ขาวเหลืองส้มอมนวลช่างชวนชื่น
ยามดึกดื่นคืนค่ำลมรำไหว
กบเขียดชวนสรวลเสหรีดเรไร
จักจั่นสั่นไคล้ปีกใบบน
แพรวระยิบพริบพราวสกาวคุ้ง
แซมจรุงปรุงแต่งทุกแห่งหน
ลัดเลาะเลี้ยวเคี้ยวคดจรดชล
ตื่นตายล...ปนปลื้มมิลืมเลือน
นทีรัยไคลคลาเพลินพาเพลิด
วับวาวเจิดเกิดแสงแสดงเหมือน-
จังหวะใจไหวเต้นคืนเร้นเดือน
สั่นสะเทือนเลื่อนลั่นประหวั่นใคร
หมื่นพันร้อยคอยเคียงล้อเรียงเล่น
สว่างเช่นเด่นดวงพุ่มพวงใส
สุกสกาววาววาบซึมซาบใจ
ละอองผ่องส่องในหทัยตน
ธรรมชาติวาดศิลป์เติมจินต์สรร
ร่วมแบ่งปันมันตาสักคราหน
เติมแต่งแต้มแย้มทรวงแดดวงดล
สุขกมลล้นอุรา...นิทราพลอย
เคียงโค้งคุ้งมุ่งหน้าชลาสินธุ์
แหล่งหากินบินวนระคนถอย
หลีกศัตรูรู้หลบสยบคอย
สลักทรวงดวงน้อยแล่นลอยลม
ต้นลำพูชูกิ่งได้อิงร่ม
โกงกางข่มจมขืนวันคืนขม
แมลงน้อยคอยเคียงพร้อมเพรียงพรม
หวังชื่นชมสมชิดสนิทเคย...
เกิดเรื่องเศร้าเล่าขานตำนานรัก
เชิงหาญหักหนักหน่วง...โอ้ทรวงเอ๋ย
ยามชายหญิงอิงแอบ...เธอแยบเกย
คู่เขนยเชยชู...อย่าสู่กลาง
ด้วยความรักภักดีต่างมีให้
สื่อถึงใจนัยรักยามหักร้าง
รักของเรา...เขาแทรกเบียดแยกห่าง
แม้ไร้ร่างขวางขัด...เรามัดใจ
ลำพูดูต่างด้วย..................................เด่นโดด
เคียงคู่สาวสวยโสด.........................เกี่ยวก้อย
โกงกางกิ่งก้านโกรธ.......................กางก่อ
ลือเลื่องตำนานคล้อย......................ท่องคุ้ง ล่องแคว
"ทิ้งถ่วง"
ไคล้ คำแปล ก. เล่ห์กล, .
มันตา คำแปล [มัน-ตา] (มค. มนฺตา) น. ความรู้, ปัญญา.
กลอนนี้เคยลงที่้บ้านกลอนน้อยมาก่อนครับ รบกวนขอคำชี้แนะจากท่านอาจารย์ทุกท่านครับ