เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนรัก => ข้อความที่เริ่มโดย: วลีลักษณา ที่ 04 มีนาคม, 2561, 08:07:04 AM



หัวข้อ: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: วลีลักษณา ที่ 04 มีนาคม, 2561, 08:07:04 AM
(http://www.thesorentowedding.com/wp-content/uploads/2016/06/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81.jpg)

๐ เมื่อบาปบรรพ์คั่นหนเกินด้นฝ่า
ที่เอื้อมคว้ามาเคียงก็เพียงฝัน
กับวจีหวานล้ำที่รำพัน
คงสักวันลืมเลือนไม่เหมือนเคย

๐ ห่างไกลจนสุดรั้งต่างฝั่งฟ้า
พจนาร้อยนัยของใครเผย
ผ่านกระแสลมร่ำพรมรำเพย
อาจจะเลยลับร้างจนรางเลือน

๐ เพียงพัดพาไอเย็นแล้วเร้นสาย
สุดจะหมายใจมาดนิราศเหมือน
มิได้เคยแผ้วพานมาผ่านเยือน
ที่แปดเปื้อนค้างคาคืออาวรณ์

๐ คอยรุกรุมสุมอยู่มิรู้สร่าง
เศร้าอยู่กลางความฝันของวันก่อน
ฝังรากลงหยั่งหยัดเกินตัดทอน
จึงซอกซอนทรวงอยู่ไม่รู้แล้ว

๐ สิ้นหยาดฉ่ำน้ำค้างยามสางตรู่
พ้นฤดูเหมันต์ผันผ่านแถว
ถิ่นเทือกพรรณเคยพร่างก็ร้างแวว
เมื่อเก็จแก้ววาววับมาลับเลือน

๐ บางไม้ดอกออกระบัดเมื่อผลัดช่วง
บางพันธุ์ร่วงโรยราซบหล้าเกลื่อน
ขณะใจหวาดหวั่นล่วงวันเดือน
เกรงกาลเคลื่อนพรากคล้อยร่องรอยใคร

๐ จะลับร้างแรมรอนอาวรณ์สวาสดิ์
มิหมายมาดในรักแม้ผลักไส
ผิตัดขาดไม่เหลือซึ่งเยื่อใย
อยู่อย่างไรเมื่อไร้ดวงใจครอง

๐ หางนกยูงห้อมห่มด้วยลมร้อน
กิ่งก้านอ่อนไหวสั่นแสงวันส่อง
กลีบบอบบางแย้มยวนยิ่งชวนมอง
หวั่นร่วงล่องตามลมลงจมดิน

๐ คาบคิมหันต์พันแสงผ่านแรงร้อน
ครั้นช่วงก่อนเคยฉ่ำชื่นลำสินธุ์
บัดนี้แห้งเหือดไปหยุดไหลริน
เมื่อสรวงถิ่นคุช่วงด้วยดวงไฟ

๐ ต่างฤๅอกใจคนเมื่อวนคิด
ราวต้องพิษเพรงทัณฑ์จนหวั่นไหว
คล้ายสุมเพลิงลนทั่วทั้งหัวใจ
ฤทธิ์อาลัยล้ำล่วงจนทรวงรอน

๐ กลีบแดงส้มลมต้องก็ล่องลอย
ต่างทยอยถ่ายเทกลิ่นเกสร
บางดอกโรยหล่นร่วงหมดช่วงตอน
สายกาลกร่อนซีดเซียวอยู่เดียวดาย

๐ คะเนนึกคะนึงนับลำดับคาบ
แต่แทรกภาพฝันอยู่มิรู้หาย
ก็สุดจิตใจค้นถึงต้นปลาย
มีแต่ยิ่งฉงนฉงายมิวายเว้น

๐ ขณะคาบกาลเปลี่ยนหมุนเวียนทัศน์
ต่างก็ผลัดหล้าผองให้มองเห็น
หากแต่รูปเงาหนึ่งยังตรึงเป็น
จินตภาพโดดเด่นบีบเค้นทรวง

๐ ไม่รู้จางจากจิตสถิตมั่น
ฤๅรอยกรรมเบื้องบรรพ์จากชั้นสรวง
ผลักรอบกาลผ่านคาบมาทาบทวง
แล้วถูกบ่วงบาปรั้งสุดฝั่งฟ้า

๐ จึงร่วมภพสบเพียงประเดียงสร้อย
ดุจย้อนรอยบุเพเสน่หา
สายสวาทพาดพันผูกฉันทา
ให้อุราตรึงอยู่แต่ผู้เดียว

๐ กลางกระแสกาลวิโยคในโลกกว้าง
ตลอดทางคอยหาสุดตาเหลียว
เหมือนภาพการณ์ในอดีตอันซีดเซียว
นั้นคอยเหนี่ยวจิตหน่วงคล้องบ่วงทัณฑ์

๐ เมื่ออ่อนหวานหว่านล้อมอยู่พร้อมพากย์
จากอีกฟากสุดฝั่งมารั้งฝัน
ก็ยากคิดบิดเบือนเงื่อนผูกพัน
คงรัดมั่นขวัญนี้ชั่วชีวิน

วลีลักษณา
๔ มีนาคม ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=03-2018&date=04&group=26&gblog=93


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Bretty P ที่ 04 มีนาคม, 2561, 02:37:36 PM
อยากแต่งกลอนเป็นเรื่องราวอย่างนี้บ้าง
ความกระด้างทางภาษายังบ้าบิ่น
ไม่อาจหวานปานน้ำผึ้งมาโรยริน
ติดปีกบินก็หักปักโคลนตม

อ่านแล้วเคลิ้มเยิ้มยิ้มปริ่มอรรถรส
แต่ละบทจดจารณ์อย่างเหมาะสม
ดังภาษาผกผินบินเล่นลม
มิเหมือนเราจ่อมจมล่มทุกที

อ่ะ เฮ้ออออ เพ้อๆๆๆๆๆๆ :15:


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มีนาคม, 2561, 06:32:27 AM
คือสำนวนล้วนนำจำรู้สึก
ให้หวนนึกบางใครในบ้านนี่
ชื่อแม่ดินถิ่นเราเจ้าเปรมปรีดิ์
ท่านBrettyนี้นั้นหลานท่านฤๅ

ช่วยก่อการเกรียนแหลกให้ปั่นป่วน
สนุกล้วนชวนขยับฉันนับถือ
สร้างรอยรักรอยงามนามระบือ
เพราะล้วนคือความสุขสมนิยมกลอน

สิริวตี

ขอต้อนรับคุณ​Bretty​นะะ​ อ่านสำนวนแล้วรู้สึกนึกถึงแม่ศิ​ หายไปไหนนิ


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Bretty P ที่ 05 มีนาคม, 2561, 08:51:40 AM
เอิ่ม...พี่ขา..น้องไม่ใช่เจ้าค่ะ เป็นเด็กบ้าคนหนึ่ง พี่ศิ กะ พี่ดิน นี่คนเดียวกันเหรอคะ...ทำไมหลายชื่อจัง..โดยปกติก็ไม่ค่อยได้เขียนกลอนค่ะ แบบว่า..ชอบไปเจอเพื่อนๆน่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆ ช่วงนี้เพื่อนมีแฟน T^T อุ้ยๆ เรื่องส่วนตัว  เงียบดีกว่าเรา   :20: :20: :20: :20:


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มีนาคม, 2561, 10:14:08 AM
ได้มาอยู่เวบนี้ช่างดีนะ
มีเพื่อนไร้สาระในอักษร
มีเพื่อนเพี้ยนเกรียนผสมอารมณ์​กลอน
อีกเว้าวอนวุ่นว้าบ้าก็มี​ (อิอิ)

หากอยากมีแฟนหล่อขอพี่ระนาด
มากมนตราสามารถใช้ทุกที่
คาถาโอมจงรักจงหลงคารมดี
สักพักคนดีดีก็เข้ามา

สิริวตี
 :28: :30:

อยากมีแฟนเหมือนเพื่อนก็ขอคาถาจากพี่ระนาดเลยค่ะ​ แนะนำๆๆ​พี่จะระนาดจะให้คาถาโอมมะลึกกึ๊กกึ๋ย​ แฟนจงมา​ แฟนจงมา​ แฟนจงมา​ อิๆๆ

วตีกราบขออภัยพี่วลีลักษณาด้วยนะคะ​ เพิ่งกลับมามองว่าตนเองทำกระทู้พี่เพี้ยนไปเสียแล้ว​ ขอโทษนะคะ



หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 05 มีนาคม, 2561, 01:53:48 PM
:30:

แต่งกลอนกานท์หวานหยดกลัวมดไต่
แต่งกันไปบ้าบอหัวเราะร่า
แต่งทุกวี่ทุกวันมันเหมือนยา
เสพติดมานานเนิ่นเกินพอดี

อยากจะเลิกเลิกอยากกลัวรากเลือด
ศึกแดงเดือดว่าเจ๋งเกร็งไหมนี่
ใจมันรักมันใคร่ใช่แล้วซี
ทำไงดีอยากเลิกแต่งโดนแช่งไว้

วิริน
๕/๓/๖๑

 :30:


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 05 มีนาคม, 2561, 06:03:57 PM
เคยเลิกแต่งคราวหนึ่งซึ่ง(อาการ)​ก็หนัก
โดนวางยาแล้วชักจะเป็นไข้
หากขาดกลอนอาจคล้ายมิหายใจ
ชีวิตที่สดใสแสนขุ่นมัว

อาจลงแดงตัวร้อนนอนเพ้อพร่ำ
เพราะกลอนเข้าเลือดดำอยู่ถ้วนทั่ว
จึงต้องกลับเมามันกันระรัว
เอาให้ชัวร์ต้องมีเพื่อน(บ้า)​เกลื่อนบ้านเอย

สิริวตี


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 05 มีนาคม, 2561, 11:28:59 PM
คนบ้านั้นมักจะมีเสน่ห์
บวกเจ้าเล่ห์เหมือนลิงไม่นิ่งเฉย
โอ้ยสนุก...ลุกลามแม่ทรามเชย
อยากจะบ้า..แต่ไม่เคย..เฮ้อทำไง(สอนที)

อิอิอิ
 :27:


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: Bretty P ที่ 06 มีนาคม, 2561, 12:40:06 AM
พี่ระนาด...เป็นหมอผีใช่ไหมคะ
นี่หนูมาเกะกะพี่เขาไหม
หากขอแฟน..ได้แฟน..ดีกระไร
น่าเลื่อมใสจริงแท้..แลขนพอง

ถ้าขอแฟน ได้ผี ใครจะรับผิดชอบหนูละค๊า


หัวข้อ: Re: ~*~ ภาพฝัน..วันเพรง ~*~
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 07 มีนาคม, 2561, 01:18:54 PM
(http://www.thesorentowedding.com/wp-content/uploads/2016/06/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81.jpg)

๐ เมื่อบาปบรรพ์คั่นหนเกินด้นฝ่า
ที่เอื้อมคว้ามาเคียงก็เพียงฝัน
กับวจีหวานล้ำที่รำพัน
คงสักวันลืมเลือนไม่เหมือนเคย

๐ ห่างไกลจนสุดรั้งต่างฝั่งฟ้า
พจนาร้อยนัยของใครเผย
ผ่านกระแสลมร่ำพรมรำเพย
อาจจะเลยลับร้างจนรางเลือน

๐ เพียงพัดพาไอเย็นแล้วเร้นสาย
สุดจะหมายใจมาดนิราศเหมือน
มิได้เคยแผ้วพานมาผ่านเยือน
ที่แปดเปื้อนค้างคาคืออาวรณ์

๐ คอยรุกรุมสุมอยู่มิรู้สร่าง
เศร้าอยู่กลางความฝันของวันก่อน
ฝังรากลงหยั่งหยัดเกินตัดทอน
จึงซอกซอนทรวงอยู่ไม่รู้แล้ว

๐ สิ้นหยาดฉ่ำน้ำค้างยามสางตรู่
พ้นฤดูเหมันต์ผันผ่านแถว
ถิ่นเทือกพรรณเคยพร่างก็ร้างแวว
เมื่อเก็จแก้ววาววับมาลับเลือน

๐ บางไม้ดอกออกระบัดเมื่อผลัดช่วง
บางพันธุ์ร่วงโรยราซบหล้าเกลื่อน
ขณะใจหวาดหวั่นล่วงวันเดือน
เกรงกาลเคลื่อนพรากคล้อยร่องรอยใคร

๐ จะลับร้างแรมรอนอาวรณ์สวาสดิ์
มิหมายมาดในรักแม้ผลักไส
ผิตัดขาดไม่เหลือซึ่งเยื่อใย
อยู่อย่างไรเมื่อไร้ดวงใจครอง

๐ หางนกยูงห้อมห่มด้วยลมร้อน
กิ่งก้านอ่อนไหวสั่นแสงวันส่อง
กลีบบอบบางแย้มยวนยิ่งชวนมอง
หวั่นร่วงล่องตามลมลงจมดิน

๐ คาบคิมหันต์พันแสงผ่านแรงร้อน
ครั้นช่วงก่อนเคยฉ่ำชื่นลำสินธุ์
บัดนี้แห้งเหือดไปหยุดไหลริน
เมื่อสรวงถิ่นคุช่วงด้วยดวงไฟ

๐ ต่างฤๅอกใจคนเมื่อวนคิด
ราวต้องพิษเพรงทัณฑ์จนหวั่นไหว
คล้ายสุมเพลิงลนทั่วทั้งหัวใจ
ฤทธิ์อาลัยล้ำล่วงจนทรวงรอน

๐ กลีบแดงส้มลมต้องก็ล่องลอย
ต่างทยอยถ่ายเทกลิ่นเกสร
บางดอกโรยหล่นร่วงหมดช่วงตอน
สายกาลกร่อนซีดเซียวอยู่เดียวดาย

๐ คะเนนึกคะนึงนับลำดับคาบ
แต่แทรกภาพฝันอยู่มิรู้หาย
ก็สุดจิตใจค้นถึงต้นปลาย
มีแต่ยิ่งฉงนฉงายมิวายเว้น

๐ ขณะคาบกาลเปลี่ยนหมุนเวียนทัศน์
ต่างก็ผลัดหล้าผองให้มองเห็น
หากแต่รูปเงาหนึ่งยังตรึงเป็น
จินตภาพโดดเด่นบีบเค้นทรวง

๐ ไม่รู้จางจากจิตสถิตมั่น
ฤๅรอยกรรมเบื้องบรรพ์จากชั้นสรวง
ผลักรอบกาลผ่านคาบมาทาบทวง
แล้วถูกบ่วงบาปรั้งสุดฝั่งฟ้า

๐ จึงร่วมภพสบเพียงประเดียงสร้อย
ดุจย้อนรอยบุเพเสน่หา
สายสวาทพาดพันผูกฉันทา
ให้อุราตรึงอยู่แต่ผู้เดียว

๐ กลางกระแสกาลวิโยคในโลกกว้าง
ตลอดทางคอยหาสุดตาเหลียว
เหมือนภาพการณ์ในอดีตอันซีดเซียว
นั้นคอยเหนี่ยวจิตหน่วงคล้องบ่วงทัณฑ์

๐ เมื่ออ่อนหวานหว่านล้อมอยู่พร้อมพากย์
จากอีกฟากสุดฝั่งมารั้งฝัน
ก็ยากคิดบิดเบือนเงื่อนผูกพัน
คงรัดมั่นขวัญนี้ชั่วชีวิน

วลีลักษณา
๔ มีนาคม ๒๕๖๑
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=03-2018&date=04&group=26&gblog=93



คมคายคั่นหว่างคล้อย..เมฆินทร์
วิหคโบกโบยบิน..........สุดฟ้า
สายธารหลั่งวาริน........ลงสู่
เวิ้งหว่างผู้เหว่ว้า..........ทั่วถ้วนชันษา

หากบาปบรรพ์คั่นหนให้หม่นร้าง
บุญคงสร้างมิพอก่อเกื้อสิน
แก้ววจีกลายเกลื่อนธุลีดิน
นิยมยินใฝ่ปองกลับหมองเมิน

ถึงห่างไกลสุดหล้าขอบฟ้าเขียว
แม้โดดเดี่ยวมิเจอยิ้มเก้อเขิน
ยามสดับโลมเล้าเย้าหยอกเอิน
ก็พาเพลินดั่งพบประสบกัน

อานุภาพภาษาวาจาสิทธิ์
อิทธิฤทธิ์เปลี่ยนแปลงแหนงหน่ายกั้น
ดาลสะเดาะล้ำเลิศเปิดสัมพันธ์
ดื่มด่ำฝันซ้องศิลป์วิญญูชน

นิยายรักโลกกลอนอักษรศาสตร์
จูงจิตวาดภาพสวยอำนวยผล
ฤาแปดเปื้อนหม่นเทาเคลือบเหงาปน
บันดาลดลคล้อยความได้ตามคิด

ประจงจัดคัดเสียงมาเรียงร้อย
อุบะสร้อยมาลาหาประดิษฐ์
คอยแต่งเติมสิ่งละอันพันละนิด
ต่อชีวิตก่อนล้าร่วงราโรย

หากว่าแม้นคำน้อยร้อยขานไข
กังวานไกลดับร้อนอ่อนระโหย
จักแบ่งปันแรงใจไล้ลมโปรย
พัดโบกโบยเชื่อมชิดสนิทนวล

แต่หากเพียงวิภาษดาษดื่นพบ
คงลี้หลบเพ็ญพักตร์กระอักกระอ่วน
พันธนาผูกมัดรัดตรึงตรวน
ปลดทั้งมวลหมดสิ้นระบิลมาน

Soul Searcher
Inspired to write 7/3/2018