เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

บทกลอนไพเราะ => กลอนคิดถึง => ข้อความที่เริ่มโดย: จั่นเจา ที่ 27 สิงหาคม, 2567, 11:33:59 PM



หัวข้อ: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 27 สิงหาคม, 2567, 11:33:59 PM
 :12: :34: :21:

ความคิดถึงเก็บงำเราจำได้
วันผ่านไปปีล่วงยังห่วงหา
รางเลือนร้างห่างหายสุดสายตา
พร่ำพรรณารันทดเป็นบทกลอน

ด้วยภาระหน้าที่คงมีมาก
ต่างลาจากตลอดให้ทอดถอน
ร่วงโรยร้างรักกานท์ร้าวรานรอน
จนอกอ่อนอ่วมช้ำเกินทำใจ

ตะวันเคลื่อนเลือนหายกลับกลายสู่
เช้าครองคู่..ฟ้าแจ้ง..แสดงใหม่
กวีรั้งฝังจิตสถิตย์ใน
เคียงชิดใกล้..ประดับ..คู่กับกลอน


Jannjao


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 29 กันยายน, 2567, 03:23:45 PM
วัฎจักรสายฝนที่วนว่าย
เมื่อพระพายดุดันผันลมอ่อน
ตะวันดับกลับจ้ามาอวยพร
หรือเผาร้อนกันเล่าเกินเข้าใจ

เมื่อชีวิตดิ้นรนคนไขว่คว้า
กับเงินตรา..ค่าอยู่สู้เท่าไหว
โลกก็หมุนคนเวียนและเปลี่ยนไป
กาลเวลาก็ไวคล้ายไม่รอ

ทุกภาระคราก้าวยังเฝ้าคิด
ถึงมวลมิตรสหายเคยได้ต่อ
กลอนของคนมากมายคล้ายถูกคอ
เคยเล่นล้อเอ็นดูอยู่เหมือนกัน

บ้างมีเศร้าเหงาลึกนึกคิดถึง
มีตราตรึงซึ้งใจอยู่ในฝัน
คิดถึงนะกวีที่ผูกพัน
ยังรอวันเธอเขากลับเข้ามา

ดาวเอง

 :29:


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 29 กันยายน, 2567, 06:07:51 PM
 :29: :15:  :29:

กลอนฝากชื่อถือครองเป็นของเขา
ส่วนกลอนเรา...อิดโรยหากโหยหา
มิงามงดบทคำ..ธรรมดา
กลอนติดฝา..บ้านบ้าน..แบบงานกลาย

อาจดูแปลกแหวกสไตล์..ยามได้อ่าน
ทุกข์รำคาญ...ปั่นปลุกสุขสลาย
จะเติมแต่งแข่งอ้อน..กลอนดันตาย
อยากเฉิดฉาย..เหมือนเขาบ้าง...คงห่างเกิน


Jannjao








หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 29 กันยายน, 2567, 08:19:26 PM
 :13:
มาเล่นบทตัดพ้อท้อสลด
เจ้าพ่อบทต่อกลอนทั้งร่อนเหิน
ปากก็ร้ายปรายตามาประเมิน
ทำยุเชิญให้โกรธเล่นบทร้าย

ติดฝาบ้านก็ดีนะพี่จ๋า
หรือติดฝาโลงให้ได้เฉิดฉาย
ใช่แช่งพี่..ที่บอกกันกลอนดันตาย
กลอนสลายเขียนใหม่ให้ไวเลย

 :21:


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: ยูริน ที่ 17 ตุลาคม, 2567, 01:30:03 PM
ความคิดถึงตรึงใจในที่นี่
ไม่อาจลืมวจีที่เปิดเผย
ถึงความรักสิ่งเดียวกันที่ฉันเปรย
ความคุ้นเคยก่อเกิดเปิดหัวใจ

ถึงไม่เห็นให้รู้หนูคิดถึง
หากว่างจึงจะมาเยี่ยมหาได้
แม้นกลอนฝืดว่างมาจะออนไลน์
เช็คชื่อไว้แทนคำตามคำนึง

ยูริน

 :14:


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: จั่นเจา ที่ 17 ตุลาคม, 2567, 03:20:20 PM
ห้องรวมญาติคลาสเล็ก..แต่เช็คชื่อ
ลงลายมือ..แจ้งสิทธิ์..ยังคิดถึง
รวมหลากหลายรายรัอยถ้อยรำพึง
กลอนสุดซึ้ง..สุขเศร้า..หรือเหงาใจ

อ่านกานท์กฎบทเพิ่ม..เริ่มสนุก
จึงลองรุก..สืบสาน..ผลงานใหม่
หากยังขาดคลาดเคลื่อนมิเหมือนใคร
ช่างประไร..แต่งสู้..เรียนรู้เอา

ณ.ทึ่นี้..มีแต่มิตร..ที่คิดห่วง
เวลาล่วง..ไมตรี...ทวีเท่า
อารมณ์ละเมียด....เกลียดรักมีหนักเบา
ครายวนเย้า...ขอโทษ...อย่าโกรธกัน


Jannjao

ยินดีที่ได้รู้จักจ้า  


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: ยูริน ที่ 17 ตุลาคม, 2567, 05:59:50 PM
ขอบคุณท่านพี่จั่นฉันซาบซึ้ง
เคยเขียนกลอนครั้งหนึ่งรำพึงฝัน
หากทว่าห่างนานไปคิดไม่ทัน
เหมือนอารมณ์ตื้อตันไม่เข้าใจ

กลอนเริ่มมีเริ่มมาอารมณ์สร้าง
เริ่มหายแล้วอ้างว้างช่างสดใส
จะคอยหมั่นฝึกปรือฝีมือไป
ผิดพลาดใดจงเตือนเหมือนน้องเลย

ยูริน





หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 17 ตุลาคม, 2567, 10:33:16 PM
(https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhlCN56lozTD-KH9ELTGyK9Pvlq6ai65GGuvYFX17xGKGRhypIN2Ep11iv85x8HU7QbmPggxpaYIRwqeV1ws8EAAXnMwWw92EYfwNmxSuoepsGtSydOg33wh9bmQvv6PBVXWQ3ZNzra2m3U/s1600/birthday_302l.gif)

ด้วยใคร่รักอักษราเรียงอักษร
รังสรรค์สู่งานกลอนอันผ่าเผย
แม้นได้อ่านงานใครใคร่ชมเชย
ช่างเปรียบเปรยน่าฟังดังเพลงพิณ

บ้างคิดถึงวันเก่าคราวแรกเริ่ม
มวลมิตรเพิ่มความรู้ให้ทั่วถิ่น
เสียงหัวเราะในอักษรยังโบยบิน
มันรับรู้ได้ยินด้วยหัวใจ

บ้างคิดถึงผลงานท่านที่ชอบ
ที่เคยมาโต้ตอบอย่างลื่นไหล
บรรยากาศเดิม-เดิมเติมเชื้อไฟ
ให้เร่งสร้างผลงานใหม่ในทุกคืน

เมื่อคิดถึงก็มาหา...มิปิดกั้น
ร่วมแบ่งปันถ้อยความยามระรื่น
ยังคงรักอักษราพาหยัดยืน
แลดาษดื่นด้วยพี่น้องพ้องพวกเรา.



ทักทายทุกท่านค่ะ

(https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgMpHE1BNa6iU-av0OTZSWOmTEzm4CxSXxKji42NfopHOlG_Ha3G1tpVKvAc9Gne4rGVo2RNW0UHmQUSKJkmXlhbvzQ9Yn-D0M5m0dcNO5FwQXQmy_uxLa8zTYWiCnTe2HHJ_h62cqhFXVp/s1600/crayon_301m.gif)


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 17 ตุลาคม, 2567, 11:08:46 PM
มารอรับคนดีพิกุลแก้ว
เธอมาแล้วรู้ไหมทิ้งใครเหงา
เธอก็รู้พี่นั้นขั้นใจเบา
ใจมันเทาเล่ากลอนมันอ่อนแอ

แม้นยังจำสำเนียงเคยเคียงศัพท์
จงสดับรับรู้ดูให้แน่
บ้านแห่งนี้แม้นานไม่ผันแปร
ทั้งรักแลคิดถึงจึงเฝ้ารอ

ดีใจกลับมาน้า  :21:





หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 18 ตุลาคม, 2567, 11:49:50 AM
(https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgIbfvwcwQKUSpAqEMiwlp7L3PEqLsjIkBgozmhClWa9f1tTWXUcrAp0YPkruzXeu9U17dMKLPjdogsGvEtHb1xdSB2SohilSlTReL52hANRrCER9cIpXuME6hrmvYz72kiUuXH9fiXKc6S/s1600/undoukai_301m.gif)

คิดถึงกันเพียงนี้..ก็เขินอยู่
จิตใจมันมิสู้แต่งกลอนหนอ
สมาธิ..สมอง..ร้องให้"พอ"
ร่างกายมันเรียกขอ..เวลานอน

จึ่งมาได้แบบผีมาผลุบโผล่
มิอาจร่วมสำแดงโชว์ดังเก่าก่อน
ด้วยคิดถึงจึงแวะมาไม่จากจร
เรียงอักษรอ้อนทัก..สลักใจ

แต่มิคุ้นชินนักกับนามนี้
ครั้งคุณพี่มีนามเก่าเล่าอยู่ไหน?
เพียงแค่ชื่อ...กลิ่นอายก็ต่างไป
อักษรไทย..มิไร้ค่าแม้อารมณ์.


คิดถึงค่ะพี่ :jub jub:(https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgiU4uDMIwoL2nVY6XeLfPGqbM1o1hmkBUQXBIjfGOK_ERzutkEP8iSmKK6AZMjrR_6IJQ29r0kKDC4SdQnM59D5qSWt4yaaAfnPlCUCjIDj615ulDtzQwzVQLgsGjfeKOEsGu2-UkWirA/s1600/%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9B+%E0%B9%81%E0%B8%88%E0%B8%81%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%9B++myAvatar_17002974_1+(7).gif)



หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: masapaer ที่ 18 ตุลาคม, 2567, 09:08:32 PM
(http://i154.photobucket.com/albums/s248/nbee_piz/01/NB32.gif)
ความคุ้นชินถิ่นนี้ไม่มีสร่าง
พี่ก็พึ่งมาบ้างช่างสุขสม
คล้ายกับว่าคิดถึงจึงมาชม
มานิยมต่อกลอนเช่นก่อนเคย

ร่วมสนุกพี่น้องตามห้องหับ
แต่ใจกลับอ่อนล้าเกินกว่าเผย
อยากลืมว่าเป็นใครไปซะเลย
จนทรามเชยเผยตนวนกลับมา

มะสะแปหวนคืนใช่อื่นไหน
จะมิเป็นผู้ใดให้ปวดปร่า
จะคงอยู่เช่นนี้พี่สัญญา
คนตามหาก็เลิกงงไม่หลงทาง

มะสะแป  ของแทร่ ตลอดกาล

 :jub jub:


หัวข้อ: Re: คิดถึงกวี
เริ่มหัวข้อโดย: พิกุลแก้ว ที่ 19 ตุลาคม, 2567, 02:26:46 AM
(http://www.bloggang.com/data/jiujik/picture/1406007897.png)

จะเปลี่ยนนามสักร้อย..ใครเล่ารู้
ถ้าเปลี่ยนไหวจะรอดูมิเหินห่าง(อิอิ)
จะตามเกาะตามติดมิปล่อยวาง
ขนาบข้างหนีบเอวชั่วกัปกัลป์

นามพิกุลก็ลาร้างเส้นทางนี้
มิอยากนับจำนวนปีให้ขบขัน
อายุน้อยร้อยขวบฮาตะบัน
กลัวหนุ่ม-หนุ่มมาแย่งกันให้บรรลัย

แต่เมื่อครั้งกลับมาก็แช่มชื่น
มันคล้ายกับเพิ่งตื่นจากหลับไหล
มันแอบคึกนึกคำกลอนเหมือนร้อนใจ
อ๊ะ!นี่ฉันยังแต่งได้อยู่นี่นา

นึกว่าตนนั้นลืมไปเสียแล้ว
พิกุลแก้วอาจถูกเลือนเหมือนคนบ้า
แต่เอาเถิด..สมอง..ดันคืนมา
มิลืมว่า...บทกลอนเป็นแบบใด

ก็ยิ่งใคร่คิดถึงพี่เสียนัก
ยามกลับมาพำนักพักอาศัย
เหมือนคนแก่ท้าวความวันเยาว์วัย
ทั้งที่เรา...เพิ่งจะใกล้...ยี่สิบเอง(เนอะ!!)

 :28: :28: :28:
(https://i.ibb.co/1GH4K6z/images-10.jpg) (https://ibb.co/s9LXQHW)