หลายทิวา...ราตรีที่หนีหน้า
มิได้มา...จารจด...พจน์เสนอ
ด้วยเพราะนอน...ปวดเศียร...วิงเวียนเบลอ
จับไข้เพ้อ...หนาวสั่น...สะท้านกาย (ส่วนเหตุผลที่ ๒ เพราะไม่รู้จะต่อกลอนไหนของพิณจันทร์ดี อิอิ)
อยากจะแวะเวียนหา...ยุพาเจ้า
อยากจะเหย้าแหย่นาง...มิห่างหาย
อยากกระแซะ...เนื้อเย็น....มิเว้นวาย
อยากแตะปลายผมนุ่ม...เพราะชุ่มทรวง
มิเคยชิดนงไพร...ไหนเลยแม่
เพียงหางตาก็มิแล...แม้นางสรวง
หมื่นอัปสรผิวผ่อง...ลำยองยวง
ก็มิเทียบพุ่มพวง...ดวงสุดา
เปิดสมองพร้อมตรับ...รับทุกเรื่อง
มิเคยเคือง...ขุ่นมโน...ด้วยโทสา
ถือเหตุผลแก่นอัตถ์...เป็นปรัชญา
สิ่งนานา...ตรองตระหนัก...ตามหลักการ
เพียงเรื่องเดียว...ที่แปลก...แหวกจริต
คือดวงจิต...ที่ภักดิ์...สมัครสมาน
หนึ่งแน่งน้อยตากลม...มานมนาน
แต่สะคราญโฉมไซร้...มิใยดี
ยังเทียวไล้เทียวขื่อตื้อนงนุช
แม้อกหักรักคุด...มิหยุดหนี
เหตุผลใดทั่วฟ้า...และธาตรี
ก็แค่ลมพาที...ที่ไลฟ์บอย
ศรีเปรื่อง
๕ มี.ค. ๒๕๕๗
ไลฟ์บอย [สำนวนวัยรุ่นเมื่อประมาณ 20-30 ปีที่แล้ว] = ไร้ประโยชน์, เปล่าประโยชน์