จึงเสกสรรปั้นแต่งแถลงไข
ร่ำพิรี้พิไรละไมศิลป์
ร้อยคำกานท์หวานขมผสมจินต์
แล้วระบิลโศลกจนโยกไกว
ลู่เอนราวดอกอ้อคลอลมโบก
โล้ช่อโยกพลิ้วพลิกระริกไหว
เพียงคมกลอนซอนเซาะเสนาะนัย
ก็พิไลพิลาปร่ำถลำลง
ครั้นเสพซาบภาพสร้างสะอางลักษณ์
วานประจักษ์แจ้งจิตอย่าคิดหลง
ใดใดนั้นปรากฏให้ปลดปลง
ต่างมิคงรูปรอยเมื่อคล้อยวัน
มาจะหยิบรุ้งสีค่อยคลี่สาย
ถักทอหมายต่อสานสะพานฝัน
แล้วปูลาดพาดผ่านบนลานบรรณ
อวดสีสันงดงามอร่ามตา
ปล่อยเงาร่างย่างเหยียบขึ้นเทียบรุ้ง
ละอองน้ำยังฟุ้งให้มุ่งฝ่า
ก่อนระเหิดระเหยหายพรายมายา
เพื่อพบว่าทุกส่วนล้วนชั่วคราว
เพียงระบิลระบัดริ้วที่พลิ้วผ่าน
แทรกบรรสารอักษร ทั้งร้อน-หนาว
วาดภาพฟ้าแต้มเกลื่อนแม้เดือนดาว
ใกล้แค่เอื้อมมือสาวแสงพราวนั้น
มิต่างเลยกับเงาที่เย้าหยอก
กรายย้อนยอกอกใจแค่ในฝัน
ยามลืมตาตื่น เร้นไม่เห็นกัน
ทุกสิ่งพลันเลือนลับมอดดับลง
มณีฉาย