สุขหรือทุกข์หากจะหาสิ่งใดเทียบ
ก็คงเปรียบน้ำขุ่นก้นแก้วใส
พอเราคนมันขึ้นมาก็หมองใจ
ตกตะกอนลงไปน้ำใสพลัน
ไม่นานพอน้ำใสใจเป็นสุข
แต่พอทุกข์จิตหมองต้องโศกศัลย์
เพราะชีวิตใช่สุขอยู่ชั่วนิรันดร์
ผ่านคืนวันร้อนหนาวต้องเข้าใจ
หากวิเคราะห์แยะแยกจำแนกได้
ว่าสุดท้ายตัวเราเป็นไฉน
เหมือนตะกอนก้นแก้วที่ตกใน
ถ้าเมื่อใดกวนขึ้นมาก็ขุ่นเอย
กุมภาคม
ได้เเรงบันดาลใจการแต่งกลอนมาจากหนังสือเรื่อง โยมถาม พระตอบ ของพระอาจารย์ชาติค่ะ เป็นตอนที่แสดงให้เห็นระหว่างความทุกข์เปรียบเสมือนน้ำที่อยู่ใต้ก้นแก้วค่ะ