม็นคลุ้งพลุ่งกระเซ็นเป็นเปลวไฟ จะฝ่าด่านประการใดใจกังวล หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 มกราคม, 2561, 09:49:41 AM ๏ ยาวิเศษชโลมกายร่ายพจน์ว่า “พึ่งบุญญาบารมีฤดีกุศล” คลุมกายาด้วยผ้ารัตกัมพล ออกดั้นด้นฝ่าดงมุ่งตรงไป ๏ มิคิดหวั่นพรั่นภัยไม่หยุดยั้ง พุ่งไปดังลูกธนูสู่แดนใหม่ เมื่อสมาธิมั่นมิหวั่นใด ผ่านพงไพรวิบัติอัศจรรย์ ๏ หลายทิวาราตรีมิอาจนับ ต้องรุกรับนานาภัยกลางไพรสัณฑ์ มาถึงที่นทีขวางหนทางตัน สระอนันต์ปานสมุทรไกลสุดตา ๏ คิดอยู่นานการจะข้ามทำไฉน เริ่มหนักใจยินอึงอลบนเวหา เห็นช้างบินฝูงใหญ่ได้มุ่งมา จึงเอาผ้ารัตกัมพลคลุมตนพลัน ๏ สัตว์นานาชายวารินที่กินน้ำ ต่างรีบจ้ำหนีไปด้วยใจพรั่น ฝูงหัสดีลิงค์ดิ่งลงทัน จับสัตว์กันได้ถ้วนทั่วทุกตัวตน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 30 มกราคม, 2561, 09:50:38 AM ๏ กำลังกลัวตัวหนึ่งตรงลงมาชิด จับพระสุธนติดเหินเวหน จำนิ่งไว้ไม่เสียงดังแม้กังวล บินข้ามพ้นสู่ไพรไกลคงคา ๏ แล้วร่อนลงตรงสถานลานหินใหญ่ คงหมายใจไว้จักกินภักษา ปรบมือร้องก้องดังทั้งสามลา วิหคใหญ่ไอยราขึ้นฟ้าจร ๏ โอ้หนทางห่างไกลมากยิ่งนักหนา มีหลายคราอิดโรยแรงโหยอ่อน ยากคะเนเวลาพนาดร มิม้วยมรณ์เสียงกลางทางจักย่างไป ๏ ฝ่าดงดานมั่นกมลมิย่นย่อ ดวงฤดียามที่ท้อหรือหวั่นไหว ธำมรงค์มโนราห์มอบมาไว้ แนบหทัยคลายเหงาเศร้าแดเดียว ๏ มาถึงแดนสัปปะ* อสรพิษ มากชนิดสีมิซ้ำดำ เหลือง เขียว บ้างรัดกันพันกายเป็นสายเกลียว แลบลิ้นหว่างกลางเขี้ยวชะงุ้มงอน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 31 มกราคม, 2561, 10:32:37 AM ๏ พญาแผ่แม่เบี้ยราวเท่าใบตาล รุ่นลูกหลานมากมายคล้ายหมู่หนอน ส่งเสียงขู่ฟู่ฟ่อคอโยกคลอน ขยักขย่อนท่าขัดขวางหนทางนี้ ๏ พระสุธนโปรยยาตามวาตะ เมื่อปะทะงูเล็กร้อนต้องจรหนี ตัวพญากล้าแกร่งกำแหงดี ชาตินาคีมิระย่อต่อมนุษย์ ๏ จึงต้องใช้ปลายดาบออกปราบสู้ จนได้รู้คือผู้พ่ายในที่สุด พระสุธนโจนไปหน้าฝ่าเร็วรุด หมู่อหิ* มิอาจหยุดพระฤทธา ๏ เมื่อผ่านพ้นภัยร้ายผ่อนคลายบ้าง เดินไปพลางดอมดมชมพฤกษา ลำดวนดง ชงโค ตะโก มะกา จิก จำปี จำปา แก้ว กันเกรา ๏ สัตตบรรณ กระบาก บุนนาค ตะแบก พันธุ์ไม้แปลกพวกเฟิร์น ปาล์ม งามหลายเหล่า พะยูง ยางสล้างไปในลำเนา เกต สาละ กระเบา ตะเคียน แค หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 31 มกราคม, 2561, 10:33:22 AM ๏ หอมบุปผามาลีสักกี่ป่า พ่ายกลิ่นปรางมโนราห์น้องข้าแน่ ชมเพียงผ่านมิซ่านซึ้งตะลึงแล กลางดวงแดร้อนด้วยรักที่พรากไกล ๏ “โอ้รักเอ๋ยยามเชยชมสุขสมล้น เมื่อรักพรากจากกมลทนทุกข์ใหญ่ มีแต่ความห่วงหาเศร้าอาลัย ร้าวทรวงในเกินจะคณนา ๏ เชื่อมั่นนักมโนราห์คราจำพราก คงทุกข์มากคิดถึงคะนึงหา อเนกวิธ* จิตประหวัดภัสดา อยากให้น้องรู้ว่าพี่มาตาม” ๏ รำพึงถึงมเหสีที่แสนรัก อุปสรรคใดขวางทางจะข้าม ไกลแสนไกลไม่เหนือกว่าพยายาม น้อมนำความรักเติมเพิ่มพลัง ๏ ทุ่มเทแรงใจกายให้เต็มที่ ตราบมิสิ้นชีวียังมีหวัง แม้นปลายทางห่างไกลไม่หยุดยั้ง ต้องถึงดังใจหมายได้สักวัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 31 มกราคม, 2561, 10:34:00 AM ๏ หยุดผงะเงาทะมึนยืนจังก้า แหงนมองดูรู้พญายักษ์ปักหลั่น สูงราวเจ็ดชั่วลำตาลพาลกุมภัณฑ์ เพียงมองผ่านกายปานกันทรากร* ๏ ขวาถือขวานประมาณว่าฝาเรือนฟาก ซ้ายถือสากเหล็กยาวเท่าไม้ขอน ดวงตาแดงดุจแสงอาทิตย์ร้อน กายโยกคลอนประหนึ่งว่าตั้งท่ารบ ๏ พระสุธนรณฤทธิ์ครุ่นคิดว่า หากเข่นฆ่าก่อเวรไปไม่รู้จบ หยิบธนูน้อยทายาศักรภพน์* หวังสยบฤทธาพญายักษ์ ๏ ศรเพียงดอกปล่อยออกให้เสียบใบหู ทั้งยืนอยู่ล้มทันทีมิมีหลัก สลบไปไร้ลีลาอาการชัก ทรลักษณ์ทั้งกายไร้สิ่งดี ๏ พระสุธนขึ้นบนกายเดินไปหน้า จนถึงเศียรยักษาอย่างเร็วรี่ กระโดดลงตรงไปในพงพี จรลีมิผันหน้ากลับมามอง หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2561, 08:40:03 AM ๏ ผ่านมากมายหลายป่าพนาเวศ พบแต่เหตุขัดขวางทางมิคล่อง จำประจันฝ่าฟันไปดั่งใจปอง อกร่ำร้องคะนึงถึงปลายทาง ๏ เมื่อค่ำลงคงพำนักเป็นหลักมั่น ใช้ชีวันเยี่ยงคนป่ามาทุกอย่าง ดงกันดารเห็นตะวันเพียงเลือนราง กาลผ่านไปในท่ามกลางหิมวา ๏ มิรู้วันผันผ่านนานแค่ไหน ยังเร่ร่อนจรในไพรพฤกษา ร้อนฝนหนาวก้าวผ่านวารเวลา วนเวียนมาวัสสานะ*เกินระกำ ๏ น้ำชุ่มโชกโกรกกายาคราฝนหนัก ต้องหยุดพักกลางวันมิทันค่ำ เมื่อเมฆฝนหม่นฟ้านภาคล้ำ ทั่ววนามามืดงำไพรอำพราง ๏ พิรุณหนักพักค้างท่ามกลางฝน พระสุธนเคลิ้มไปอยู่ในห้าง สะดุ้งตื่นขึ้นมาถึงตาค้าง เห็นฝูงกวางแปลกตา พานรมฤค* หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2561, 08:40:53 AM ๏ เหลียวไปมาขวาซ้าย ฤๅในฝัน หายงงงันขยี้ตาว่ารู้สึก แลกิเลนวิ่งไล่กันมันคงคึก สัตว์พิลึกพันทางช้างกระทิง ๏ เสือ ม้า ควายกายประหลาดสัตว์ประสม น่าชื่นชมลายศิลป์ เกสรสิงห์* อีก กบิลปักษา* นภาลิง สัตว์หลายสิ่งมีปีกเหินเดินเมฆา ๏ พอฝนซาฟ้าใสทั้งหลายสงัด เห็นแต่สัตว์สามัญอันครองป่า ออกเดินทางยังไม่ย่ำสนธยา เร่งเวลามิอยากพักอยู่นาน ๏ ประลุแดนแสนสนั่นลั่นระทึก พบเห็นศึกลองกำลังสองช้างสาร จอมฉัททันต์อันใหญ่โตมโหฬาร มารอนราญรุกรับสลับกัน ๏ เหล่าสุมทุมมิทานช้างสารเหยียบ หักราบเรียบเรี่ยราดขาดสะบั้น ดูท่าทีมิลดละการประจัญ แม้นฝ่าฟันเข้าไปคงไม่ดี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2561, 08:41:51 AM ๏ มิอยากผลาญราญรอนใช้ศรศิลป์ ยิงผ่านหน้าคชินทร์สู่ไพรศรี กัมปนาทก้องฟ้าวนาลี ในทันทีสองช้างแยกทางจร ๏ จึงเดินหน้าฝ่าไปในดงยับ ที่ล้มทับกันมากมายเศษไม้ขอน ขึ้นเขาเขินเนินผาข้ามสาคร จนแรมรอนถึงโอฆะทะเลวน ๏ เห็นงูยักษ์ตัวยาวจ้าวละหาน ทอดกายเป็นเช่นสะพานอยู่กลางหน พระครุ่นคิดพินิจดูจึงรู้กล อันสัตว์ใดจรดลบนหลังงู ๏ ถึงหัวที่อยู่ทางฝั่งกระโน้น ลงแล้วโดนลิ้นตวัดรัดกายอยู่ ลากเหยื่อลงคอพลันมิทันรู้ ว่าเป็นผู้หลงเล่ห์เพทุบาย ๏ เดินขึ้นหลังย่างไปด้วยใจมั่น ตอนลงนั้นกระโดดไกลไม่เสียหาย พร้อมทั้งถือดาบมั่นป้องกันกาย ถ้างูร้ายลิ้นกระหวัดตัดทันที หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2561, 09:40:00 AM ๏ เดินข้ามได้เหมือนดังตั้งประสงค์ กระโดดลงไกลจนพ้นรัศมี ลิ้นมิถึงขาดเพียงหนึ่งองคุลี ปลอดภัยดีจนลุแดนแสนอัตคัด ๏ เกินชำแรกแทรกกายเข้าไปได้ มวลหมู่ไม้ยัดเยียดเสียดขนัด ทั้งแนวผาซ้อนผากลางป่าชัฏ สุดเลาะลัดเข้าไปในวนา ๏ ต้องแผลงศรศิลป์ชัยในครานี้ ทะลวงไปในถิ่นที่ ณ เบื้องหน้า เกิดเป็นปล่องช่องทางสร้างมรรคา อุโมงค์รูภูผาให้ฝ่าไป ๏ ถึงคีรีมีพลังอย่างมหันต์ สองลูกเข้ากระทบกันดินสั่นไหว สะเก็ดหินบินว่อนเป็นฟอนไฟ มีกลิ่นไหม้ฟุ้งตลบจนอบอวล ๏ ศรศิลป์ชัยในยามจำเป็นใช้ สมฤทัยทำลายได้ครบถ้วน เหมือนจำนงมุ่งตรงไปไม่เรรวน สิ่งกีดขวางทั้งมวลล้วนมายา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2561, 09:40:50 AM ๏ เย็นวันหนึ่งถึงวนาโอฬารึก แลพิลึกยิ่งนักยักษ์พฤกษา ลำต้นใหญ่สูงเยี่ยมเทียมเมฆา สนธยาเตรียมพักค้างกลางดงดอน ๏ พลันยลยินสัตว์บินได้ใหญ่คับฟ้า บินตรงมาเหนือเวหนเวียนวนว่อน เหมือนสอดส่ายสายตามองหาคอน ป่าโยกคลอนด้วยปีกสัตว์สะบัดลม ๏ แม้บินได้กายผิดแผกแปลกปักษิน ส่วนกายินสารพัดสัตว์ประสม ตัวเท่าเรือนเหมือนเหินฟ้าด้วยอาคม มิน่าชมราคินทั่วอินทรีย์ ๏ บินวนอยู่หมู่ปักษาหารือได้ เสียงส่วนใหญ่ว่าตั้งหลักพักที่นี่ เช้าวันพรุ่งมุ่งไกรลาสราชคีรี คงพอดีหนึ่งวันบินกันไป ๏ พระสุธนกุศลชูรู้สาระ ฤๅเทวะเบื้องบนดลมาให้ พบหนทางที่หวังมุ่งสู่กรุงไกร โดยอาศัยนกยักษ์พำนักกาย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2561, 09:41:42 AM ๏ คิดดังนั้นพลันปีนป่ายต้นไม้ยักษ์ สูงยิ่งนักพักหลายหนจนเหนื่อยหาย ย่ำค่ำลงพอดีถึงที่ปลาย ค่อยย่องย้ายเข้าหากายานก ๏ แล้วแทรกกายเข้าไปในกลุ่มขน ผูกรัดตนแน่นหนาแถวหน้าอก เสมือนว่าอาศัยในชัฏรก มีกอกกหญ้าไซให้เหนี่ยวรั้ง ๏ นกผัวเมียเคลียคลอแล้วท้อถ้อย* “อันพวกเรานับร้อยคอยความหวัง บินทางไกลสู่ไกรลาสราชวัง นั้นด้วยตั้งใจปองกินของพลี ๏ เหตุแห่งความตามนั้นหรือไฉน ภักษาอื่นดาษดื่นไปกลางไพรศรี นึกมิน่าพากันไปในธานี หรือยังมีความสำคัญประการใด” ๏ นกเมียถามความให้ไขปัญหา “องค์ราชาจัดให้มีพิธีใหญ่ รับขวัญลูกมโนราห์เคยลาไกล อยู่ที่ในเมืองมนุษย์เนิ่นนานครัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 กุมภาพันธ์, 2561, 08:49:55 AM ๏ ด้วยรังเกียจกลิ่นอายกายมนุษย์ ให้ยั้งหยุดชำระกายใกล้วังนั่น ครบเจ็ดปีเจ็ดเดือนกับเจ็ดวัน จึงจัดงานรับขวัญมโนราห์ ๏ ขนบแห่งหิมพานต์ชานไกรลาส เมื่อมีราชพิธีดังที่ว่า เหล่าเทวะ อมนุษย์ ครุฑ นาคา เหลือคณาสัตว์สมร่างต่างพันธุ์พงศ์ ๏ ร่วมพิธีพลีทานการฉลอง เนื่องสนองวโรกาสราชประสงค์ เราจึงควรสืบสานให้มั่นคง เพื่อดำรงสัมพันธ์อันยาวนาน” ๏ พระสุธนยลยินนัยใจระทึก หวนรำลึก “เกือบแปดปีที่พ้นผ่าน ผจญภัยอยู่ในแดนแสนกันดาร จากถิ่นฐานบิดรและมารดา ๏ โอ้เราหลงอนงค์หนึ่งถึงเพียงนี้ เฝ้าโศกีร้องร่ำคร่ำครวญหา ทิ้งบุพการีที่เกิดมา ตามชายามิสักนิดคิดชีวัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 กุมภาพันธ์, 2561, 08:50:55 AM ๏ หากพบภยันตรายมลายล้ม กระดูกถมจมดินถิ่นไพรสัณฑ์ มิมีคนส่งข่าวคราวถึงกัน กาลผ่านผันสวาทแปรไม่แน่นอน ๏ โอ้ใครเล่าเฝ้าโหยหาโศกอาลัย ความห่างไกลทำให้เลือนไม่เหมือนก่อน แต่บิดามารดาคงอาวรณ์ อกสะท้อนอนิจจามิน่าเลย ๏ เวรกรรมใดดลบันดาลในการณ์นี้ ร้ายหรือดีต่อไปใครเฉลย คิดขึ้นมาน่าละเหี่ยเสียจริงเอย” ลมรำเพยยินคำพระรำพัน ๏ เกิดฉุกคิดสะกิดใจ “กระไรหนา ดั้นด้นมาจนใกล้ชายเขตขัณฑ์ คิดใจน้อยปล่อยวางเสียกลางคัน ทิ้งคืนวันที่ฟันฝ่ามาเปล่าดาย ๏ พึงสรรค์สร้างพลังใจให้แน่วแน่ ใกล้แล้วแท้พรุ่งนี้ถึงที่หมาย” เมื่อคิดตกพร้อมนกนอนพักผ่อนกาย จิตวุ่นวายสงบไปในนิทรา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 03 กุมภาพันธ์, 2561, 08:51:41 AM ๏ รอจนรุ่งสุริยาฟ้าแจ่มใส กลุ่มนกใหญ่จากคอนร่อนถลา บินวนอยู่จนหมู่พร้อมจอมพญา ออกนำหน้ามุ่งไกรลาสราชธานี ๏ เร่งเต็มฤทธิ์ติดลมบนด้นเวหา ข้ามเมฆาอย่างเจนจบนภวิถี สุริยันมิทันลับกับคีรี ร่อนลงที่พนาเวศเขตกรุงไกร ๏ พระสุธนเร้นตนพรากออกจากอก โดยที่นกจะนำพาก็หาไม่ ด้วยบุตรากายินเช่นริ้นไร ซึ่งอาศัยเกาะกินเคยชินมา ๏ ทรงมุ่งสู่หมู่ไม้ใกล้สระน้ำ ที่งามล้ำมาลีวัลย์พันธุ์บุปผา ขอหยุดยั้งตั้งหลักสักเพลา ก่อนคิดหาทางต่อไปฉันใดกัน ๏ กรุงไกรลาสประกาศจัดงานใหญ่ ตามฤกษ์ชัยประเดิมเฉลิมขวัญ ชาวนครต้อนรับกลับพงศ์พันธุ์ ราชบุตรีคนสำคัญสิ้นราคี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2561, 09:13:33 AM ๏ เมื่อชำระสนานธารสวรรค์ ครบเจ็ดปี เดือน วันคืนศักดิ์ศรี แขกเหรื่อทุกเหล่ามาเต็มธานี ร่วมพิธีรับขวัญกัลยา ๏ ฝ่ายสาวใช้ห้าร้อยนางตั้งแถวพร้อม มีกระออมถ้วนทุกนางวางเกศา ด้วยล้วนมีหน้าที่หลักตักคงคา สรงให้น้องมโนราห์วันสุดท้าย ๏ นางทั้งหมู่สู่คงคาในครานั้น พูดคุยกันครึกครื้นชื่นมื่นหลาย รับหน้าที่เดือนปีผ่านนานมากมาย เสร็จสมหมายบารนีจึงดีใจ ๏ พระสุธนสนใจอยู่รู้สาระ ใคร่ครวญจะน้อมนำทำไฉน ฝากอนงค์ส่งสารประการใด เมื่อสาวใช้ท้ายสุดจะรุดจร ๏ จึงตั้งจิตอธิษฐานว่า “หากบุญญาข้านี้มีมาก่อน กระออมท้ายหมายใจให้บังอร แรงสองกรยกมิไหวดั่งใจจง” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2561, 09:14:49 AM ๏ แลสาวใช้ท้ายสุดต้องหยุดยั้ง มิยกน้ำตามไปดังตั้งประสงค์ ฝืนแรงกายหลายครั้งนั่งงวยงง “นี่เราคงอ่อนล้าหรือว่าไร” ๏ พระสุธนเห็นดังนั้นพลันไปหา เอ่ยวาจาสอบถามย้ำความใหม่ ยินคดีตามที่เคยเปรยกันไว้ นางขอให้ยกช่วยจึงอวยการ ๏ พร้อมทั้งนำธำมรงค์ใส่ลงหม้อ ตั้งจิตขอธำมรงค์ช่วยส่งสาร “ภัสดามาถึงซึ่งสายธาร ยอดดวงมานรับสวาทหรือตัดรอน” ๏ ทูนกระออมพร้อมไปโดยไม่ช้า กลัวจะล่าโนราห์น้องต้องรอหล่อน รีบสาวเท้าก้าวย่างร่างโยกคลอน ถึงเมื่อตอนเพื่อนสรงผ่านมินานมา ๏ จึงรีบเทน้ำลงสรงโดยไว น้ำรินไหลธำมรงค์ลงหัตถา ณ บัดนั้นพลันนางมโนราห์ ชื่นชีวาดุจพบพระสวามี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 05 กุมภาพันธ์, 2561, 09:15:37 AM ๏ ด้วยยังจำธำมรงค์ได้คงมั่น ในครานั้นฝากสาระพระฤษี พร้อมทั้งพระธำมรงค์หนึ่งวงนี้ ณ กุฎีที่ริมหิมพานต์ ๏ สำเร็จงามตามประสงค์จำนงหมาย อันตรายทั้งปวงล่วงพ้นผ่าน ด้วยเดชะพระกุศลดลบันดาล มิเนิ่นนานคงมาพบหน้ากัน ๏ แสนดีใจได้ชื่นชมสุขสมหวัง จึงรับสั่งเรียกสาวใช้คนท้ายนั่น มาซักไซ้ใจความที่สำคัญ เหตุผกผันอันใดให้มาช้า ๏ สาวใช้ทูลธิดากายาสั่น คิดว่าโดนลงทัณฑ์แน่นักหนา น้ำตาคลอ “ขอเดชะพระธิดา ก่อนจะมาจากสระช่างกระไร ๏ ยกกระออมน้ำนั้นชำนาญล้น เพียงหนึ่งคนขึ้นทูนหัวหากลัวไม่ แต่วันนี้หนักยิ่งหนาน่าแปลกใจ ยกมิไหวหลายคราพยายาม หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 กุมภาพันธ์, 2561, 09:17:38 AM ๏ มาณพหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้ได้มาหา กล่าววาจาทักทายแล้วไต่ถาม ฉันตอบถ้อยวาทีมีใจความ แท้จริงตามเป็นไปไม่ปิดบัง ๏ วานช่วยยกกระออมมิปฏิเสธ นี่คือเหตุให้ล่ามาแต่หลัง ขอประทานอภัยอย่าได้ชัง ที่พลาดพลั้งมิจงใจให้เสียการ” ๏ “อย่าตระหนกตกใจมิได้ว่า คิดโกรธาแค่ขอให้เล่าขาน เพียงอยากรู้ผู้ที่เธอพบพาน มีรูปพรรณสัณฐานเป็นฉันใด ๏ แลถ้อยคำน้ำเสียงสำเนียงนั้น เป็นคนธรรพ์ กินรา เทวาไฉน การแต่งกายได้เห็นเป็นเช่นไร มีหรือไม่อาวุธนำประจำกาย” ๏ “ หนุ่มรูปงามตามที่เห็นเช่นคนป่า มิใช่กินราเราทั้งหลาย ครุฑ คนธรรพ์ เทวาหน้าตาคล้าย ยิ้มพริ้มพรายแต่ภูษาคร่ำคร่านัก หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 กุมภาพันธ์, 2561, 09:18:22 AM ๏ ธนูศรศาสตราน่าเรืองฤทธิ์ ทว่าผิดไปจากผู้เคยรู้จัก เป็นมนุษย์ นาคา พญายักษ์ มิรู้ความจะถามทักกลัวชักช้า” ๏ มโนราห์ยินว่าพลันมั่นใจล้น พระสุธนจริงแท้แน่นักหนา จึงเรียกเหล่าสาวใช้ทั้งหลายมา “ช่วยจัดหาเครื่องทรงวงศ์ราชัน ๏ เครื่องชำระพระกายินประทิ่นหอม จนพรักพร้อมสิ่งอำนวยอวยสุขสันต์ ภักษาหารอันเอมโอชโภชภัณฑ์ เลือกดีเยี่ยมเทียมชั้นราชวงศ์ ๏ เชิญทรงชัยไปพักปรางค์กลางสวนศรี ทุกสิ่งที่ท่านปองสนองประสงค์ ขอให้ทำตามนั้นเป็นมั่นคง สิ่งจำนงทุกนางจงตั้งใจ” ๏ รอคืนวันมั่นหมายได้พบหน้า จักรีบร้อนก่อนเวลาหาควรไม่ ฤกษ์ยามดีเข้าพิธี ณ วังใน จึงทูลให้สองพระองค์ทรงรู้ความ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 06 กุมภาพันธ์, 2561, 09:21:21 AM ๏ ครั้นรุ่งแจ้งแสงทองส่องขอบฟ้า กองพหลพลโยธามาล้นหลาม พระเสลี่ยงทองคำเลิศล้ำงาม ขบวนตามแห่แหนแน่นมรรคา ๏ ราชยานท่านท้าวทุมราช ผ่องโสภาดารดาษพรรณบุปผา พระนางจันท์กินรีเคียงคู่มา รับนวลน้องมโนราห์เข้าวังใน ๏ มโนราห์ขึ้นพระเสลี่ยงทอง เข้าสู่กองโยธายาตราใหญ่ เสียงไชโยมโหระทึกกึกก้องไป เข้าเวียงชัยสู่ท้องพระโรงพิธี ๏ ผู้ร่วมงานละลานตาแน่นหนานัก หลายเผ่าพงศ์ดำรงรักเป็นสักขี ล้วนผูกพันสรรค์สนิทมิตรไมตรี สามัคคีสรรพชีวาประชาคม ๏ มโนราห์กราบบิดาพระมารดร พร้อมรับพรกาลต่อไปให้สุขสม เจิมนลาฏมงคลน้ำมนต์พรม พระพี่นางต่างชื่นชมผูกพระกร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 กุมภาพันธ์, 2561, 10:04:55 AM ๏ มีจังหวะมโนราห์ทูลราชัน “สวามีกระหม่อมฉันพระทรงศร เสด็จถึงซึ่งไกรลาสมหานคร ขอวิงวอนพระบิดาโปรดปรานี” ๏ ฉงนจิตพระบิดรพระมารดา สองหันสบนัยนาถอนใจถี่ คิดกันว่าไร้สาระในวจี เธอคิดถึงสวามีจนพร่ำเพ้อ ๏ ตรัสเรียกเหล่าสาวใช้ทั้งหลายเฝ้า “มีไหมเล่าคนแปลกหน้าอย่าเพ้อเจ้อ” เมื่อสาวใช้ได้ทูลความตามพบเจอ จนท้าวเธอเชื่อความตามเป็นจริง ๏ คะนึงครวญชวนสงสัยชนในหล้า ข้ามวนหิมวามายากยิ่ง ผู้ที่รักแรมไกลไม่ทอดทิ้ง ผ่านเสือสิงห์มหันต์ภัยทั้งหลายมา ๏ คุณลักษณะเหนือมนุษย์ ทั้งเชิงยุทธ์ฤทธิ์แรงต้องแกร่งกล้า ฉงนใจอยากจะได้พบหน้าตา ชมบุญญาบารมีดีฉันใด หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 กุมภาพันธ์, 2561, 10:06:45 AM ๏ รับสั่งให้มโนราห์“หลบหน้าก่อน อยู่ปรางค์ในนครอย่าไปไหน จะพิสูจน์ราชบุตราผู้มาไกล เริ่มซักไซ้ถึงเหตุเจตนา ๏ ให้สำแดงฤดีภาคีประจักษ์ คุณลักษณ์ฤทธิไกรไฉนหนา เห็นสมศักดิ์คู่ลูกรักมโนราห์ จักบัญชาไปตามความสมควร” ๏ แล้วประกาศต่อหน้าธารกำนัล เชิญชวนกันเป็นสักขีให้อีกส่วน เหล่าแขกเหรื่อเอื้อให้จึงได้ชวน ตั้งกระบวนย้ายมาหน้าพระลาน ๏ ท้าวปทุมราชประกาศว่า “มีหนึ่งมนุษย์มาถึงสถาน พยายามข้ามวนหิมพานต์ พิสดารก่อนไรไม่เคยมี ๏ ซึ่งมโนราห์นั้นยืนยันชัด เขาคือภัสดามารศรี ราชบุตราแห่งปัญจาละบุรี อยากเห็นหน้าฟังพาทีมีฉันใด” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 07 กุมภาพันธ์, 2561, 10:07:42 AM ๏ รับสั่งให้มโนราห์“หลบหน้าก่อน อยู่ปรางค์ในนครอย่าไปไหน จะพิสูจน์ราชบุตราผู้มาไกล เริ่มซักไซ้ถึงเหตุเจตนา ๏ ให้สำแดงฤดีภาคีประจักษ์ คุณลักษณ์ฤทธิไกรไฉนหนา เห็นสมศักดิ์คู่ลูกรักมโนราห์ จักบัญชาไปตามความสมควร” ๏ แล้วประกาศต่อหน้าธารกำนัล เชิญชวนกันเป็นสักขีให้อีกส่วน เหล่าแขกเหรื่อเอื้อให้จึงได้ชวน ตั้งกระบวนย้ายมาหน้าพระลาน ๏ ท้าวปทุมราชประกาศว่า “มีหนึ่งมนุษย์มาถึงสถาน พยายามข้ามวนหิมพานต์ พิสดารก่อนไรไม่เคยมี ๏ ซึ่งมโนราห์นั้นยืนยันชัด เขาคือภัสดามารศรี ราชบุตราแห่งปัญจาละบุรี อยากเห็นหน้าฟังพาทีมีฉันใด” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 กุมภาพันธ์, 2561, 08:47:11 AM ๏ โนราห์น้องต้องหลบลี้หนีภัยร้อน เมื่อหม่อมฉันคืนนครทราบทุกอย่าง รักยังเปี่ยมล้นใจไม่จืดจาง จึงเดินทางเข้าดงมุ่งตรงมา ๏ สู้ดั้นด้นผจญภัยด้วยใจหมาย มิวางวายคืนสัมพันธ์ในวันหน้า ร่วมครองรักชื่นชีวีชั่วชีวา คือสัจจาทั้งปวงจากดวงใจ” ๏ จึงท้าวปทุมราชมีดำรัส “อันจะขัดเคืองฤดีหามีไม่ ผิว่าเราเผ่าพันธุ์ต่างกันไป แต่ก่อนไรมนุษย์กับกินรี ๏ มิเคยชมสมสู่เป็นคู่สอง ร่วมเคียงครองประจักษ์เป็นสักขี เทพ คนธรรพ์ ครุฑาประดามี ว่าบัดสีติฉินนินทากัน ๏ จักพิสูจน์พระบุตราในครานี้ สำแดงกิตติ์ฤทธีให้ลือลั่น แม้นโลกามาประจักษ์ศักดิ์อนันต์ เหล่าเทวัญจักอำนวยอวยพรไซร้” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 กุมภาพันธ์, 2561, 08:48:03 AM ๏ พระสุธนชื่นชอบทูลตอบว่า “จักตามจิตพระบิดาบัญชาให้ หนึ่งหม่อมฉันมั่นจิตฤทธิไกร ศรศิลป์ชัยเลิศในหล้าฟ้าประทาน ๏ สิ่งอันใดไม่อาจยั้งพลังกล้า อำนาจเลื่องลือชามหาศาล จักแผลงให้เห็นฤทธิ์ร้ายทะลายลาญ ของพระองค์ทรงตั้งด่านสกัดกล” ๏ ปทุมราชยินดังนั้นจึงบรรหาร กองโยธาธิการเหล่าพหล เมื่อรับพระบัญชาสาละวน แบกหามขนสิ่งกั้นกางมาวางพลัน ๏ เจ็ดลำตาลนั้นปักรายไปข้างหน้า ห่างกันต้นละวาไม่ลดหลั่น กระดานหนาห้าคืบอีกเจ็ดชั้น ไล่เรียงกันช่องละวาอย่าให้ชิด ๏ ทั้งแผ่นเหล็กแท่งศิลาหนาคัดสรร มาวางกั้นแนวไปให้ติดติด กลัวยังไม่เป็นการต้านทานฤทธิ์ ทรงพินิจเพิ่มเกวียนใหญ่ให้จัดมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 08 กุมภาพันธ์, 2561, 08:48:47 AM ๏ เรียงเป็นแถวแล้วให้ขนทรายใส่ สลับไปกับก้อนกรวดอัดแน่นหนา ละเจ็ดเล่มเต็มตามจินตนา เพื่อทานท้าฤทธิรอนศรศิลป์ชัย ๏ ในครานั้นราชาปทุมราช ทรงประกาศ “ค่ายกลพร้อมทนได้ แม้นศรมีเดชาฝ่าออกไป ย่อมยิ่งใหญ่ฟูเฟื่องโลกเลื่องลือ ๏ จักเป็นที่เคารพกินรา คนธรรพ์ ครุฑ เทวามานับถือ เลิกสนเท่ห์เดชะเกียรติระบือ มิขานชื่อติฉินเที่ยวนินทา” ๏ พระสุธนรับโองการประทานให้ เสด็จสู่หมู่กลไก ณ เบื้องหน้า ทรงตั้งจิตพิษฐาน “กาลก่อนมา สร้างบุญญาใดไว้โปรดได้ดล ๏ การสำแดงเดชาในครานี้ ขอจงมีอิทธิฤทธิ์ประสิทธิผล” จบคำวอนเทวานภามนต์ พระสุธนแผลงศิลป์ชัยออกไปพลัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 กุมภาพันธ์, 2561, 08:51:52 AM ๏ เสียงสนั่นลั่นเลื่อนสะเทือนฟ้า ทะลวงฝ่าทำลายทั้งหลายกั้น ย่อยยับลงเป็นผุยผงและฝุ่นควัน เห็นเป็นที่อัศจรรย์ทุกดวงใจ ๏ ท้าวปทุมราชันนั้นเริงร่า ฤทธิรุทรราชบุตราแสนยิ่งใหญ่ เอ่ยวาจา “บิดาวางฤทัย แลมิใช่กีดกันด้วยฉันทา ๏ มีอีกสิ่งนิ่งนานแต่กาลก่อน มิมีใครทำให้คลอนด้วยแน่นหนา คือบัลลังก์หนักแสนแท่นศิลา จักนำพาโยกย้ายมิได้เลย ๏ หากเจ้ายกย้ายวางได้อย่างว่า ยอมเลื่อมใสในเดชาอย่างผ่าเผย เจ้าจักได้มโนราห์มาชมเชย” สิ้นคำเปรยพระบุตรามุ่งหน้าไป ๏ เมื่อถึงที่แท่นศิลาหน้าพระลาน เริ่มทำการผลักดันมิสั่นไหว จึงตั้งจิตพิษฐานกาลก่อนไร หากบุญญาสร้างมาไซร้ให้บันดาล หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 กุมภาพันธ์, 2561, 08:52:39 AM ๏ เกิดอิทธิพลังดังมั่นหมาย แรงเคลื่อนย้ายแท่นศิลามหาศาล สมดังคิดด้วยกฤษฎาการ ดุจเทวาอภินิหารบันดาลดล ๏ จึงเกิดเสียงแซ่ซ้องร้องสรรเสริญ บุญญาล้ำจำเริญพระกุศล จบพิธีลองฤทธาพระสุธน จึงเริ่มต้นงานฉลองก้องกรุงไกร ๏ และพิธีพลีทานทั้งสิบทิศ มากมวลมิตรต่างวงศ์วานสัมพันธ์ใกล้ มิกีดกันฉันทามารวมใจ อวยพรชัยทุกชีวีด้วยปรีดา ๏ ครั้นเมื่อเสร็จสิ้นงานเช้าวันใหม่ ทรงโปรดให้พระสุธนขึ้นเฝ้าหา เพื่อจะได้พบปะมโนราห์ ก็อย่าช้ารีบผ่านอีกขั้นตอน ๏ ได้ยินคำย้ำความตามเคยว่า “แต่ไรมามิสัมพันธ์กันมาก่อน อยากให้การณ์นั้นถ่องแท้และแน่นอน พระบิดรมิได้แกล้งแหนงฤทัย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 09 กุมภาพันธ์, 2561, 08:53:24 AM ๏ เนิ่นนานมากที่ลูกพรากจากเมียรัก ยังจำพักตร์หรือลืมแล้วไฉน ถ้ายังจำได้แท้มิแปรไป ก็จักได้อภิเษกสมฤดี” ๏ พระสุธนกมลชื่นรื่นนักหนา “ภาพตรึงตราผ่องพริ้มพิมพ์ฉวี ย่อมจำได้ให้เนิ่นกาลนานกี่ปี” จบวาทีท้าวปทุมราชัน ๏ เรียกนางจันท์กินรีมีโองการ “จงรีบไปทำงานขมีขมัน แต่งองค์เจ็ดธิดาโสภาพรรณ เครื่องทรงให้เหมือนกันทั่วสรรพางค์ ๏ เครื่องประดับทับทรวงมณีรัตน์ กำไลหัตถ์ธำมรงค์ไม่ให้แตกต่าง เมื่อแต่งเครื่องทรงเสร็จทั้งเจ็ดนาง จงร่ายรำกันตามอย่างที่เคยมา ๏ สลับพี่น้องไม่ไล่ลำดับ เมื่อเสร็จสรรพให้นั่งอยู่ข้างหน้า โอกาสดีที่สุดพระบุตรา เข้าชี้องค์ชายาที่เคยครอง” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 10 กุมภาพันธ์, 2561, 09:14:09 AM ๏ พระนางจันท์กินรีมิรอช้า รีบไปหาเจ็ดกินรีที่ในห้อง สั่งให้สรงสรรพางค์ที่อ่างทอง แล้วจักต้องแต่งกายให้โสภี ๏ ชุดฟ้อนรำประจำองค์แต่งทรงสรรพ เครื่องประดับมิต่างแบบอย่าง สี ลองทักษะพระสุธนคนต้องชี้ น้องและพี่ไม่ลำดับสลับกัน” ๏ พร้อมทั้งสิ้นกินรีเจ็ดพี่น้อง ออกรำร้องงามทั้งหลายไม่ลดหลั่น พระสุธนฉงนจิตคิดงงงัน แลองค์นี้องค์นั้นมิมั่นใจ ๏ ชมร่ายรำล้ำศิลป์คือปิ่นนาฏ กลัวผิดพลาดหนักฤดีชี้มิได้ จนท่าร่ายรำครบจบลงไป หวนฤทัยอ้างบุญญาบารมี ๏ “หากเราสองคู่ครองแท้แต่ปางก่อน เสน่หาอาวรณ์มิหน่ายหนี ขอเทพไท้เทวาโปรดปรานี แนะชายาข้านี้ชี้องค์ใด หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 10 กุมภาพันธ์, 2561, 09:14:56 AM ๏ ในครานั้นเวชยันต์สะท้านสะเทื้อน ทิฆัมพรร้อนเหมือนจะหมกจะไหม้ ทิพย์อาสน์เคยอุ่นละมุนละไม เหตุไฉนกระด้างระคางระคาย ๏ เทพอนงค์เคยชิดสนิทเสน่ห์ ทำรวนเรเหมือนแกล้งจะแหนงจะหน่าย เกิดความทุกข์รุกรนกระวนกระวาย ทิพย์พิมานนั้นคล้ายทะลายทะลง ๏ จึงสอดส่องทิพย์เนตรประเทศประทับ ได้สดับกรุงไกรลาสประสาทประสงค์ สุธนจะเลือกโนราห์พะว้าพะวง หลากอนงค์เกรงพลาดระหวาดระแวง ๏ หากมิช่วยทรงธรรมจะย่ำจะแย่ เพื่อคู่แท้มิต้องระหองระแหง จึงแปลงองค์ช่วยกษัตริย์ทะมัดทะแมง เป็นแมลงปีกทองคะนองคะนึง ๏ เกาะใบหูแล้วรีบกระซิบกระซาบ “มิหยามหยาบหรือมาทะล่าทะลึ่ง ข้าเกาะผมโนราห์ชัดจะรัดจะรึง ท่านเห็นจึงรีบชี้อย่าพิรี้พิไร” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 10 กุมภาพันธ์, 2561, 09:15:49 AM ๏ พระสุธนเยื้องย่างไปข้างหน้า มองเกศาอนงค์นางองค์ไหน พบแมลงอินทราดั่งว่าไว้ ประจักษ์ใจจึงพิจารณ์สรรพางค์ ๏ แล้วจ้องนัยนาพาซึ้งซ่าน แววรักหวานรับรู้อยู่ทุกอย่าง จึงได้จับหัตถาโนราห์นาง มโนราห์เปลี่ยนท่าทางกราบบาทา ๏ ท้าวปทุมราชโอกาสนี้ แสนยินดีตรัสเรียกให้มาหา บังคมบาทพระบิดรพระมารดา ชื่นชีวาสุขสันต์กันทั้งปวง ๏ ร่วมประโลมชมเชยพ่อเขยขวัญ ต่างตื้นตันฤทัยอย่างใหญ่หลวง ด้วยประจักษ์รักหวานซ่านซึ้งทรวง ดั่งแมนสรวงประทานผู้คู่ฤทัย ๏ มีพระราชโองการจัดงานฉลอง อภิเษกทั้งสองอย่างยิ่งใหญ่ เชิญคนธรรพ์ เทพทั่วฟ้าสุราลัย ผู้เรืองวิทย์ฤทธิไกรในโลกา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 กุมภาพันธ์, 2561, 10:02:18 AM ๏ ครั้นเมื่อถึงวันดีพิธีราช แขกเหรื่อในกรุงไกรลาสมีมากหน้า อวยพรชัยใจนิยมชมเดชา มุทิตาจิตน้อมพร้อมเพรียงกัน ๏ แต่นั้นมามโนราห์ พระสุธน เคียงกมลวันคืนชื่นสุขสันต์ รักที่พรากจากลามานานวัน คืนสัมพันธ์แนบแน่นแสนทวี ๏ ร่วมภิรมย์ชมชิดพิศวาส บุรุษชาติจริตเป็นเช่นอิตถี รื่นในรสเสน่หามิอารดี* สองเปรมปรีดิ์ปลาบปลื้มลืมเวลา ๏ จนวันหนึ่งพระสุธนกังวลจิต เมื่อหวนคิดถึงเวียงชัยอาลัยหา ยิ่งห่วงใยพระบิดรพระมารดา เนิ่นนานมาที่พรากจากกันไกล ๏ จะอยู่ดีมีสุขเกษมศานต์ หรือพบพานโรครุกทุกข์ไฉน หมู่อมิตรติดพันบ้างฉันใด ตกอยู่ในห้วงถวิลมิกินนอน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 กุมภาพันธ์, 2561, 10:03:44 AM ๏ ก่อนจะลาพระมารดรเคยวอนว่า เมื่อพบปะมโนราห์มิ่งสมร ตั้งใจไว้หมายรับกลับนคร มาเนิ่นนานพระมารดรคงรอวัน ๏ เหมือนคำกล่าวเราหลงเมียเสียลืมแม่ อนาถแท้คะนึงครวญชวนโศกศัลย์ คิดจะคืนแว่นแคว้นแสนไกลกัน จรจรัลหิมพานต์กันดารเกิน ๏ จะนำน้องมโนราห์ฝ่าไพรกว้าง หรือให้ใส่ปีกหางเพื่อเหาะเหิน เสมือนต้องแรมร้างแยกทางเดิน กลัวเผชิญโพยภัยเมื่อไกลตา ๏ มโนราห์เห็นท่าทีพระสุธน พลอยกังวลและยังคิดกังขา กระทำผิดพลั้งใดในภัสดา วอนวาจาให้เอ่ยเฉลยนัย ๏ พระสุธนแถลงแจงเหตุผล รำลึกล้นถึงแผ่นดินถิ่นอาศัย พระบิดร มารดาที่ลาไกล ห่วงพระพลานามัยภัยครามครัน หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 12 กุมภาพันธ์, 2561, 10:04:25 AM ๏ หรือมีหมู่ปัจจามิตรคิดฮึกหาญ บิดาท่านชราแรงมิแข็งขัน อาจประชิดพาราท้าโรมรัน ห่วงและหวั่นโพยภัยไปนานา ๏ ตั้งใจนำมโนราห์น้องไปด้วย แต่หวั่นใจจะไปม้วยเสียกลางป่า หิมวันต์นั้นมากมีภัยบีฑา แม้นให้น้องเหินฟ้าไกลตาแล” ๏ “ในข้อนี้ตัวน้องมิข้องจิต น้องก็คิดคะนึงถึงพระแม่ ไปฉันใดน้องตามไปเป็นแน่แท้ มิยอมแน่จะพรากกันจนวันตาย ๏ ขอขึ้นเฝ้าเล่าความตามที่ว่า แก่ทรงฤทธิ์บิดาพระฤๅสาย ท่านอาจช่วยผ่อนผันอันตราย จะเยื้องกรายด้วยดีวิธีใด” ๏ เมื่อขึ้นเฝ้าท้าวปทุมยินวาทะ แทนที่จะทัดทานหาค้านไม่ ครั้นสดับเรื่องราวเข้าพระทัย “การหวนไห้มาตุภูมิรุ่มอุรา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 กุมภาพันธ์, 2561, 08:47:13 AM ๏ ถือเป็นโอกาสดีอย่างที่สุด เมื่อกินนรกับมนุษย์ร่วมวงศา ความสัมพันธ์อันเป็นหนึ่งในโลกา พ่อจักพาญาติพงศ์ไปส่งกัน ๏ การเดินทางย่างไปในพนัส มีสารพัดอุปสรรคที่ดักกั้น จักช่วยให้ได้เดินทางอย่างเทวัญ อย่าคิดหวั่นอันใดในเรื่องนี้” ๏ จึงทรงหยิบพระขรรค์ชัยเลิศในหล้า “พระขรรค์แก้วแววฟ้ารุ่งเรืองศรี ผู้ใดครองปองเหาะเหินเดินเมฆี นภวิถีจรจบได้ดังใจ” ๏ มอบพระขรรค์คู่เวียงชัยกรุงไกรลาส บุรุษชาติผู้ทรงคุณบุญยิ่งใหญ่ พระสุธนวันทาพระภูวไนย น้อมเกล้ารับพระขรรค์ชัยไม่จินต์จล* ๏ เรียนคาถาเทวามนต์จนวิทิต* จึงตั้งจิตเหินไปในเวหน ขึ้นอยู่เหนือเมฆาถลาวน รอบมณฑลไกรลาสนครา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 กุมภาพันธ์, 2561, 08:48:09 AM ๏ แล้วเหาะลงตรงหน้าปทุมราช กราบพระบาทซึ้งคุณอดุลย์ค่า ท้าวปทุมราชันจึงบัญชา กำหนดวันเวลาออกเดินทาง ๏ เชิญชวนญาติพงศ์วงศ์ไกรลาส ถือโอกาสเยี่ยมโลกาโพ้นป่ากว้าง จันท์กินรีพร้อมพี่ทั้งหกนาง ความตั้งใจไม่ต่างขอติดตาม ๏ วันเดินทางพลโยธามาเป็นทัพ ใส่ปีกหางอย่างพร้อมสรรพแลล้นหลาม พระสุธนทรงพระขรรค์แวววรรณงาม ถึงฤกษ์ยามคู่มโนราห์นำหน้าไป ๏ ปทุมราชันและจันท์กินรี พร้อมกลุ่มพี่บินเป็นหมู่อยู่เคียงใกล้ เหล่ากินนรร่วมวงศาออกคลาไคล เป็นกลุ่มใหญ่ดูมืดฟ้ามัวดิน ๏ ค่อนทิวาฝ่าเวหนข้ามพ้นผ่าน เขตวนหิมพานต์สมถวิล พระทรงสั่งยั้งยาตราหน้าธานินทร์ ลงตั้งฐานบนถิ่นอาทิตย์ไผท หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 13 กุมภาพันธ์, 2561, 08:48:55 AM ๏ ร่วมสำแดงฤทธามหามนต์ บันดาลดลสรรค์สร้างเวียงวังใหญ่ ล่วงยามดึกกึกก้องดังถึงวังใน ส่งผลให้อาทิตย์วงศ์ทรงกังวล ๏ คาดปัจจามิตรประจันประหวั่นนึก จะรับศึกหนักจิตคิดสับสน ด้อยกำลังวังชาชราล้น จำประจญชีพผดุงป้องกรุงไกร ๏ แต่เช้าตรู่ออกสู่หน้าปรางค์ปราสาท พบเห็นภาพประหลาดแสนหวั่นไหว อันริปูผู้ประชิดติดเวียงชัย นั้นมิใช่ธรรมดาเดชาชาญ ๏ สั่งอำมาตย์ขุนวังทั้งนายทัพ เตรียมพร้อมรับการณ์ศึกที่ฮึกหาญ อาจเป็นจอมพาลาพญามาร ผู้บันดาลวังบัดดลด้วยมนตรา ๏ พระสุธน มโนราห์มิช้าไม่ เช้าคลาไคลเข้าวังดังปรารถนา รู้กังวลฉงนจิตพระบิดา พลโยธาคงเตรียมการต้านไพรี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 กุมภาพันธ์, 2561, 11:43:31 AM ๏ ครั้นทราบว่าพระสุธนใช่คนอื่น รับมโนราห์คืนชื่นสุขี เสียงแซ่ซ้องก้องไปในธานี ด้วยปิติยินดีทุกชีวัน ๏ เมื่อขึ้นเฝ้าท้าวอาทิตย์ราชา นางจันทราเทวีมีสุขสันต์ ตามประสาพ่อแม่ลูกรักผูกพัน พร้อมรับขวัญกินรีมโนราห์ ๏ ท้าวอาทิตยวงศ์ทรงขอโทษ มโนราหาได้โกรธคิดถือสา เข้าสวมกอดหลังกราบกรานพระมารดา เคยมอบรักเมตตาเหลืออาลัย ๏ ตอบคำถามเล่าความเก่าแต่คราวก่อน “คราออกจากนครจรป่าใหญ่ ด้วยมุ่งมั่นฟันฝ่านานาภัย จนล่วงกาลผ่านไปเกือบแปดปี ๏ แล้ววันหนึ่งลุถึงในกรุงไกรลาส ได้สำแดงความสามารถฤทธิ์เรืองศรี ท้าวปทุมราชแดนคีรี จัดพิธีอภิเษกล้ำโอฬาร หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 กุมภาพันธ์, 2561, 11:45:03 AM ๏ ทั้งคนธรรพ์ เทวา พญาครุฑ กิงบุรุษ* สัตว์ประสมมหาศาล กินรีกินรามาร่วมงาน เกริกตระการแห่แหนแน่นกรุงไกร ๏ ร่วมครองคู่อยู่มณเฑียรวิเชียรรัตน์ สุขสวัสดิ์มิเนิ่นนานเกิดหวั่นไหว จิตปั่นป่วนหวนคะนึงถึงเวียงชัย และทั้งสองพระองค์ไม่ได้กินนอน ๏ เมื่อขึ้นเฝ้าทูลลาปทุมราช เป็นเรื่องดีที่เกินคาดฝันมาก่อน พระบิดาปทุมองค์ภูธร ขอร่วมจรสู่ปัญจาล์มาเยี่ยมยล ๏ มอบพระขรรค์วิเศษเรืองเดชนัก สามารถจักนำเหินเดินเวหน จึงลัดฟ้ามาโดยไวหายกังวล พร้อมไพร่พลญาติพงศ์วงศ์กินรี ๏ บัดนี้ยั้งรั้งรอท่าหน้าปราสาท ขอพระราชานุญาตถึงเคลื่อนที่ เข้ามาเฝ้าพระชนกพระชนนี สุดแล้วแต่จะทรงมีพระกรุณา” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 14 กุมภาพันธ์, 2561, 11:46:35 AM ๏ ครานั้นท้าวอาทิตย์วินิจฉัย มิต้องให้ปทุมเจ้าเข้ามาหา ท่านอยู่นอกแดนมนุษย์สุดขอบฟ้า ยังอุตส่าห์เยือนแคว้นไกลแสนไกล ๏ รั้งรออยู่ริมพาราชั่วตาเห็น มิลำเค็ญออกต้อนรับขับสู้ไหว ให้ขุนวังสั่งมหาเสนาใน เตรียมเครื่องใหญ่บรรณาการสานไมตรี ๏ เมื่อตกลงปลงฤทัยมิได้ช้า ชวนพระนางจันทรามเหสี รีบสระสรงทรงเครื่องเมลืองมณี แล้วจรลีออกหน้าปราสาททอง ๏ ทรงบัญชายุรยาตรราชรถ สมพระยศอึกทึกดังกึกก้อง พลไกรไชโยร่วมโห่ร้อง เสียงแซ่ซ้องพร้องดังด้วยปรีดา ๏ เมื่อถึงยังพาราเนรมิต ท้าวอาทิตย์ทรงยั้งอยู่วังหน้า ถึงวาระพระสุธน มโนราห์ กราบทูลท้าวปทุมมาแจ้งพระทัย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2561, 09:31:31 AM ๏ ท้าวปทุมราชาในครานั้น ชวนนางจันท์กินรีมิช้าได้ ออกรับรองปองสมานสานเยื่อใย เชิญเสด็จสู่วังในใจเปรมปรีดิ์ ๏ ปราสาททองมองอร่ามงามวิจิตร ด้วยมนตราเนรมิตพิสิฐศรี จรัสศิลป์ปิ่นเก็จเพชรรูจี ลักษมีเปรียบปานพิมานแมน ๏ แล้วทั้งสองวงศาร่วมปราศรัย อย่างแช่มชื่นรื่นฤทัยให้สุขแสน วัฒนธรรมใดในดินแดน แลกเปลี่ยนแม้นต่างกันมิฉันทา ๏ แล้วได้ยินวาทะองค์อาทิตย์ ยังเอ่ยย้ำ “เคยทำผิดยิ่งนักหนา นำภัยร้ายให้ลูกรักมโนราห์ ลูกเข้าใจไม่ถือสาน่ายินดี ๏ ถึงเวลาสละราชสมบัติ ให้สุธนขึ้นครองรัฐราชวิถี กับลูกรักมโนราห์กินรี เป็นราชินีคู่ราชบัลลังก์” หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2561, 09:32:29 AM ๏ ปทุมราชสดับเมื่อรับรู้ มิช้าอยู่เช่นกันพลันรับสั่ง “พระสุธนควรครองสองเวียงวัง เราราชัยไม้ใกล้ฝั่งควรวางองค์ ๏ พระสุธน มโนราห์เหินฟ้าได้ บินมาไปดั่งอารมณ์สมประสงค์ สลับละไตรมาสครองราชวงศ์ รักษ์ดำรงปกป้องสองพารา” ๏ พระสุธน มโนราห์วันทาบาท ปิตุราชมาตุรงค์สองวงศา รับสนองในพระกรุณา ญาติกาพร้อมกันประทานพร ๏ การปฏิสันถารสมานญาติ สองเชื้อชาติสุโขสโมสร จนครบเจ็ดทิวาขอลาจร เมื่อนครสองสัมพันธ์มั่นไมตรี ๏ ปวงประชาข้าไททั้งใหญ่น้อย มาเฝ้าคอยส่งเสด็จทั่วพื้นที่ อยากจะเห็นการเหินเดินเมฆี กินรา กินรีเป็นศรีตา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2561, 09:33:25 AM ๏ หลังจากนั้นมินานมีพิธีใหญ่ ราชาภิเษกให้สืบยศถาฯ ฉลองฉัตรพระสุธนราชา และพระนางมโนราห์ราชินี ๏ ด้วยเดชะบารมีบริรักษ์ ทรงพิทักษ์ปวงชนล้นสุขี เกียรติระบือลือไกลในธาตรี ทบทวีโภคทรัพย์นับอนันต์ ๏ ตามพันธะสัญญาปทุมราช ให้ครองกรุงไกรลาสอีกเขตขัณฑ์ ทรงมุ่งหมายผูกสายใจใยสัมพันธ์ มิห่างกันมั่นสวาทราชธิดา ๏ ครบไตรมาสเหมือนคำมั่นสัญญาไว้ สองดำเนินเหินไปในเวหา ขึ้นครองราชย์ไกรลาสอีกนครา ทุกวงศ์วานถึงเทวามาอวยชัย ๏ สองพระองค์ทรงเสวยราชสมบัติ สุขสวัสดิ์จนสิ้นอายุขัย ตามครรลองของกฎแห่งโลกัย ผู้เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏ หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 02:42:25 PM ๏ อันเดชะบารมีที่ยิ่งล้น พระสุธนภิญโญโพธิสัตว์ หลายชาติเกิดแล้วตายเป้าหมายชัด มุ่งธรรมะปรมัตถ์เป็นบั้นปลาย ๏ ผู้ร่วมกรรมบรรพกาลผ่านมานั้น เมื่อชีวันล่วงลับดับสลาย มากพระองค์ทรงวิมุติถึงสุดท้าย ลุเป้าหมายโลกุตรพระนิพพาน ๏ พระสุธนเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้นำเหล่าเวไนยสัตว์มหาศาล ข้ามโอฆะกิเลสเภทภัยมาร ธรรมทานอบอุ่นวสุนธรา* ๏ ท้าวอาทิตย์เป็นสุทโธทนะ ผู้เป็นพระปิตุรงค์สืบวงศา พระนางจันทร์เป็นสิริมหามายา ผู้กำเนิดบุตราล่วงโลกีย์ ๏ มโนราห์เป็นพิมพาธิดารัตน์ ปฏิพัทธ์เนื่องในพระมเหสี พระมารดาองค์จันท์กินรี เป็นนางโคตมีชาติต่อมา หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 02:43:16 PM ๏ ท้าวปทุมราชชาติสิ้นสุด เป็นพระสารีบุตรองค์เบื้องขวา ผู้เผยแผ่ธรรมพระศาสดา เลิศปรีชาจดจำธรรมคุณ ๏ นายพรานบุญหนุนรักประจักษ์ผล เกิดเป็นพระอานนท์ผู้เกื้อหนุน อุปัฏฐากพระชินสีห์ทวีบุญ เอกอดุลย์มหามิตรจิตจำนง ๏ ส่วนท้าวชมพูจิตจอมนาคะ เป็นโมคคัลลานะฤทธิ์สูงส่ง ศิษย์เบื้องซ้ายแห่งพระพุทธองค์ ใจประจงศาสนกิจสิทธิกร ๏ พระฤษีอยู่ที่ริมหิมพานต์ เพิ่มบุญญาธิการผู้สั่งสอน เป็นมหากัสสปะละนิวรณ์ อาวุโสสถาพรล่วงเวลา ๏ ส่วนมหาปุโรหิตผู้คิดร้าย ยังมั่นหมายฝ่ายมารคอยผลาญพร่า เป็นเทวทัตคนบาปใจหยาบช้า มีเบื้องหน้าเป็นนรกอเวจี หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 02:44:23 PM ๏ ผู้ร่วมชาติร่วมฟ้าปฏิคาหก* เป็นสาวกพุทธบริษัทสี่ มุ่งในทางสร้างบุญคุณความดี เมื่อโลกมีธรรมะสงบเย็น ๏ ธรรมดาชาตะแห่งมนุษย์ บริสุทธิ์หมายสุขหน่ายทุกข์เข็ญ ผิว์กิเลสก่อเภทภัยให้ลำเค็ญ ดุจเดือนเพ็ญเมฆทับกลับหมองมัว ๏ พุทธธรรมนำสร้างทางกุศล สาธุชนเดินห่างพ้นทางชั่ว ทาน ศีล ภาวนาแก้เห็นแก่ตัว ละอาย กลัวต่อบาปอันหยาบช้า ๏ จบบาลีชีโวโพธิสัตว์ หมายธรรมะปรมัตถ์เป็นเบื้องหน้า มุขปาฐะพระสุธน มโนราห์ รจนาคำกลอนบวรบรรณ ๏ กุศลกรรมธรรมะปฏิบัติ เป็นร่มฉัตรปกวิญญูสู่สวรรค์ หมายให้บุญบารมีกวีวรรณ ถึงผู้อ่านโดยทั่วกันทุกท่านเอย หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 02:45:06 PM จบ “พระสุธน มโนราห์คำกลอน” ครับ ขอขอบพระคุณอาจารย์สุวัฒน์ ไวจรรยา บรรณาธิการ ขอบพระคุณผู้ใหญ่ในสมาคมกวีร่วมสมัยทุกท่านที่ให้คำปรึกษา โอกาสต่อไปคิดว่าอาจจะนำเสนอผลงานนิทานคำกลอน อันเป็นมหาภารตะนิยายให้ครบชุด อีกสองเรื่องคือ “พระนลคำกลอน ฉบับพิมพ์” และ “สมุทรโฆษคำกลอน ฉบับพิมพ์” ตามด้วยนิราศต่าง ๆ (ฉบับปรับปรุง- เพิ่มรูป) หลังจากนั้นอาจนำเสนอ “แม่ศรีวรรณทอง ตำนานบ้านย่านดินแดง(ปรับปรุง) ภาคแรก” “แดนคนธรรพ์ แม่ศรีวรรณทองภาคสอง” และคงตามด้วย “ธานีศรีวิชัย แม่ศรีวรรณทองภาคสาม ภาคจบ” (กำลังแต่ง) ในโอกาสต่อไป ธนุ เสนสิงห์ (http://preview.ibb.co/mU9PBS/20171127_175820.jpg) (http://ibb.co/hjfmQn) หัวข้อ: Re: พระสุธน มโนราห์ คำกลอน ธนุ เสนสิงห์ เริ่มหัวข้อโดย: ธนุ เสนสิงห์ ที่ 16 กุมภาพันธ์, 2561, 02:46:21 PM "พระสุธน มโนราราห์คำกลอน" จบแล้วครับ ขอเชิญท่านผู้อ่านทุกท่านวิพากษ์วิจารณ์ได้ครับ ธนุ เสนสิงห์ |