บทจะเปรียบเทียบตนคล้ายคนบ้า
อนิจจาจุกอกยากผกเผย
สุดหวาดหวั่นตันใจมิได้เปรย
กลัวเขาเย้ยยิ้มเยาะหัวเราะดัง
เหตุในจิตติดยากจะถากถาง
ทั้งเลือนรางริบหรี่ไร้ที่หวัง
รู้คนเดียวเปลี่ยวพิศอนิจจัง
เหตุจะตั้งตนบอกก็ชอกนัก
ดูเอาเถิดเกิดหวั่นปัญหามาก
ครวญคิดยากยุ่งเหยิงแทบเปิงหัก
ชันในทรวงดวงแดแผลทะลัก
จวนเจียนชักชอกช้ำระกำมาน
ทั้งผุดก่อเกิดเหตุเศษน้อยใหญ่
แตกผลิได้ดุจหญ้างอกยากผลาญ
เหตุวิตกฟกในให้รำคาญ
สุดจะขานคำบอกเหตุออกครวญ
คงจะเป็นเช่นฟ้าเมื่อคราหม่น
ร่ำไห้จนจูบดินหลั่งรินหวน
ทุกทิศาหล้าแลทำแปรปรวน
หลายกระบวนหลากชั้นยากบังคับ!
ในตอนนี้มีทุกข์เกินลุกแก้
สุดจะแปรเปลี่ยนยุ่งหรือปรุงปรับ
ใครจะมอบตอบตนช่วยขนรับ?
ปัญหายับยาวราวหางว่าวแล้ว
ก็เหมือนฟ้าอ้าเปลือกตาเกลือกกลิ้ง
เรียงตัวทิ้งเทน้ำร้องร่ำแผ่ว
ค่อยค่อยโหมโถมไหลไม่เป็นแนว
สุดท้ายแว่ววาดตนทุกหนซา
ตามจริงคอยอาทิตย์เลิกปลิดแสง
เปิดให้แจ้งจางปางทั่วเวหา
โรยละอองอบอุ่นคุ้นสายตา
ไล่ปลายฟ้าฝากไว้ทาบสายรุ้ง
คงเหมือนฉันตอนนี้คำชี้บอก
ปัญหานอก-ในนั้นยากขันยุ่ง
จึงรอแสงสดใสให้พยุง
หมายมือมุ่งมากมั่นมิผันวาย
จะมีใครไหมเป็นเช่นอาทิตย์
ส่องแรงฤทธิ์เรื่องใดแก้ให้หาย
ฟ้าหม่นหม่นเหมือนฉันจะได้คลาย
ฉากสุดท้ายสายรุ้งโยงโค้งงาม