หัวข้อ: บางเบา เริ่มหัวข้อโดย: มณีฉาย ที่ 01 ธันวาคม, 2560, 08:38:28 AM เรียงรายคำรำพันปั้นเป็นรูป ครั้นโอภาสสาดลูบก็วูบไหว เกิดภาพร่างกลางแสงที่แกว่งไกว ครึกครื้นในลานโลกอันโยกคลอน ตามบทบาทวาดวางระหว่างลู่ ครั้นเพ่งดูในนอกเหมือนหลอกหลอน ติดเปลือกนอกหนาบางในต่างตอน รอลอกล่อนกร่อนร่วงตามห้วงกาล มณีฉาย หัวข้อ: Re: บางเบา เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 02 ธันวาคม, 2560, 08:45:03 AM ลมรำเพยปิ่มว่าว้าเหว่ว้าง ผุดรูปพรางเชื่อมร้อยพร้อยผสาน กับวลีเร้าเร่งให้เบ่งบาน จึ่งมินานเพียงครู่ก็ลู่โรย หากแม้นกาลเปลื้องปลอกลอกจากร่าง มิเบาบาง ห่มไห้อาลัยโหย คงบาปบรรพ์วิโยคพัดโบกโบย จำพรากโดยไร้คำเอ่ยร่ำลา ...ขออนุญาตร่วมต่อกลอนนะครับ... Soul Searcher Inspired to write 2/12/2017 หัวข้อ: Re: บางเบา เริ่มหัวข้อโดย: มณีฉาย ที่ 04 ธันวาคม, 2560, 10:47:36 AM เฉกลำรุ้งเรื่อสายระบายสี เมื่อสุรีย์โชนฉายประกายกล้า เผาอณูน้ำสิ้นถิ่นนภา รุ้งก็พร่าเลือนลงไม่คงนาน ย่อมเกิดดับสลับอยู่ชั่วครู่ครั้ง แล้วพ่ายพังตามวันวนผันผ่าน สุข-ทุกข์เวียนบรรจบให้พบพาน เพียงแค่รอแหลกลาญตามกาลพา หัวข้อ: Re: บางเบา เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 05 ธันวาคม, 2560, 09:03:43 AM หวังปล่อยว้างวางคลายมิหมายมั่น มากไหวหวั่นสั่นคลอนเฝ้าย้อนหา รูป,เสียง,กลิ่น, รส,สัมผัส มัดอุรา คล้อยมรรคาธรรมิก ยังพลิกย้อน หรือเพราะมัวชื่นพิศลิขิตแพร้ว ฉกาจแกล้วคารมคมอักษร จึงหลงวังเวียนทุกข์-สุขสัญจร จวบม้วยมรณ์คงไปได้แค่นี้ รู้ทั้งรู้ใจรั้งยั้งเหนี่ยวหน่วง เอาเชือกบ่วงผูกคล้องจำจองรี่ ยังมิวายระรื่นชื่นชีวี อาบวลีเช้าค่ำร่ำกลอนครวญ Soul Searcher Inspired to write 5/12/2017 |