…เออนะ มันก็เป็นเช่นนี้แล…

…เออนะ มันก็เป็นเช่นนี้แล…

เมื่อการเมือง การมุ้ง เริ่มยุ่งเหยิง
ข่าวเปิดเปิง เปิดโปง ผุดโจ๋งครึ่ม
แซ่ดซุบซิบ ซุบซู่ สู่อึมครึม
แชร์กันตรึม กันตรับ กลับกลอกฟัง

ฝ่ายกองเชียร์ กองแช่ง ยื้อแย่งขย่ม
ต่างขุดปม ขุดปอก เถือลอกหนัง
จ้องขจัด ขจ่าง อย่างจริงจัง
มุ่งชิงชัง ชิงชัย ให้ได้มา

กลิ่นอำนาจ อำนรรฆ มักหอมหวาน
ยอมหักหาญ หักโหด โกรธมิว่า
ปูดดีลลับ ดีลลุง กลางทุ่งนา
ชวนกังขา กังขืน ฝืนติติง

คนหน้าทน น่าทึ่ง อึ้งคำเอ่ย
ยอมเปิดเผย เปิดผ่าน สันดานสมิง
ว่ากลัวตาย กลัวตื้บ กระทืบจริง
จนยอมสิง ยอมเสาะ เกราะคุ้มกัน

ชมการมุ้ง การเมือง เรื่องตัวแทน
มาตรเหมือนแม้น เหมือนหมาก จากรังสรรค์
ส่งมารบ มารวน กวนโลกันตร์
สื่อความนั้น ความนัย ใครทำนุ

ชั่งกิโล กิเลส คือเหตุต้น
ตักตวงผล ตวงผอง สนองจุ
เพียงประโยชน์ ประยูร บูรณ์บรรลุ
ปลุกปะทุ ปะทะ ประชาชน

…เห็นละโมบ ละม้าย คล้ายเมามัว
เห็นตื่นกลัว ประชาธิปไตย ถูกใครปล้น
เห็นอำนาจบาตรใหญ่ ใช้เกินตน
เห็นต่างยล สบช่อง จ้องจับเตรียม

เห็นคนเห็นแก่ตัว ทั่วเอาเปรียบ
เห็นยุคเหยียบ ย่ำยี ไม่มีเหนียม
เห็นข่มขู่ คุกคาม ให้คร้ามเจียม
เห็นดีเทียม ตราตี ว่าดีแท้

เห็นสำนวน กระเบื้องน้อย ล่องลอยฟู
เห็นชื่นชู ลับหลัง ชังเหลือแหล่
เห็นกฎหมาย ขึ้นอยู่ กับผู้แปล
เห็นตอแหล เจนจบ ตลบตะแลง

เห็นโลภโมโทสัน ไร้วันหยุด
เห็นเดือดปุด ตะบี้ตะบัน ถูกกลั่นแกล้ง
เห็นโฉดเขลา ยื้อยุด ฉุดเปลี่ยนแปลง
เห็นกำแพงเบอร์ลิน ล่มภินท์พัง

เห็นมืดฟ้า สยดสยอง ด้วยหมองหมอก
เห็นข้าวตอก บันดล สิ้นมนต์ขลัง
เห็นพายุใหญ่เห ประเดประดัง
เห็นความหวัง ศรัทธา ตั้งตาคอย

เห็นรำไร งดงาม ในยามยาก
เห็นลำบากลำบน มิบ่นถอย
เห็นสำนึก อุดมการณ์ สืบสานรอย
เห็นเด็กน้อย ไขว่คว้า อนาคต

เห็นภาพงาม ความฝัน แม้วันนี้-
เห็นสดใส ไม่มี ที่ปรากฎ
เห็นประวัติศาสตร์ ซ้ำตอน มิทอนลด
เห็นทั้งหมด ผ่านสังคม อมพะนำ

…ยาวไปนิด แต่เห็นมันเข้ากับบรรยากาศ
เลยหยิบกลอนเก่า มายำผสมกับกลอนใหม่
เพื่ออรรถรสของผู้แต่ง
ส่วนผู้เสพ จะลิ้มอรรถรสเดียวกันหรือไม่นั้น
ผู้แต่งมิอาจ ก้าวล่วงได้…

โซ…เซอะเซอ
24 มิถุนายน 2566

	ผู้เขียน	หัวข้อ: …เออนะ มันก็เป็นเช่นนี้แล… (อ่าน 4110 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้