หัวข้อ: พลังงานธรรมชาติ เริ่มหัวข้อโดย: ประทีป วัฒนสิทธิ์ ที่ 15 พฤศจิกายน, 2556, 08:27:21 AM พลังงานธรรมชาติ คือ ธรรมชาติธรรม พลังงานที่ได้จากต้นกำเนิดของธรรมชาติคือแนวทางของธรรมชาติธรรม ที่เป็นเช่นนี้เพราะพลังงานที่ได้จากธรรมชาติโดยตรงไม่เป็นแหล่งผลิตมลพิษ เช่นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานน้ำจากเขื่อน พลังงานจากคลื่น พลังลังงานจากลม นี่เท่าทีเห็นที่รู้และถือเป็นแหล่งใหญ่ พลังงานจากนิวเคลียร์ จากถ่านหิน จากก๊าซ จากน้ำมัน เหล่านี้ล้วนแต่สร้างมลพิษ แต่ที่กำลังผลักดันกันสุดขีด เดินหน้ากันสุดเหวี่ยงเพราะผลประโยชน์ที่ยังผูกพัน ยังเป็นพันธะกันมา หรือไม่ก็คิดสร้างใหม่ขึ้นมาอีก ทั้งนี้เป็นไปตามวิถีทางของระบบวัตถุนิยม เพราะสังคมวัตถุนิยมสาเหตุหนึ่งที่ไม่ค่อยคิดส่งเสริมพลังงานที่ได้จากธรรมชาติโดยตรง โดยมักจะอ้างว่าต้นทุนผลิตสูง แม้จะจริงตามที่อ้างก็ควรจะส่งเสริม เพราะนี่คือความถูกต้อง สมบูรณ์ที่จะช่วยให้โลกเราสะอาด ธรรมชาติไม่ถูกทำลาย ไม่เกิดมลภาวะ ไม่เป็นบ่อเกิดภัยธรรมชาติ หรืออื่น ๆ ที่มีโทษทั้งหลายตามมา และที่ใหญ่ไปกว่านั้นคือเพิ่มความรุนแรงให้เห็นประจักษ์อยู่เสมอ เรามัวหลงการแข่งขันทางวัตถุ ในรูปแบบการแข่งขันทางธุรกิจ จนเกินความจำเป็น จนมนุษย์เราอยู่อย่างไม่มีความสันติสุข ทั้งทางด้านกาย และจิตใจ ตลอดมา และยิ่งนับวันจะเพิ่มการแข่งขันกันอย่างบ้าคลั่งมากขึ้น หลักศาสนาพุทธซึ่งถือเป็นศาสนาสากลที่เจริญในไทยโดยแท้ ก็ยังนำมาใช้กันไม่ได้ นำมาใช้กันไม่ถูก ยอมบ้าคลั่งวัตถุตามพวกตะวันตกเสียสุดโด่ง ขอยกกลอนสอนศิษย์ สร้างโรงงานการกิจผลิตวัตถุ มุทะลุเดือดดาลการแข่งขัน ธรรมชาติถูกทำลายเป็นรายวัน กลุ่มหมอกควันปล้นฆ่าปฐพี ทะเลห้วยหนองบึงถึงจุดจบ ปลาหลีกหลบมิวายกลายเป็นผี สัตว์จะพึ่งต้นไม้ก็ไม่มี ต่างพลีชีพด้วยฆ่าตัวตาย สารเคมีวิ่งพล่านทุกการกิจ โทรมชีวิตก่อนโลกล่มสลาย นี้ครูเพ้อเธอคิดสบายสบาย เรื่องหลากหลายขายคิดจงติดใจ ปัจจุบันมนุษย์เราเขาอยู่ผิด น่าเปลี่ยนวิถีชีวิตแนวทางใหม่ หาเลี้ยงชีพเลี้ยงกายสบายใจ ไม่ควรกักตุนเป็นทุนรอน เลิกใช้เงินใช้ทองจองซื้อจ่าย จงทำลายเด็ดขาดทาสเงินผ่อน สร้างหนี้สินรุงรังทั้งนคร จะหลับนอนนึกหนี้มิเคลื่อนคลาย สุขภาพจิตย่ำแย่จนแก่เฒ่า ต่างร้อนเร่ารุมใจมิเหือดหาย ทุกข์ตลอดเวลาจนกว่าตาย โอ้เหนื่อยกายเหนื่อยใจใครบัญชา ตัวเป็นเกลียวเคี่ยวงานเร่งการกิจ อันชีวิตคิดไปไร้คุณค่า นี่แหละโลกวังวนแห่งมารยา อนิจจามนุษย์มนุษย์มนุษย์ เราใช้พลังงานกันอย่างฟุ่มเฟือย กลางคืน ดึกดื่นซึ่งเป็นเวลาพักผ่อน มนุษย์เรายังวุ่นวายอยู่กับการงาน อยู่กับการดื่มกิน นี่คือการเกินความพอดี แท้จริงให้มีกินก็พอ กินอย่างดี ปลอดสารพิษ อากาศที่หายใจสดชื่น ปลอดสารพิษ แต่นี่ไม่เป็นอย่างที่ว่า เพราะพิษจากใช้พลังงานเกินจำเป็น ส่งผลให้มนุษย์เดือดร้อนนานาประการ ขอนำบทเพลงเพื่อสังคม ประหยัดธรรมชาติ ค่ำคืนเราควรทำอะไร (ซ้ำ) เราควรดับไฟเข้านอน กลางวันทำงานล้าอ่อน เราควรพักผ่อนตอนกลางคืน (ซ้ำ) หลับให้สบายอย่าสายเช้าตื่น แสนสุขสดชื่น เช้าตื่นไปทำงาน (ซ้ำ) ค่ำคืนเราควรทำอะไร (ซ้ำ) ทั่วไทยดับไฟทุกบ้าน ช่วยกันประหยัดพลังงาน งดดื่มงดทานตอนกลางคืน (ซ้ำ) หลับให้สบายอย่าสายเช้าตื่น แสนสุขสดชื่น เช้าตื่นไปทำงาน (ซ้ำ) หยุดโลภหลงเสียที (ซ้ำ) พอมีพอกินนะท่าน หยุดกิจยามราตรีกาล ควรงดทำงานตอนกลางคืน (ซ้ำ) หลับให้สบายอย่าสายเช้าตื่น แสนสุขสดชื่น เช้าตื่นไปทำงาน (ซ้ำ) ประหยัดธรรมชาติเอาไว้ (ซ้ำ) เพื่อให้รุ่นลูกรุ่นหลาน ประหยัดไว้ใช้นานนาน เพื่อลูกเพื่อหลานยืนสืบไป (ซ้ำ) เพื่อสภาพแวดล้อมออมเอาไว้ ธรรมชาติยิ่งใหญ่ ประหยัดไว้ใช้นานนาน(ซ้ำ) หากเรามาเริ่มต้นใหม่ ให้ความสำคัญต่อพลังงานทดแทนต่าง ๆ ที่ได้จากธรรมชาติโดยตรง โดยการลงทุน ค้นคว้าวิจัยอย่างชัดเจน เอาจริงเอาจังเป็นรูปธรรม นึกถึงความสงบสุขของมวลมนุษยชาติ บางทีสิ่งใหม่ ๆ ดีที่เกิดจากดำเนินการเรื่องนี้เกิดงอกงามตามมา ใครจะไปรู้ว่าเรามีการกักน้ำ ปล่อยน้ำ ทดน้ำ ไหลจากที่แคบ สู่ที่กว้าง ไหลจากที่กว้างสู่ที่แคบ แล้วไหลลงต่ำ บีบทางน้ำให้แคบ ทำให้มีแรงดันจนน้ำไหลขึ้นสูง ในที่สุดก็หาวิธีเก็บพลังงานมาใช้ เป็นขั้นเป็นตอน นี่เป็นการตั้งสมมุติฐานเล่น ๆ ใครจะนำไปคิดต่อไม่สงวนลิขสิทธิ์ การอยู่ร่วมแบบวิถีชีวิตตามรูปแบบธรรมชาติธรรมค้ำจุนโลก ขอสนับสนุนพลังงานทดแทนจากธรรมชาติอย่างที่กล่าวมา และที่สำคัญให้ตั้งคณะทำงานเรื่องนี้เพื่อเป็นเจ้าภาพรับผิดชอบ จะได้ทำให้งานพัฒนาก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ http://naturedharma.com/data-1434.html |