Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
 11 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 10:07:46 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer
มะสะแปร์..แน่ใจ?...บอกไม่รู้แอบมองอยู่...ขอเถียง..เรื่องเดียงสามีมากล้น..คนข้างมิสร่างซาเต็มอุรา..รักรก..สุมอกใจพู่กันน้อย..คอยรักต้องหักจิตค่อยค่อยคิด..นะเออ..กลัวเผลอไผลปรึกษาพี่ปรึกษาน้าว่ากันไปป้าดาวไง..ถึงแก่น..รักแน่นทรวง

(พี่จั่นเจา)

แหม..

แอบมองดู?..รู้กว่าตัวของน้อง
เที่ยวรอบมองแล้วไงใช่หึงหวง??
ก็ยอมรับมากหนุ่มอยากรุมควง
เกิดแต่ดวงเสน่ห์ด้วยสวยนะซี

หนุ่มเหล่านั้นฉันไม่มองสองดวงเนตร
ก็ด้วยเหตุเก็บสองตามองหาพี่
เรื่องความรักไม่เค้ยเลยไม่มี้
จนป่านนี้เป็นป้าอยู่รอคู่ลุง..เจา

Masapaer

555 หยอกๆ..หายไปนานนะคะคุณพี่
ถ้าป้าแปไม่อยู่ ก็ถามลุงจั่นเจาก็ได้จ้ะน้องพู่กัน






 12 
 บทกลอนไพเราะ / บทประพันธ์อันน่าประทับใจ / Re: บทกลอนโบราณ
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 09:43:06 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย share
ขอบคุณยิ่ง "ผู้เฒ่า..โง่งม"
ที่ได้ค้นคว้า และนำเสนอ ผลงานของ  

บุษบาท่าเรือจ้าง หรือ คุณพุ่ม
กวีหญิงสมัยต้นรัตนโกสินทร์  
แต่งเมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๑๒


======================

เสียงท้ายวรรค กลอน (ที่แนะนำกันในปัจจุบันครับ)

จะเห็นได้ชัดว่า คุณพุ่ม ท่านแต่งได้ งดงาม
สอดคล้อง เกณฑ์ ที่นิยมในปัจจุบัน
เหมาะสม เป็นแม่แบบได้ ครับ


@ เสียงร้อยกรอง ประเภทกลอน ท้ายวรรคใหั
วรรคแรกไซร้ เลี่ยงเสียง สามัญหนา
วรรคสองเสนาะ ไพเราะด้วย เสียงจัตวา
วรรคสามสี่ สรรหา เสียงสามัญ

@ คราเนื้อหา สาระ ประเด็นตรอง
เสียงวรรคสอง โทเอก เสกบ่พรั่น
วรรคสามสี่ เสียงตรี ก็เช่นนั้น
ปราชญ์ไป่ยั่น หยิบใช้ ไม่หลุดประเด็น

share / toshare

----------------------------------

* ตัวอย่าง *

๏ ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต (เอก)
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร (ตรี)
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ

ถึงบางพลูคิดถึงคู่เมื่ออยู่ครอง (สามัญ)
เคยใส่ซองส่งให้ล้วนใบเหลือง
ถึงบางพลัดเหมือนพี่พลัดมาขัดเคือง
ทั้งพลัดเมืองพลัดสมรมาร้อนรน

๏ โอ้ปางหลังครั้งสมเด็จพระบรมโกศ
มาผูกโบสถ์ก็ได้มาบูชาชื่น (โท)
ชมพระพิมพ์ริมผนังยังยั่งยืน
ทั้งแปดหมื่นสี่พันได้วันทา

นิราศภูเขาทอง

=====

บัดเดี๋ยวดังหง่างเหง่งวังเวงแว่ว  
สะดุ้งแล้วเหลียวแลชะแง้หา  
เห็นโยคีขี่รุ้งพุ่งออกมา
ประคองพาขึ้นไปจนบนบรรพต (ตรี)

พระอภัยมณี


 13 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 08:46:36 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย share

@ สวัสดี...ข้าเจ้าหรือ ก็คือ "รัก"
มิได้แอบ ฤ หลบพัก ณ หนไหน
แท้ ทุกวัน เช้าจรดค่ำ ข้างเจ้า ทุกกาลไป
เพียงแค่เจ้า เปิดใจ ก็จักพบ ประสบพลัน

@ สวัสดี...ข้าเจ้าหรือ ก็คือ "รัก"
ชวนเชิญทัก "ชาวชน" ใช่แค่ "ฉัน"
ลดตัว"กู" ผู้ผยอง เมตตาครัน
หล้าสวรรค์ แห่ง"รัก" ก็ประจักษ์ ประเจิดใจ
   


 14 
 บทกลอนไพเราะ / บทประพันธ์อันน่าประทับใจ / Re: บทกลอนโบราณ
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 06:29:17 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
ผลงานอมตะของ  บุษบาท่าเรือจ้าง หรือคุณพุ่ม กวีหญิงสมัยต้นรัตนโกสินทร์  แต่งเมื่อปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๔๑๒


ผู้หญิงเขียนกลอน มีไม่มาก แต่ผู้หญิงที่เขียนกลอนดีนั้นมีอยู่ คุณอาจเป็นคนหนึ่งในนั้น อยู่ที่ความรัก และ ความพยายาม เขียนเยอะๆ แต่ทุกสิ่งที่เขียนอย่าทิ้ง เก็บเอาไว้แก้ไขได้เรื่อยๆ สักวันก็จะงดงามได้เอง



           นิราศวังบางยี่ขัน
หอพระสมุดวชิรญาณพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรก

๏ สิบเอ็จพุธอุตราเวลาสาย
แสนอาดูรทูลลาเยี่ยมน้าชาย
กับพระสายสุดกระษัตริย์รัตนา

หลานสาวเจ้าประทุมคุมไปด้วย
ดูสะสวยส่างสดซึ่งยศถา
แต่คุณจอมตรอมกรมอารมณ์อุรา
ไม่ผัดหน้าผิวเนื้อเธอเหลือนวล

ยังงามงดชดช้อยนั้นน้อยฤๅ
สมเขาฦๅว่าเปนองค์ทรงสงวน
ที่ปราโมทย์โปรดปรานการก็ควร
แบบกระบวนบทบาทเยื้องยาตรา

ลงจากตึกคึกคักสพรักพร้อม
ข้าหลวงล้อมหลายหลากมากนักหนา
แต่แม่จันกั้นพระกลดดูหมดตา
คุณมารดาเดินสลับลำดับกัน

โอ้เอ็นดูหนูอ่อนสมรพี่
ห่มแพรสีนวลสมดูคมสัน
เหมือนลูกวัวอั้วเอี้ยตั้วเตี้ยครัน
ทุกสิ้นสรรพ์สั้นสิ้นทั้งอินทรีย์

เลยลีลามาถึงน่าปราสาทรัตน์
เธอทอดทัศนาทางหว่างวิถี
เขาขายของสองฟากล้วนมากมี
ดูคุณขี้เกียจแท้ไม่แลเลย

หยุดบังคมพระบรมโกษฐ์รัตน์
โทมนัศนึกมานิจาเอ๋ย
สิ้นพระเดชเขตรยศสลดเลย
เหลือจะเงยภักตราลงมาแพ ฯ

๏ เห็นเก๋งทองของประทานมีม่านกั้น
สอื้นอั้นโอ้อายสายกระแส
ยศมนุษย์สุดคะเนปรวนเปรแปร
มันไม่แน่นิ่งอยู่กับผู้ใด

เลยลงเรือเหลืออุระมะนะนิ่ง
เฝ้าแต่หมองตรองกริ่งประวิงไหว
สุดจะอ้อนวอนหวังไปสั่งใคร
ให้แจ้งใจเหมือนจิตรที่คิดปอง

นาวาล่วงทรวงเสียวเหลียวเหลียวหลัง
แลดูวังสังเกตเทวศหมอง
นิจาเอ๋ยเคยเปนข้าฝ่าลออง
อำไพผ่องเพียงเดือนบนเรือนรถ
สิ้นพระชนม์ล้นกระหม่อมจอมกระษัตริย์
เคยเปรมปราสาระพัดวิบัติหมด
แต่ก่อนเอ๋ยเคยมีอิศริยศ
เดี๋ยวนี้ลดลับเลือนเหมือนเดือนดาว

ถึงโรงเรือเรือที่นั่งยังประทับ
โอ้แลลับเห็นแต่แม่สาวๆ
ต้องแรมร้างจางจืดไม่ยืดยาว
แต่เมื่อช้าวยังพบไม่หลบตา

ถึงท่าขุนนางวังเวงวิเวกจิตร
คงจะคิดถึงพระเดชเทวศหา
เคยเฝ้าฟังรับสั่งถามความสุธา
เดี๋ยวนี้มาเฝ้าพระโกษฐ์ไม่โปรดปราน

แต่พระจอมกระษัตราจุฬาเลิศ
เหมือนแก้วเกิดกลางฟ้าเวหาหาญ
ได้สืบวงศ์ทรงแดนแสนศฤงคาร
จึงสำราญร่มเกล้าทุกเช้าเย็น

ถึงท่าพระปะบ้านสถานถิ่น
ยิ่งถวิลหวั่นใจมิได้เห็น
สวาดิแสวงแฝงชีวิตมามิดเม้น
เปนรักเร้นรักร้างจึงจางจร
จะคงสัตย์ฤๅจะปัดขี้ปดปิด
ฤๅจะคิดลายลักษณอักษร
เห็นบ้านเรือนเตือนใจอาไลยกลอน
ปานนี้นอนอยู่ที่หอแล้วหนอจ๊ะ

ฝีพายจ้วงล่วงแลชำเลืองเหลียว
ในทรวงเสียวเสียวเศร้าเปล่าอุระ
ดูวัดระฆังฝั่งซ้ายรายระยะ
ขอคุณพระพุทธรูปสถูปรัตน์

เปนที่พึ่งซึ่งภัยในมนุษย์
หนึ่งสิ่งสุดเสนหารักษาสัตย์
ที่ทรวงซื่อถือธรรมน้ำพิพัฒน์
โสมนัศสนิทนาถราชการ

หมายเปนหนึ่งพึ่งเขตรพระเดชเด็จ
เปนสิ้นเสร็จครองสัตย์อัธิฐาน
ขอเปนข้ากว่าจะถึงซึ่งนิพพาน
ไม่โปรดปรานเปรียบเปนเพียงเอนดู

นี่เปนข้ามาพึ่งแต่ครึ่งชาติ
แรมนิราศร้างรศโอ้อดสู
เหมือนสระสุทธิ์บุษบงทรงเรณู
ไร้ที่ผู้รักษาพยาบาล
ยิ่งเปล่าเปลี่ยวเหลียวหลังดูฝั่งขวา
องค์รัตนาบานเบิกให้เลิกม่าน
เห็นวังกรมราชสีห์ที่นิพพาน
แสนสงสารพงศ์กระษัตริย์วิบัติเปน

ประชวรจับกลับหายก็หลายหน
นี่เนื้อผลเวรกรรมมาทำเข็ญ
จับไข้หนาวคราวนี้ท่านหนีเร้น
คืนไปเปนกรมชั่งทำวังเวียง

อยู่สวรรค์ชั้นสุดถึงดุสิต
สู้พระวิศนุวาดไม่อาจเถียง
คอยพระจอมเกษกระษัตริย์จำรัสเรียง
เปนแท้เที่ยงท่าทางเหมือนอย่างคิด

รักษาพระองค์ทรงเดชเกษสยาม
เสด็จไหนไม่ขามสู้ตามติด
ทราบว่าพระภูวนาถบาทบพิตร
เสด็จดุสิตก็อุส่าห์คลาศคลาไคล

คอยคำนับรับเสด็จเสร็จประทะ
ไปสร้างพระปรางทองอันผ่องใส
ทิ้งคุณน้อยสร้อยเศร้าเปลี่ยวเปล่าใจ
ให้ร้องไห้โหยหาทุกราตรี
เคยเปรื่องโปรดโสดทรวงจะง่วงเหงา
แต่ลูกเต้าเล่ายังอยู่กะจู๋กะจี๋
ค่อยสบายคลายคลั่งเพราะมั่งมี
ไม่เหมือนพี่คุณพุ่มซุ่มซุกซน

พ่อแม่น้าตายายตายเหมือนถั่ว
ยังแต่ตัวเต็มทีออกปี้ป่น
มายอมยากฝากชีวิตด้วยฤทธิ์จน
อยู่เปนคนชิดใช้หมั่นไปมา

พอฝีพายท้ายประจำลำที่นั่ง
ทรงกำลังยาวโยนบโทนขวา
แลตลิ่งวิงเวียนเปลี่ยนตา
คุณให้รารอรั้งจะนั่งดู

ด้วยรุ่นสาวคราวมาเปนข้าบาท
ได้รับราชการเสร็จเสด็จอยู่
ไม่อาจทูลลาเลยไม่เคยดู
เห็นคนผู้แซกซอกชาวนอกวัง

จึงให้รอพอแลกระแสสาย
เบิกสบายเบาร้อนอาวรณ์หวัง
ถึงโรงสีมีกระท่อมล้อมรุงรัง
แกลบริมฝั่งรำฟุ้งกระบุงกระบาย
ไม่น่าดูสูสีมีแต่แขก
เอาบ่าแบกฟืนตองมากองขาย
นึกสะเทินเมินหน้าระอาอาย
ชำเลืองชายชมวัดมัสการ

ถิ่นสุธาน่าพระธาตุอาวาศนิเวศน์
ของปิ่นเกษกระษัตราสุธาสถาน
ทรงสะสางสร้างสมมานมนาน
ตั้งแต่ผ่านภพประเทศธเรศตรี

บรมนารถบาทบัณฑูรจำรูญจำรัส
ครองสมบัติบำรุงซึ่งกรุงศรี
ทรงปราโมทย์โปรดจัดสร้างวัดนี้
เดิมชื่อศรีสารเพชญ์มีเม็ดพราย

ด้วยตาสีตาสากับตาเพ็ช
มั่งมีเม็ดเข้ากล้าทำนาขาย
ได้เงินเฝือเหลือหลามทั้งสามนาย
สร้างถวายสังกาศอาวาศวง

จึงให้นามสามนายหมายฉนี้
ชื่อวัดศรีสารเพ็ชญ์เสร็จประสงค์
พอจอมเกษมงกุฏสมมุติวงศ์
เสด็จมาทรงสร้างเมืองเรืองจำเริญ
ทรงสถาปนาจัดวัดพระศรี
ให้งามดีโดยดังสั่งรเสริญ
เอาบรมธาตุธรรมนำดำเนิน
ประชุมเชิญไว้ในโบถสาโรชราย

ก่อสถูปทำปฐมบรมธาตุ
สามขนาดตวงทนานประมาณหมาย
พระเจดีย์นี้ประดับสลับลาย
ทรงสร้อยสายตาบทิศแล้วปิดทอง

มีรูปพระสาวกหกสิบห้า
ที่ตรงฝาผนังในไม้สิบสอง
ทราบกำหนดจดถ้อยริร้อยกรอง
ฉล่ำฉลองเฉลิมวัดโดยศรัทธา

บรรดาสงฆ์วงจังหวัดวัดพระธาตุ
ล้วนฉลาดเหลือดีที่มหา
เพราะบารมีของพระศรีศาสดา
คือมหาธาตุสุคตกำหนดนาม

ได้แลเห็นเปนศุขลืมทุกข์ทับ
จะเลยลับล่วงไปให้ไหวหวาม
ถึงกระทั่งวังน่าสง่างาม
เรืองอร่ามบริรักษ์ตำหนักแพ
กำปั่นทอดจอดประทับไว้กับท่า
ทัศนาในระหว่างกลางกระแส
คนนั่งเล่นเปนหมู่อยู่ที่แพ
เราแลแลไม่รู้จักไม่ทักทาย

โอ้คิดบุญคุณตึกอยู่คึกคัก
เคยเอ็นดูรู้จักสมัคหมาย
ไม่เหมือนมาดคลาศคลาชีวาวาย
ท่านตรอมกรมล้มตายเสียหลายปี

เมื่ออยู่เอ๋ยเคยไปวังบางยี่ขัน
พอแม่พันมาประนตบทศรี
ได้รู้จักภักตราพูดพาที
เห็นคุณพี่พุ่มภักตร์ก็รักแทน

จะทำนุอุปฐากช่วยลากถู
คิดคิดดูอยู่ข้างเบื่อนั้นเหลือแสน
ใช้ปัญญาน่าหัวร่อเหมือนต่อแตน
ไม่หมายแทนคุณคอยจะต่อยตอม

คิดเหมือนเบ่าเก่าแก่แต่ปัจฉิม
รักคุณอิ่มสุดแสนแทนถนอม
เห็นยากเย็นเปนทุกข์คะมุกคะมอม
จะซูบผอมอย่างประมาณให้ทานกิน
กลับอิดเอื้อนเลื่อนหลบเหมือนกบเขียด
ไม่บังเบียดใบอุบลทนถวิล
เฝ้าชื่นเช่นเผ่นโผนในโคลนดิน
รังเกียจกลิ่นกุสุมาระอาอาย

ถึงคลองหลอดสอดเนตรสังเกตโฉม
สู้ถาโถมทอดเทเสน่ห์หมาย
ไม่ทิ้งทอดลอดเล็ดไปเด็ดดาย
ขอเปนด้ายกับหลอดกอดกันกลม

อย่าเหนี่ยวเหน็บเก็บตะกอไปทอหูก
ไม่หวังผูกพันสายหมายประสม
จะพึ่งหลอดกอดสัตย์พิกัดกลม
มิขอชมเชยกี่มีตะกอ

ถึงบ้านท่านพระยาอินทราเก่า
ดูหงอยเหงาเปล่าเปลี่ยวจริงเจียวหนอ
แต่ยี่โถโอ้อกช่างดกพอ
บานเปนหมู่ชูช่ออรชร

๏ เขาข้ามตัดไปวัดประโคนเขตร
เห็นนิเวศน์อาวาศขยาดสยอน
เปนเสาหินสิ้นสังเกตเขตรนคร
วังบวรนิเวศน์ธเรศตรี
โอ้ธานินทร์ถิ่นฐานย่านแม่น้ำ
ยังรู้กำหนดแนวแถววิถี
แต่วิโยคโศกศัลย์ของฉันนี้
มิได้มีที่หมดกำหนดเลย

ตั้งแต่หมดพระวสันต์สวรรคต
เฝ้ารันทดทุกทิวานิจาเอ๋ย
ไม่ส่างเสื่อมสิ่งเศร้าเบาเสบย
เมื่อไรเลยจึงจะส่างสว่างทรวง

แลดูไหนก็ไม่เพลินต้องเมินหน้า
ที่ทูลลาเหลือกำลังอยู่วังหลวง
ไม่ให้ส่างโศกเสริมกลับเติมตวง
ไม่วายห่วงโหยไห้อาไลยอาวรณ์

อยากแบ่งปันคั่นเขตรเทวศถวิล
เหมือนเสาหินเขตรปักลงอักษร
ที่โศกศุขทุกข์ประทะอุระสะท้อน
ให้เปนตอนเหมือนตัดวัดประโคน

ดูเรือแพแลหลายจอดท้ายวัด
เขาขายพัดจัดวางกระถางกระโถน
ตะลุ่มโอโถตลับมีดพับมีดโกน
บ้างขายโทนโอ่โถงโรงลคร
แลตลิ่งมิ่งไม้ใบชะอุ่ม
อัมพาพุ่มออกพวงร่วงสลอน
ชมพู่ดกนกกาพากันจร
มาเวียนว่อนบินวนตอมต้นไม้

เห็นโศกออกดอกโศกโบกสะบัด
พระพายพัดพากิ่งประวิงไหว
แต่โศกทรวงดวงจิตรนี้ผิดใจ
ลมช่างไม่พัดพานสงสารทรวง

 15 
 บทกลอนไพเราะ / บทประพันธ์อันน่าประทับใจ / บทกลอนโบราณ
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 06:14:09 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
พอดีมีบทประพันธ์ที่น่าประทับใจอยู่เรื่อง ก๊อปเก็บไว้ในเครื่องหลายปีแล้ว เลยเอามาลงแบ่งๆกันอ่าน เผื่อมีคนสนใจ ในสำนวนและเสียงกลอน..ซึ่งถือว่าใช้เป็นครูในการเขียนได้ และบทกวีนี้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 2412  ก็ร้อยห้าสิบกว่าปีแล้ว..


ยุคนั้นหลักฉันทลักษณ์ ยังไม่มีการสอนเป็นมาตรฐาน ถ้าเราอ่านบทกวีนี้จะเห็นว่า สัมผัสนอก หรือ สัมผัสบังคับ ยังผิดหลักตามเกณฑ์ปัจจุบันอยู่บ้าง (ที่ใช้ตัดสินงานประกวด) ส่วนสัมผัสใน ซึ่งไม่บังคับ ทั้งสัมผัสสระ และ พยัญชนะ ถือว่าใช้ได้สวยงามมาก เสียงกลอนไหลเหมือนสายน้ำ เนื้อหาใจความเป็นเรื่องเป็นราว


ผมก็ฝีกหัดเขียนกลอนให้ได้แบบนี้ แต่เป็นไม้แก่ดัดยากซะแล้ว ยังคงไม่ได้เรื่องได้ราว ก็เลยเขียนเรื่อยเปื่อยไปชาตินึง..พยายามเขียนให้คนอ่าน “เข้าใจ” ยังยาก..ยิ่งจะเขียนให้ “กินใจ” ยิ่งลำบาก.ก.ก ก.ไก่ หลายสิบตัว….บทกวีในปัจจุบันถึงไม่เป็นที่นิยม เพราะคนรุ่นใหม่ อ่านแล้วไม่เข้าใจ ไม่ซาบซึ้ง

เดี๋ยวไปจัดเรียงให้เรียบร้อยอีกที ค่อยนำมาลง ลองอ่านกันดูครับ..

 16 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 05:57:33 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย จั่นเจา
 


มะสะแปร์..แน่ใจ?...บอกไม่รู้
แอบมองอยู่...ขอเถียง..เรื่องเดียงสา
มีมากล้น..คนข้างมิสร่างซา
เต็มอุรา..รักรก..สุมอกใจ

พู่กันน้อย..คอยรักต้องหักจิต
ค่อยค่อยคิด..นะเออ..กลัวเผลอไผล
ปรึกษาพี่ปรึกษาน้าว่ากันไป
ป้าดาวไง..ถึงแก่น..รักแน่นทรวง


หมายเหตุ...มะสะแปร์  =  พี่ดาว   น้าดาว   ป้าดาว

( คนเดียวกันจ้า )


Jannjao

 17 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 08 กรกฎาคม, 2568, 06:03:08 AM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer
สวัสดีความรัก
อยากรู้นักรักที่ว่านั้นอยู่ที่ไหน
อยู่แว่นแคว้นชายแดนประเทศใด
ฉันจะไปคว้ารักจักมาครอง

เป็นอย่างไรนะความรัก
คนเขาว่างงดงามนัก..จริงไฉนใคร่จับต้อง
เป็นจริงอย่างเขาว่า..หรือไรใจคะนอง
จึงร่ำร้องอยากพบรักแม้สักครา



Masapaer

ยินดีต้อนรับน้องพู่กัน เขียนกลอนให้สนุกนะคะ
พบปัญหา ถามพี่ดาวได้จ้ะ


 18 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนคลายเครียด / Re: กลอนหนึ่งตำลึง
 เมื่อ: 07 กรกฎาคม, 2568, 10:12:50 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม


ชีวิตเคยหนาว เปียกเท่าไหร่ก็แค่ หนาว..

    ๏ รู้ดีว่าทำผิดเอาไว้เยอะ
ย่อมต้องเจอะบาปกรรมตามสนอง
ผลจากเหตุทุกเรื่องชำเลืองมอง
มีมากมายก่ายกองสนองคืน

    ๏ บางสิ่งไม่ต้องการจะให้เกิด
บางเรื่องเปิดเห็นชัดว่าขัดขืน
หลายเรื่องราวเจ็บช้ำต้องกล้ำกลืน
ท้ายที่สุดหยัดยืนไม่ฝืนเอย ๚ะ๛

 
 เวลาไม่เคยทิ้งคราบของความสุข ให้กับหัวใจที่ปวดร้าว..
 
    ๏ อยากให้บางช่วงเวลานั้นหยุดนิ่ง
สรรพสิ่งยั้งหยุดความเคลื่อนไหว
เก็บเวลาช่วงนั้นตลอดไป
ผนึกห้องหัวใจตลอดกาล

    ๏ แต่ไม่เหลือช่วงวันเวลาเก่า
ความรู้สึกซึมเศร้าช่างร้าวฉาน
จบสิ้นแล้วความฝันในวันวาน
พร้อมเพลาเนิ่นนานที่ผ่านเอย ๚ะ๛


 เมื่อความสำคัญลดห่าง สัมผัสทุกทางก็ไร้ค่า..
 
    ๏ คิดถึงความหวานชื่นในคืนแรก
กับเรื่องราวแตกแยกในวันก่อน
ทุกคำพูดรวบรัดเพื่อตัดรอน
เหมือนรับการสั่งสอนก่อนอำลา

    ๏ ขอบคุณทุกเรื่องราวที่ร้าวฉาน
คิดถึงสัมผัสหวานตอนซ่านหา
แล้วอดีตกลับเป็นเรื่องเย็นชา
ขออนุโมทนาแล้วลาเอย ๚ะ๛


 ฝาขวดเมื่อเปิดแล้ว ยากที่จะปิดให้เหมือนเดิม เหมือนใจคนเมื่อเปลี่ยนแปลง..

     ๏ เริ่มกับเลิกคือเรื่องอัศจรรย์
ความรู้สึกตรงข้ามกันเมื่อสรรหา
สุขกับทุกข์มีบ้างต่างต่างนานา
เริ่มรักแล้วร้างราฉันกับเธอ

    ๏ การปิดม่านเลิกรารักครั้งหนึ่ง
อาจมีรักใหม่ซาบซึ้งได้เสมอ
มิเสียใจในสิ่งที่พบเจอ
ขอบคุณที่เสนอบทเรียนเอย ๚ะ๛ 

    *ความทรงจำสีจาง*


    ๏ พบในฝันอยู่เสมอยังเจอบ่อย
ลมหายใจเหลือน้อย ยิ่งนึกถึง
ภาพอดีตตอกย้ำยามคำนึง
ใจร่ำร้องอื้ออึงคิดถึงเธอ

   ๏ เก็บเธอไว้ในส่วนที่ลึกล้ำ
อยู่ในความทรงจำสม่ำเสมอ
แต่ไม่คิดเรียกหาให้มาเจอ
ขอเป็นแค่คนเพ้อเจ้อ ที่เธอลืม ๚ะ๛


.




 19 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 07 กรกฎาคม, 2568, 09:59:14 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย จั่นเจา
 

ความพอใจใคร่รู้เคียงคู่ชอบ
คือคำตอบแรกเริ่มประเดิมผล
ผูกพันจิตคิดถึงมัดตรึงตน
ว่ายเวียนวน..ก่อบ่วงสู่ดวงใจ

โลกสดสวยสว่างแจ้งด้วยแรงรัก
งดงามนัก..อร่ามองค์มองตรงไหน
ดั่งหลุดล่องลอยล่วงจากทรวงใน
ล้อมฤทัย..ถวิลหาเวลาวาน

อนาคตก้าวใหญ่ตามใจฝัน
สร้างคืนวัน..หนักแน่นเป็นแก่นสาร
แต่...วันหนึ่งวันนั้น...ฝันอันตรธาน
เธอ..ปล่อยผ่าน...ปล่อยเราช้ำ...ด้วยคำลวง


Jannjao

 20 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 07 กรกฎาคม, 2568, 05:56:34 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย พู่กัน
สวัสดี...เจ้าความรัก
ตอนนี้เจ้าไปหลบพักอยู่แห่งหนไหน
รู้บ้างหรือเปล่า...ว่ามีบางคนต้องเหงาใจ
เพราะไม่เคยได้รู้จักว่าความรักเป็นเช่นใดสักที

อยู่คนเดียวลำพังแบบเหงา-เหงา
หัวใจว่างเปล่ามาจวบจน...ตอนนี้
ความรักเจ้าเอย...ไฉนเลยไม่เคยไยดี
ปล่อยหัวใจดวงนี้...เหว่ว้าทุกนาที...อยู่ร่ำไป

แวะมาทางนี้บ้าง...ได้หรือเปล่า
แบ่งความรักมาให้คนเหงา-เหงา...บ้างได้ไหม
ชีวิตที่ผ่านมา...ไม่เคยได้ความรักจากใคร
ขอรู้จักความรักสักครั้งได้ไหม...ก่อนสิ้นใจไปตลอดกาล


หน้า: 1 [2] 3 4 ... 10
Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.411 วินาที กับ 28 คำสั่ง
กำลังโหลด...