เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..

อารมณ์กลอน => โคลง => ข้อความที่เริ่มโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 พฤศจิกายน, 2562, 02:34:38 PM



หัวข้อ: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 พฤศจิกายน, 2562, 02:34:38 PM

...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...

ชวนเชิญชื่นชดช้อย............โชยชาย
พร่างพจน์พร่ำพรมพราย.....แผ่วพลิ้ว
วิเวกหว่างวุ่นวาย................เวียนว่อน
นึกหน่ายนั่งนับนิ้ว...............เหนื่อยน้อหนักหนา

เชิญมารำร่ายร้อง...............เริงเรียง
เคลิ้มศัพท์ตามสำเนียง........ขับคล้อย
สดชื่นเพลิดเพลินเพียง.........ประดิษฐ์
ประดับประดาร้อย...............หยาดเยิ้มอักษร

...ขอเชิญเพื่อนๆพี่ๆน้องๆหลานๆ ที่อยากฝึกแต่งโคลง
แต่งโคลงมาลงกันได้เลยนะครับ จะแต่งเรื่องเกี่ยวกับ
อะไรก็ได้ ไม่มีข้อกำหนด

และเนื่องจากผมมิใช่ผู้เชี่ยวชาญ ผิดถูกอย่างไร
ถือว่ามาเรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ
หรือถ้าท่านผู้รู้ ครูบาอาจารย์ ท่านใด
จะกรุณาให้ความรู้ ให้คำแนะนำ ก็ขอขอบพระคุณ
ล่วงหน้าและน้อมรับด้วยความเต็มใจครับ...

Soul Searcher
Inspired to write 7/11/2019


 :12:



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 พฤศจิกายน, 2562, 02:36:53 PM

“จำใจจำจากเจ้า.................จำจร”
จำจากเจอจ่าจอห์น..............จับแจ้ง
จมจ่อมเจ็บเจียนจอน............จวนจุ่ม-
จิ้มแจ่ว,จ๋อยโจ่งแจ้ง.............เจื่อนแจ้วโจ๋งเจ๋ง

Soul Searcher
Inspired to write 7/11/2019

“จำใจจำจากเจ้า  จำจร” : โคลงจากลิลิตตะเลงพ่าย

“จำใจจำจากเจ้า        จำจร
จำนิราศแรมสมร        แม่ร้าง
เพราะเพื่อจักไปรอน    อริราช แลแม่
จำทุกข์จำเทวษว้าง     สวาทว้าหวั่นถวิล”

จอห์น : ชื่อ John
จอน : ชายผมข้างหูที่ระลงมาที่แก้ม
จ๋อย : ซีดเซียว, หงอยเหงา
โจ๋งเจ๋ง : ใส มีแต่น้ำ

 :12:





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 08 พฤศจิกายน, 2562, 11:05:18 PM


@ ไยเริ่มด้วยยากแท้.......คุณ Soul
ประหนึ่งหมัดเข่าโยน.......ใส่ข้า
กานท์กลอนดุจต้องโหน....เพียรสดับ
ลมแทบใส่เจียนบ้า..........เร่งเท้าเร้นหาย



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 พฤศจิกายน, 2562, 12:07:46 AM

หมายสนุกครึกครื้น.........อารมณ์
ไร้ศอกสั้นเข่าคม.............ถนัดคุ้น
เชิญท่านร่วมผสม-..........โรงกลั่น หะเฮย
เย็นเฉียบซดเบียร์วุ้น........สักแก้วชวนฉลอง

...ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอคำเพี้ยนจาก
“ผสมโรง-กลั่น” เป็น “ผสม-โรงกลั่น”
จึงลงเอย ชวนท่านแชร์
ซดเบียร์วุ้น ด้วยประการฉะนี้...

ขอขอบคุณท่านแชร์ ที่มาร่วมสนุกกันครับ
Soul

 :12:



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 09 พฤศจิกายน, 2562, 08:41:39 AM


เบียร์วุ้นรสขื่นให้ ยากกิน
ข้าฯใคร่ขอ wine ริน แต่น้อย
กอฮอล์ไม่คุ้นชิน เลยเพื่อน
กินดื่มสังสรรค์ร้อย ร่วมสร้างสนิทสนม



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 10 พฤศจิกายน, 2562, 07:16:43 AM


เปลี่ยนเป็นนมบอกได้..นะเออ
เช้าใส่กาแฟเนอ..........เมื่อกี้
อิ่มอุ่นแอบละเมอ.........หวนกระหวัด
นมจากอกแม่นี้............กล่อมเกลี้ยงโตถนอม


jLSUsGtrBKk

Soul Searcher
Inspired to write 10/11/2019




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 10 พฤศจิกายน, 2562, 08:21:23 AM


...ดวงตาอยู่ไม่สุข...


ฝนตกปอนเปียกด้วย........ธรรมดา
สติด้อยกามรา-................คะซ้อน
กิเลสโลกย์นานมา............สนิท สนมเฮย
คอยจุดประกายร้อน..........หว่างห้วงความคิด

ผิวเผินซ่านสบเพี้ยง...........พันตา
เมินบ่ พิจารณา.................ถ่องแท้
การณ์เกี่ยวเนื่องสัญญา-....ขันธ์ห่อน คุ้นเฮย
เหตุแห่งความพ่ายแพ้........จิตน้าวโจนสนอง

Soul Searcher
Inspired to write 10/11/2019

พัน : เกี่ยวเนื่องกันไปมา

สัญญาขันธ์ : สภาวะการจำได้ หมายรู้...
“เช่น จำสิ่งที่เห็น จำเสียง จำกลิ่น จำรส
จำชื่อคน จำหนังสือ จำเรื่องในอดีตได้
ว่า เป็นสีเขียว ไพเราะ หอม หวานเป็นต้น”


 :letter:



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 10 พฤศจิกายน, 2562, 10:18:49 PM
ทำนองมิเปลี่ยนแท้           ความเกรียน
อุตส่าห์หวังพากเพียร       แต่นั้น
นานปีที่ขีดเขียน               ประหลาด
อยากอ่านโคลงงามครั้น  แต่งได้ฤๅไฉน

สิริวตี
หวัดดีลุง Soul นานๆมาที ขอแซวนิสสสน้าาา
หวังว่าสบายดีนะคะ
      


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 พฤศจิกายน, 2562, 08:51:54 AM


สำเนียงคล้ายเสียดถ้อย.....พาที
อ๋อแม่สิริวตี.......................อวบท้น
เห็นได้ดิบได้ดี...................ฟุ้งเฟื่อง
สูงนักที่ไขว่ค้น...................เหนื่อยเน้อเหน็บหนาว

fxYl0j3lK2k


...ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ครับ เป็น ความดัน,
เบาหวาน, ไขมันในเลือด ฯลฯ
พวกโรคผู้มีอันจะ(หาเรื่องเอาแต่)กิน
เป็นกันน่ะครับ...หึหึ

Soul Searcher
Inspired to write 11/11/2019


ป.ล. ถ้าไม่เกรียนน่ะ ไม่ใช่ลุงSoul ของแท้แน่นอน...


 :12:



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: สิริวตี ที่ 11 พฤศจิกายน, 2562, 04:36:04 PM
แพรวพราวหรือพ่ายแพ้        ชีวิต
ตราบที่เรามีสิทธิ์​                  เสกได้
สองมืออีกสมองคิด              มิยาก
หากแต่นอนนั้นไซร้              อาจได้แต่หวัง

สิริวตี
 :12:


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 11 พฤศจิกายน, 2562, 06:42:26 PM


สองมือสองบาทง้าง...........ตะกุย
ตั้งท่าพร้อมจะลุย...............สุดหล้า
อุปสรรคมิใช่คุย................แม่บ่ ยั่นเฮย
สวย,เก่ง,กึ๋นแบบป้า..........เยี่ยงนี้มีที่ไหน?

...จ้า...แม่หญิงมั่น ชมนะครับชม...
“กึ๋นแบบป้า” : มีความคิดเกินกว่าวัย..(มั้ง)..หึหึ  :28:

Soul Searcher
Inspired to write 11/11/2019



W-BZkEVBy0w


ป.ล. เอ๊ะ เพลงพี่เต๋อ อีกละ หรือวันนี้
เป็นวันรำลึกถึงพี่เต๋อ เรวัติหรือนี่



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 21 พฤศจิกายน, 2562, 08:12:29 AM

แสงโคมยังเจิดจ้า............ประกาย
อัปลักษณ์ทำลาย.............ไป่เรื้อ
ลมหนาวเยือกพัดพาย......เพียงครู่
ยืนหยัดแม้เลือดเนื้อ........หลั่งท้นปฐพี

ชีวีพลีมอบแล้..................มวลชน
ทุกข์โศกยั้งยากจน..........ตอกย้ำ
เสรีภาพแห่งตน...............พึงตระหนัก
อำนาจอธิปไตยล้ำ-.........ค่านี้ควรประชา

ijoA5eBEtFo


Soul Searcher
Inspired to write 21/11/2019



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 23 พฤศจิกายน, 2562, 06:09:23 PM

...ยุติธรรมต้องสืบค้น.........เท็จจริง
ควรยิ่งธรรมยึดอิง.............ตระหนักรู้
เหี้ยมโหดโฉดไป่ประวิง......ห้ำหั่น.."ผิด"นา
เห็นต่าง! "ปัญญา"สู้........."ตื่นรู้"ใจไสว

...ผู้ผิด "อภัยให้" สิ่ง........ควรกระทำ
แต่ยุติธรรมต้องนำ...........ประจักษ์ถ้วน
พิการ ตาย เจ็บ มิแค่"คำ"...ต้องชด-..ใช้เฮย
ประชาธิปไตยหมายล้วน.....สงบล้ำ"ธรรม"เสนอ



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 26 พฤศจิกายน, 2562, 06:27:30 PM
:12:

เลอเลิศเจิดแจ่มฟ้า    อำไพ
หดหู่ดวงฤทัย     ยิ่งแท้
คำคนคดเพียงใด   ยากยิ่ง หยั่งนา
ปากว่าดีดีแล้     ย่อมแพ้ภัยตน

วิริน

ไม่ได้แต่งนานฝืดเชียว

 :27:



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 ธันวาคม, 2562, 09:58:37 AM


ทุรชนหลากล้น................ลานตา
กลิ้งกลอกเกลื้อนวาจา......กร่างกร้าว
ปีศาจคาบตำรา................ยกกฎ- เกณฑ์เฮย
ปะทุระอุอ้าว.....................หม่นไหม้ไฟผลาญ

อดีตกาลหยั่งซึ้ง................อนาคต
โหมใส่ความโป้ปด...........แต่งสร้าง
ยิ่งดูยิ่งสลด......................น่าขยะ- แขยงเฮย
ยุติธรรมแบ่งข้าง...............ยากแท้เทียวสมาน

Soul Searcher
Inspired to write 8/12/2019




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 12 ธันวาคม, 2562, 09:27:53 AM


มืดมนท้นแหล่งหล้า.......ธาตรี
ร้อนผ่าวปฐพี.................แผดไหม้
กันแสงแม่ธรณี..............กำสรด
เป็นประจักษ์พยานให้.....เหตุห้ำหักหาญ

คนพาลพาลขู่เค้น..........ข่มนาม
คนชั่วพยายาม..............เหยียบซ้ำ
คนส่อเสียดเสื่อมทราม...สำนึก
คนหยาบเยื้อนตอกย้ำ....ซุ่มซ้องบัดสี

“ธรณีนี่นี้......................เป็นพยาน
เราก็ศิษย์มีอาจารย์.......หนึ่งบ้าง
เราผิดท่านประหาร........เราชอบ
เราบ่ ผิดท่านมล้าง........ดาบนี้คืนสนอง”

iWJAyX4Ot2o

Soul Searcher
Inspired to write 12/12/2019





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 14 ธันวาคม, 2562, 11:36:42 AM

...แล...>>>

แลใดในว่างเวิ้ง.............วังวน
แลแยบย้อนเยี่ยมยล.......อีกครั้ง
แลกิเลสของคน...............มักใหญ่
แลศึกยากหยุดยั้ง...........เยียบย้ำสยาย

แลปลายทางจักร้าย.........ฤาดี
แลเทวษทุกข์ทวี...............ท่วมท้น
แลสุกชาดรัชนี-...............กรก่ำ
แลผ่านแผ้วภัยพ้น............ผนวกน้ำมือผอง

แลครรลองถูกต้อง...........ควร,ประจำ
แลอยุติธรรม...................ปลาตเรื้อ
แล”คืนสุข”ลำนำ.............สมดั่ง เปรยเนอ
แลสละเลือดเนื้อ..............เปล่าทิ้งมลายสูญ

แลจำรูญรุ่งเรื้อง..............ประชา
แลผูกขาดทุนภา-............ระร้าง
แลอิสระชนหา-...............เลี้ยงชีพ
แลสิทธ์เสรีสร้าง..............สง่ายิ้มชาวสยาม

Soul Searcher
Inspired to write 14/12/2019




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 14 ธันวาคม, 2562, 12:46:11 PM

“มาลัยดอกโศก”

“มาลัยดอกโศก”พร้อย....ประพันธ์
โชยกลิ่นหอมสุคัน-..........ธรสช้า
ประโลมปลอบจอมขวัญ....คลายโศก
เหนื่อยนักพักอ่อนล้า.........สดับถ้อยวิถี

พาทีเฝือฝืด,น้อย-.............จำนรรจ์
จินตนาการตัน..................ตีบตื้น
อาจสาระสำคัญ.................มิเอ่ย
เพี้ยงฝากรดฉ่ำชื้น.............ชุ่มช้อยหทัยโฉม

Soul Searcher
Inspired to write 14/12/2019




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 18 ธันวาคม, 2562, 11:54:30 AM


ศศิเพ็ญพร่างพริ้ง...............พรายโพยม
เหมือนหนึ่งแสงสุกโคม.......ส่องหล้า
เพ็ญพักตร์สิริโฉม-..............ฉายผ่อง
สว่างกลางใจข้า.................ข่มคร้ามสุรเสียง

เพลินเพียงสุขเพ้อพร่ำ.........คำกลอน
เริงร่ายรจน์สุนทร................กระจ่างแจ้ว
บ่ ต้องเกริกกำจร................ประจักษ์
ก็สุขเพียงพอแล้ว................รื่นร้อยรังสรรค์

Soul Searcher
Inspired to write 18/12/2019


สุรเสียง : เสียงของผู้มีอำนาจ



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 08 มกราคม, 2563, 11:04:38 AM

...รอ...

รอเพลิงเผาแผดไหม้.........กระพือ
รอโกรธเกรี้ยวบันลือ.........มอดม้วย
รอมดปลวกลุกฮือ.............อาละวาด
รอปอบทึ้งเศษกล้วย..........ปลาตสิ้นประลัยสูญ

รอไพบูลย์บทเบื้อง............บนบาน
รอเทพไท้ประทาน.............ทดท้อ
รอค้างเติ่งเนิ่นนาน............เหนี่ยวหน่วง
รอทุกข์เจ็บปวดน้อ............เชือดเนื้อเถือหนัง

รอคืนยังเบิ่งฟ้า.................เปี่ยมดาว
รอมืดมิดพร่างพราว..........เปลี่ยนพ้น
รอกำเนิดเกริกกราว..........กัมปนาท
รอปัจเจกท่วมท้น..............แซ่ซ้องประสาน

รอวันวานกลับย้อน...........วารี
รอวิระกวี.........................ปรัดร้อย
รอสดับเสียงดนตรี............สุขซาบ- ซึ้งเฮย
รอกอบเก็บทีละน้อย..........ปลุกฟื้นความหวัง

5RXo-qvURAo

...Starlight of Faith...
Soul Searcher
Inspired to write 8/1/2020




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 24 กุมภาพันธ์, 2563, 12:11:21 PM


...ดาบดี...


ดาบดีด้วยผ่านร้อน..........ไฟลน
พิสูจน์ความเป็นคน..........เยี่ยงนั้น
ยิ่งทุบยิ่งคงทน................แข็งแกร่ง
ยิ่งข่มคร้ามกีดกั้น............เยียบย้ำขยาย

เมินอายริปิดฟ้า...............ด้วยมือ
ใช้เล่ห์กระเท่ฤา...............เก่งกล้า
ศัสตราวุธยึดถือ...............ใดอาจ
ปรามปลุกทุกหย่อมหญ้า...หยุดยั้งกระแส
...........................................................
สหายเอยตื่นเต้น...............ไปไย
วิหคย่อมผินไกล................สุดฟ้า
ฝูงปลาปล่อยเวียนใน.........ธารเขต
กิเลสคนหยาบช้า...............ยากเร้นแรงฉาย

Soul Searcher
Inspired to write 24/2/2020




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 06 มีนาคม, 2563, 07:19:37 AM


ครวญโคลงเช้าอ่อนช้อย......ลอยชาย
ลมโบกพัดโศกคลาย...........ผ่อนล้า
พึงใจบ่นระบาย...................ระแบบ
สละสลวยช้าช้า...................สุขสร้อยคำศิลป์

ยินไยใครปลาบปลื้ม............เปรียบเปรย
ติงติมิชื่นเชย.......................อาตม์ช้ำ
ใช่ว่าจะเมินเฉย...................ยศหยิ่ง
ทว่าใจเหลื่อมล้ำ..................ยากแท้บ่มถึง

ปลิดคะนึงจึ่งแจ้ง..................ขจ่างเพ็ญ
บังเกิดความร่มเย็น..............เยือกนี้
ครวญโคลงแผ่วพัดเป็น........ดังเพื่อน
สงบภัยหลบลี้......................สาตซุ้มอาศรม

Soul Searcher
Inspired to write 6/3/2020




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 พฤษภาคม, 2563, 08:18:29 AM

เมดเลย์ สำนวน-สุภาษิต-คำพังเพย ไทย

“ปากว่าตาขยิบ”ยื้อ.............ยืดราว
“อ้าปากเห็นลิ้นไก่”ยาว.........ยากเร้น
“เด็กเลี้ยงแกะ”ดมกาว..........ฤาพ่อ
“น้ำลดตอผุด”เค้น................ขู่คร้ามกังขา

โซ...เซอะเซอ
23 พฤษภาคม 2563



 :12:


หมายเหตุ : ด้วยความอยากรู้ว่า สำนวน, สุภาษิต
และคำพังเพย ต่างกันอย่างไร จึงลองค้นดู
ได้ข้อมูลจาก “www.proverbthai.com” ดังนี้ครับ

”สํานวน คือ คําพูด หรือ ถ้อยคําที่ค่อนข้างกระทัดรัด
ดูไพเราะสละสลวย สำนวนไทยจะมีความหมายโดยนัย
เป็นลักษณะความหมายเชิงอุปมาเปรียบเทียบ
จะไม่แปลความหมายตรงตามตัวอักษร

ตัวอย่างสำนวน เช่น ปากเสีย, ไขสือ ยกเมฆ,
ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ ฯลฯ

คําพังเพย คือ ถ้อยคําที่เปรียบเทียบเหตุการณ์
หรือเรื่องราวต่างๆ ที่พบเห็นได้ในการดํารงชีวิตของคนรุ่นก่อน
โดยมากไม่เน้นการสั่งสอน แต่ใช้ในทํานองเสียดสีประชดประชัน
เพื่อให้สะท้อนความคิด ความเชื่อถือ และเป็นคติเตือนใจ
หรือเป็นข้อคิดสะกิดใจให้นํามาปฏิบัติ

ตัวอย่างคำพังเพย เช่น งมเข็มในมหาสมุทร, ขิงก็ราข่าก็แรง,
ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ฯลฯ

สุภาษิต คือ คำกล่าวที่มีคติสอนใจ
สุภาษิตจึงมีลักษณะเดียวกับสำนวน
และคำพังเพย แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อการสั่งสอน
เตือนสติให้คิด ไม่มีการเสียดสีหรือติชมอย่างคำพังเพย
เป็นถ้อยคำที่แสดงหลักความจริง
เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วๆ ไป ภาษิตนี้ยังมีความหมายรวมไปถึง
สัจธรรม คำสั่งสอนที่เป็นความจริงอันเที่ยงแท้ทางศาสนาด้วย

ตัวอย่างสุภาษิต เช่น ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว,  ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน,
คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร ฯลฯ”





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: Wirin ที่ 17 มิถุนายน, 2563, 03:00:25 PM
:34:

สุภาษิตว่านั้น      ยากไป
ฉันเบื่อทุกคราใคร  เอ่ยอ้าง
เหือดหายห่อหดใจ  เต็มแก่
ทนท่องจำจดบ้าง   เพื่อใช้ปลายเทอม

วิริน

๑๗/ู๖/๖๓

 :27: 


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 03 ธันวาคม, 2563, 01:20:17 PM



ด้านได้อายอดนี้..............คงจริง
เมินผิดเพี้ยงแอบอิง.........เอ่ยอ้าง
โมฆะบุรุษสิง...................สถิต ใจฤา
อยุติธรรมสล้าง...............เสื่อมถ้วนปทัฏฐาน

ทนทานยิ้มเชิดหน้า..........ชูคอ
เสียงก่นเสียงด่าทอ..........กึกก้อง
ยลกลิ้งกลอกคดงอ..........รังเกียจ-
พฤติกรรมเกี่ยวข้อง.........ชาติเชื้อทุรชน

อำนาจบาตรใหญ่ท้น.......ปฐพี
ส้องประทุษประชาชี.........เถื่อนสะท้อน
หม่นมืดรัชนี....................ปรากฏ
บังเกิดอาเพศร้อน............ทั่วทั้งแผ่นดิน

โซ...เซอะเซอ
3 ธันวาคม 2563




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 04 ธันวาคม, 2563, 01:40:30 PM

@ อำนาจบาตรใหญ่ท้น   Website*    
"เพลงชาติ" WMไว        ลบสิ้น
"ราชดำรัส"เสนอไป        ยึดเลข สมาชิก
ภยาคติ!เพียงกระผีกลิ้น    กิเลสร้ายหมายขวัญ

* ขออนุญาต ไม่ระบุชื่อ


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: มนตรี ประทุม(2) ที่ 04 ธันวาคม, 2563, 08:46:15 PM
อำนาจหอมกลิ่นฟุ้ง   จรุงใจ
ใครคิดลองเข้าไป      จึ่งรู้
ถลำลึกดังไฟ             ราคะ
ถอนยากเป็นทุกผู้       สืบไว้ชั่วกัลป์

มนตรี  ประทุม


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: share ที่ 15 ธันวาคม, 2563, 03:16:50 PM

@ ทุกวัน"เกิด"ใหม่ให้....ตรองตรึก
ยัง"ชีพชอบ"สำนึก...."รับใช้"
ปัญญาสติ!ลุ่มลึก....ธรรมกระจ่าง
พรพระจักอวยให้....สุขได้สงบเสมอ



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 24 มกราคม, 2564, 03:49:06 PM

...หัวใจแกร่ง...

หัวใจต้องแกร่งกล้า...........เพียงใด พี่เอย
หาญสบเนตรมหัตภัย.........ซึ่งหน้า
หนทางทอดยาวไกล..........เหลือสุด คะเนเนอ
สละชีพคงบ้า-...................บิ่นแท้เกินขนาน

Soul Searcher
Inspired to write 23/1/2021




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 29 มกราคม, 2564, 09:54:29 AM


...โลภไร้พรมแดน...

ผลประโยชน์ซุกซ้อน..........บังตา พี่ฤา
สุมโลภเหลือคณา..............เหลื่อมล้ำ
ซุ่มส้องเสพตัณหา..............โหมหัก
เหมือนหนึ่งเตือนตอกย้ำ.....โลภไร้พรมแดน

Soul Searcher
Inspired to write 29/1/2021





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: ลูกต้น ที่ 02 กุมภาพันธ์, 2564, 08:11:08 PM

ยังรำพึงพรั่นเพ้อ    พิสมัย
เหมือนห่างตัวหัวใจ    จ่อเจ้า
จวบวันผ่านฤทัย    เทียมเที่ยว
ขออย่าลืมโลมเร้า   เริ่มต้นคนเดิม

ฝากคำโคลงสี่ล้น    ลักขนา
นำส่งสารพัดพา     พรุ่งนี้
นอบนพที่กานดา    ดวงเด่น
ดามชื่นคืนชีพชี้     ช่วยให้รักนิรันดร์

ฉันรักจึงเริ่มร้อย. รจนา
นัยสื่อมอบมยุรา.  เรื่อยรู้
รับรองมั่นคงนา-  รีอื่น
ยากเปลี่ยนหัวใจผู้.  หนึ่งนี้นิพนธ์

ถึงเราสองบ่จ้อง.  จองใจ
ยังแต่ตัวจากไกล. เท่านั้น
นานวันยิ่งคนึงใน.  นำกล่าว
กายห่างมิอาจกั้น.  ก่อสิ้รสนิทแสน

รักนิรันดร์ชี้บ่ง. บอกเธอ
ถึงผ่านรักเสมอ. ส่งให้
หาญหากว่าพบเจอ. จงเปล่ง
ปลาบปริ่มพิมพ์เราไว้.  ว่อนฟุ้งฝากความ

วันเวลาล่วงหน้า.  กำหนด
หมดห่วงขอจำจด.  ดั่งชี้
โชติชัชช่วงมิลด. ละร่าย
รินรื่นมะรืนนี้.  นี่แล้วลลิตา

เกิดเป็นชายหนุ่มผู้.  รักสาว-
สวยซ่านทรวง ธ ดาว.  เด่นล้น
รูปลักษณ์นิ่มงามสกาว   กุลรุ่น
ราวร่วมภพชาติค้น.  ครุ่นข้องจองใจ

ชาตรีชาติช่วยชี้.  ชัดทาง
ทุกอย่างยามนงนาง.  หนึ่งนั้น
ณ ผินปิ่นปวงปรางค์.  ปนภู่
พลันกู่กาญจ์ใครกั้น. ก่อนแก้วกานดา

รักนันทาท่วมท้น.  ทนไหว
หวาดหวั่นกลัวอันใด. บ่เว้น
วรรณาน่ารักเกินใคร. คงคลั่ง
ครวญคู่ดูรูปเร้น.  ร่องร้อยหรือไร .. ฯ


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 กุมภาพันธ์, 2564, 09:56:54 AM

...ยายสั่งมา...

ยายสั่งมา,แก้ต่าง...........พัลวัน
ผิดถูกด้อยสำคัญ............หมดสิ้น
ยอมปล่อยมืดบอดบัญ-...ชาบท
กรรมสนองอย่าดิ้น..........ร่วมใช้กับยาย

โซ...เซอะเซอ
15 กุมภาพันธ์ 2564




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 17 กุมภาพันธ์, 2564, 07:51:39 AM


ข่มอาทิตย์บ่ ให้.................เหินหาว
ขืนขัดแสงสกาว.................ก่องหล้า
ดวงใจอาจหาญราว...........รบศึก
ยืนหยัดระยังท้า.................ถ่อยด้านเดนคน

บนเส้นทางมืดแม้...............แลเดือน
หนีห่างหายลับเลือน...........หลีกเร้น
แฝงตนแอบฟั่นเฟือน..........เหมือนดั่ง
สำนึกผิดถูกเว้น-................ว่างทิ้งเมินเฉย

โซ...เซอะเซอ
17 กุมภาพันธ์ 2564




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 09 มีนาคม, 2564, 12:32:46 PM


มืดมัวแม้นขื่นคลุ้ม...........คระเมิม
กัมปนาทตูมเติม..............ข่มเค้น
กุดกร่อนกลบเหิมเกริม.....กระบัด
ประกาศศักดาเว้น............วาทแว้งโวหาร

กรอมกรานไกลกอบกู้.......เกรียมกรม
กระแทกกระทั้นจม............จวกจ้วง
ยืนหยัดหยั่งท้าลม............กระโชก
มิหวั่นแม้โหดห้วง.............คติแจ้งแสงสาส์น

ประจานประจบแจ้น...........ประจญ
หยามเหยียดความเป็นคน..ต่างเตี้ย
ความดีแบ่งแยกชน............สูงต่ำ
มิใช่ขุนหมากเบี้ย...............บ่งชั้นชนไฉน

โซ...เซอะเซอ
9 มีนาคม 2564





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 10 มีนาคม, 2564, 08:33:40 PM



“ก้านบัวบอกลึกตื้น............ชลธาร
มารยาทส่อสันดาน............ชาติเชื้อ
โฉดฉลาดเพราะคำขาน.....ควรทราบ
หย่อมญ่าเหี่ยวแห้งเรื้อ.......บอกร้ายแสลงดิน”

คำโคลงบ่งชัดถ้อย...........ชัดคำ
กักขฬะโอ้อวดทำ..............กร่างกล้า
อากัปกิริยาตำ-.................ตาบอก
สติดีฤาบ้า........................บ่ ต้องถามถึง

โซ...เซอะเซอ
10 มีนาคม 2564






หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 14 ธันวาคม, 2564, 07:37:34 AM


ลมหนาวยะเยือกเยื้อง……กรายเกย
โชยเฉียดโฉมชิดเชย…….เกลือกกล้ำ
นวลเจ้าอย่าละเลย……….ร้างปล่อย
เย็นเฉียบยะเยียบช้ำ….….ชอกเนื้อเรียมสงวน

โซ…เซอะเซอ
14 ธันวาคม 2564




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 24 กุมภาพันธ์, 2565, 07:52:24 AM


ระบอบระเบียบเบ้.…………ระบาย
ระบิระบิลกลาย……….……บูดเบี้ยว
เบียนเบียดยิ่งทำลาย………เบ้อแบ่ง
ใบ้บอดหลัวหลักเลี้ยว……..บ่ ตั้งตรงธรรม

โซ…เซอะเซอ
24 กุมภาพันธ์ 2565




หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 01 พฤศจิกายน, 2565, 09:40:35 PM



“ครืนครืนใช่ฟ้าร้อง……...เรียมครวญ
หึ่งหึ่งใช่ลมหวน………….พี่ไห้
ฝนตกใช่ฝนนวล………….พี่ทอด ใจนา
ร้อนใช่ร้อนไฟไหม้……….พี่ร้อนกลกาม”

[ พระยาแสนหลวง เจ้าเมืองเชียงใหม่ ]



“เรียมร่ำน้ำเนตรถ้วม…...ถึงพรหม
พาเทพเจ้าตกจม…….….จ่อมม้วย
พระสุเมรุเปื่อยเป็นตม…..ทบท่าว ลงนา
หากอักนิฏฐพรหมฉ้วย…..พี่ไว้จึ่งคง”

[ ศรีปราชญ์ ]



คราเครงครื้นครั่นฟ้า……..คำราม
ใจตื่นเต้นตูมตาม………….ดั่งด้วย
ไฟร้อนจากกลกาม………..เผาแผด เรียมเฮย
จวบชีพมรณ์ดับม้วย………สุดต้านกามรส

โซ…เซอะเซอ
1 พฤศจิกายน 2565





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 19 พฤศจิกายน, 2565, 08:59:34 AM

…มองเอเปค  ผ่านคำไทย…

มองเอเปคสะท้อน……….…..คำไทย
โปรยผักชีว่องไว…………….กลบหน้า
ตำน้ำพริกรดชลาลัย………….สมเหตุ ผลฤา
ช้างขี่จับปาทังก้า*………..…..ล่วงซึ้งจิตวิสัย

หน้าไหว้หลังหลอกแม้น….……ชินตา
มะกอกสามตะกร้าปา…….……ผิดเป้า
เปิดปากแลบชิวหา…………….สองแฉก
อนาถถึงแก่นเหง้า……………..ใหญ่หน้ากายผอม

*ปาทังก้า : ชนิดหนึ่งของตั๊กแตน

โซ…เซอะเซอ
19 พฤศจิกายน 2565




หัวข้อ: …วังวนแห่งวัฏฏ์…
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 22 เมษายน, 2566, 07:48:00 AM


…วังวนแห่งวัฏฏ์…

“…คลื่นซัดสาดโหมกระหน่ำ
สายน้ำทอดยาวเชี่ยวกรากมิเคยจะสงบนิ่ง
ชะล้างเรื่องราวต่างๆในโลกนี้ไปจนหมดสิ้น
ก่อนที่สุดท้ายจะไหลรวมเป็นสายน้ำหนึ่งเดียว

…ความสุขและความทุกข์
คละเคล้าอยู่ในเกลียวคลื่น
เสียงหัวเราะเสียงร้องไห้
ความสำเร็จหรือความล้มเหลว
มิอาจที่จะมองออกได้
ในท่ามกลางหมู่เกลียวคลื่นนั้น

…ความรักหรือความชัง
วานเธอช่วยบอกฉันที
เมื่อต่างก็ถูกสายน้ำใหญ่พัดพาไป
อย่างไม่มีวันย้อนหวนกลับ
ไหลคดเคี้ยวผ่านเกาะแก่งนับพัน
โดยมิอาจพบพานความสงบสุข
ท่ามกลางกระแสแห่งความอยาก
ความทะเยอทะยานแก่งแย่งชิงดี นี้ได้เลย

…ในความสุขและโศกศัลย์
มิอาจแยกออกได้ว่า
เป็นเสียงหัวเราะหรือว่าร้องไห้
เพียงปล่อยให้เกลียวคลื่นนับพันพัดพาล่องลอย
ไปหว่างวังวนของจิตใจเท่านั้นเอง…”

(ขออนุญาตนำคำแปล เนื้อเพลงเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้
จากคุณ “Sulley Monster”มาดัดแปลงขยายความ)

ผินคลื่นซัดสาดย้อน…..…..ครืนโครม
กลืนกลบทุกสิ่งโหม……….หักล้าง
มลายสุขทุกข์โทม-………..นัสทั่ว
ดำดิ่งมิดมืดม้าง…………...สู่ห้วงลำสินธ์ุ

ยินคำรักเปลี่ยนเว้า-……....วอนไว
เผยผ่านเพี้ยงหัวใจ….…….เหว่ว้า
จริงเท็จอยากรู้ใคร….….…วานบอก
ว่ารักกันจวบฟ้า……….…..ดับสิ้นดินสลาย

ความตายมิอาจรั้ง………..รอกาล
เกลียวคลื่นโถมสุดทาน……เหนื่อยร้อง
ยังเวียนวัฏสังสาร…………..หาหน่าย แหนงเฮย
หวนผูกใจเกี่ยวคล้อง………โศกเศร้า-หรรษา

KHaYdt4f_bc

Soul Searcher
Inspired to write 1/10/2021

(นำโคลงเก่ามาปรับแก้ไข 21/4/2023)



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: มาเฟียมานี่ ที่ 27 มิถุนายน, 2566, 02:14:51 AM
สวัสดีค่ะคุณโซ เซอะเซอ พอดีว่าดิฉันเป็นนักเขียน เห็นว่ากลอนของคุณเพราะมากเลย หากอยากจะขอพูดคุยกับคุณเกี่ยวกับการใช้บทกลอนหน่อยได้ไหมคะ ไม่ทราบว่าพอจะมีช่องทางการติดต่อไหมคะ


หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 มิถุนายน, 2566, 03:50:47 PM


เพียงหันมาสบป้อ-………..ยอวจี
ปะเหลาะถ้อยวาที…….…..ซึ่งหน้า
พลอยสติสมประดี…….…..เผลอหลุด
ปลื้มปลาบคล้ายคนบ้า……ผุดยิ้มกลางถนน

…ขอบคุณสำหรับคำให้กำลังใจครับ
เล่นอวยดักหน้าซะแล้ว
จะให้ปฏิเสธอย่างไรเล่าครับ
มีอะไรจะให้ช่วย (ยกเว้นยืมตังค์…55)
ส่งเมล์มาในเวปอารมณ์กลอนนี้ได้ครับ…

โซ…เซอะเซอ
27 มิถุนายน 2566




หัวข้อ: ...สบตา...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 23 กรกฎาคม, 2566, 11:41:35 AM


…สบตา…

สานสบแววเนตรซึ้ง…….เพียงมอง
ปั่นป่วนรติสอง……….…ฝั่งรู้
แม้มิอาจถือครอง….…...รักผูก พันเนอ
เสนาะชื่นชิดชู้……….….ผ่านร้อยคำถวิล

wxh_y-hVFlU

Soul Searcher
Inspired to write 23/7/2023




หัวข้อ: …น้ำตาแสงไต้…
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 25 กรกฎาคม, 2566, 12:02:35 PM


…น้ำตาแสงไต้…

เพ็ญแสงโลมลูบไล้…………นวลเอย
พาลห่วงชื่นชู้เชย……………ห่อนใกล้
น้ำตาหยาดรื้นเผย………….พลัดห่าง ไกลแม่
อวลอุ่นเคล้าแสงไต้…………ตราบห้อมฤทัยหวน

gvF_VcXFFxo

Soul Searcher
Inspired to write 25/7/2023





หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 27 กันยายน, 2566, 08:57:28 AM


แววดาววาวดาษล้อม……..ลานตา
หลายหลากดารกา….……..ต่างชั้น
ยังภาพติดตรึงตรา…………ฝันใฝ่
หวังหยิบดาวดวงนั้น……….ประดับข้างเคียงเขนย

A9YSxdlHJSo

Soul Searcher
Inspired to write 27/9/2023



หัวข้อ: Re: ...มาฝึกแต่งโคลงกันเถอะ...
เริ่มหัวข้อโดย: โซ...เซอะเซอ ที่ 15 ตุลาคม, 2566, 10:44:22 PM


…ใจเอย…

“…แอบเก็บเอาไว้ บอกใครไม่ได้ทั้งนั้น
ทั้งๆที่ฉัน รักเธอรักเธอกว่าใคร
ใจเอยยิ่งห้ามเท่าไหร่
ยิ่งฝันไปไกล ไม่ยอมเชื่อฟังซักที

เธอมีเจ้าของ ก็มองเห็นอยู่เสมอ
แล้วใยยังเผลอ คิดถึงเธอมากอย่างนี้
ช้ำไหม หัวใจตัวดี กอดหมอนทุกที
มีเพียงน้ำตาปลอบใจ

หวาดผวา เอื้อมคว้าเพียงเงา
เธอรู้หรือเปล่า ว่าฉันรักเธอแค่ไหน
ปลายทาง ตอนจบของหัวใจ
จะเป็นอย่างไร เจ็บแค่ไหน ไม่รู้เลย…”


TvIPn3_Xa38

แอบรักซ่อนเก็บไว้….…….….ใจเอย
หอมกลิ่นชื่นชู้เคย………….…เกลือกใกล้
ฝืนข่มยากผายเผย……….…..ว้าวุ่น
ขับประพนธ์หม่นไหม้…………ยิ่งเร้าแรงถวิล

Soul Searcher
Inspired to write 15/10/2023