อ้างจาก
ลาออกด้วยคนครับ..
ฉันทำงานบ้านยายเจ้านายนี้
นานนับปีเชียวหนอเริ่มท้อถอย
เป็นลูกจ้างร้านยายใจเลื่อนลอย
ช่างบ่นบ่อยชวนเบื่อเหลือระอา
มีเลี่ยงนิดอู้บ้างบางจังหวะ
เจ้านายจะรู้ทุกทีที่หลบหน้า
มือตักแกงแต่ว่องไวสอดสายตา
ลูกน้องอย่าหลบเบี่ยงเสียงยายตาม
อาหารดีอร่อยไม่น้อยหนอ
ปากหวานต่อลูกค้าพาล้นหลาม
ต้มแกงเผ็ดทอดยำล้ำลือนาม
ของสดตามมาตรฐานอาหารไทย
เสียอย่างเดียวกับลูกน้องจ้องจับผิด
คุยลูกจ้างสาวสักนิดก็ไม่ได้
"ดารกะ""สิริวตี"งามวิไล
"หญิง"ทรามวัยเรียกลูกค้ามามากมี
และแล้วหนุ่ม "ชลนา"หล่อน่ารัก
มาสมัครลูกจ้างยายในร้านนี่
"ละอองดิน"เจ้าของร้านรับทันที
หนุ่มคนนี้ขยันเกินเพลินทำงาน
อยู่มาหน่อยเห็นฤทธิ์ยายได้ชอบบ่น
หนุ่มหล่อล้น"ชลนา"คนหน้าหวาน
จึงบอกลายาย"ดิน"ไปไม่พ้องพาน
สาวร้าวรานถามหาหมองกมล
"ศิลาฯ"รับเงินเดือนแล้วแน่วแน่คิด
ตั้งดวงจิตหวังเพียงไกลเสียงบ่น
จึงบอกลายาย"ดิน"ไปไม่วกวน
สาวทุกคนอยู่ช่วยยายขายข้าวแกง
หมายเหตุ ..ผมขออนุญาตนำชื่อของ... ท่านชลนา ท่านละอองดิน
ท่านดารกะ ท่านหญิง และท่านสิริวตี ...มาลงไว้ในบทกลอนนี้ด้วยครับ
ขอบคุณครับ
๓๐ มกราคม ๒๕๕๙
[/color]
ขอบคุณภาพจาก Internet ครับ
__________________________________________
ท่านเจ้านายมิบ่นได้อย่างไรคะ
ลูกค้าจะสั่งผัดผักแยกจานแบ่ง
พี่ก็ตักแกงจืดฟักมาจัดแจง
ราดตะแคงหล่นข้างมองสาวนาน
พอสาวเขินทำเก้อกังพังบ่อยบ่อย
น้ำลายย้อยลงถาด แหม!...อาจหาญ
ดีนะที่พี่ขยันทำการงาน
ยายจึงให้ล้างจานงานเบาเบา
อย่าเพิ่งชิ่งหนีกันจะไปไหน
เล่นแชร์ไว้แล้วเปียก่อนคนอื่นเขา
หนีกันแล้วมือหายตายแน่เรา
ควักกระเป๋าหนาวเหน็บร้าวเจ็บทรวง
กลับมาจ่ายค่าแชร์ก่อนนนนนน...ทั้งสองหนุ่มเลย
แหะๆๆ
สิริวตี