หัวข้อ: เรื่องสั้น เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 17 กรกฎาคม, 2563, 06:08:36 PM สมัยอัศวิน กาลครั้งหนึ่ง พระราชาเจ้าแคว้นทรงปกครองโดยทศพิธราชธรรมมาช้านาน พระองค์ทรงมีพระราชธิดาสองพระองค์ พระองค์โตทรงมีพระปัญญาเฉียบแหลม แต่ไม่ใคร่แข็งแรงนัก พระองค์เล็กทรงพระปรีชาสามารถด้านการทหาร เป็นที่ยอมรับในหมู่ขุนศึก และแล้ววันหนึ่ง เจ้าน้องต่างพระมารดาของพระราชา ทรงร่วมมือกับเหล่าขุนนางกลุ่มหนึ่งทำการรัฐประหาร ลอบปลงพระชนม์พระราชา แล้วเข้ายึดอำนาจการปกครอง ขณะนั้น เจ้าหญิงองค์เล็กทรงฝึกทหารอยู่ที่ค่าย พระองค์ทราบข่าวจากทหารคนสนิท จึงหลบหนีไปได้ เจ้าอาได้แต่นำตัวเจ้าหญิงองค์โตมาคาดคั้น "เจ้าจงมอบพระราชลัญจกร และเครื่องราชกกุธภัณฑ์มาเสียแต่โดยดี หาไม่ เจ้าจะต้องได้รับความอับอายขายหน้า ข้าจะขึ้นครองราชย์ และประกาศแต่งตั้งเจ้าเป็นราชินี" และเหตุการณ์ก็เป็นเช่นนั้น การปกครองของพระราชาองค์ใหม่ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก แรกเริ่มก็มีกองทหารบางกรมกองกระทำการต่อต้าน ต่อมา กองกำลังนำโดยเจ้าหญิงองค์เล็กประกาศต่อสู้ล้มล้างพระราชา แต่ด้วยกำลังพลและอาวุธมีน้อยกว่า จึงไม่สามารถต้านทานไหว ที่สุดก็ปรับเปลี่ยนเป็นขบวนย่อย ๆ กระทำการใต้ดิน ฝ่ายเจ้าหญิงองค์โต นับแต่ทรงได้รับการประกาศแต่งตั้งเป็นพระราชินี พระองค์ไม่เคยปรากฏพระองค์ในที่ใดเลย ขบวนการใต้ดินได้เกิดขึ้นไปทั่ว ในหัวเมืองรอบนอก ยิ่งเมื่อมีข่าวลือสะพัดว่า หัวหน้าขบวนการก็คือ เจ้าหญิงองค์เล็ก ประชาชนจึงให้การสนับสนุน มอบข้าวปลาอาหารให้มากมาย นับวันกำลังพลก็เพิ่มมากขึ้น ๆ สามารถทำการสู้รบยืดเยื้อได้ยาวนานขึ้น อาวุธยุทโธปกรณ์ก็เริ่มทัดเทียมกับฝ่ายพระราชา ที่สุด ก็สามารถบุกยึดเมืองสำคัญได้หลายเมือง หัวหน้าขบวนการใต้ดินได้ออกประกาศให้พระราชินีสละพระอำนาจเสีย หาไม่ หากแพ้ศึกจะถูกโทษประหารสถานเดียว แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใด ๆ จากฝ่ายพระราชินีเลย เวลาผ่านไปเป็นเดือน แล้วก็เป็นปี ฝ่ายใต้ดินยิ่งทียิ่งทวีความเข้มแข็ง และแล้ววันหนึ่ง ปรากฏข่าวแพร่สะพัดไปทั่วว่า "หัวหน้าใต้ดินเสียชีวิตแล้ว ๆ" ข่าวนี้ยิ่งทำให้ประชาชนโกรธแค้นเพิ่มมากขึ้น หันไปให้ความช่วยเหลือพวกใต้ดินกันอย่างล้นหลาม ในไม่ช้า กองกำลังใต้ดินก็ปรากฏเป็นกองทัพใหญ่เข้าปิดล้อมพระนคร หลังจากโหมโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่า ทั้งกลางวันกลางคืน ที่สุด เมืองพระนครก็ถูกตีแตก แต่พระราชาหนีไปได้ ข้าราชการฝ่ายพระราชาก็ถูกจับกุมคุมขัง รอการสอบสวนต่อไป ในสถานที่ลับแห่งหนึ่ง มีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งยืนรวมกันด้วยทีท่าอันสำรวมยิ่ง คนหนึ่งได้ก้าวออกมา ถวายความเคารพพร้อมกับกล่าวรายงานว่า "พวกเราได้กระทำตามพระประสงค์ของพระองค์ สำเร็จทุกประการ "ได้ดำเนินการจนบ้านเมืองเข้าสู่ความสงบสุข ประชาชนทั่วทุกแห่งได้รับความช่วยเหลือ "พวกเราได้จัดการเลือกตั้งผู้สำเร็จราชการและฝ่ายต่าง ๆ เข้าบริหารแผ่นดินอย่างเหมาะสมครบถ้วน "ล่าสุดก็สามารถจับกุมพระราชาได้ รอการพิจารณาคดีอย่างเที่ยงธรรมต่อไป "สำหรับหัวหน้าขบวนการก็ได้จัดพิธีอย่างสมพระเกียรติ" "เราขอขอบคุณพวกท่านทุกคนที่อดทนความอัปยศอดสูนานานับประการ "กระทำการอย่างเข้มแข็งยาวนาน จนทุกอย่างได้สำเร็จลง "โดยมิได้หวังลาภยศสรรเสริญใด ๆ ขอบรรดาสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงอำนวยพรแก่ทุกท่านเทอญ" |