บ้านมุงจากฟากไม้ใผ่
๑๘ นึกถึงนอนบ้านป้าบ้านนาทุ่ง
เจอป้าลุงอุ่นใจให้สุขสม
ในอ้อมกอดลุงป้าน่าภิรมย์
ชวนชี้ชมสารพันสรรค์ความดี
๑๙ ยิ้มละมุนอุ่นละไมใจรับหลาน
สู่เรือนชานบ้านไม้ไร้แซมสี
มุงด้วยจากหาง่ายมากมายมี
นับนานปีถึงเปลี่ยนหมุนเวียนไป
๒๐ บริเวณบ้านเป็นหลักปลูกผักทั่ว
นอกริมรั้วมากอยู่หมู่แมกไม้
ดอกไม้ป่าห้อมล้อมหอมกลิ่นไอ
บ้านเมืองไพรวิไลยิ่งจริงจริงนา
๒๑ ลมเย็นชื่นรื่นพระพายสาดสายสด
หลั่งรินรดกายใจใคร่ปรารถนา
เหมือนห้องแอร์ปัจจุบันสรรค์สร้างมา
มิมีค่าใช้จ่ายสบายใจ
๒๒ สมัยก่อนที่อาศัยไม่หรูหรา
ดูธรรมดามุงจากฟากไม้ใฝ่
มิแข่งขันกันสร้างแต่อย่างใด
นับเป็นไทท่วมท้นล้นคณา
๒๓ ชอบบ้านไม้ของป้าบ้านนาทุ่ง
ตื่นหัวรุ่งทุ่งเด่นเห็นสง่า
ข้าวสีทองต้องแสงแห่งสุริยา
หากใครมาพบเห็นเป็นต้องใจ
๒๔ จูงเจ้าทุยจากคอกออกกินหญ้า
ตามคันนาดึงจมูกผูกเชือกไว้
มิล้ำเกินต้นข้าวที่เร้าใจ
จูงทุยไปชมทุ่งไปไม่อาทร
๒๕ ทุยคือเพื่อนคนใช้ให้ดีหนา
ตามประสาพอดีที่พุทธศาสน์สอน
เพียงพออยู่มีกินถิ่นดงดอน
มิเดือดร้อนใดใดให้ทุกข์ตรม
ประทีป วัฒนสิทธิ์
17 กันยายน 2556