Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนรัก >> O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O  (อ่าน 13884 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สดายุ
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 47



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O
« เมื่อ: 18 สิงหาคม, 2556, 10:11:35 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

O แสงช่วงแห่งดวงมณี .. O





O หม่นมัวเงียบงันอยู่ ..ในตรู่สาง
หยดน้ำวางตัวเกลื่อน..ทั่วเถื่อนหน
ฟ้าสูง .. ภาพฝูงนก .. บินวก-วน
เมื่อสูรย์พ้นสิขรคล้อย .. ขึ้นลอยดวง

O หอมโกสุมกล่อมยาม .. เมื่อวามวับ-
ดวงวันทอลออระยับขึ้นรับช่วง
ลมเช้าชื่นเฉื่อยโชย .. ก็โดยรวง-
ช่อมาลย์ปวงเตรียบหอมรายล้อม .. รอ

O ตฤปความหอมรื่นล้ำ-แห่งธรรมชาติ
บำบวงภาษปรุงปอง .. พร่ำพร้องขอ
หมายโสตเทพเพลิดเพลิน .. คำเยินยอ
ดลฤทธิ์ต่อสายใย .. รัดใจนั้น

O ผูกมัดใจหนึ่งอยู่ .. อย่ารู้คลาย
เก็บสองปลาย .. ซ่อนไว้เพื่อไหวสั่น-
แห่งถวิลร้อนแรง .. จักแบ่งปัน-
โอบออขวัญ .. อบอุ่นเข้าหนุนทรวง

O ละคาบยามพ้นผ่าน .. แม้นนานเนิ่น
พึงจำเริญแนบแน่นด้วยแหนหวง
ดื่มด่ำรสวาบหวามถ้อยความปวง-
พร้อมความห่วงใยมี .. เต็มที่ทาง

O หมายทุกทุกอณูธาตุ .. ห้วงอากาศ
ยอโอภาสวับวาวทุกก้าวย่าง
ล้อมรูปแพงทองขวัญ .. ป้องสรรพางค์-
ถนอมร่างถนอมเนื้อ .. ไว้เอื้ออิง

O ทุกโอภาสแอบออ .. ร่ำรอถนอม
พึงแนบน้อมอาลัยสู่ใจหญิง
ทุกรอบวันลับดวง .. โปรดช่วงชิง-
ดวงใจมิ่งขวัญวาง .. ที่กลางใจ

O บำบวงถ้อยเทอดแถนทั้งแดนฟ้า
เพื่อก่อรูปพรรณนา .. หมายอาศัย-
สื่อความอุ่นอ่อนหวานจากด้านใน-
ดวงจิตให้สั่นเต้น .. ด้วยเอ็นดู

O เตรียบคำถ้อยเพื่อแถนทั้งแสนสรวง
ช่วยทาบทวงอาวรณ์ .. มอบย้อนสู่-
หัวใจเยาว์อบร่ำความดำรู-
ด้วยนัยชู้แห่งชาย .. ที่หมายชม

O หม่นมัวเงียบงันอยู่แห่งตรู่สาง
ก็เริดร้างด้วยระยับแสงทับถม
ตระการรูปปรารถนาในอารมณ์
ก็ห้อมห่มทรวงไว้ด้วยนัยเดียว

O เตรียบจินตาร่ำรอลออภาค
รับอาวรณ์ไหลหลากอันกรากเชี่ยว
เตรียมใจไว้ปลิดปลิวด้วยนิ้วเรียว-
เจ้าเอื้อมเหนี่ยวเด็ดวาง .. แนบหว่างใจ

O เตรียบอารมณ์ร่ำรอพะนอถวิล
ก็โดยจินตนาความ .. อันหวามไหว
กลางวงรอบเสน่หาความอาลัย
หวังหมุนให้เฝ้าหมาย .. แต่ชายเดียว

O ขวัญเจ้าเอย ..
ครั้งรูปเผยผ่านมาให้ตาเหลียว
เยื่อใยอย่างแฝงเร้น .. ฟั่นเป็นเกลียว-
ม้วนสองปลายรัดเหนี่ยว .. พันเกี่ยวไว้

O สายใยแทนความแหนหวง
คือเงื่อนบ่วงโอบขวัญ .. เฝ้าฝันใฝ่
เพื่อเสพรับอุ่นอายจากภายใน
อุ่นอาลัยล้อมรุม .. เข้าสุมลน

O แต่บรรจบก็ลุกลามเป็นความหมาย
แววตาฉายสบกันนับพันหน
ก็แต่นั้น .. หวั่นไหว .. และใจคน
จักหลุดพ้นพรากได้ .. เยี่ยงไรฤๅ ?

O เห็นมณีน้ำระยับงามจับตา
ควรคิดคว้าเอาไว้ .. มิใช่หรือ
ใครเล่าจะเหนี่ยวดึง .. ส่งถึงมือ
มีแต่ยื้อยึดครอง .. เป็นของตัว

O เหลื่อมแสงพร้อยพร่างอยู่ไม่รู้สิ้น
เชื่อมสองจินต์เผยออก .. นัยหยอก-ยั่ว
แววมณีแฝงเร้น .. คล้ายเต้น-รัว-
อยู่โดยทั่วดวงมณี .. ณ ที่นั้น

O จนเส้นช่วงโชติวิเชียร .. เริ่มเวียนว่าย
แววช่วงฉายจากไหน .. นะไหวสั่น
ดูเถิด-ที่ก่ำแก้ม .. ราวแต้ม-ปัน-
ด้วยหวามหวั่นจบพักตร์ .. จำหลักแล้ว

O รับรู้ความครวญคะนึง...
เมื่อแววซึ้งซ่านใจ .. นั้นไหวแผ่ว
มณีงามก็คล้ายดั่งจะปลั่งแวว-
และคล้ายแน่วแน่อยู่ .. ให้รู้นัย

O รับรู้ความอาวรณ์...
ที่เหมือนอ้อนออดอยู่ .. จนรู้ได้-
ที่เหมือนอ้อนออดรู้ .. เพื่อรู้ใจ
ที่เหมือนไล้โลมทั่วทั้งตัวตน

O ลมเหนือที่เหน็บหนาว ..
เมื่อโหมฝ่าห้วงหาวทุกคราวหน
เถิด-ทุกครั้งอวลหอม .. เข้าล้อมลน
ล้อมใจคนถวิลชู้อย่ารู้คลาย

O เจ้าดวงมณีเอย ..
ยิ่ง-รำเพยลมร่ำ .. เจ้ารำร่าย-
แววออดอ้อนฝ่าสมัย .. ยั่วใจชาย
เกรงว่า-สายเกินการณ์จักต้านแล้ว !


<a href="http://aasdang01.webs.com/LoaSuayRuayChaipa.wma" /> <PARAM name="autostart" VALUE="true" /> <PARAM name="ShowControls" VALUE="true" /> <param name="ShowStatusBar" value="false" /> <PARAM name="ShowDisplay" VALUE="false" /> <EMBED TYPE="application/x-mplayer2" SRC="http://upic.me/show/46587896" target="_blank"><img src="http://upic.me/i/yp/227863-519ea01b434b7.jpg" alt="" border="0" onload="NcodeImageResizer.createOn(this);" /></a><br /><br /><br />O หม่นมัวเงียบงันอยู่ ..ในตรู่สาง<br />หยดน้ำวางตัวเกลื่อน..ทั่วเถื่อนหน<br />ฟ้าสูง .. ภาพฝูงนก .. บินวก-วน<br />เมื่อสูรย์พ้นสิขรคล้อย .. ขึ้นลอยดวง<br /><br />O หอมโกสุมกล่อมยาม .. เมื่อวามวับ-<br />ดวงวันทอลออระยับขึ้นรับช่วง<br />ลมเช้าชื่นเฉื่อยโชย .. ก็โดยรวง-<br />ช่อมาลย์ปวงเตรียบหอมรายล้อม .. รอ<br /><br />O ตฤปความหอมรื่นล้ำ-แห่งธรรมชาติ<br />บำบวงภาษปรุงปอง .. พร่ำพร้องขอ<br />หมายโสตเทพเพลิดเพลิน .. คำเยินยอ<br />ดลฤทธิ์ต่อสายใย .. รัดใจนั้น<br /><br />O ผูกมัดใจหนึ่งอยู่ .. อย่ารู้คลาย<br />เก็บสองปลาย .. ซ่อนไว้เพื่อไหวสั่น-<br />แห่งถวิลร้อนแรง .. จักแบ่งปัน-<br />โอบออขวัญ .. อบอุ่นเข้าหนุนทรวง<br /><br />O ละคาบยามพ้นผ่าน .. แม้นนานเนิ่น<br />พึงจำเริญแนบแน่นด้วยแหนหวง<br />ดื่มด่ำรสวาบหวามถ้อยความปวง-<br />พร้อมความห่วงใยมี .. เต็มที่ทาง<br /><br />O หมายทุกทุกอณูธาตุ .. ห้วงอากาศ<br />ยอโอภาสวับวาวทุกก้าวย่าง<br />ล้อมรูปแพงทองขวัญ .. ป้องสรรพางค์-<br />ถนอมร่างถนอมเนื้อ .. ไว้เอื้ออิง<br /><br />O ทุกโอภาสแอบออ .. ร่ำรอถนอม<br />พึงแนบน้อมอาลัยสู่ใจหญิง<br />ทุกรอบวันลับดวง .. โปรดช่วงชิง-<br />ดวงใจมิ่งขวัญวาง .. ที่กลางใจ<br /><br />O บำบวงถ้อยเทอดแถนทั้งแดนฟ้า<br />เพื่อก่อรูปพรรณนา .. หมายอาศัย-<br />สื่อความอุ่นอ่อนหวานจากด้านใน-<br />ดวงจิตให้สั่นเต้น .. ด้วยเอ็นดู<br /><br />O เตรียบคำถ้อยเพื่อแถนทั้งแสนสรวง<br />ช่วยทาบทวงอาวรณ์ .. มอบย้อนสู่-<br />หัวใจเยาว์อบร่ำความดำรู-<br />ด้วยนัยชู้แห่งชาย .. ที่หมายชม<br /><br />O หม่นมัวเงียบงันอยู่แห่งตรู่สาง<br />ก็เริดร้างด้วยระยับแสงทับถม<br />ตระการรูปปรารถนาในอารมณ์<br />ก็ห้อมห่มทรวงไว้ด้วยนัยเดียว<br /><br />O เตรียบจินตาร่ำรอลออภาค<br />รับอาวรณ์ไหลหลากอันกรากเชี่ยว<br />เตรียมใจไว้ปลิดปลิวด้วยนิ้วเรียว-<br />เจ้าเอื้อมเหนี่ยวเด็ดวาง .. แนบหว่างใจ<br /><br />O เตรียบอารมณ์ร่ำรอพะนอถวิล<br />ก็โดยจินตนาความ .. อันหวามไหว<br />กลางวงรอบเสน่หาความอาลัย<br />หวังหมุนให้เฝ้าหมาย .. แต่ชายเดียว<br /><br />O ขวัญเจ้าเอย ..<br />ครั้งรูปเผยผ่านมาให้ตาเหลียว<br />เยื่อใยอย่างแฝงเร้น .. ฟั่นเป็นเกลียว-<br />ม้วนสองปลายรัดเหนี่ยว .. พันเกี่ยวไว้<br /><br />O สายใยแทนความแหนหวง<br />คือเงื่อนบ่วงโอบขวัญ .. เฝ้าฝันใฝ่<br />เพื่อเสพรับอุ่นอายจากภายใน<br />อุ่นอาลัยล้อมรุม .. เข้าสุมลน<br /><br />O แต่บรรจบก็ลุกลามเป็นความหมาย<br />แววตาฉายสบกันนับพันหน<br />ก็แต่นั้น .. หวั่นไหว .. และใจคน<br />จักหลุดพ้นพรากได้ .. เยี่ยงไรฤๅ ?<br /><br />O เห็นมณีน้ำระยับงามจับตา<br />ควรคิดคว้าเอาไว้ .. มิใช่หรือ<br />ใครเล่าจะเหนี่ยวดึง .. ส่งถึงมือ<br />มีแต่ยื้อยึดครอง .. เป็นของตัว<br /><br />O เหลื่อมแสงพร้อยพร่างอยู่ไม่รู้สิ้น<br />เชื่อมสองจินต์เผยออก .. นัยหยอก-ยั่ว<br />แววมณีแฝงเร้น .. คล้ายเต้น-รัว-<br />อยู่โดยทั่วดวงมณี .. ณ ที่นั้น<br /><br />O จนเส้นช่วงโชติวิเชียร .. เริ่มเวียนว่าย<br />แววช่วงฉายจากไหน .. นะไหวสั่น<br />ดูเถิด-ที่ก่ำแก้ม .. ราวแต้ม-ปัน-<br />ด้วยหวามหวั่นจบพักตร์ .. จำหลักแล้ว<br /><br />O รับรู้ความครวญคะนึง...<br />เมื่อแววซึ้งซ่านใจ .. นั้นไหวแผ่ว<br />มณีงามก็คล้ายดั่งจะปลั่งแวว-<br />และคล้ายแน่วแน่อยู่ .. ให้รู้นัย<br /><br />O รับรู้ความอาวรณ์...<br />ที่เหมือนอ้อนออดอยู่ .. จนรู้ได้-<br />ที่เหมือนอ้อนออดรู้ .. เพื่อรู้ใจ<br />ที่เหมือนไล้โลมทั่วทั้งตัวตน<br /><br />O ลมเหนือที่เหน็บหนาว ..<br />เมื่อโหมฝ่าห้วงหาวทุกคราวหน<br />เถิด-ทุกครั้งอวลหอม .. เข้าล้อมลน<br />ล้อมใจคนถวิลชู้อย่ารู้คลาย<br /><br />O เจ้าดวงมณีเอย ..<br />ยิ่ง-รำเพยลมร่ำ .. เจ้ารำร่าย-<br />แววออดอ้อนฝ่าสมัย .. ยั่วใจชาย<br />เกรงว่า-สายเกินการณ์จักต้านแล้ว !<br /><br /><br /><embed type="audio/x-ms-wma" src="http://aasdang01.webs.com/LoaSuayRuayChaipak.WMA" width="300" height="50" play="true" loop="true" quality="high" AllowScriptAccess="never" /><noembed><a href="http://aasdang01.webs.com/LoaSuayRuayChaipa.wma" NAME="MediaPlayer" width="450" height="325" ShowControls="1" ShowStatusBar="0" ShowDisplay="0" autostart="0"> </EMBED> </OBJECT>



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ศรีเปรื่อง, พิณจันทร์, สนอง เสาทอง, ระนาดเอก, Black Sword, Mr.music, อิงดาว พราวฟ้า
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สดายุ"ครับ~

หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.067 วินาที กับ 51 คำสั่ง
กำลังโหลด...