หัวข้อ: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 07 มิถุนายน, 2568, 05:52:30 PM กลอนหนึ่งตำลัง ( 4บาท ) เขียนมาเรื่อยๆ หลายปีแล้ว เป้นการเขียนแบบ เห็นอะไรก็เขียน นึกอะไรได้ก็เขียน เขียนไว้ทังหมด 900 กว่าบทแล้ว มีเป้าหมายไว้ที่ 1000 บท
กลอนชุดนี้เอาเคยไปลงที่อื่นบ้าง แต่น้อยมาก ส่วนมากจึงยังไม่เคยเอาไปเผยแพร่ที่ไหน บางครั้งมองเห็นกระป๋องแป้งตรางูก็เขียน เห็นกิ้งกือก็เขียนถึงกิ้งกือ เห็นหมู หมา กาไก่ ก็เขียนไปเรื่อย.. มีสาระบ้าง ไม่มีสาระก็เยอะ แต่ก็เขียนเพราะความอยากเขียนของตัวเองเป็นหลัก ใครอยากเอาไปใช้ เอาไปแก้ไขเพิ่อให้ตรงใจตนเองก็ตามสบายนะครับ โดยเฉพาะมือใหม่ๆ เอาไปแกะ เอาไปเกลา ให้ถูกใจแล้วเดินเข้ามาในโลกของคนเขียนกลอนกัน..ยินดีต้อนรับครับ . (https://i.ibb.co/ds8kghtG/01-Copy.jpg) (https://ibb.co/DP0wpqY5) (https://i.ibb.co/ymSfvscm/02-Copy.png) (https://ibb.co/zWJn9fTW) (https://i.ibb.co/d0VxxNWz/03-Copy.png) (https://ibb.co/tMvFF0mW) . (https://i.ibb.co/rfHJh1FR/04-Copy.jpg) (https://ibb.co/tPD56WQT) (https://i.ibb.co/zWF7TNTH/05-Copy.jpg) (https://ibb.co/RGNBk7k4) . หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 12 มิถุนายน, 2568, 10:29:55 PM พระจันทร์ที่ปลายฟ้า ยังต้องเลือกเวลาสวย..
นาฬิกาของเรา ก็คงไม่ได้เดินตรงกันตลอด.. ๏ ในน้ำเสียงสัมผัสความห่างเหิน หนทางเคยร่วมเดินกลับลำบาก แต่ละเรื่องคุยกันเข้าใจยาก ก่อนเอ่ยปากจากลาสวัสดี ๏ สิ่งที่เป็นเห็นกันทางตันแน่ ยังเหลือแค่หันหลังต่างเดินหนี เก็บฉากสีชมพูบนเวที จบบทบาทเคยมีโชคดีเอย ๚ะ๛ ซ้ำซาก หมายถึงบ่อยๆ หรือขย้ำซ้ำซากให้มันแหลกราญไป..ใจ ๏ หลายสิบปีฝันเห็นแต่คนเก่า เสมือนเงาติดตามในความฝัน หลายสิบปีขาดสิ้นความสัมพันธ์ ไม่เห็นกันฝันเกลื่อนแต่เลื่อนลอย ๏ ในภาพฝันเธอดูดีเสมอ เหมือนสมัยที่เราเจอกันบ่อยบ่อย ต่างจากฉันผมหงอกพุงออกย้อย ฝันเอ๋ยคอย ตอกย้ำความช้ำเอย ๚ะ๛ เมื่อเวลาผ่านไป จึงรู้ว่า หัวใจไม่สามารถเอาเหล้าล้างให้สะอาดได้.. ๏ ในวงเหล้าเมาแล้วจะรินอีก ผู้หวังดีช่วยหลีกเติมอีกไห ตอนเมาเลิกขมขื่นช่างชื่นใจ หายเมาเจ็บต่อไปช่างหัวมัน ๏ บางคนบอกว่าดื่มน้ำนรก เราทุกแก้วที่ยก เพราะตกสวรรค์ ดื่มเหล้าแล้วเมาแน่ยังแก้ทัน คนหลอกกันยอมแพ้ไม่แก้เอย ๚ะ๛ ของง่าย ของตาย มักจะโดนมองผ่านเลยไป ไม่เคยนึกถึง.. ๏ จงทำตัวให้เล็กรู้จักโง่ ระงับการคุยโอ่ฟังให้มาก คำพูดและเวลาถ้าไม่ลำบาก ไม่ยุ่งยากยึดถือให้ซื่อตรง ๏ มีใจพร้อมช่วยคนอื่นเสมอ กิเลสตัณหาเจอ อย่าลุ่มหลง การสะสมทุกบริบทให้ลดลง ไม่ต้องถึงกับปลงแค่ตรงเอย ๚ะ๛ *ทุกวันได้ไหม* ๏ บอกคิดถึงเธอทุกวันจะได้ไหม คิดถึงแทบขาดใจยามไกลห่าง รอแต่เธอคอยจ้องนั่งมองทาง ใจเงียบเหงาเวิ้งว้างหาทางเจอ ๏ ทุกวันส่งข้อความเพื่อถามไถ่ อยากรู้ความเป็นไปอยู่เสมอ ยังมีฉันอยู่ไหมในใจเธอ หรือมีแต่ฉันเพ้อเจ้อ ถึงเธอเอย ๚ะ๛ https://www.youtube.com/watch?v=4WcMRO1e9_4 :29: :29: :29: :29: :29: :29: . หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 17 มิถุนายน, 2568, 10:55:15 PM ผีเสื้อ ไม่เคยหลอกตัวเอง..
ธรรมชาติที่ต่างจากคน.. ๏ มีผีเสื้อเท่านั้นสวยตอนแก่ จากตัวหนอนเป็นดักแด้เป็นผีเสื้อ แต่เวลาของชีวิตไม่เหลือเฟือ ธรรมชาติไม่เอื้อให้อยู่นาน ๏ ต่างจากคนสวยได้กว่าจะแก่ สุดท้ายเกิดขึ้นแน่แพ้สังขาร จะฉีดดึงขึงหนังทรมาน ก็เหี่ยวย่นหย่อนยานสังขารเอย ๚ะ๛ ใส่น้ำลงกา ปรารถนาจะให้น้ำมีรูปร่างเป็นแก้วไม่ได้.. ๏ สายไปแล้วจะเป็นเหมือนแต่ก่อน เรื่องของใจซับซ้อนและอ่อนไหว สิ่งที่พูดที่ถามฉันตามใจ อยากได้ยินฟังอะไรตามใจเธอ ๏ แก้วที่ร้าวย่อมยากคิดประสาน ใจแหลกลาญคิดซ่อมก็เพ้อเจ้อ นิยายรักตอนจบที่พบเจอ หมดเรื่องราวพร่ำเพ้อเพราะเธอเอย ๚ะ๛ .. .. รักใครสักคน มองอยู่ห่างๆ บางทีก็มีความสุข ๏ เมื่อกรรมตามถึงตนแล้วผลเกิด ความคิดอันประเสริฐมิเกิดช่วย ยังหลงใหลไม่เซ็งเรื่องเฮงซวย ก็เพิ่มกรรมต่อด้วยจนม้วยมรณ์ ๏ ถ้ารู้จักเรื่องเวรกรรมเคยทำไว้ และเข้าใจหลักธรรมคำสั่งสอน ขออโหสิกรรมตอนขั้นตอน อาจได้ผ่อนผลกรรมเคยทำเอย ๚ะ๛ ข้าวใหม่ แม้ไหม้ก็ยังหอม.. ผักเก่าไม่มีแมลงตอม ก็ไม่อยากกิน.. ๏ หน้ากระจกแปรงสีฟันสองอันคู่ กล่องสบู่ครีมต่างต่างหยิบวางก่อน โผล่มาทำที่หลับจับที่นอน หนาวหรือร้อนวุ่นวายมาหลายปี ๏ จนถึงวันเตียงหักรักสลาย ยังเฝ้าห่วงไม่วายมิหน่ายหนี ได้แต่อธิษฐานให้โชคดี พบความสุขในสิ่งที่เลือกมีเอย ๚ะ๛ *ลม* ๏ เมื่อลมพัด พาเธอมาเจอฉัน แล้วแกล้งกันพัด เธอไปจนไกลห่าง เจ้าลมเอ๋ยหรือรักเปลี่ยนเส้นทาง ถึงเวลาจืดจางระหว่างคน ๏ วอนสายลมพัดเธอกลับมาหา ขอเวลาเพื่อรักอีกสักหน ลมหายใจแทบหยุดช้ำสุดทน หนีไม่พ้นโศกตรมนะลมเอย..๚ะ๛ https://www.youtube.com/watch?v=E_2yK2na1So&list=RDE_2yK2na1So&start_radio=1 หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 18 มิถุนายน, 2568, 04:10:23 PM @ แฮะแฮะ สงสัย ความต่าง ถอยห่าง จากกลอน กระไรหรือ หนึ่งตำลึง ก็สี่บาท มิใช่ฤๅ อย่าถือ ที่ข้า ถามมา ขอถาม ขอรับ หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 20 มิถุนายน, 2568, 09:47:41 PM คุณ share ถูกแล้วไงครับ ชิ้นหนึ่ง 2 บท 4 บาท ผมเรียกเป็น หนึ่งตำลึง เขียนสะสมไว้หลายร้อยตำลึง เอามาลงให้อ่านกันเล่น อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้น
ตามหลักฉันทลักษณ์ของกลอนแปด หรือ กลอนตลาด ไม่ได้มีอะไรใหม่หรือแปลกไป เพราะผมถนัดแต่เขียนกลอนง่ายๆ แบบกลอนตลาดเท่านั้น ขอบคุณนะครับที่เข้ามาทักทาย.. ชุดกลอนหนึ่งตำลึง 5 วัน เข้ามาลง 5 กลอนครับ พอดีวันนี้ยังไม่ถึงคิวลง.. หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 22 มิถุนายน, 2568, 09:23:52 PM บางคำตอบ ได้มาด้วยความเจ็บปวด แต่ต้องยิ้ม..
๏ ก่อนสมองจะตายไม่ทำงาน ร่างกายถูกเผาผลาญเป็นผุยผง ช่วยบอกกันสักคำพูดตรงตรง ว่าฉันคงมีค่าไหมในใจเธอ ๏ ถ้าไม่มีความสำคัญต่อกันอีก ก็จะปลีกตัวห่างสม่ำเสมอ หยุดสนใจเลิกรักคอยบำเรอ เอาหัวใจปรนเปรอรักเธอเอย ๚ะ๛ ไม่มีคำถาม เพราะรู้ว่าคำตอบ และคำถาม มันไร้ความสำคัญแล้ว.. ๏ ขอขอบคุณเศษใจเคยให้มา แต่คุณค่ามันหมดแล้วหดหาย เคยปลาบปลื้มอิ่มเอมทั้งใจกาย แต่สุดท้ายหัวใจไร้ราคา ๏ ฉันเข้าใจที่บอกทุกเหตุผล รู้ว่าเราผจญหลายปัญหา แต่เพราะเป็นแค่คนธรรมดา รักโลภโกรธหลงคือภูษา กายาเอย ๚ะ๛ สุดท้ายทุกคนถูก ความผิดไม่มี สมองก็ไม่มี คือ คน.. ๏ เพราะคนเราตีความตามใจคิด จะถูกผิดไม่สนว่าตนเก่ง เห็นบุญบาปความชั่วไม่กลัวเกรง ลืมคิดเองเงื่อนงำกงกรรมกงเกวียน ๏ จนสุดท้ายปลายทางในชีวิต เมื่อรู้ถูกรู้ผิดความคิดเปลี่ยน อยากแก้ไขทุกข์ทนที่วนเวียน ก็เหมือนเทียนหมดไส้ใกล้ตายเอย ๚ะ๛ เริ่มจากศูนย์ บางคนได้ร้อย บางคนได้ล้าน แต่ตอนตาย เหลือเท่ากัน.. ๏ ใจซ่อนสากปากคาบคัมภีร์หลอก วาจาบอกหลักการแต่งานห่วย บุคลิกดูสง่าทำท่ารวย คนข้างกายหล่อสวยต้องดูดี ๏ เป็นแพ๊คพิมพ์นิยมสังคมใหม่ โลกออนไลน์ชื่นชมสมศักดิ์ศรี แต่เบื้องหลังภาพสวยเท่าที่มี นั้นอัปรีย์ลวงตาไร้ค่าเอย ๚ะ๛ *นานเท่าไหร่ก็รอ* ๏ เมื่อไหร่เธอจะกลับมาหาฉัน รอคอยอยู่ทุกวันเรื่องมันเศร้า หรือว่าความผูกพันระหว่างเรา เหลือแค่ความว่างเปล่ากับน้ำตา ๏ กลับมาหา ฉันสักทีจะได้ไหม ขอร้องด้วยหัวใจแม้ไร้ค่า นานเท่าไหร่ยังรอเธอกลับมา คอยชั่วกาลเวลาที่มีเอย ๚ะ๛ https://www.youtube.com/watch?v=wRN-Mlu1RaQ&list=RDwRN-Mlu1RaQ&start_radio=1 . หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 27 มิถุนายน, 2568, 09:14:48 PM น้ำตา หรือ น้ำตาล เมื่อต้องการแล้วลืมคิด..
๏ ยินยอมตายเพราะความรักโดยสงบ เพื่อเป็นศพสีชมพูให้รู้ว่า เรื่องความรักเป็นเรื่องของศรัทธา รักแล้วเจ็บดีกว่าไม่เคยมี ๏ ไม่ว่าจะสมหวังหรืออกหัก ก็รู้จักความรักสมศักดิ์ศรี อยู่เงียบเหงาหาคู่ดูสักที เจอคนดีที่ใช่สุขใจเอย ๚ะ๛ วิวัฒนาการสร้างชีวิตใหม่ แต่สร้างใจไม่ได้ตามต้องการ.. ๏ เวลาที่ใจหล่นคนจะเศร้า ไม่รับเอาทุกสิ่งใส่สมอง กิริยาช้าเชื่องไม่ช่ำชอง แม้สายตาที่มองยังเลื่อนลอย ๏ ชีวิตปานถ่านหมดพลังหาย ดูเหมือนคนเจียนตายหรือไก่หงอย การกินอยู่ไม่คิดประดิดประดอย อยู่กับฝันไม่เอ็นจอย เพราะนอยเอย ๚ะ๛ บทเรียนบางบท เหมาะกับบางใจและบางคน.. ๏ ดูหนังดูละครย้อนดูตัว เขาแสดงบทชั่วน่ากลัวไหม ถ้าเผลอทำเหมือนเขาต่างอะไร เลวดั่งใจเคยบ่นคือผลงาน ๏ โลกคือโรงละครของทุกคน ชีวิตตนมีให้บริหาร ดีชั่วเลือกทำได้ตามต้องการ เป็นซาตานหรือพระเจ้าเลือกเอาเอย ๚ะ๛ หมดเรื่องแล้ว ถอดทุกเปลือก เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกเดินทาง เร้นกายไปจากทุกสิ่งที่เคยยินดี.. ๏ เมื่อเลือกแล้วผิดพลาดต้องยอมรับ ให้สมกับเป็นชายอกสามศอก ถ้าลืมสิ้นศักดิ์ศรีคือขี้ครอก ใส่ผ้าถุงแล้วออกไปบอกคน ๏ จะเลือกคิดเลือกทำ เลือกคำพูด จำเป็นสูตรทุกระดับยอมรับผล ละอายกับความผิดจริตตน ที่ฉ้อฉลกลับกลอกไม่บอกเอย ๚ะ๛ *ปล่อย* ๏ ปล่อยความคิดหยุดใจจะไม่คิด ปล่อยชีวิตหยุดเล่ห์เสน่หา ปล่อยความหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมา ปล่อยดวงใจปรารถนาหยุดกังวล ๏ มือเคยกุมกระชับก็จับปล่อย มือที่คอยปกป้องฝืนล่องหน มือคู่เติมเปลี่ยนทางระหว่างคน ปล่อยมือเธอหลุดพ้น จากตนเอย ๚ะ๛ https://www.youtube.com/watch?v=nq3M1dRbXKU&list=RDnq3M1dRbXKU&start_radio=1 . หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 28 มิถุนายน, 2568, 04:04:33 PM @ ชีวิตนั้น อนันต์ค่า น่าพินิจ แม้กระจิด มดแมลง แฝงความหมาย เกิดเพื่อสรรค์ ปันแบ่ง แม้นต้องตาย ประโยชน์ดล ผลขจาย นิจนิรันดร์ หัวข้อ: Re: กลอนหนึ่งตำลึง เริ่มหัวข้อโดย: ผู้เฒ่า..โง่งม ที่ 02 กรกฎาคม, 2568, 10:18:14 PM ล็อคอินเข้าระบบหนึ่งครั้ง ส่งเรื่องราวเข้าเพจได้ครั้งเดียว..
ถ้าจะกดส่งข้อมูลเพิ่ม อาจต้องออกจากระบบก่อน แล้วเข้าระบบใหม่เพื่อทำการ.. เพลงมีชีวิต..ดนตรีเป็นลมหายใจ เนื้อร้องเป็นกาย และ มีความหมาย..คือการกระทำ ๏ เพลงบางเพลงฟังแล้วน้ำตาไหล นึกไปไกลถึงอดีตที่เคยผ่าน สัมผัสกับเรื่องราวเคยร้าวราน เรียกความทรมานทำงานอีกที ๏ แต่ฟังได้เจ็บได้โดยตลอด ไม่อิดออดไม่จบไม่หลบหนี บาดแผลเก่าเจ็บจบทบทวี ถ้าคุณมีความหลังอย่าฟังเอย ๚ะ๛ สนามอารมณ์ เล่นคนเดียวแล้วแย่ ก็แค่เริ่มเล่นใหม่.. ๏ วันนี้เหนื่อยเกินไปทำใจยาก กว่าจะลากอารมณ์มาคิดเขียน ความรู้สึกสับสนยังวนเวียน มิอาจเปลี่ยนสะสางให้บางเบา ๏ แต่ไม่เขียนยิ่งเหงาเศร้าไม่หาย เหมือนน้ำท่วมรอระบายมิวายเน่า ต้องถ่ายเทเปลี่ยนเรื่องในใจเรา ทิ้งให้หมดเรื่องเศร้าที่เขลาเอย ๚ะ๛ ขอฝนจากฟ้า ยากกว่าขอน้ำ จากตาตนเอง.. ๏ ไร้ถ้อยคำประโลมใจจากใครอื่น ก็ต้องฝืนปลอบตนเหมือนคนบ้า ความรู้สึกเวิ้งว้างมิสร่างซา อีกสักกี่เพลาจะเปลี่ยนแปลง ๏ มีไหมใครสักคนบนทางผ่าน โยนความจริงใจเป็นทานไม่แอบแฝง เผื่อให้ใจสับสนบนตะแลงแกง ได้ชุ่มชื่นมีแรงเปลี่ยนแปลงเอย ๚ะ๛ การมีที่นั่งเล็กลง ก็ดีในยามที่ ต้องทำตัวให้เล็ก.. ๏ อย่าปล่อยให้ความรักเหมือนฟันผุ ลามทะลุรากฟันปวดยันเหงือก รักหรือฟันดูแลก่อนไม่ต้องเลือก รอจนเฮือกสุดท้ายแก้ไม่ทัน ๏ ถนอมก่อนถอนฟันและความรัก สูญเสียช้ำใจนักเจ็บมหันต์ เจ็บเรื่องรักหนักกว่าการปวดฟัน หรือเจ็บไม่ต่างกันสวรรค์เอย ๚ะ๛ *ห่วงใย* ๏ ไม่ถามว่าทำไมเลิกกับฉัน ความผูกพันก็ไม่ตาม ไม่ถามหา ใจคนเปลี่ยนอยู่เสมอทุกเวลา ฉันเข้าใจที่มา ทีท่าคน ๏ แต่เหลือความห่วงใยให้ตลอด ขอให้รอดกับรักได้สักหน เจอรักที่ยอมรับสำหรับตน นั่งและนอนอยู่บน วิมานเอย ๚ะ๛ https://www.youtube.com/watch?v=Jr5e7ihocHw&list=RDJr5e7ihocHw&start_radio=1 . |