เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนเศร้า => ข้อความที่เริ่มโดย: พิณจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน, 2565, 09:25:33 PM



หัวข้อ: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 18 พฤศจิกายน, 2565, 09:25:33 PM
(https://obs.line-scdn.net/0hVE0gHMP0CWoNHiQ3Xlp2PTdICgU-chppaShYaVFwV15zLB44ZXhEBC4YUV0gKU40YyxECSkaElspKEk1NXlE/w644)

....หายไปไหนกันหมดน้อ....

เหมือนวิ่งเล่นอยู่บ้านในย่านหนึ่ง
เหมือนคอยขึงเชือกไว้กั้นใครเขา
หากแม้นมีใครหลง..มาบ้านเรา
จะโอบรัดเพียงบางเบา อยู่เหย้าเรือน

จะเชื้อเชิญให้นั่งพิงหลังก่อน
เดินทางมาเหนื่อยอ่อน..วอนอย่างเพื่อน
ดื่มน้ำเย็นก่อนหนาอย่าแชเชือน
ขอจงเหมือนญาติมิตร ลิขิตกลอน

อยู่เฝ้าบ้านเหงาหงอยร้อยลิขิต
รอญาติมิตรมาเยือนเรือนอักษร
คอยมองทางสร้างศิลป์กวินจร
คางเกยหมอนมองไหนก็ไม่มี

เสียงลมพัดกวัดแกว่งท่ามแสงฝัน
ใต้เงาจันทร์เมฆหม่นปนแสงสี
หันมองไหนขมุกขมัวทั่วธานี
เพลงกวีก็หายคล้ายร้างลา

ก่อนเคยยินครึกครื้นสดชื่นบ้าง
เขียนงานวางถูกผิดคิดปรึกษา
ร่วมเรียนรู้แผนผังครูสั่งมา
สุขหรรษาเย้าหยอกเขียนบอกกัน

มาวันนี้วิ่งเล่นเหมือนเช่นเก่า
มีเพียงเงาก่อนนี้มีสุขสันต์
นั่งหัวร่อคนเดียวเสียวเงียบงัน
สุดแสนหวั่นใครจับส่งเข้าโรงบาล
 :34:
โอ้ยยยยยย/หายไปไหนกันโหมดดดดด/ ฮ่าๆ
พิณจันทร์
18 พฤศจิกายน 2565




หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2565, 08:52:21 AM


เคยวิ่งเล่นอยู่ในบ้านแถวย่านหนึ่ง
เป็นบ้านซึ่งใหญ่โตรโหฐาน
กำแพงอิฐสีเทาดูเก่ากาล
ระเบียงชานสองฝั่ง หลังคาแดง

มีผู้คนมากมายทั้งชายหญิง
สรรพสิ่งมิ่งไม้คล้ายแปลกแปร่ง
ถึงพริ้งเพริศเลิศหรู ดูคลางแคลง
แม้แต่แสงหยาดอรุณ มิคุ้นชิน

มีพวกเดินไปมาก่อนฟ้าสาง
ดุจรูปเงาเลือนรางข้างกองหิน
บ่นพึมพำบ่อยเห็น เป็นอาจิณ
บ้างชอบผินเหม่อมองทอดท้องฟ้า

พูดกับมด ประชดรัก ทักวิหค
พร่ำเพ้อพก กุ้งปู แลหมูหมา
บ้างก็ถือกระดานชนวน ชวนตรึงตรา
นั่งไขว่ห้างวางท่า สง่าตรง

ริมเสาบ้านด้านซ้าย ติดป้ายตระหง่าน
ดูเป็นการเป็นงาน ภูมิฐานบ่ง
“อารมณ์กลอน” อักษรหวัดแกมบรรจง
จุดประสงค์เป็นที่พักรักษากาย

หนึ่งสาขาศรีธัญญะ สถาบัน
บำบัดจิตผู้ยึดมั่นสำคัญหมาย-
เป็นกวีกลับชาติ มิคลาดคลาย
ตีหน้าตายร่ายเรียงคำ ทำสมจริง!!

…อำกันเล่นนะครับ…แหะแหะ
(เดี๋ยวท่านระนาดจะเคืองเอา)
อารมณ์กลอนน่ะบ้านหลังที่สองของผมครับ
ถ้าไม่รักกันจริงไม่อยู่ทนจนถึงทุกวันนี้หรอกครับ…

โซ…เซอะเซอ
19 พฤศจิกายน 2565


:12:



หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 05 ธันวาคม, 2565, 02:28:17 PM
 :12: :34: :21:

อารมณ์กลอนนอนเรือนเสมือนเหย้า
เคยรอเฝ้าออกอยู่คล้ายสู่สิง
เป็นวังเวียงเพียงหนึ่งพักพึ่งพิง
แสนดียิ่งหลบร้อนเพื่อผ่อนคลาย

ตอบที่ถามตามตรงเหตุสงสัย
เพราะอะไรราร้างพลันห่างหาย
อาทิตย์ขึ้นหนึ่งวันลับจันทร์กลับกลาย
ส่วนเราคล้าย..ดาวหาง..วนห่างปี

จ้า 5555

Jannjao


หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 06 ธันวาคม, 2565, 07:34:26 AM


อารมณ์กลอน เงียบเหงา เหมือนเป่าสาก
เคยโหวกหวาก โวยวาย ระบายสี
แว่วยินเสียง วรรคทอง ของกวี
กลับถูกความ เงียบฉี่ นี้กลบเอา

อันดาวหาง นานนานมา สักคราหนึ่ง
เหลือสุดพึ่ง แผล็บหาย มิคลายเหงา
หากนักกลอน งดเพียร เขียนกลอนเกลา
หวังใครเล่า สืบสาน กานท์ระบิล

อารมณ์กลอน เขียนกลอน วอนฝากมิตร
ผู้ชื่นชิด เฉิดฉัน วรรณศิลป์
ขออย่ามัว เชือนเฉย อย่างเคยชิน
หลั่งร้อยริน พจนารถ มิคลาดคลา

BXEYjeLJSGY

โซ…เซอะเซอ
6 ธันวาคม 2565


 :letter: :18:



หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 09 ธันวาคม, 2565, 06:00:05 PM
 :34:
อารมณ์กลอน โรงเรียนฝึกเขียนอ่าน
ครูกลอนกานท์คอยเทียวมากเชียวหนา
ท่านอยู่เหย้าเฝ้าเรือนเหมือนก่อนมา
แค่บางตามีบ้างที่ห่างเรือน

แค่มีศิษย์บางคนที่หล่นหาย
มีข้ออ้างมากมาย...สุดอายเพื่อน
ศิษย์นี้นาม พิณจันทร์ มิหันเยือน
งานเป็นเงื่อน ผูกอ้างห่างเหินไป
 :34:
แท้จริงแล้วเขียนมิออกจะบอกว่า
หมดปัญญา ต่อคำ ลำนำใหม่
หวานก็จืดสนิทจนมิดใจ
ขออภัย ข้ออ้าง ทุกอย่างจริง
 :34:
พิณจันทร์
9 ธันวาคม 2565


หัวข้อ: …เสียงแห่งความเงียบงัน [The Sound of Silence]…
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 ธันวาคม, 2565, 03:07:02 PM


…เสียงแห่งความเงียบงัน…

…The Sound of Silence…

UMuJJzj3Tck

“…In restless dreams, I walked alone
Narrow streets of cobblestone
'Neath the halo of a street lamp
I turned my collar to the cold and damp
When my eyes were stabbed
by the flash of a neon light
That split the night
And touched the sound of silence…”


…ฉันเดินอยู่อย่างเดียวดาย
ท่ามกลางความสับสนกระวนกระวายในความฝัน
ถนนใต้แสงไฟ ปูลาดด้วยเม็ดกรวดนับร้อยพัน
กระชับมั่นอาภรณ์ซุกซ่อนเก็บเหน็บหนาวใจ

นีออนแสงรุกล้ำค่ำราตรี
ฤาทดแทนถ้อยสดศรี วจีได้
เหมือนตอกย้ำรันทด หมดอาลัย
หม่นทุกข์ภัย จากเย็นเยียบและเงียบงัน…

“…And in the naked light, I saw
Ten thousand people, maybe more
People talking without speaking
People hearing without listening
People writing songs
that voices never shared
And no one dared
Disturb the sound of silence…”


…สายตาทอดแสงพราวพร่างสว่างไสว
ผู้คนนับหมื่นต่างคลาไคลอย่างไร้เสียง
บทประพันธ์ซ่อนเก็บไว้ไร้จำเรียง
สิ้นสำเนียง ยอมพ่ายแพ้แด่เสียง
แห่งความเงียบงัน…

…ผิว(ะ)จันทร์ ผันจินต์ ผินจรจาก
มาตรแม้นอยาก เยียวยา น้ำตาหญิง
คงหลือเพียง ดาดพจน์ หมดพึ่งพิง-
พักแอบอิงอัดอั้น…ปันบังอร

เต็มประดา อ่อนด้อย ประดอยประดิษฐ์
สัมประสิทธิ์ ของเศษซึ้ง ครึ่งอักษร
คัดกรองกลั่น เคี่ยวกรด เป็นบทกลอน
อาตม์สะท้อน อกสะท้าน วิมานสะเทือน

คอยความเงียบงันเหงา บรรเทาระงับ
คลายข้องคับ คลาไคล ใจคล้อยเคลื่อน
คะนึงสดับ เด่นด้าว ฟุ้งดาวเดือน
จากผองเพื่อน พลพรรค นักประพันธ์…

โซ…เซอะเซอ
11 ธันวาคม 2565


 :letter: :33: :18:



หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: สายน้ำ ที่ 13 ธันวาคม, 2565, 12:21:24 PM


นักกลอนเราเก่าใหม่สมัยนี้
เลือนริบหรี่เร้นหายคล้ายอาถรรพ์
เกล็ดแวววาวพราวจับวับแวววรรณ
เดี๋ยวพรายพรรณพาจรสะท้อนไป

การประดิษฐ์คิดอักษรย้อนอดีต
คือสังคีตคึตาอ่าไสว
กว่าจะกลายฉายเพชรเกล็ดวลัย
ส่องสมัยปัจจุบันวันกวี

ขอเชิญชวนพรวนปลูกผูกอักษร
ดาวกำจรเจรียงเคียงราศี
ล่องลอยโรจน์โชติช่วงดวงราตรี
กลับสว่างวาทีที่ค่ำคืน

      สายน้ำ


หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 13 ธันวาคม, 2565, 06:58:50 PM
@ หายไปหมด ด้วยกฎ"ยาก"
แถมซ้ำซาก "สาร"สื่อหาย
"เกม"เล่นรู้ อย่าดูดาย
"ต่อคำ"ทาย ช่วยได้ครัน

@ ขอบอกเล่า ถึงตัวข้า
ยามใดบ้า นำเสนอฉันท์
ต้องโดดเดี่ยว เปล่าเปลี่ยวพลัน
คลัง"ลหุ"นั้น จำ"สรรค์"จริง




หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 ธันวาคม, 2565, 09:29:30 AM


เป็นนักกลอน อ่อนด้อย ละห้อยละเหี่ย
มักจำเขี่ยจำกัด สะบัดสะบิ้ง
พาลประหม่า เหมือนคราครั้ง ยังโสดยังซิง
สะดีดสะดิ้ง ตะกุกตะกัก เป็นวักเป็นเวน

ค่อยคืบคลาน สานส่ง ประสงค์ประสิทธิ์
หวั่นลิขิต หมางมัว ตาถั่วตาเถร
ไหลเลยหลักการครู ตกลู่ตกเลน
กลายเศษเดน ดารดาษ เกลื่อนกลาดเกลื่อนกลอน

กี่พร่ำเพ้อ กี่ตัดพ้อ บ่ ย่อบ่ ยั่น
ในทุกวัน เข็นวาระ อักษะอักษร
เพียรเขียนอ่าน ขานเอง ตะเลงตะลอน
เพลินดับร้อน  ฟ้อนเซิ้ง บันเทิงบรรเทา

 EOkyCtyoqPc

:12:

โซ…เซอะเซอ
15 ธันวาคม 2565




หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: พิณจันทร์ ที่ 16 ธันวาคม, 2565, 12:43:18 PM
:35:
หลายสำนวนข้างบนประพนธ์ต่อ
น้ำตาก็พลันไหลไฉนเศร้า
ด้วยเพราะซึ้งมิตรกลอนสะท้อนเรา
เหินห่างเหย้าเรือนกลอนมิย้อ นมา

จึ่งคิดว่าจากนี้ดิถีใหม่
ผังอะไรเขียนลงประสงค์ค่า
ให้ครึกครื้นคืนค่ำจำนรรจา
ถึงแม้ว่า ผังใหม่เขียนไม่เป็น

ผิดถูกบ้างปะไรแก้ไขนั่น
ครูประพันธ์คอยมองท่านต้องเห็น
สะกิดคำแก้ไขพร้อมใจเย็น
ได้โปรดเข็นให้อยู่เอ็นดูนาง

ด้วยอายุอานามหากถามไถ่
มิเยาว์วัยดั่งที่พาทีสร้าง
ทั้งสติปัญญาก็ลาจาง
แค่เง้อง้างเขียนไปด้วยใจรัก

หากแม้นเห็นสิ่งใดไม่งามงด
การสะกดผิดคำนำประจักษ์
ครุ ลหุ ประวิงยากยิ่งนัก
ขอโปรดทัก แก้ไข อยากใคร่เรียน

สำนวนธรรม โคลงฉันท์ประพันธ์ยาก
จึงใคร่ฝาก ขอวางแนวทางเขียน
เปลี่ยนมาเป็น แนวชีวิต คิดระเบียน
โปรดติเตียน ควรไหม ใคร่เขียนวาง

พิณจันทร์
16 ธันวาคม 2565


หัวข้อ: Re: หายไปไหนกันหมดน้อ
เริ่มหัวข้อโดย: palawast ที่ 01 กุมภาพันธ์, 2566, 02:19:37 PM
กลอนเพราะมากครับ  :12: