Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
>>
“...จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน...”
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: “...จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน...” (อ่าน 6270 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3894
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
“...จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน...”
«
เมื่อ:
20 กรกฎาคม, 2562, 11:16:07 PM »
หน้าแรก
“...จากครรภ์มารดา ถึงเชิงตะกอน...”
จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน
from Womb to Tomb โดยป๋วย อึ๊งภากรณ์
ข้อเขียนนี้ต้นฉบับถูกเขียนเป็นภาษาอังกฤษชื่อ
The Quality of Life of a South East Asian :
A Chronical of Hope from Womb to Tomb
ตีพิมพ์ในบางกอกโพสต์ฉบับวันที่ 18 ต.ค. 2516
“...เมื่อผมอยู่ในครรภ์ของแม่
ผมต้องการให้แม่ได้รับประทานอาหาร
ที่เป็นคุณประโยชน์ และได้รับความเอาใจใส่
และบริการอันดีในเรื่องสวัสดิภาพของแม่และเด็ก
ผมไม่ต้องการมีพี่น้องมากอย่างที่พ่อแม่ผมมีอยู่
และแม่จะต้องไม่มีลูกถี่นัก
พ่อกับแม่จะแต่งงานกันถูกฎหมาย
หรือธรรมเนียมประเพณีหรือไม่ ไม่สำคัญ
แต่สำคัญที่ พ่อกับแม่ต้องอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุข
ทำความอบอุ่นให้ผมและพี่น้อง
ในระหว่าง 2-3 ขวบแรกของผม
ซึ่งร่างกายและสมองผมกำลังเติบโตในระยะที่สำคัญ
ผมต้องการให้แม่ผมกับตัวผม
ได้รับประทานอาหารที่เป็นคุณประโยชน์
ผมต้องการไปโรงเรียน
พี่สาวหรือน้องสาวผมก็ต้องการไปโรงเรียน
จะได้มีความรู้หากินได้ และจะได้รู้คุณธรรมแห่งชีวิต
ถ้าผมสติปัญญาเรียนชั้นสูง ๆ ขึ้นไป
ก็ให้มีโอกาสเรียนได้ ไม่ว่าพ่อแม่ผมจะรวย หรือจน
จะอยู่ในเมืองหรือชนบทแร้นแค้น
เมื่อออกจากโรงเรียนแล้ว
ผมต้องการงานอาชีพที่มีความหมาย
ทำให้ได้รับความพอใจว่า
ตนได้ทำงานเป็นประโยชน์แก่สังคม
บ้านเมืองที่ผมอาศัยอยู่จะต้องมีขื่อ มีแป
ไม่มีการข่มขู่ กดขี่ หรือประทุษร้ายกัน
ประเทศของผมควรจะมีความสัมพันธ์อันชอบธรรม
และเป็นประโยชน์กับโลกภายนอก
ผมจะได้มีโอกาสเรียนรู้ถึงความคิด
และวิชาของมนุษย์ทั้งโลก
และประเทศของผมจะได้มีโอกาส
รับเงินทุนจากต่างประเทศ
มาใช้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม
ผมต้องการให้ชาติของผม
ได้ขายผลิตผลแก่ต่างประเทศ
ด้วยราคาอันเป็นธรรม
ในฐานะที่ผมเป็นชาวไร่ชาวนา
ผมก็อยากมีที่ดินของผม
พอสมควรสำหรับทำมาหากิน
มีช่องทางได้กู้ยืมเงินมาขยายงาน
มีโอกาสรู้วิธีการทำกินแบบใหม่ ๆ
มีตลาดดี และขายสินค้าได้ราคายุติธรรม
ในฐานะที่ผมเป็นกรรมกร
ผมก็ควรจะมีหุ้นมีส่วนในโรงงาน
บริษัท ห้างร้านที่ผมทำอยู่
ในฐานะที่ผมเป็นมนุษย์
ผมก็ต้องการอ่านหนังสือพิมพ์
และหนังสืออื่น ๆ ที่ไม่แพงนัก
จะฟังวิทยุ ดูโทรทัศน์ ก็ได้
โดยไม่ต้องทนรบกวนจากการโฆษณามากนัก
ผมต้องการสุขภาพอนามัยอันดี
และรัฐบาลจะต้องให้บริการป้องกันโรคแก่ผมฟรี
กับบริการการแพทย์ รักษาพยาบาลอย่างถูกอย่างดี
เจ็บป่วยเมื่อใดหาหมอพยาบาลได้สะดวก
ผมจำเป็นต้องมีเวลาว่าง
สำหรับเพลิดเพลินกับครอบครัว
มีสวนสาธารณะที่เขียวชะอุ่ม
สามารถมีบทบาท และชมศิลปะ วรรณคดี
นาฏศิลป์ ดนตรี วัฒนธรรมต่าง ๆ
เที่ยวงานวัน งานลอยกระทง
งานนักขัตฤกษ์ งานกุศลอะไรก็ได้พอสมควร
ผมต้องการอากาศบริสุทธิ์สำหรับหายใจ
น้ำดื่มบริสุทธิ์สำหรับดื่ม
เรื่องอะไรที่ผมทำเองไม่ได้ หรือได้แต่ไม่ดี
ผมก็จะขอความร่วมมือกับเพื่อนฝูง
ในรูปสหกรณ์ หรือ สโมสร หรือสหภาพ
จะได้ช่วยซึ่งกันและกัน
เรื่องที่ผมจะเรียกร้องข้างต้นนี้
ผมไม่เรียกร้องเปล่า
ผมยินดีเสียภาษีอากรให้ส่วนรวมตามอัตภาพ
ผมต้องการโอกาสที่มีส่วนในสังคมรอบตัวผม
ต้องการมีส่วนในการวินิจฉัยโชคชะตาทางการเมือง
เศรษฐกิจ และสังคมของชาติ
เมียผมก็ต้องการโอกาสต่าง ๆ เช่นเดียวกับผม
และเราสองคนควรจะได้รับความรู้
และวิธีการวางแผนครอบครัว
เมื่อแก่ ผมและเมียก็ควรได้ประโยชน์ตอบแทน
จากการประกันสังคม ซึ่งผมได้จ่ายบำรุงตลอดมา
เมื่อจะตาย ก็ขออย่าให้ตายอย่างโง่ ๆ
อย่างบ้า ๆ คือตายในสงครามที่คนอื่นก่อให้เกิดขึ้น
ตายในสงครามกลางเมือง
ตายเพราะอุบัติเหตุรถยนต์ ตายเพราะน้ำ
หรืออากาศเป็นพิษ หรือตายเพราะการเมืองเป็นพิษ
เมื่อตายแล้ว ยังมีทรัพย์สมบัติเหลืออยู่
เก็บไว้ให้เมียผมพอใจในชีวิตของเธอ
ถ้าลูกยังเล็กอยู่ก็เก็บไว้ เลี้ยงให้โต
แต่ลูกที่โตแล้วไม่ให้
นอกนั้นรัฐบาลควรเก็บไปหมด
จะได้ใช้เป็นประโยชน์
ในการบำรุงชีวิตของคนอื่น ๆ บ้าง
ตายแล้ว เผาผมเถิด อย่าฝัง
คนอื่นจะได้มีที่ดินอาศัยและทำกิน
และอย่าทำพิธีรีตอง ในงานศพให้วุ่นวายไป
นี่แหละคือความหมายของชีวิต
นี่แหละคือการพัฒนาที่จะควรให้เกิดขึ้น
เพื่อประโยชน์ของทุกคน...”
ขอแถมท้ายด้วยโคลงที่ ท่านอาจารย์ ป๋วย ได้แต่งไว้
“กูชายชาญชาติเชื้อ.......ชาตรี
กูเกิดมาก็ที...................หนึ่งเฮ้ย
กูคาดก่อนสิ้นชี-............วาอาตม์
กูจักไว้ลายเว้ย..............โลกให้แลเห็น”
//////////////////////////////////////////////////
...ชโลมโลก โชกชุ่ม อย่างลุ่มลึก
หยั่งสำนึก สำเหนียก พร้องเพรียกหา
คุณภาพ ชีวิต สิทธิ์เกิดมา
ด้วยเสรี จิตวิญญาณ์ ประชาธิปไตย...
กูทวงสิทธิ์เกี่ยวข้อง........ความเป็นคน
ทวงสิ่งคู่ควรตน..............หนึ่งบ้าง
ประชาธิปไตยบน............กระดาษ ล่ะฤา
จึงแต่เพียงเอ่ยอ้าง..........ศัพท์ส้องสราญหู
....ขอแชร์ บทความของ ท่านอาจารย์ป๋วย อึ้งภากร
สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยอ่าน บทความนี้
เป็นบทความที่สะท้อน ความคิดเรื่อง
เสรีภาพ รัฐสวัสดิการ สิทธิพื้นฐาน อันพึงมี
ของมนุษย์ที่ควรได้รับจากรัฐ
ในสังคมที่เราเรียกว่าสังคมระบอบประชาธิปไตย...
Soul Searcher
Inspired to write 20/7/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...