(โคลงโบราณนันททายี,มหานันททายี,นันททายีแผลง)
(โคลงโบราณนันททายี)
๐ สุริยาเจิดจ้า...........ฉายแสง
สาดส่องแสดงยาม.....รุ่งเช้า
มวลหมู่แมลงบิน.........เริงร่า
เกาะกิ่งใบหยอกเย้า......งามตา
.
(โคลงโบราณมหานันททายี)
๐ สุขอุรายิ่งแล้ว...........ยามมอง
แสงสาดเรืองรองดวง....ดอกไม้
สีสรรเนืองนองสวย........งามเด่น
หอมชื่นจิตยามใกล้.......ลมพัดกลิ่นโชย
.
(โคลงโบราณนันททายีแผลง)
๐ โบกโบยลมพัดอ้อน....มองหา
สุมาลีพาจิต..................อุ่นเอื้อ
ดุจปรารถนาใน..............มิตรภาพ
ผูกพันทุกเมื่อด้วย..........ดอกไม้ไมตรี
.
พิณจันทร์
๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙
(ขอผู้อ่านทุกท่านได้โปรดชี้แนะด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ)
,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,,
๐ "โคลงมหานันททายี"เป็นโคลงแบบหนึ่งในคัมภีร์กาพย์สารวิลาสินี มีโครงสร้างฉันทลักษณ์คล้ายโคลงสี่สุภาพ นิยมมีคำสร้อย เฉพาะบาทท้ายและมีการส่งสัมผัสดังนี้…
๐ คำที่ ๗ ของบาทแรกไปสัมผัสกับคำที่๔ ตรงบาทที่๒และ๓
๐ คำที่๗ของบาท๒ไปสัมผัสกับคำที่๕ของบาท๔
๐ ไม่มีการบังคับตำแหน่งคำเอก คำโท
๐ หากไม่มีการเติมคำสร้อย จะเรียกว่า “นันททายี”
๐ หากในบาทท้ายหากย้ายคำสัมผัสไปยังคำที่๔ จะเรียกว่า “นันททายีแผลง” ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงประดิษฐ์ขึ้นใหม่
.
"ร้อยกรอง คะนองเพลงยาว" ต่อปากต่อคำ นำขบวนโดย"เจ้าคุณอู๋"