บนท้องฟ้าพร่างพราวดาวกระพริบ
เรืองระยิบริบหรี่แสงปรีใส
เสาะแสวงแสงสว่างกลางหัวใจ
ไม่มีแสงใดใดในใจตน
บนท้องฟ้าเมฆเคลื่อนแสงเดือนดับ
เดือนหายลับวับไปในเมฆหม่น
เมื่อไร้แสงสว่างกลางมณฑล
ก็เหมือนใจทีมืดมนในหนทาง
อยู่ใต้ฟ้าเหงาใจเมื่อไร้เพื่อน
เสมอเดือนลับลาฟ้าอ้างว้าง
เมื่อสายลมพัดเป่าเอาหมองจาง
หนาวจะร้างร่างจะร่วงเหมือนดวงดาว
อุกาบาตเหมือนหยาดน้ำตาฟ้า
ตกเป็นเส้นลงมาเป็นวาสาว
ดาวดวงอื่นหมื่นแสนแม้นแวววาว
ฟ้าปวดร้าวดาวจะเป็นเช่นน้ำตา
ค่ำคืนไหนไม่ต่างอย่างคืนนี้
ต่างตรงที่มีดาวบนราวฟ้า
บางคืนหม่นบางคืนแจ่มแย้มนภา
เพียงอุราอ้างว้างไม่ต่างกัน
คิดถึงเพื่อนสหายสายลมเอ๋ย
ช่วยพัดพาคำเอื้อนเอ่ยเชยคำนั้น
ไปถึงเพื่อนผู้เป็นมิตรนิจนิรันดร์
ให้เพื่อนรู้ว่าฉันนั้นเหงาใจ
ในครั้งหนึ่งเราร่วมทางสร้างชีวิต
ในวิถีแห่งมิ่งมิตรผู้ชิดใกล้
เคยเคียงบ่าฝ่าฟันร่วมกันไป
ครั้งนี้ไร้สหายข้างกายเรา
ไม่หลงลืมปลื้มใจเมื่อได้สุข
ไม่เคยลืมความทุกข์เมื่อลุกเผา
ไม่ลืมเพื่อนเสมือนเป็นเช่นดั่งเงา
ไม่ลืมเศร้าโศกศัลย์วันตรมตรอม
ดึกดื่นแล้วแพรวพราวดาวกระพริบ
ลมกระซิบมากระซาบกายเผ้าผอม
เมฆเขยื้อนเดือนขยับดาววับวอม
ฟ้าร่ายล้อมดาวเดือนเป็นเพื่อนใจ
ขอลาแล้วแก้วตาดวงดารีย์
ลาอีกทีมณีจันทร์อำพันใส
ถ้าหากมิตรพิศมองฟ้านภาลัย
ฝากเอาไว้ความคิดถึง ณ ดาวเดือนฯ
จาก.....หลี่เทียน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ