เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนคลายเครียด => ข้อความที่เริ่มโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 19 มีนาคม, 2563, 12:27:52 PM



หัวข้อ: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 19 มีนาคม, 2563, 12:27:52 PM


ยุคนี้เป็นยุคที่....

แอลกอร์ฮอล์ล้างแผล................ขาดตลาด   :13:

เจลล้างมือ..................................ขาดตลาด  :15:

หน้ากากอนามัย.......................ขาดตลาด   :25:

ความปลอดภัยในชีวิต.............ขาดตลาด   :31:

ความไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน...ขาดตลาด   :23:

เชื่อไวรัสโควิด-19...................เข้ามาตีตลาด...(มีทั้งลดแลกแจกแถมฯลฯ)
   :26:    :12:


เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า ช่วงนี้ เชื่อไวรัสโควิด-19  กำลังแพร่ระบาทไปในหลายๆประเทศ

จำนวนผู้ติดเชื้อและตายเพราะโรคนี้เพิ่มขึ้นทุกๆวัน  จนในที่สุดรัฐบาลพึ่งประกาศมาตรการเข้มงวด

เพื่อหวังสยบไวรัสร้ายภายในเวลา ๑๔ วัน   ในสถานที่สำคัญๆที่มีผู้คนเข้าออกพลุกพล่านหลายๆแห่ง

เริ่มมีการตั้งจุดตรวจ ใช้เครื่องมือส่องตา และหยอดเจลฆ่าเชื้อ

ผลพวงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสชนิดนี้คือ

๑.แอลกอร์ฮอล์สำหรับแผล ขาดตลาด  จากการเดินหาซื้อตามร้านขายยาต่างๆพบว่าไม่มีขายเลย

๒.เจลล้างมือ  ยังพอหาซื้อได้ในที่บางแห่ง  แต่ก็ราคาแพงขึ้นกว่าเดิม

๓. หน้ากากอนามัย หาซื้อไม่ได้

การเดินเข้าไปในที่ๆมีผู้คนพลุกพล่านนับว่าเป็นการเสี่ยง มีโอกาสที่จะติดเชื้อสูง

และการอยู่ร่วมกันในห้องแอร์ หรือนั่งไไปในรถโดยสารสาธารณะติดแอร์ที่อากาศไม่ถ่ายเท ก็มีโอกาส

ที่จะติดเจ้าไวรัสร้ายตัวนี้ได้  ถ้าหากว่าไม่ป้องกัน


วิธีป้องกัน

๑.หากต้องเข้าไปในที่ๆมีผู้คนแออัด  หรือเข้าไปในห้องปรับอากาศที่มีคนอยู่มากๆ หรือนั่งบนรถสาธารณะ

    ควรสวมหน้ากากอนามัย  ใช้เจลล้างมือ เพื่อฆ่าเชื้อโรค(ไม่แนะนำให้เอามือไปจุ่มในน้ำร้อนเพราะมือจะพอง)

๒.ในการจะกุ๊กกิ๊กดุ๊กดิ๊กดู๋ดี๋กับใคร ที่ไม่แน่ใจว่า อาจเป็นผู้ติดเชื่อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ขอแนะนำให้สวมใส่

    ถุงยางอนามัย  และให้สวมใส่ถุงมือถ้าหากจะลูบจะคลำ  ควรหลีกเลี่ยงการจูบปากฯลฯ






หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 20 มีนาคม, 2563, 01:32:25 PM



ทุกวันนี้ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหน เห็นแต่ผู้คนสวมหน้ากากอนามัย
วันๆได้แต่นั่งดูข่าว ความรู้สึกเหมือนตอนที่เกิดซือนามิ หรือปฏิวัติ
ตัวผมเอง ก็ต้องบอกว่า มีธุระจำเป็นที่จะต้องเข้าไปในที่ๆผู้คนแออัดยัดเยียด
และไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย  นี่ก็รู้สึกมึนๆหัวมาสามวันแล้ว อาการเหมือนจะจับไข้
แต่พอได้พักผ่อนก็ค่อยยังชั่ว  แต่พอตื่นขึ้นมาไม่นานมันกเป็นอีก ไม่รู้ว่าจะแจ็คพ็อตได้รับเชื้อมาหรือเปล่า
ทุกวันนี้ เดินไปเที่ยวซื้อหา แอลกอร์ฮอล์ล้างแผล กับ หน้ากากอนามัย  แต่ก็ไม่มีที่ไหนมีขาย
จากการที่ฟังขาสัมภาษณ์คุณหมอ เขาบอกว่า หน้ากาก มีสองแบบคือ
๑. หน้ากากผ้าธรรมดา  ซึ่งใช้กันฝุ่นกันอะไรได้ แต่กันเชื้อโรคไม่ได้
๒.หน้ากากอนามัย ซึ่งกันเชื้อโรคได้

คุณหมอบอกว่า หน้ากากอนามัยนั้น ต้องใช้แล้วทิ้ง  ไม่สามารถจะนำกลับมาใช้ใหม่
หรือนำมาซักมาฆ่าเชื้อแล้วนำมากลับมาสวมใส่ได้อีก เพราะสารที่ใช้เคลือบป้องกันเชื้อโรคจะถูกล้างออกไป
ซึ่งจะทำให้หน้ากากอนามัยนั้นไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคอีกต่อไป
ได้ฟังมาถึงมาถึงตอนนี้แล้วทำให้รู้สึกทอดอาลัยในชีวิต  ก็ขนาดจะซือหามาใช้สักอัน
ยังเป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีทีไหนมีขายเลย แล้วจะต้องใช้แล้วทิ้ง
แปลว่า วันหนึ่งจะต้องใช้อย่างน้อย ๑ ชิ้น  หนึ่งเดือนก็ ๓๐ ชิ้น
หากคิดในแง่ดี เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ต้องออกไปไหน เดือนหนึ่งอาจใช้ไม่ถึง ๑๕ ชิ้น
แต่มันติดปัญหาที่ มันหาซื้อไม่ได้  งานนี้ ไอ้หวังตายแน่



https://www.youtube.com/watch?v=IGH6TdINI9E

เพลง ไอ้หวังตายแน่ 


คาถาปัดเป่าทุกข์โศกโรคภัย

สัพพะทุกข์ สัพพะโศก  สัพพะโรค  สัพพะภัย   สัพพะเคราะห์เสนียดจัญไร วิวัญชัยเย

สัพพะธะนัง  สัพพะลาภัง  ภะวัน ตุ เม รักขันตุ  สุรักขันตุฯ


คาถาบทนี้ ตัดตอนมาจาก คาถาโพธิบาท ซึ่งเป็นคาถาสำหรับสวด ปัดเป่าเคราะห์โศกโรคภัยอันตรายต่างๆ

ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ เพราะว่า เป็นคาถาของเก่าของโบราณเขา  สวดเพื่อความอุ่นใจ เทวดาจักคุ้มครองรักษา

ถ้าเกิดว่า ภายในเวลาอีก ๑๐ วัน จู่ๆนักเลงเพลงยาวหายไปเฉยๆ ไม่กลับมาอีก ก็จงรู้เถิดว่า
ยมบาลคงเรียกตัวไปปรับทัศนคติแล้ว....


นักเลงเพลงยาว



 :13:



หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 20 มีนาคม, 2563, 07:58:53 PM


สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นวิตกกังวลอีกเรื่องหนึ่งกคือ อาหาร
เพราะการที่เราต้องออกไปซื้ออาหารนอกบ้านกิน เราก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรบ้าง
สาเหตุที่ต้องพูดเช่นนี้ เพราะว่าเคยมีประสบการณ์ ที่ไม่ได้โดนแดดโดนฝนหรือเข้าใกล้
คนที่ป่วยเป็นหวัดอะไรเลย  แต่แล้วก็มีอาการเป็นหวัด หรือไอเจ็บคอ  สาเหตุมาจากอาหารที่ซื้อมา
สำหรับใครที่มีเตาไมโครเวฟน่าจะสะดวกมากๆ เพราะเมื่อซื้ออาหารมาแล้ว ก็นำเข้าไมโครเวฟฆ่าเชื้อ
แต่สำหรับคนที่ต้องกินอาหารนอกบ้านเลย ก็นับว่ายังเป็นเรื่องที่น่าเสี่ยง
การใส่หน้ากากอนามัย ไม่ใช่ว่าเราจะใส่ได้ตลอดเวลา  โดยเฉพาะเวลาที่จะต้องกินหรือดื่ม
นั่นคือเวลาที่เราจะต้องถอด ซึ่งนั่นก็หมายถึงความเสี่ยง
ทุกวันนี้หมอให้ข้อมูลแค่ว่า การเสี่ยงจากการติดเชื้อมาจากเสลดน้ำลาย สารคัดหลั่งจากผูป่วย
เราก็เลยระวังกันแค่นั้น คือสวมหน้ากากอนามัย กับใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลฆ่าเชื้อ
ไม่ได้ระวังอากาศที่หายใจเข้าไป  เพราะหมอบอกว่า เชือโรคมันลอยอยู่ในอากาศได้ไม่นาน
ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่า คำว่าไม่นานนี้ คือไม่นานแค่ไหน ซึงเรื่องนี้ เราเองก็ต้องระวังกันไป หากยังรักชีวิตอยู่นะ
[/color]
 :24:





หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 22 มีนาคม, 2563, 12:29:51 PM


วันนี้เซอร์ไพรส์  ร้านเอาอาหารเจ้าประจำ ปิด  เก็บโต๊ะเก้าอี้เกลี้ยงฉาด
งดให้ลูกค้ามานั่งรับประทานอาหารเหมือนอย่างเก่า แต่ยังให้ซื้อใส่กล่องไปกินที่บ้านได้
ก็คงทำให้แม่ค้าขาดรายได้ไปเยอะเลยทีเดียว นี่ก็มีสาเหตุมาจากเจ้าไวรัสร้าย โควิด-19 นั่นเอง
บางครั้ง ในสิ่งที่แย่ ก็อาจมีสิ่งที่ดี สิ่งที่ดีที่เห็นได้ชัดก็คือ ซื้อข้าวไม่ต้องคืนจาน
ตามปกติ เรานั่งกินอาหารที่ร้านข้าว(หรือเรานั่งกินข้าวที่ร้านอาหาร) พอกินเสร็จก็ต้องคืนจานเขา
ห้ามนำจานออกนอสถานที่ มิฉะนั้นเขาจะดำเนินการตามกฏหมายกับเรา
แต่พอเปลี่ยนเป็นซื้อกลับมากินที่บ้าน เขาแถมกล่องโฟมมาให้ฟรีๆไม่คิดตังค์  :13:


เจ้าไวรัส โควิดฯ  พิษแรงร้าย
บ่อนทำลายปอดเรา เบาหรือนั่น
เจาะเครื่องมือหายใจ ได้ไงกัน
คงรอวันตายแน่ แท้ละวา

มันเรื่องถึงชีวิตคิดแล้วกลุ้ม
หากโดนรุมเล่นงานถูกผลาญพร่า
คงต้องถึงมรณัง สังขารา
โควิดบ้ามันระบาด พิฆาตคน
   :23:

ก็ระวังป้องกันตัวกันหน่อยนะครับพี่น้อง  เชื้อโรคไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะเจรจากันด้วยเหตุผลได้
ถึงเราพูดดีๆมันไม่ฟังหรอก จะเล่นงานเราท่าเดียว  หากไม่ระวังให้ดี เผลอไปติดเข้า อาจต้องนอนโรงพยาบาล
หรือต้องจองศาลา  แล้วจะหาว่าไม่เตือน  :27:


นักเลงเพลงยาว





หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 25 มีนาคม, 2563, 01:51:05 PM



ยิ่งนับวัน เวลาที่ออกไปไหนข้างนอก ก็ยิ่งเห็นมีแต่คนสวมใส่หน้ากากอนามัยเต็มไปหมด
(ยกเว้นเว้นอยู่คนเดียวที่ไม่เห็นคือตัวผมเองเพราะไม่ได้พากระจกไปด้วย)
ถ้าเป็นซักเมื่อ หนึ่งสัปดาห์ก่อน เราอาจเห็นคนใส่หน้าก่ากอนามัยซัก 70%  อาจยังมีอีก
30% ที่ยังไม่ได้ใส่ แต่ตอนนี้เกือบ 100% แล้ว

พูดถึงหน้ากากอนามัยนี่ ตอนนี้มันหาซื้อที่ไหนไม่ได้เลย แล้วคนที่ยังไม่มีจะทำอย่างไรกัน
ผมโชคดี เมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนที่โรคยังไม่ระบาด บังเอิญผมซื้อไว้ สองสามห่อ เพื่อจะเอาไว้ใส่กันฝุ่น
สองสามห่อ คิดแล้วมี 6-7 ชิ้นเอง 
ถ้าเกิดว่า เชื้อโรคมันแพร่ระบาด เป็นวงกว้าง และมีคนติดโรคเพื่มมากขึ้น หน้ากากเพียง 6-7 ชิ้น
คงไม่พอที่จะใช้ได้ตลอดไป   ทั้ง 6-7 ชิ้น ใช้แล้วก็นำกลับมาซัก แล้ววนกลับไปใช้ใหม่
เพราะว่าของใหม่หาซื้อเพิ่มไม่ได้ คิดว่าคงใช้ซ้ำได้ 5-6-7 ครั้ง เพราะของมันจะเสื่อมคุณภาพ
แต่ก็ยังดีกว่า ไม่มีอะไรเลย

สิ่งที่ต้องพบเจอเมื่อสวมใส่หน้ากากอนามัย

๑. ร้อน  อันนี้ต้องยอมรับว่าการสวมใส่หน้ากากอนามมัยนานๆนี้มันทำให้ร้อน อยากถอด

๒. อึดอัด หายในไม่คล่อง ถ้าคุณใส่หน้ากากอนามัยแล้วต้องใช้เสียงด้วย หรือใส่เพื่อวิ่งออกกำลังกาย
    จนเหนื่อย จะรู้สึกว่า อากาศไม่พอหายใจ ใจคอหวิวๆ เหมือนจะขาดใจ เพราะหายใจไม่ทัน
     ผู้เฒ่าผู้แก่ น่ากลัวจะเป็นลมหน้ามืดตาลาย หรือช็อกตายได้ สงสัยว่า ยังไม่ทันติดเชื้อโควิด
     คงจะขาดใจตายเพราะขาดอากาศไปเสียก่อน

๓.  เหม็น สำหรับใครที่หลงคิดว่าตนเองเป็นคนปากหอม ชอบตำหนิใครๆว่ามีกลิ่นปาก ไม่แปรงฟัน
     อยากแนะนำให้ลองมาสวมหน้ากากอนามัยนี้ดูสักครั้ง จะได้รู้สาเหตว่า ทำไมเพื่อนสนิท
     มิตรสหายถึงได้ค่อยๆหายหน้าหายตาไปจนหมด
     พูดแล้วก็น่าแปลก ที่จมูกเป็นอวัยวะสำหรับรับรู้กลิ่น  ไม่ว่ากลิ่นหอม กลิ่นเหม็น กลิ่นใกล้ กลิ่นไกล
     ใครตด  ใครมีกลิ่นเต่า  ใครฉีดน้ำหอม  ใครสูบบุหรี่  ใครมีกลิ่นปาก  จมูกเป็นรับรู้ได่หมด  เสียอย่างเดียว
     ที่ไม่รับรู้ กลิ่นจากปากของตนเอง ที่อยู่ใต้จมูกนิดเดียว ห่างกันแค่สองเซ็นต์ แต่จมูกกลับรับรู้ไม่ได้
     อุปมาเหมือนคน ที่รู้ไปหมด รู้ว่าคนนั้นชั่วอย่างนั้น คนนี้เลวอย่างนี้ คนนู้นผิดอย่างโน้น
     ใครชั่ว ใครโกง เป็นรู้หมด ยกเว้นความชั่ว ความเลว ของตนเองกับคนใกล้ตัว ที่ไม่ยอมรับรู้


สำหรับ หน้ากากอนามัย คุณหมอแนะนำว่า ใช้ครั้งเดียวทิ้ง  แต่ว่า มันหาซื้อเพิ่มไม่ได้  ก็จำเป็นที่จะต้อง
    นำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ จนกว่าโรคระบาดนี้มันจะสงบลง



ไหว้วอนแถนเทวาฟ้าสวรรค์
บรรเทาทัณฑ์โรคร้ายมลายสูญ
อย่าซ้ำเติมเพิ่มภัยให้อาดูร
จงเกื้อกูลแตกกิ่งแต่สิ่งดี

เชื้อโควิดฯไวรัสสะพัดโลก
ฝูงชนโศกหวาดหวั่นขวัญบินหนี
หลายประเทศเขตแคว้นแดนธาตรี
เหมือนเกิดกลียุคย้ำเข้าซ้ำเติม.


นักเลงเพลงยาว

 :24:





หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 26 มีนาคม, 2563, 12:31:35 AM
 :24: :12:

เชื้อโรครุมสุ่มเสี่ยงจงเลี่ยงหลบ
ยากสยบทุกทิศคนติดเพิ่ม
หลงจริตคิดแคบรูปแบบเดิม
ลองริเริ่มสร้างสรรอาจบรรเทา

เคยใกล้ชิดสนิทถ้อยเว้นถอยห่าง
ซ่อนอำพรางตนตัวไยกลัวเหงา
รู้และรับเริ่มเรียนโลกเปลี่ยนเรา
ละเลยเศร้า..ปลงเถิด..มันเกิดแล้ว


เนาะ...ต้องสู้ถึงจะชนะ  :13:

Jannjao




หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 26 มีนาคม, 2563, 11:18:52 PM


บุคคลากรที่ดีมีคุณค่า
รู้รักษาปกป้องดั่งก่องแก้ว
หากปล่อยปละละทิ้งปานติ่งแมว
ย่อมส่อแววลางร้ายจะกรายเรือน

เช่นคุณหมอพยาบาลท่านเสียสละ
ทุขณะผจญโรคร้ายแปดเปื้อน
เสี่ยงติดเชื้อจากผู้ป่วยที่มาเยือน
สถานการณ์ยิ่งเสมือนเลวร้ายลง

ฟังข่าว ดูข่าว คุณหมอ พยาบาลติดเชื้อ  และคำแถลงของ รมต.สาธารฯ(ยังไม่ได้ฟังว่า ท่านพูดอะไร

แต่เห็นมีคนด่าในยูทูป)

อันนี้เป็นเรื่องจริง คนเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มีอำนาจในบ้านเมือง ก่อนจะพูดจะทำสิ่งใด ต้องคิดต้องไตร่ตรองให้รอบคอบ

มิฉะนั้น จะเกิดความเสียหาย. ความเสียหายนี้ไม่ได้เกิดแก่ตัวท่าน แต่เกิดกับบ้านเมือง.


https://www.youtube.com/watch?v=3jUsIMV_NZU


https://www.youtube.com/watch?v=QL9e_-sD9gY


นั่งดูข่าว จอมขวัญฯ กรรชัย หนุ่ม

ช่วงหนึ่งทุ่ม  ดูข่าว เรื่องราวนั่น

เชื้อไวรัส  ยิ่งร้าย  ยิ่งนับวัน

จำนวนผู้ติดเชื้อ พลัน พุ่งขึ้นเร็ว



นักเลงเพลงยาว




หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 27 มีนาคม, 2563, 11:44:38 AM

โคตรฟลุค

วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำที่ไปบ่อยๆ จู่ๆเกิดมีหน้ากากอนามัยมาวางขายเต็มไปหมด
มีทั้งขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ทั้งแบบธรรมดา และ แบบกัน N95 ทั้งราคา 29 บาทและราคา 129 บาท
เรียกว่ามีทั้งถูกและแพง อารามดีใจ ที่จะได้มีหน้ากากอนามัยดีๆมาผลัดเปลี่ยนซะที เพราะของเก่า ซักจน
เปื่อยยุ่ยแล้ว ก็เลยรวบเหมามาอย่างละ ๑๐ ห่อ  หลังจากจ่ายเงินเสร็จก็เดินยิ้มเผล่ออกมาจากร้าน
ขณะกำลังครึ้มอกครึ้มใจที่ได้ของที่ต้องการอยู่นั้น  จู่ๆก็รู้สึกมีอะไรตุงๆจี้มาทางด้านหลัง พร้อมกับเสียงดังว่า
"หยุด นี่คือการปล้น  ส่งของมีค่าทั้งหมดมา.."
"อย่าทำอะไรผมเลย ทั้งเนื้อทั้งตัวตอนนี้ผมมีแค่ร้อยเดียว ช่วงนี้ตกงาน เงินที่เหลือนี่แค่ค่าข้าว.."
"ไม่ต้องพูดมาก ส่งของมีค่าทั้งหมดมาซะดีๆ..."
"พี่จะเอาอะไร  ก็บอกไปแล้วว่า ผมไม่มีของมีค่าอะไร นอกจากเงินร้อยกว่าบาทกับหน้ากากอนามัยนี่เท่านั้น"
"นั่นแหละ ส่งมาเลย หน้ากากอนามัยน่ะ.."(อ๋อ...ที่แท้พี่โจรต้องการจะปล้นเอาหน้ากากอนามัย)
"ไม่ได้หรอก ของนี่ผมจำเป็นต้องใช้ ช่วงนี้เชื้อโควิดกำลังระบาด.."
"ถ้าไม่ให้ งันเอ็งตาย...." โป้งงงงง
แล้วผมก็สะดุ้งตกใจตื่น  โธ่เอ๊ยยย  ที่แท้ฝันไปหรอกหรือเนี่ยะ  ไอ้เราก็หลงดีใจ นึกว่าหน้ากากอนามัยมีขายแล้ว...

นักเลงเพลงยาว


 :24:



หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 02 เมษายน, 2563, 12:43:03 PM




ดีใจ

สายๆวันนี้ ขณะกำลังเดินออกไปซื้อข้าว ตอนเดินผ่านร้านขายกาแฟ สายตาก้พลันเหลือบไปเห็น
แพคหน้ากากอนามัยวางไว้ในถาด อารามดีใจ เลยรีบเดินเข้าไปสอบถาม
อาแปะที่เป็นคนขายกาแฟบอกว่า แพคละ ๑๐๐ บาท  หนึ่งแพคมี ๑๐ ชิ้น ข้างในเป็นหน้ากากชนิดสีฟ้า
ผมก็ไม่รู้ว่ามันถูกหรือแพง ชิ้นละ ๑๐ บาทเนี่ยะ แต่ที่รู้คือพึ่งจะเจอวันนี้เป็นวันแรก
ดูทั้งถาดแล้วมีอยู่แค่ ๕ แพค ทีแรกกะจะเหมาทั้งหมด แต่มาคิดว่า บางทีคนอื่นอาจกำลังหาอยู่เหมือนกัน
เราเองก็มีหลายชิ้นอยู่ ฉะนั้นสมควรจะเหลือเผื่อคนอื่นไว้บ้าง ดังนั้นผมก็เลยบอกอาแปะ เอาสองแพค
จ่ายเงินเสร็จสรรพ รับหน้ากากอนามัยกลับบ้านสพายใจ   :34:
ที่จริงถ้าลำพังผมคนเดียว ของที่มีอยู่ ถ้านำมาซักแล้วใช้ซ้ำ ก็มากมายเกินพอ
แต่ที่ต้องซื้อเพิ่ม เพราะต้องการจะgvkมาแบ่งให้เพื่ออีกสามคน เพราะเห็นว่าไม่มีใช้
ถ้าเราใส่อยู่คนเดียว เดี๋ยวเขาจะหาว่าใจดำ  แต่ครั้นจะเอาของที่เราใช้อยู่ไปแบ่งให้ มันก็จะไม่พอกัน
เข้าทำนอง เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด ช่วยคนอื่นแต่ตัวเองเดือดร้อน อย่าทำ  ดังนั้นก็เลยต้องมองหาของใหม่ๆ


วิธีใช้หน้ากากอนามัยแบบหมุนเวียน

๑.สำหรับทั่วไปที่ไม่ได้มีความเสี่ยงอะไรมากมายนัก แค่ใส่ในขณะออกนอกบ้าน หรือ
จะต้องเข้าไปในที่ๆมีคนอยู่มากๆ  หรือเข้าไปในห้องแอร์ ไม่แน่ใจว่าจะมีใครติดเชื้อบ้าง
หรือึ้นรถทัวร์ รถโดยสารสาธารณะที่ติดแอร์ อาจจะมีผู้ป่วยโควิดเคยนั่งมาก่อน
เมื่อเรากลับถึงบ้านแล้ว ก็นำหน้ากากอนามัยนั้นไปซัก แช่ผงซักฟอกสัก ๑-๒ชั่วโมง
(ไม่ควรจะไปขยี้มันมาก) ตากแห้งแล้วก็นำกลับมาใช้ใหมาได้

๒.บางทีเราอาจจะใช้วิธีจุ่มลงในน้ำร้อนสัก ๓-๔  เพื่อฆ่าเชื้อ แล้วนำมาตากเพื่อนำกลับมาใชใหม่

๓.ถ้าหน้ากากอนามัยมีจำนวนเยอะเช่นเป็นร้อยๆชิ้น บางทีเราอาจใช้วิธีนึ่งแล้วนำมาตากแห้ง

๔.หรืออาจจะนำไปตากแดดสัก ๒-๓ ชม. เพื่อฆ่าเชื้อ

แต่โดยข้อปฏิบัติส่วนตัวแล้ว ผมใช้วิธีซักเอา  อีกวิธีที่น่าใช้คือ จุ่มน้ำร้อน


ถ้าหน้ากากอนามัยถูกใช้ไปนาน จนเริ่มมีขุย

กรณีนี้ผมคิดว่า ถ้าเรามีหน้ากากผ้า ก็ให้ใช้วิธีซ้อนสองชั้น คือสวมหน้ากากผ้าก่อน จากนั้นสวม
หน้ากากอนามัยทับไว้ด้านนอก  ตัวหน้ากากอนามัยคือกันเสลดน้ำลาย กันเชื้อไวรัสโควิด
ส่วนหน้ากากผ้าที่สวมอยู่ด้านใน เพื่อกรอง กันฝุ่นกันละอองจากหน้ากากอนkมัยที่เริ่มเสื่อมสภาพอีกที
(วิธีนี้สำหรับผู้ที่มีหน้ากากอนามัยน้อยชิ้นและหาซื้อเพิ่มไม่ได้เท่านั้น)

ทั้งนั้นหมดนั้น เป็นข้อคิดเห็นและข้อปฏิบัติส่วนตัว และผมไม่ใช่หมอนะครับ
ก็แค่คนๆหนึ่งที่พยายามคิดแก้ปัญหาเพื่อเอาตัวเองให้รอดไปวันหนึ่งเท่านั้น
สิ่งใดที่คิดได้ ก็นำมาบอกเล่ากัน



 :13: :13: :13:






หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 02 เมษายน, 2563, 02:22:45 PM



โดนแล่ว โดนแล่ว โดนแล่ว

หลังจากที่ดีใจได้ไม่ทันสองชั่วโมง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ต้องสลายกลายเป็นริ้วรอยแห่งความเครียด 
เมื่อแกะซองหยิบหน้ากากอนามวยที่พึ่งจะซื้อมาใหม่ขึนมาดู สิ่งที่เห็นคือ แผ่นหน้ากากอนามัยใยสังเคราะห์บางเฉียบ
ส่องดูเกือบทะลุได้ นี่ถ้าเป็นเสื้อผ้าที่สาวๆใส่ คงมองทะลุไปเห็นอะไต่อมิอะไร
ใจเลยหวนนึกถึงข่าว หน้ากากอนามัยปลอม หน้ากากอนามัยไม่ได้มาตรฐาน หรือข่าวที่ สส.คนดัง
นำหน้ากากอนามัยไปแจกแล้วภายหลังตรวจพบว่าไม่ได้มาตรฐาน บางเกินไป กันเชื้อโควิตไม่ได้
.....หรือว่าคงไม่ได้มาจากล๊อตเดียวกัน...... :24:
เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับหน้ากากอนามัยที่เคยซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อ ก่อนที่ไวรัสจะระบาด
ก็เห็นได้ชัดว่า ของทีซื้อมาใหม่นี้บางกว่ามาก
พูดถึงเรื่องความบางแล้ว ถ้าเป็นโทรศัพท์มือถือยุคนี้ยิ่งบางยิ่งดีคนยิ่งชอบ
แต่ถ้าเป็นหน้ากากอนามัยกันไวรัสโควิดแล้ว บางๆใสๆแบบนี้เห็นทีจะไม่ได้เรื่อง
นึกเสียดายเงินสองร้อยที่เสียไป ดีที่ซื้อมาแค่สองแพค  ถ้าเอาไปแจกเพื่อนไม่รู้จะโดนด่าหรือเปล่า
แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ้าจะใช้ก็คงซ้อนสอง  หน้ากากอนามัยไว้ด้านนอก หน้ากากผ้าไว้ด้านใน
แบบนี้ของที่ซื้อมากไม่เสียเปล่านะ
ยุคสมัยนี้มันไว้ใจใครไม่ได้จริงๆ  :13:

(บางไม่ค่อยกลัว กลัวที่อาจารย์เขาบอกว่าไส้ในเป็นพลาสติกสังเคราะห์ที่ก่อมะเร็ง ตามข่าว)



หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 04 เมษายน, 2563, 01:25:46 PM



กักตุน


ตอนนี้ไม่ว่าเข้าไปร้านสะดวกซื้อสาขาไหน ก็เห็นมีเอาพวกข้าวสาร มาม่า ปลากระป๋อง
และนมกล่อง ออกมาวางมากผิดปกติ คิดว่า สถานการณ์ใกล้แล้วนะครับ
สัปดาห์นี้เริ่มเคอร์ฟิว สี่ทุ่มถึงตีสี ทั่วประเทศ  สัปดาห์หน้า ถ้าตัวเลขผ้ติดเชือยัง
ไม่ลดลง การเคอร์ฟิวล์ 24 ชม.ก็อาจไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป
ฉะนั้น  หลายคน หากยังไม่คิด ก็ควรจะเริ่มคิดกันได้แล้ว  รีบตัดสินใจในตอนที่
ข้าวของต่างๆยังมีวางจำหน่ายอยู่  อย่าไปตัดสินใจตอนที่คนเฮโลไปแย่งกันซื้อ
อีกอย่างหนึ่ง ของเหล่านี้ ถึงไม่เกิดเคอร์ฟิวส์ 24 ชม. แต่ก็ยังเก็บไว้กินได้
อย่าให้เป็นเหมือนหน้ากากอนามัย ที่กว่าจะตัดสินใจได้ก็สายไปซะแล้ว

ตอนนี้ผมก็ซือ ปลากระป๋อง ไว้ 36 กระป๋อง
นมกล่อง 4 แพค 24 กล่อง(ซื้อนิดเดียวเพราะไม่มีคังค)
ยังคิดว่า ต้องซื้อพวกมาม่า กับ นมกล่องเอาไว้เพิ่ม  ซื้อตอนนี้ดีกว่ารอให้ขาดตลาดก่อน


การซื้อสินค้าไว้เพื่อการบริโภคส่วนตัว  ไม่ใช่การเห็นแก่ตัวนะครับ
เพราะว่า ไม่ใช่กักตุนไว้ขายเพื่อจะเอากำไร  เราแค่ซื้อไว้พอกินของเราเท่านั้น
ไม่ได้ไปเบียดบังในส่วนของคนอื่น


เมื่อคืนนี้มีข่าว คนไทยที่สุวรรณภูมิ แหกด่าน หนีการกักตัว เรื่องนี้ทำให้ นายกเครียดเรียกประชุมเป็นการด่วน
นี่ก็เปนอีกเรื่องหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงนิสัยความเห็นแก่ความสุขสบายส่วนตัว ไม่คำนึงถึงส่วนรวม




หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 07 เมษายน, 2563, 05:50:45 PM


https://www.youtube.com/watch?v=DLQ0C-zdB4o

ผญบ.จับตาย “พระ-ชาวบ้าน” ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว | 07-04-63 | ข่าวเย็นไทยรัฐ


ผมดูข่าวนี้แล้วก็........คนมีอำนาจอยู่ในมือ คิดอยากจะทำอะไรกับใครก็ได้
หลังจากฆ่าตายแล้ว ก็บอกว่าเพราะคนตายชักปื่นออกมาจะสู้....คนตายแล้วพูดไม่ได้
ในคอห้อยพระเครื่องพวงใหญ๋  แต่จิตใจไม่ไดมีพระอยู่เลยแม้สักน้อย.


:13:   :13:   :13:



https://www.youtube.com/watch?v=n5aOD2dobhQ

เพลง อยู่ดีกว่าตาย : ดำ แดนสุพรรณ




หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 09 เมษายน, 2563, 12:33:32 PM





เมื่อวานนี้นั่งดูข่าว เห็นเขาว่า รัฐบาลขยายเวลาให้เงินช่วยเหลือประชาชนที่ตกงานเนื่องมาจากการ
แพร่ระบาดของเชื้อโควิดจากเดิม ๓ เดือนเป็น ๖ เดือน    ปุ๊โธ่เอ๋ย  นี่เหตการณ์มันจะยืนยาวยืดเยื้อ
ออกไปอีกหรือเนี่ยะ เอาแค่การให้ประชาชนต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านเพียงแค่เดือนเดียวนี่ มันก็แทบจะ
กระอักรากเลือดตายอยู่แล้ว แล้วนี่รัฐบาลยังจะมีขยายเวลาให้เพิ่มขึ้นไป เรื่องอาหารการกินผมก็กะกัก
ตุนไว้พอกินเพียง ๒๑ วันเท่านั้น
เมื่อเช้านี้ ผมออกไปซื้ออาหาร ปรากฏว่า ร้านเดิมที่เคยซื้อก็ปิด  เดินไปทางไหน บ้านเมืองราวกับ
เมืองร้างที่ปราศจากผู้คน  ร้าค้าร้านขาย เมื่อไม่มีลูกค้าเดินออกมาซื้อของ ไม่นานเขาก็ต้องเลิกขาย
เพราำะไม่รู้จะไปขายใครในเมื่อไม่มีคนซื้อ  ร้านอาหารก็เช่นกัน เมื่อไม่มีลูกค้าเขาก็เลิกขาย
พอร้านอาหารปิด คนที่ต้องซื้ออาหารกินประจำแบบผมก็ต้องเดือดร้อน  เพราะตราบใดที่ยังพอจะออกไป
หาซื้ออาหารมากินได้ ผมก็คงจะไม่ไปต้มมาม่าหรือเปิดปากระป๋อง เพราะของเหล่านี้ ผมเตรียมไว้ยาม
ขาดแคลนเท่านั้น และอาหารพวกนี้ กินติดต่อกันเป็นเวลานานไม่ดี เนื่องจากมันไม่มีสารอาหารอะไร
การกินวิตามีนและเกลือแร่เสริมเข้าไป ถ้ากินติดต่อกันนานๆมันก็ไม่ดีอีก  เพราะฉะนั้น พวกมมา่า
และอาหารกระป๋อง เรากินยามจำเป็นเท่านั้น  หากสถานการณ์แบบนี้ ดำเนินไปเพียง ๑ เดือน เรายังพอทนได้
แต่หากยังยืดระยะเวลาออกไปอีก ก็คงต้องตายกับตายแน่ๆ
#รัฐบาลแก้ปัญหาแบบนี้ เหมือนการเฉือนเนื้อตัวเองมาทำอาหาร มันจะมีชีวิตอยู่ได้นานสักเท่าไหร่ ?
เงินงบประมาณที่คุณเอามาแจกคนตกงานแล้วบังคับให้คนอยู่กับบ้านเนี่ย  คุณเอสเงินเหล่านั้นมาเป็นทุน
ผลิตหน้ากากอนามัยให้ประชาชนสวมใส่ป้องกันเชื้อโรค เอามาซื้อแอลกอฮอล์ล้างแผล  เอามาซื้อยา
สำหรับรักษาผู้ป่วยโควิด แล้วปล่อยให้ประชาชนเขาออกมาทำงานงานได้ตามปกติดีกว่าไหม
คุณก้แค่หาของป้องกันตัวให้เขา เพิ่มงบประชาสัมพันธิ์วิธีป้องกันตัวจากโรคร้าย  เอาเงินมาเปนงบ
จ้างเจ้าหน้าที่มาสอดส่องตรวจเข้มคนทีไม่ปฏิบัติตามกฏการรักษาความปลอดภัย ผมว่า มันจะประหยัดว่า
เอาเงินมาแจกคนแล้วบังคับให้คนอยู่กับบ้านนะ  ก็อย่างที่เห็นๆอยู่ว่า คุณแจกเงินทุกคนไม่ได้หรอก
รัฐบาลจะมาโทษว่า สาเหตุที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เพราะคนไม่รู้จักป้องกันตัวไม่ได้หรอก สาเหตุที่แท้จริง
ก็เพราะคุณไปทำให้หน้ากากอนามัยมันขาดตลาดต่างหาก กับที่ไม่ยอมทุ่มงบเพื่อประชาสัมพันธ์ใหห้คน
รู้จักป้องกันตัวองตั้งแต่แรก จนถึงทุกวันนี้ ผมเดินไปทางไหน คิดจะหาซื้อหน้ากากอนามัยแบบที่ได้มาตรฐาน
ป้องกันเชื้อโรคได้มาป้องกันตัวสักชิ้น มันช่างหายากเย็นซะเหลือเกิน#




เมื่อสองวันก่อน หลงดีใจ ที่ยอดผู้ป้วยติดเชื้อไวรัสโควิด ลดน้อยลง  คิดว่า หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ
สถานการณ์คงไม่รุนแรงถึงขั้นเคอร์ฟิวส์ 24 ชม.แล้ว  แต่มาวันนีชักเริ่มไม่แน่ใจแล้ว
พฤติกรรมของรัฐบาลไทยทุกวันนี้ เหมือนกับคนที่ขุดบ่อเลี้ยงปลา แล้วรู้ว่าปลาป่วย
ก็พยายามจะเอาสวิงไปช้อนปลาบางตัวขึ้นมา เพื่อเอาไปกักเก็บขังแยกไว้ต่างหาก
แต่บ่อปลามันก็กว้างใหญ่ ปลามีจำนวนมาก และไม่รู้ว่าปลาตัวไหนบ้างที่ติดโรค
แต่ว่า คนมันไม่เหมือนกับปลานะ

๓.

วิธีปราโรค โควิด

๑.ไม่ควรใช้วิธีบังคับให้ประชาชนอยู่แต่กับบ้านแล้วแจกเงิน  เพราะวิธีนี้มีแต่ตายกับตาย ตายทั้งรัฐบาล ตายทั้งปนะชาชน ตายทั้งประเทศชาติ

๒.ควรประกาศห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ทุกๆจังหวัดทั่วประเทศ คือแต่ละจังหวัดห้ามเดินทางไปมาหาสู่กัน

๓.จัดตั้งศูนย์ตรวจโรคติดต่อทุกๆจังหวัด ให้ตรวจจนกระทั่งครบกำหนด เช่น ๑๔ วัน ๒๑ วัน หรือ ๑ เดือน
   หากไม่พบผู้ติดเชื้อในจังหวัดนั้นๆ ก็ให้ประกาศรับรองว่า จังหวัดนั้น เป็นพื้นที่ปลอดภัย  ปล่อยให้ประชาชน
    ออกจากบ้านมาทำมาหารับประทานได้ตามปกติ


๔. จังหวัดไหนที่ตรวจว่าปลอดเชื้อแล้ว ไม่ต้องบังคับให้ประชาชนอยู่บ้าน
    แต่ว่า การห้ามเดินทางข้ามจังหวัด ให้คงใช้ต่อไป จนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกจะสงบลง

ผมว่า วิธีนี้ จะทำให้ประเทศชาติ ผ่านพ้นวิกฤติไปได้ แต่กว่าคุณจะมานั่งบังคับให้ประชาชนอยู่กับบ้าน
โดยที่ไม่มีเป้าหมายว่า จะเป็นแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่






หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 11 เมษายน, 2563, 11:03:30 AM


๑๑  เมษายน ๒๕๖๓


           เมื่อเช้านี้ออกไปซื้ออาหารมารับประธาน  ได้เจอของสำคัญชิเรนหนึ่ง นั่นคือ"แผ่นกรองสำหรับหนากกากนามัย"
๑ แพค มีจำนวน ๑๒ แผ่น ราคา ๒๙ บาท
ไอ้เจ้าแผ่นกรองนี้ ไม่ทราบว่าใช้ยังไง  เข้าใจเอาว่า เขาคงใช้สอดใส่ด้านในของหน้ากากผ้า
ซึ่งผมเองก็มีหน้ากากผ้าแบบสองชั้น เลยลองซื้อเจ้าแผ่นกรองที่ว่านี้มา
คิดว่าจะลองดัดแปลงนิดหน่อย คือจะใช้กรรไก หรือคัดเตอร์กรีดหน้ากากผ้าให้เป็นช่อง พอใส่เจ้าแผ่นกรองนี้
เข้าไปด้านในได้ วิธีนี้น่าจะดีนะ พอหน้าหน้ากากผ้าเริ่มเก่าเราก็เอาไปซัก แล้วใส่แผ่นกรองชิ้นใหมา
           เมื่อเปิดออกดู ลักษณะเจ้าแผ่นกรองนี้ คล้ายกับกระดาษทิชชู่  ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าโดนหลอกไหม
จึงลองเอาน้ำหยดใส่เจ้าแผ่นกรองนี้ มันก็ซับซับน้ำ  แต่ว่าไม่เปื่อยยุ่ย  ก็แสดงว่าไม่ใช่ทิชชู่
            ทุกวันนี้ หน้ากากอนามัยแบบมาตรฐานที่เคยเห็นตามร้านสะดวกซื้อไม่มีวางขาย
เห็นมีแต่ หน้ากากผ้า ๑ ชั้น  ๒ ชั้น  และหน้ากากอนามัยแบบ ๒ ชั้น(ไม่ได้มาตรฐาน)มาวางจำหน่าย
บางทีก็เป็นหน้ากากผ้าสีดำ  ลายลูกไม้ ลายต่างๆ ซึ่งถ้ามีการนำมาใช้ซ้ำ ถ้าหากว่ามันสกปรกเปื้อนก็จะดูยาก
            สำหรับ หน้ากากอนามัย  ผ้าปิดปาก หน้ากากผ้า ถ้าใช้เป็นสีขาว จะดีที่สุด
เพราะเมื่อมีรอยเปื้อน เราจะเห็นได้ง่าย จะได้รีบนำไปซัก  ไม่ควรปล่อยให้หน้ากากอนามัยสกปรก

 :13: :13:   :13:






หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 16 เมษายน, 2563, 11:26:13 AM


๑๖ เมษายน  ๒๕๖๓


หน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว ผ่านการซักเพื่อนำกลับมาวนใช้ใหม่หลายครั้ง
จนเริ่มยับยู่ยี่ ไม่รู้ว่าจะยังมีประสิทธิภาพกันไวรัสโควิดได้อีกหรือเปล่า จำเป็นต้อง"ซ้อนกันสองชั้น"
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกัน
               แถวๆบ้าน ก็จะมีเฉาะ"หน้ากากผ้า" ชนิด สองชั้น,สามชั้น  ส่วนหน้ากากอนามัยนั้น"ไม่ต่องไปหา"
ในเรื่องของประสิทธิภาพความปลอดภัยนั้น เท่าที่ฟังคุณหมอเขาแบ่งระดับไว้ดังนี้

๑. หน้ากากอนามัยชนิด N95  สามารถปกป้องเชื้อโรค มีความปลอดภัย 95%
    ซึ่งก็คงจะเหมาะกับคุณหมอ พยาบาล ที่ต้องดูแลผู้ป่วยโควิดฯอย่างใกล้ชิด มีอัตราเสี่ยงการติดเชื้อสูง

๒. หน้ากากอนามัยแบบสามชั้น เกรด A  มีประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโควิดได้ 70-80%
    ผู้ที่จะต้องนั่งอยู่ใกล้ผู้ป่วยเชื้อโควิดฯ เช่นอาจจะต้องนั่งในรถคัยเดียวกัน อาจจะต้องนั่งใกล้กัน
    หรืออาจจะต้องอยู่ในห้องที่อากาศไม่ถ่ายเท เช่นห้องแอร์เดียวกัน  ถ้าไม่มีหน้ากากชนิด N95
    ก็ควรใช้หน้ากากอนามัยชนิดสามชั้นเกรด A จะช่วยป้องกัยได้ 70-80%

๓. หน้ากากผ้า หน้ากากอนามัยสองชั้น(ไม่ได้มาตรฐาน) ประสิทธิภาพป้องกันเพียง 40%
    ไม่เหมาะสำหรับสวมใส่เข้าใกล้ผู้ป่วยโควิดฯ ถึงแม้จะเป็นหน้ากากผ้าถึงสามชั้นก็ตาม
     แต่เนื่องจากความหนาเกินไป อากาศผ่านเข้าออกได้ยาก ยามหายใจก็ลำบาก  แถมขณะที่
     หายใจเข้า-ออกนั้น ก็จะเป็นการดึงเอาอากาศด้านข้างบริเวณขอบๆหน้ากากผ้า ซึ่งยังไม่ผ่าน
     การกรองเข้าไป  ทำให้ยังไม่ปลอดภัยจากเชื้อโควิด
    ฉะนั้น หน้ากากผ้า จึงเหมาะสำหรับสวมใส่ในที่โล่งๆ หรือแค่เดินสวนกันไปมาเท่านั้น  ไม่เหมาะ
     ที่จะสวมใส่เข้าไปนั้งใกลผู้ติดเชื้อโควิดฯเด็ดขาด

ข้อสรูปของวันนี้ก็คือ"หน้ากากอนามัยที่ใชแล้ว ผ่านการซักหลายครั้ง หรือหน้ากากที่ไม่ได้มาตรฐาน
     ควรซ้อนสองชั้น
"




หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 18 มิถุนายน, 2563, 06:53:25 PM

           ไม่ได้เขียนเรื่องโควิดฯมาซะนาน  นี่ก็ผ่านมาเกินสองเดือนเข้าเดือนที่สามแล้วหลังจากที่รัฐมีมาตรการ
ต่างๆเกี่ยวกับโควิดฯ  และช่วงหลังๆ ข่าวคราวความสนใจและการพูดถึงโควิดฯเริ่มซาๆกันไป
            เมื่อวานนี้ผมเข้าไปซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ 8/22 ตามที่เคยซือประจำ  เห็นมีหน้ากากอนามัยมาวางขาย
นึกถึงเรื่องที่ได้ยินข่าวว่า ทางรัฐบาล ท่านมีนโยจะเปิดประเทศ ให้นักท่องเที่ยวชาติเขามาในบ้านเราอีก
ผมก็นึกว่า "สงสัยการระบาดรอบสองของโควิดฯคงจะมาอีกแน่ ในไม่ช้านี้"
คิดอย่างนี้แล้ว ผมเลยตัดสินใจซื้อหน้ากากอนามัย(แบบได้มาตรฐาน) อีกจำนวนหนึ่ง ในราคาแพคละ 73 บาท
๑ แพคมี 4 แผ่น(ทำไมต้องใช้เลขไทยปนเลขอารบิคด้วย) เพราะเป็นแบบ 3D มันจึงมีราคาแพงมาก
ส่วนหน้ากากผ้าแบบซักได้ หยิบขึนมาดูแล้วอันละ 150 บาทเลยต้องรีบวาง
ที่ผมต้องซื้อหน้ากากอนามัยเพิ่ม กเพราะเหตุที่รัฐท่านมีนโยบายจะนำเข้านักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศไทยนี่แหละ
สถานการณ์โควิดฯทั่วโลกยังไม่ดีขึ้นเลย รัฐบาลท่านกจะเปิดประเทศนำเชื้อเข้ามาปล่อยอีกแล้ว
ผมคิดว่า ถ้าเกิดการระบาดในรอบที่สอง คงไม่มีเงินเยียวยา และคงไม่มีใครยอมให้ความร่วมมือกับมาตรการ
เกยตัวอยู่กับบ้านของรัฐบาลอีกแล้ว เพราะที่ผ่านมากย่ำแย่เต็มที...
ดังนั้น ถ้าเกิดการระบาดอีกในรอบที่สอง ก็คงจะต้องตัวใครตัวมันนะ อุปกรณ์ป้องกันตัวแบบต่างๆ
เช่น หน้ากากอนามัย หรือเจลล้างมือ แอลกอร์ฮอล์ล้างมือ ต่างๆ ถ้ามีโอกาสซื้อได้ กควรจะรีบๆซื้อไว้บ้างก็ยังดี
อย่ารอให้โรคมันระบาดในรอบที่สอง และสินค้าขาดตลาดเสียก่อน ถึงตอนนั้นอาจจะหาซื้อไม่ได้
แล้วถ้าเชือมันหลุดเข้ามารอบที่สอง ถึงตอนนั้น ไม่มีใครฟังใคร ไม่มีใครยอมอดตายอยู่กับบ้าน
ทุกคนต่างออกจากบ้านมาเผชิญโรคโควิดฯเพื่อจะหาเลี้ยงปากท้อง  ตอนนั้น สิ่งที่พึ่งได้ ก็คือ อุปกรณ์ป้องกันตัว
เช่นหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดมือ ฆ่าเชื้อเท่านั้น เพราะว่า เรายังไม่วัคซีนป้องกันกับยารักษาโรค
ดังนั้น ใครที่นิ่งนอนใจ ไม่แสวงหาแต่เนิ่นๆในตอนที่ยังมีโอกาส ต่อไปจะลำบาก
             ในกรณีที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนน้อย ชีวิตมันก็ไม่เสี่ยงเท่าไหร่ หน้ากากอนามัย จะใช้แบบไหนก็ได้
เพราะว่า มันไม่ค่อยเสี่ยง  แต่ถ้ามันระบาดในรอบสอง และจำนวนผู้ติดเชือมันเยอะ มีมันมุกหย่อมหญ้า
ไปทางไหนกมีแต่ผู้ติดเชื้อ ถึงเวลานั้น ชีวิตมันก็มีความเสี่ยงสูง หน้ากากอนามัยที่ไม่ได่มาตรฐาน
หรือหน้ากากผ้าน่าจะเอาไม่อยู่ ต้องใช้ของที่ไดมาตรฐานเท่านั้น ชีวิตถึงจะปลอดภัย
                อันนี้ก็เขียนมาเล่าสู่กันฟัง  เตือนกันเพื่อความไม่ประมาทเท่านั้น  เชื่อไม่เชื่อก็สุดแล้วแต่ท่าน
ชีวิตใครชีวิตมัน เราต้องรับผิดชอบชีวิตกันเอาเอง  จะไปหวังพึ่งแต่รัฐ รัฐเขาก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเนรมิตเงินทอง
ขึ้นมาได้ สิ่งที่เห็นคือมีแต่กู้หนี้ ซึ่งก๋เป็นภาระที่คนไทยต้องรับต่อไป
ในเมื่อมันเป็นอย่างนี้ สิ่งที่เราทุกคนทำได้คือ พึ่งพาตนเอง ดูแลตนเอง เอาชีวิตเราให้รอดปลอดภัยก่อน
ก่อนที่จะคิดไปพึ่งพาคนอื่น....


อันโควิดฯคิดแล้วไม่แคล้วคลาด
คงระบาดอีกครั้งเป็นรอบสอง
ซื้อหน้ากากอนามัยไว้สำรอง
เผื่อจำต้องหยิบใช้ใส่ป้องกัน

นโยบายรัฐบาลท่านคือเหตุ
เปิดประเทศอีกหนแก้จนนั่น
นักท่องเที่ยวรับมามิช้าพลัน
โควิดฯนั้น คงจะหวนทวนย้อนคืนฯ


นักเลงเพลงยาว



 :24:






หัวข้อ: Re: ขาดตลาด
เริ่มหัวข้อโดย: นักเลงเพลงยาว ที่ 22 มิถุนายน, 2563, 11:41:28 PM



               พูดถึงเรื่อง โควิดฯ  กับการสวมหน้ากากอนามัยแล้วเนี่ยะ
สิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็น ภายหลังจาก การสวมหน้ากากป้องกันโควิดฯ สามเดือนกว่าๆก็คือ
ช่วงเวลาสามเดือนที่ผ่านมา ไม่เคยเป็นหวัดอีกเลย  ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ มักจะมีอาการ
เป็นหวัดเสมอๆ อย่างน้อยก็ สาม-สี่เดือนครั้ง  ทั้งๆที่เราก็ไม่ค่อยจะได้ถูกแดด ถูกลม
หรือตากฝนนัก  แต่บางทีก็เป็หวัดโดยไม่รู้ตัว  คิดว่า การติดหวัดก่อนหน้านี้
น่าจะติดมาจากคนที่นั่งข้างๆ จามไแบ้าง เชื้อกระเด้นมาติดตัวเรา แล้วก็รับเชื้อเขาไป
แต่พอหันมาใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้าใกล้คนอื่น ก็ดูเหมือนว่า การสวมใส่หน้ากาก
อนามัยนี้ นอกจากช่วยเรื่องโควิดแล้ว ยังช่วยป้องกันการติดเชื้อหวัดอื่นๆด้วย
ที่เหลือนอกนั้นก็คือ เชื้อที่อาจจะมาจากอาหาร เพราะผมต้องซื้อข้าวนอกบ้าน
ถ้าจะมาทางเดียวก็มากับอาหาร 


หลีกโควิดฯปิดหน้าด้วยหน้ากาก
ไม่ยุ่งยากรำคาญเช่นงานหนัก
เพียงสวมใส่ปกปิดนิดดีนัก
เชื้อชะงักหมดสิทธิ์มาติดเรา

อย่าประมาทเลินเล่อเผลอลืมใส่
ฝึกหัดไว้จนชินสิ้นโศกเศร้า
จักรอดพ้นโรคภัยไข้บรรเทา
อยู่ให้ไกลบ้านเก่า เฝ้าเตือนตน.

นักเลงเพลงยาว


 :24: