กลอนกลบท นายโรงลืมกรับ
~ WAR ~
๏ เมื่อสองทัพขับประจัญมาบรรจบ
ต่างฝ่าย ต่างคะนองลั่นกลองรบ
สายตาสบพร้อมพุ่งมุ่งปะทะ
เมื่อถึงฤกษ์เร่งพลเข้าชนชิด
สำแดงฤทธิ์ฟาดฟันกันฉัวะฉะ
เสื้อแสงวิ่นสิ้นหมดมิลดละ
ผะผัวะผะตุบตับผลัดรับรุก
แรงสองทัพขับสะเทือนสะท้านภพ
มิสยบยับยั้งกำลังบุก
แล้วต่างส่งยอดแสงที่ซ่อนซุก
เคลื่อนบรรทุกปืนใหญ่ออกไปซัด
เสียงศาสตรารัวสนั่นลั่นพื้นโลก
ผืนดินแยกแผ่นดินโยกยากยืนหยัด
ดังกึกก้องกัมปนาทรัวฟาดฟัด
จนสิ้นนัดสุดท้ายของสองทัพ
เสียงรัวกลองสองฝั่งค่อยยั้งหยุด
เห็นเหงื่อผุดเต็มร่างพร่างพรายจับ
ทั้งสองฝ่ายคลายบุกไม่รุกรับ
พลางถอยกลับจรดลเคลื่อนพลพรรค
สายตาของสองทัพยังจับจด
มิละลดแม้ผ่านการศึกหนัก
หอบหายใจไหลลึกเสียงฮึกฮัก
กลับตั้งหลักตระเตรียมศาสตราวุธ
ศึกครั้งนี้นี่หนาผลปรากฏ
ต่างเพียงหมดแรงสิ้นใช่สิ้นสุด
มิทราบแน่แพ้ชนะประลองยุทธ
เปรียบประดุจเสมอกันทั้งสองก๊ก
๏ ศึกหน้าเป็นเช่นไรไม่อยากคิด
เพียงลิขิตเล่นเล่นเน้นตลก
จบแล้วจินต์ถวิลคำพร่ำเพ้อพก
เรื่องหยิบยกมาฝึกชวนนึกเอย
ธาตรี รติกานท์
๑๓.๐๙.๒๕๕๖
______________________
กลอนกลบท นายโรงลืมกรับ
กำหนดให้สัมผัสนอกหรือสัมผัสบังคับ(บางท่านก็อาจว่าคำท้ายวรรค)
ส่ง-รับด้วยคำตาย
ขอบคุณภาพจาก 9gag