พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
คนบ้ากลอน
คนบ้ากลอน สิ้นแสงดาวพราวแสงแต้มแต่งฝัน เถอะตะวันก็แจ้งฟ้าแดงฉาน หนึ่งชีวิตมืสิ้นไปกับกาล ตื่นทำงานฝันเห็นให้เป็นจริง หลายคนต่างมุ่งมั่นสุขวันหน้า ตื่นเช้ามาเร่งรุกงานทุกสิ่ง มิงอมืองอเท้าเฝ้าระวิง มิประวิงทำไปคงไม่จน อาจบางทีมีเศร้าเรื่องเก่าหลัง หากมัวนั่งคิดย้อนทุกข์นอนหม่น อาจปัญหาไม่หมดต้องอดทน เกิดเป็นคนต้องสู้ให้อยู่ดี แม้นว่าเห็นถูกผิดต้องจิตมั่น อย่าได้หันบ้นทอนจิตจรหนี อาจบางสิ่งเชิญชวนมายวนยี อาจบางทีมองผลเหตุพ้นไป ความเห็นต่างบางงานมาผลาญพร่า มิเก่งกล้าตะแบงความแรงใส่ มากความคิดผิดถูกมารุกใจ กลับคิดใหม่ให้เดินประเมินทาง สิ้นแสงสูรย์ฟ้าพราวเดือนดาวส่อง เคียงหอห้องอีกคราก่อนฟ้าสาง เคียงหอใจในศิลป์ระบิลวาง กลับเป็นนางจินตนาคนบ้ากลอน พิณจันทร์ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ตะวันรอน, ระนาดเอก, พิม วรรณพร, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, ศิลาสีรุ้ง, เฒ่าธุลี, masapaer, ❀ Sasi ❀, หญิง, ธนุ เสนสิงห์, Wirin
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1596
|
Re: คนบ้ากลอน
กะจะต่อคุณตะวันใน"ตามบ้ากลับบ้าน" กลับจากธุระมาดูอีกที เพื่อนไปไกลโข ขอยกมาวางตรงนี้ก็แล้วกันนะครับ" อยู่ที่ไหนขอให้มีกลอน " เข้าหลับนอนค่อนคืนตื่นตีห้า รีบถลาทันทีดังผีสิง เปิดไฟแจ้งจิ้มคอมพ์นั่งจ่อมพิง ขึ้นจอปิ๊งวาววามความ บ้านกลอน คลิกสำรวจตรวจกานท์อ่านคร่าวคร่าว เรียงเรื่องราวลำดับนับหลังก่อน ค่อยล้างหน้าตาแฉะแคะฟันคลอน กาแฟร้อนจิบซด กดเยี่ยมชม เปิดขายของดองดิบเบ็ดเตล็ด คลุกเคล้าเสร็จแป้งมันปั้นขนม ปิ้งนึ่งห่อพอสุดจุดเทียนรม หอมชวนดมส่งท่าขาประจำ จบทุกอย่างกลางวันพลันตอนบ่าย ยืดยักย้ายไปสวนกลับจวนค่ำ หรือสลับกับงานบุญบานทำ พิธีกรรมบนบวงสรวงเทวา จตุจัดปัจจัยใช้ก่อสร้าง ประตูปรางค์กำแพง แจรงผ้า พิธีการงานศพ นบครูบา สัมมนา เกษตร เทศบาล ว่างน้อยนิดคิดบทจดกระดาษ กระวีกระวาดเสนอทั่นเธออ่าน เหนื่อยไม่สนบ่นไม่ฟังชังไม่พาล สั่งหยุดจารได้แน่เพียงแค่ยม... รพีกาญจน์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & YouTube ครับ ♥
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: คนบ้ากลอน
หากแม้นบ้าเขียนกลอนนั่งนอนนั่น เขียนทุกวันติดตามก็งามสม ได้ฝึกฝนตนเองบรรเลงคม ผู้อ่านชมสุขจังกำลังใจ คำว่าบ้าเขียนกลอนหากย้อนคิด เขียนเป็นนิจทุกวันทรวงฝันใฝ่ เขียนด้วยจิตจินตนากลอนพาไป เขียนเหมือนใช้ชีวิตประจำวัน มิใช่บ้าดำริสติแตก เขียนมิแยกแนวทางคิดสร้างสรรค์ แม้เขียนด้วยอารมณ์ขมรำพัน ทุกบทนั้นแผนผังยังพร่างพรู ด้วยต่างเขียนให้งามอร่ามส่ง แม้ยังคงเขียนเกิดมิเลิศหรู แต่ก็ยึดแนวทางเขียนอย่างครู เขียนเช้าตรู่ถึงเย็นก็เห็นวาง เมื่อมีใจรักมั่นบากบั่นแล้ว เกิดก่อแก้ววิลาสมิบาดหมาง หากทุกคนเคารพน้อมนบทาง แต่บรรพ์ปางแผนผังมิพลั้งเลือน คนบ้ากลอนตอนเขียนผิดเจียนใหม่ มิปล่อยไปให้งานผู้อ่านเฉือน เขารู้กฏแผนผัง..ดียังเตือน แต่อ่านเยือนแล้วบอกต่อหัวร่อเรา พิณจันทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ตะวันรอน
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 807
|
Re: คนบ้ากลอน
กะจะต่อคุณตะวันใน"ตามบ้ากลับบ้าน" กลับจากธุระมาดูอีกที เพื่อนไปไกลโข ขอยกมาวางตรงนี้ก็แล้วกันนะครับเข้าหลับนอนค่อนคืนตื่นตีห้า รีบถลาทันทีดังผีสิง เปิดไฟแจ้งจิ้มคอมพ์นั่งจ่อมพิง ขึ้นจอปิ๊งวาววามความ บ้านกลอน คลิกสำรวจตรวจกานท์อ่านคร่าวคร่าว เรียงเรื่องราวลำดับนับหลังก่อน ค่อยล้างหน้าตาแฉะแคะฟันคลอน กาแฟร้อนจิบซด กดเยี่ยมชม เปิดขายของดองดิบเบ็ดเตล็ด คลุกเคล้าเสร็จแป้งมันปั้นขนม ปิ้งนึ่งห่อพอสุดจุดเทียนรม หอมชวนดมส่งท่าขาประจำ จบทุกอย่างกลางวันพลันตอนบ่าย ยืดยักย้ายไปสวนกลับจวนค่ำ หรือสลับกับงานบุญบานทำ พิธีกรรมบนบวงสรวงเทวา จตุจัดปัจจัยใช้ก่อสร้าง ประตูปรางค์กำแพง แจรงผ้า พิธีการงานศพ นบครูบา สัมมนา เกษตร เทศบาล ว่างน้อยนิดคิดบทจดกระดาษ กระวีกระวาดเสนอทั่นเธออ่าน เหนื่อยไม่สนบ่นไม่ฟังชังไม่พาล สั่งหยุดจารได้แน่เพียงแค่ยม... รพีกาญจน์ ครับขอบคุณที่ต่อ...แต่ตะวันขออนุญาตแปะไว้ก่อน รวมถึงของคุณพิณจันทร์ด้วย มีจังหวะวันหลังเมื่อไรหรือหายมึนจะต่อ ตอนนนี้เพิ่งกลับจากกทม มาตอนสามทุ่มกว่าๆหลังจากลงกลอนเมื่อช่วงกลางวัน ยังเมารถไม่หายครับ แต่มุกท่อนสุดท้ายของคุณรพีกาญจน์ ตะวันค่อนข้างงง คำว่า"จาร" หมายถึง "เขียน"ประมาณนั้นหรือเปล่า แล้วใครหยุดจารอะไรยังไง? ส่วน"ยม"คำเดียวสั้นๆ ตะวัน จนด้วยเกล้าจริงๆ หรือเป็นมุกแถบอิสาน-เหนือ-ใต้...แต่จะพยายามแกะครับ หากตะวันตามมุกครูบาอาจารย์ไม่ทัน...ขออภัยไว้ก่อนครับ ตะวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
masapaer
|
Re: คนบ้ากลอน
คนบ้ากลอนนอนดึกคึกชะมัด เอาตามแต่ถนัดขจัดเหงา บ่มีตื่นฟื้นหายคลายสร่างเมา ดอกหนาเจ้าผู้หลงดงป่ากลอน
หายใจเข้าเอาออกบอกท่วงท่า สัมผัสหน้าคว้าหลังตั้งอักษร วางสัมผัสรัดถึงซึ่งขั้นตอน เสน่ห์ซ่อนกลอนกลึงให้ถึงทรวง
มิต้องกินต้องนอนเอากลอนตั้ง เรียกบ้าคลั่งหลั่งใหลไม่ต้องห่วง ฉันบ้ากลอนอ้อนใครไม่มีลวง บ้าตักตวงลอบอ่านกานท์ทุกคน
~มือตก ขออ่านก่อนละกันค่ะช่วงนี้~
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1596
|
Re: คนบ้ากลอน
ครับขอบคุณที่ต่อ...แต่ตะวันขออนุญาตแปะไว้ก่อน รวมถึงของคุณพิณจันทร์ด้วย มีจังหวะวันหลังเมื่อไรหรือหายมึนจะต่อ ตอนนนี้เพิ่งกลับจากกทม มาตอนสามทุ่มกว่าๆหลังจากลงกลอนเมื่อช่วงกลางวัน ยังเมารถไม่หายครับ แต่มุกท่อนสุดท้ายของคุณรพีกาญจน์ ตะวันค่อนข้างงง คำว่า"จาร" หมายถึง "เขียน"ประมาณนั้นหรือเปล่า แล้วใครหยุดจารอะไรยังไง? ส่วน"ยม"คำเดียวสั้นๆ ตะวัน จนด้วยเกล้าจริงๆ หรือเป็นมุกแถบอิสาน-เหนือ-ใต้...แต่จะพยายามแกะครับ หากตะวันตามมุกครูบาอาจารย์ไม่ทัน...ขออภัยไว้ก่อนครับ ตะวัน กระผมเขียนทีละบาทสองบาทตามจังหวะเวลาว่างที่มีอยู่ ไม่ลื่นไหลปะติดปะต่อ เขียนแล้วไม่รู้จะลงอย่างไร วรรคท้ายวรรคเดียวจึงสั้นสื่อความหมายไม่ชัดเจน จารในที่นี้ให้ความหมายว่า เขียน ไม่ใช่สอดรู้สอดเห็น หรือทิ่มแทงอะไรทำนองนั้น ยมในที่นี้หมายถึงยมบาล หรือความตาย รวมๆแล้วคิดจะสื่อความหมายว่า ตายเท่านั้น จะฉุด หยุดเขียนกลอน ตายในที่นี้ อาทิเช่น คอมพ์เสียไม่มีเงินผ่อนซื้อ หรือคอมพ์ถูกเมียทุบพัง หรือสายตาฝ้าฟางหมอสั่งหยุด หรือมือเป็นง่อย เป็นต้น ตายทั้งร่างคงอีกนาน หมอดูทายว่าอายุถึงหนึ่งร้อยยี่สิบปี ยังคงค้างอีกห้าสิบห้าปี 55
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & YouTube ครับ ♥
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: คนบ้ากลอน
คนบ้ากลอนนอนดึกเขียนคึกคัก หนังตาหนักยังฝืนลุกขึ้นบ่น เขียนอะไรไม่ออกตะคอกตน สัมผัสหล่นเขียนไปมิได้ดี เพื่อนเขียนวางดักหน้าคนบ้าต่อ อยากร้องขออย่าพึ่งดื้อดึงหนี เพราะสัมผัสก่อนหน้าคล้องพาที ยากจะมีคำไหนต่อได้ลง สัมผัสซ้ำมิได้อายเขานะ แม้ว่าจะถ้อยความเขียนงามบ่ง ต่อไม่ทันหันหน้าหลับตางง ปัญญาส่งเราช้าชราแล้ว เฮ้ออออ/
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1596
|
Re: คนบ้ากลอน
" ไปฟ้อนก็เป็นกลอนได้ " มียาดมฟอดฟอดสักหลอดไหม ขอยืมใช้ดมทาข้าเป็นหวัด กระแอมไอไข้หาสารพัด หมอกควันจัดระหว่างบนทางเดิน ออกบ้านเช้าขับช้าอากาศหนาว เสื้อแขนยาวสวมทับขับเหาะเหิน ลองเร่งแรงแซงอื่นขึ้นข้ามเนิน สั่นสะเทิ้นรถเก่าเฒ่าเกิดนาน เต้นตะลอนผ่อนลดทดเกียร์ต่ำ เกรงขวางลำคว่ำลงตรงห้วยหาน ฝุ่นตรลบกลบหินเกลื่อนดินดาน ไต่สะพานผ่านน้ำถ้ำผาแล ถึงสวนสีรีสอร์ทปลอดสารพิษ ดอยสถิตย์เทวะหอพระแม่ คล้ายเสียงพิณยินพาทย์ระนาดแน บรรเลงแห่เพลงเด็ดเพชรพยอม เกิดหน้ามืดวืดวาดคงคาดหัว ใจเต้นรัวตุ้มตุ้มตุมต้อมต้อม ยกยอน้ำส้มป่อยค่อยพรมพร้อม โน้มจิตน้อมค้อมเจ้าเข้าร่างกาย มียาหอมฟอดฟอดสักหลอดไหม ขอยืมใช้ทาดมด่วนก่อนสาย ขืนชักช้านาทีมีหวังตาย แค่ฟ้อนฟายครึ่งวันดั๊นเป็นลม รพีกาญจน์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & YouTube ครับ ♥
|
|
|
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1596
|
Re: คนบ้ากลอน
" ด่าก็ได้ขอให้เป็นกลอน " หากผอมแห้งแรงน้อยเป็นง่อยเปลี้ย หากอ่อนเพลียเสียธาตุขาดอาหาร หากกินดิบหยิบสุกโรคลุกลาม หากน้ำตาลมานเหน็บเจ็บตับโต หากอ้วนองค์ลงพุงท้องตุงเตี่ยว หากยืนเยี่ยวเดี๋ยวขัดเดี๋ยวผลัดโผล่ หากหัวเกรียนเตียนบางอย่างแตงโม หากอกโย้ยื่นหนักทะลักทรวง หากแฟนพรากจากนาไม่ลาบอก หากวัวออกคอกค่ายหายจากข่วง หากไร่แห้งแล้งโคกฟ้าโลกลวง หากช่อม่วงร่วงเสียเพลี้ยเกาะกิน หากขาดเงินเทินต้นฮอร์โมนสาร หากจอบผานก้านไถใบหักบิ่น หากน้ำท่อบ่อทรุดหยุดหลั่งริน หากที่ดินดานดูกถูกยึดครอง หากอะไรไม่สมอารมณ์หมาย หากวุ่นวายคายสุขทุกข์เศร้าหมอง หากรักหวานพานขมระทมจอง หากเก็บดองขมองฝืดอึดอัดใจ ลองวาดภาพอาบสีคลี่อักษร แต่งกาพย์กลอนฟ้อนฟายระบายได้ หากโงงมจมแท่นละแฟนไกล เชิญแก้วตาด่าไว(ขอ)ให้เป็นกลอน รพีกาญจน์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & YouTube ครับ ♥
|
|
|
|
Wirin
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 4930
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
Re: คนบ้ากลอน
มาเอ่ยเอื้อนอ้อนออดพรอดพร่ำเพ้อ อุราเหม่อหมกมุ่นคุณอย่าถาม อันรักชอบชิงชังดั่งไฟลาม ทั่วเขตคามยามรักมักรื่นรมย์
ลมโชยมาหน้าร้อนนอนหวั่นไหว แอร์ตัวใหญ่ไม่เห็นเป็นเหมาะสม อันตัวน้องขี้เหงาเรามีปม อยากอัพนมแต่ขาดเงินเกินวุ่นวาย
เย็นยะเยียบเงียบงันวันแสนเศร้า เห็นใครเขามีแฟนแค้นเหลือหลาย ขอยืมตังค์สักนิดคิดแล้วอาย อยากขยายร้านนมสดโปรดเถิดคุณ
วิริน ๗/๓/๕๙
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ตะวันรอน
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 807
|
Re: คนบ้ากลอน
คนบ้ากลอนนอนดึกเขียนคึกคัก หนังตาหนักยังฝืนลุกขึ้นบ่น เขียนอะไรไม่ออกตะคอกตน สัมผัสหล่นเขียนไปมิได้ดี เพื่อนเขียนวางดักหน้าคนบ้าต่อ อยากร้องขออย่าพึ่งดื้อดึงหนี เพราะสัมผัสก่อนหน้าคล้องพาที ยากจะมีคำไหนต่อได้ลง สัมผัสซ้ำมิได้อายเขานะ แม้ว่าจะถ้อยความเขียนงามบ่ง ต่อไม่ทันหันหน้าหลับตางง ปัญญาส่งเราช้าชราแล้ว เฮ้ออออ/ ๐ คนบ้ากลอนนอนฝันยังกลั่นถ้อย วิมานลอยฟูฟ่องเต็มห้องแถว ฟังเหมียวเหมียวร้องมาประสาแมว คล้ายดังแว่วเสียงน้องจากห้องกลอน สัมผัส"ช้ำ"ไม่เอากลัวเขาว่า ช้ำชินชามานานจะพาลหลอน ขอสัมผัสไม่ช้ำย้ำบังอร สัมผัสตอนสุขีพี่และเธอ สัมผัสเลือนเตือนจิตคิดถึงน้อย หวั่นเจ้าลอยเลือนลางห่างเสนอ "ชิงสัมผัส"ไม่ทันขวัญละเมอ ได้เพียงเพ้อ"จันทร์"ใสไยชรา ฯะ ตะวัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: คนบ้ากลอน
จึ่งขอยกตัวอย่างกระจ่างศิลป์ หนึ่งบทรินเปรียบเปรยสิเน่หา ตะวันรอน อ้อนพิณจันทร์ ท่านเขียนมา เขียนเถิดหนาแบบนี้พาทีกลอน บทเข้าพระเข้านาง ในทางศิลป์ งามกวินประจักษ์ในอักษร . "ขอสัมผัสไม่ช้ำย้ำบังอร สัมผัสตอนสุขีพี่และเธอ" แล้วจึงเขียนตอบพี่พาทีถ้อย "น้องเปรียบอ้อยเปลือกหนามาเสนอ อยากจะกินอ้อยหวานเปลือกมารเจอ หวานเสมอ ปอกผ้า เอ้ย!ปอกเปลือกเลย" หากแต่อ้อยเกิดนานแม้หวานหยด ถึงกำหนดตัดขายพี่ชายเอ๋ย เข้าโรงงานตาลเม็ดระเห็จเคย มิอาจเผยต้นซังสะพรั่งนวล จึงเขียนกลอนตอนฝันเสกสรรค์สร้าง เป็นตัวอย่างลิขิตเมื่อคิดหวน ขออย่าคิดกังวลสับสนชวน ให้ขบวนเงียบเหงาเข้ามาเคียง ขอบคุณค่ะ พิณจันทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|