|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
ฤาหวานอื่นดื่นเล่าเท่าหวานรัก เกินจะหักห้ามจิตพิสมัย ชโลมหวานอาบซึ้งหนึ่งฤทัย ขื่นอาลัยครั้งหวานถึงกาลลา
ยามโศกเศร้าเหงาทรวงในห้วงลึก เพียงน้อมนึกในฝันรำพันหา ดุจลมรักหวนคืนรื่นรมย์พา สุขนิทราชื่นบานหวานรักเชย...
Soul Searcher Inspired to write 23/9/2017
ป.ล. ขออภัยที่กลอนไม่ต่อสัมผัสข้างต้น
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
แม้อ้อยตาลหวานจางเมื่อสร่างลิ้ม ประไพพริ้มพจน์พร่างมิสร่างสรวง ภวังค์รักหวานซึ้งเพียงหนึ่งทรวง ดุจโชติช่วงสุริยันมั่นอัมพร
เสมอต้นเสมอปลายมิหน่ายฟ้า แย้มอุษาสวาสดิ์รักเมินพักผ่อน บรรสานศัพท์เสกศิลป์จินต์กำจร เรืองสุนทรฉ่ำรสพจมาน
อันรูปรสกลิ่นเสียงเคียงสัมผัส ชวนกระหวัดไหววาบกำซาบซ่าน ยากจะหาสิ่งใดไหนทัดทาน กี่ร้าวรานขื่นขมระทมยอม
หากอักษรย้อนยอกซอนซอกพิษ คงเพราะติดหลงรูปเพียงจูบหอม จึงแปรเปลี่ยนความนัยไพล่ประนอม ทิ้งตรมตรอมครั้นกาลล่วงผ่านลา
หวังก้าวข้ามผัสสะมนแพร้ว แต่มิแคล้วตรึงติดกนิษฐา ร่ำรัญจวนชวนฝันพรรณนา ชื่นชีวาชดช้อยในรอยคำ
เหตุมิได้พานพบประสบพักตร์ จึงใช่รักวาบหวามคมงามขำ พิสุทธ์แพร้วเพียงพจน์ให้จดจำ พร้องลำนำไพเราะเสนาะยล
สุคันธรสรวยรื่นชื่นอกล้วน ฟุ้งอบอวลกำจายขยายหน ผลาญไอแดดแผดเผาเร่าร้อนรน พาลร่วงหล่นสูญสิ้นกรุ่นกลิ่นครัน
หากชดช้อยสุมามาลย์ยืนผ่านภพ คงเพราะหลบหลีกร้างในหว่างฝัน ยั้งสวยสดแย้มยลอุบลวรรณ เคล้าคนธรรพ์บรรเลงไล้เพลงพิณ
จะหาชื่นหมื่นแสนฤาแม้นมาด หากต้องคลาดหอมห่มคมคายศิลป์ กี่สดับนับครั้งกังวานยิน บรรเจิดจินต์พรมพร่างลงหว่างใจ
เพียรพจน์พร่ำรำพันจำนรรจ์นี้ สุดเหลือที่ฝืนประหม่าเปรยปราศรัย หากสัมผัสล่วงซึ้งหนึ่งทรวงใน อุ่นอกไอซึมซาบตราบเท่านาน
ดารกะเพียบพร้อย อาภา ฤาเปรียบแม้จันทรา เพริศแพร้ว พราวพร่างหว่างเวหา เกลื่อนกล่น ประดับกลางใจแล้ว กระจ่างไร้ใดเสมือน
แชเชือนเยือนยั่วเย้า รสสุคนธ์ หลายหลากมากปลอมปน แปดเปื้อน เหลือเพียงหนึ่งกมล สัมผัส โยงจิตลิขิตเยื้อน หยดย้อยในรอยศิลป์
...ฤาฟ้ากางกีดกั้น ทำลาย บ่มรักบ่ มิคลาย หน่ายร้าง บำราศล่มสลาย สรรพ์สิ่ง ฤาเปลี่ยนปดพจน์มล้าง จากห้วงหทัยถวิล...
Soul Searcher Inspired to write 26/9/2017
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
โปรยปรายร่ายพจน์ ชมดชม้อย มิน้อยมิมาก เพียงอยากร่ำ ลีลาทึบทึม เพรื่อพึมพำ ทนฝืนกลืนกล้ำ อย่ารำคาญ
นักกลอนฝึกหัด มีขัดข้อง ระทดจดจ้อง ริลองหวาน ได้แต่เมียงมอง อยู่สองนาน ปลดเปลื้องโปรดปราน หว่านโปรยปราย
โปรยปรายร่ายพจน์พร้อย มิมากน้อยร้อยเรียงคำ ลีลาโพล่งพึมพำ เพรื่อพร่ำบ่นล้นรำคาญ
นักกลอนผู้อ่อนหัด เหมือนข้องขัดปัดรังควาน เอื้อนอรรถมิจัดจ้าน เจียมจิตร้อยปรอยโปรยปราย
Soul |
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
Wirin
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 4930
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
Re: โปรยปราย
โปรยปรายรายเรียงร้อยเริงร่ำ เสียงใครบ่นพึมพำค่ำยันสาย ระวังหน่อยเถิดหนาบ้าน้ำลาย นอนฟูมฟายหมายมองต้องหมางเมิน
เป็นนักกลอนฝึกหัดจัดเข้าที่ มิเห็นมีเรื่องไรให้ขวยเขิน จะแต่งแต้มต่อถ้อยมิน้อยเกิน รุดเร่งเดินตุ่มตุ่มกลุ้มกบาล
วิริน ๒๘/๙/๖๐
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
ใคร่ลองตอบคำถามนิยามรัก พอรู้จักรู้จำ นำเสนอ จากอดีต ความฝัน ผันผ่านเจอ เคยพร่ำเพ้อรำพัน ครั้งวันเยาว์
ความรักคือสรรพสิ่งในมิ่งหล้า คือแผ่นผืนพสุธา พงป่าเขา คือสายธาร สายลมห่มพัดเบา คือริ้วเงาไอแดดแผดพาดลาน
คือสายตารัญจวนหวนกระหวัด คือสัมผัสไออุ่นละมุนสาน คือกลิ่นแก้มเคลียเคล้าเยาวมาลย์ คือแว่วหวานคำรักสลักริน
คือทุกสิ่งทุกอย่าง ยามพร่างแพร้ว สู่แน่แน่วหนทางมิร้างถิ่น คือเจ็บปวดรวดร้าวด่าวชีวิน ยามพังภินท์พลัดพรากเลือนจากลา
ยากที่จะอธิบายให้คลายข้อง คงจักต้องพานพบประสบหนา เนาแนบซึ้งทรวงชิดจิตวิญญาณ์ จึงรู้ค่าแห่งรักประจักษ์จริง
Soul Searcher Inspired to write 2/10/2017
ป.ล. ขออภัยที่กลอนไม่ได้ต่อข้างต้นครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
นั่งอมยิ้มกับลมพัดพรม หว่าง- เวิ้งฟ้ากว้างเจือหม่นบนความหวัง ริ้วเมฆเทาเยื้องเหยียดเข้าเบียดบัง แต่ฟ้ายังงดงามเคล้าครามปน
อันรักหนึ่งฤาไซร้ใช่เพียงหวาน จักยาวนาน ข้ามยากลำบากหม่น หากแม้นรัก มิหมดความอดทน เจตจำนนยินยอม ใช่ตรอมตรม
ยามหวานรักย่อมหวานสราญชื่น ครั้นยามอื่นจำพร้อมยอมกลัดขม คาดหวังรักอย่างใจไร้ระทม จักลาญล่มจมลงมิยงยืน
แต่ถ้ากลัวเกรงรักจนหนักจิต ผูกลิขิตเงื่อนปมยั้งขมขื่น คงมิแคล้วเปลี่ยวเหงาเช้ายันคืน คล้อยดึกดื่นพรั่นพจน์สลดคำ
นวลจันทร์แรมแซมช่อ ละออพลิ้ว พัดปลิดปลิวดอกโศกวิโยคฉ่ำ แล้วพัดพาดอกรักมาปักชำ หว่างทรงจำสองใจไม่รู้ลืม
โอ้ความเหงาเบาบางเหมือนพรางหมอก มาเยื้อนหยอกชวนหลงพะวงปลื้ม แต่หมอกเป็นเช่นเงาเย้าหยิบยืม ดลด่ำดื่มเช้าตรู่เพียงครู่ยาม
ฤาใคร่ขวางครรลองของชีวิต หากจุมพิตหอมหวนยวนใจถาม ฤาควรปล่อยสวยสดซึ้งงดงาม เหมือนเมินมองฟ้าครามในยามเย็น
โอ้ความเหงาฉุดรั้ง...........ดวงมาน เหยียบย่ำช้ำยาวนาน........เหนื่อยล้า ดึกดื่นตื่นร้าวราน..............มิหลับ คอยหยอกยวนเหว่ว้า........จวบแจ้งอุษาสาง
เลือนรางคำรักเรื้อ............เพียงเงา ผิวแผ่วพัดบางเบา............หากแม้ บอกรักเพราะความเหงา....ฤาจัก คงมั่นคำรักแท้.................ผ่านแผ้วมรสุม
Soul Searcher Inspired to write 7/10/2017
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
❀ Sasi ❀
|
Re: โปรยปราย
ยินข่าวเธอชอกช้ำระกำจิต เพราะหลงคิดรักสาวพราวสดใส อกชายแก่แปรปรวนป่วนทรวงใน หน้าหมองไหม้ระทมนั่งอมทุกข์ สมน้ำหน้าบ้าหนักรักสาวรุ่น ดั่งนายทุนทุ่มยิกทำหลิกหลุก มันมิง่ายอย่างคิดพิษจึงซุก หลบนั่งขลุกซังกะตายระบายพจน์ โอติ๊เลงเต่งตุมกุมขมับ คงปวดตับต่อมไตใจหู่หด เถอะจำไว้ให้ดีที่ท้อทด เจ็บทั้งหมดเหมือนฉันนั่น...วันเธอทิ้ง ดิน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: โปรยปราย
คุยโขมงโฉงเฉงละเลงข่าว คุ้งแควฉาวหนุ่มใหญ่อาลัยหญิง ที่โอดโอย”โปรยปราย” ใช่หน่ายอิง แค่ฟรุ้งฟริ้งหัวใจ ลั่นใส่กลอน
มิเคยทั้งแสร้งจีบ, โดนถีบทิ้ง ทำทุกสิ่งจริงใจมีให้ก่อน หากคิดผูกสัมพันธ์ มั่นมิคลอน ฟ้าสิรู้เว้าวอน...อ้อนส่งใคร
Soul
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
~* ลาวม่านแก้ว *~
~* ลาวม่านแก้ว *~
“...ล่องลอยเอ๋ย...จากพิมาน ข้ามสีทันดร...ตระการ สู่แคว้นแดนไทย...
ปิ่นจอมขวัญ ปักใจพี่มั่น...ตรึงหมาย กี่ชาติกี่ภพ...ไม่มีคลอนคลาย รักเจ้าไม่หน่าย....ไม่คลายจากกัน...”
แว่วคำหวานมิ่งแม้นจากแดนสรวง พลิกสู่ห้วงดวงจิตแนบชิดขวัญ แล้วซึมแทรกอารมณ์ห่มอานันท์ กับคำมั่นหมายซึ้งคะนึงมาน
ยลคำรักจากใจที่ไหวอ่อน ผูกอาวรณ์โลมไล้ใส่ผสาน บรรจงถักพ้องเสียงเผดียงกานท์ กำซาบซ่านหว่านลงตรงหว่างใจ
ดุจกำดัดพลัดหลงท่ามดงรัก มิอาจพักหักห้ามความหลงใหล ยินเสียงร่ำพร่ำเพรียกสำเหนียกใด ก็ล่องลอยตามไปในครวญคำ
วลีเอย...ดั่งศรีมณีแก้ว อาบเจื้อยแจ้วร่ายมนต์ดลชื่นฉ่ำ อวลไออุ่นฉมโฉมชโลมพรำ แฝงเงื่อนงำเร้นหวนชวนรำลึก
ยากแท้หนอล่วงซึ้งหนึ่งความคิด ต่างจริตต่างมองต่างตรองตรึก อาจเพราะเหงาพรางพิศจิตสำนึก ฤาบันทึกเพรงบุญหนุนเนื่องพา
คงต้องปล่อยใจฝันนั้นลอยล่อง วิมานท่องเที่ยวไปในเวหา อิสระความคิดจิตวิญญาณ์ จวบจนกว่าบุพกรรมชี้นำทาง
ล่องลอยเอย สู่เจ้า.........จอมวลี หอมชื่นรื่นฤดี...............มิ่งแล้ ผ่านภพชาติหามี...........วันหน่าย จงรักภักดีแม้................กี่เฝ้ารอขวัญ
สีทันดรจักข้าม..............นำพา เพื่อพบสบกานดา..........หนึ่งนี้ ปิ่นรักปักชีวา................ตรึงติด คงมั่นมิห่างลี้................จวบเคล้าเคียงขวัญ
Soul Searcher Inspired to write 9/10/2017
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
~* อาทิตย์อับแสง *~
ระลอกลมลิ่วคว้างหว่างความคิด โรมรันทั่วสารทิศไร้ปิดกั้น พิมานเมฆฟุ้งฟ้าวิลาวัณย์ สารพันสารพัดปรัดปรารมภ์
เรื้อจันทร์แรมร้างหาราตรีหม่น ดาวร่วงหล่นสู่พื้นรื้นรานข่ม เยื้อนกลอนเก่าพร้อยพร่ำรำพันพรม เพียงชื่นชมชูช่อหล่อเลี้ยงใจ...
ลอยลมระลอกริ้ว.................รำเพย หวานแว่วอาบคุ้นเคย...........ออดอ้อน กลิ่นแก้มกรุ่นหอมเชย..........ชิดชื่น สุดจะฝืนดับร้อน...................ผากแผ้งคะนึงหา
จำปาลาวทัดเกล้า................แซมผม เริงรื่นหอมชื่นฉม..................แช่มช้อย ไออุ่นอาบผสม.....................อิ่มเอิบ นวลเอย ครวญคร่ำเรียงคำร้อย..........ฝากเจ้าจอมขวัญ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
ขออัญเชิญ บทเพลงพระราชนิพนธ์ “~* อาทิตย์อับแสง *~” ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
“...เคยชม...ร่วมภิรมย์ใจ ด้วยความรักจริงยิ่งใหญ่ ผูกพันหัวใจเรามั่น
รักเอย...เคยอยู่เคียงกัน ร่มเย็นมิเว้นวายวัน ด้วยความสัมพันธ์ยืนยง
ทิวางาม...ยามอยู่เคียงคง สุริยาแสงส่ง ปวงชีวิตในโลกดำรงเริงใจ
ร้างกัน...วันห่างไปไกล มืดมนหมองมัวปานใด เยือกเย็นเข็ญใจรัญจวน
ไกลกัน...พาพรั่นใจครวญ ร่างกายทรุดโทรมทุกส่วน จิตใจร้อนรวนแรงอ่อน
รักเอย...เลยกลับอาวรณ์ ค่ำคืนฝืนใจไปนอน ยิ่งดูเหมือนฟอนไฟลน
ทิวาทราม...ยามห่างดวงกมล สุริยาหมองหม่น ปวงชีวิตในโลกอับจนเสื่อมทราม
หวังคอย...คอยเฝ้าโมงยาม จวบจนทิวาเรืองงาม สบความรักยามคืนคง...”
“...Blue day There's no sunshine. Why must you go away, Leaving me here alone?
My own. How I miss you With loving heart so true! That's why I feel so blue.
Dear one, What's the good of Days without the sun, Or peaceful nights Without the moon?
But soon No more blue day. Whenever I meet you Then all my dreams come true.
Blue day Gloomy blue day, When you are far away, Why must we be apart?
Sweetheart, Dear, I love you With all my heart, I do That's why I feel so blue.
My love, Skies are so grey, Cloudy up above, Dear won't you please Come back to me?
There'll be No more blue day. Again the sun will shine. That day I'll make you mine...”
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
“เคยชม...ร่วมภิรมย์ใจ” ด้วยรักจริงยิ่งใหญ่เกินไกลฝัน เหนือกำหนดนิยามความผูกพัน เกินกว่าค่าคำมั่น บรรยาย
“รักเอย...เคยอยู่เคียงกัน” มิเว้นวันคิดถึงคะนึงหมาย ผ่านภพชาติคลาดแคล้วมิคลอนคลาย ฤาแหนงหน่ายเนาอยู่คู่เคลียเคล้า
“ทิวางาม...ยามอยู่เคียงคง” จวบอาทิตย์อัสดงยังหลงเฝ้า แม้นว่าหลงเพ้อนั้นเพียงงามเงา งามรุ่มเร้ารานทรวงมิล่วงลา
“ร้างกัน...วันห่างไปไกล” หม่นฤทัยเทียวร่ำคร่ำครวญหา ป่านฉะนี้จอมขวัญกัลยา มิรู้ว่าเขษมสุขฤาทุกข์ทม
“ไกลกัน...พาพรั่นใจครวญ” ทุกอณูทุกส่วนล้วนขื่นขม ผินหมองฟ้าทึมเทายิ่งเศร้าตรม โชยแผ่วลมพัดพาดเหมือนขาดใจ
“รักเอย...เลยกลับอาวรณ์” ดั่งกองฟอนร้อนผลาญสุดทานไหว คอยชะเง้อแง้มแอบแนบอกใน มิบอกใครเพียงรู้แต่ผู้เดียว
“ทิวาทราม...ยามห่างดวงกมล” จำหมองหม่นสุริยาพร่าเลือนเหลียว เวิ้งเหว่ว้าอารมณ์ระทมเดียว แสนเปล่าเปลี่ยวโหยหาเอื้ออาทร
“หวังคอย...คอยเฝ้าโมงยาม” ยังครั่นคร้ามหัวใจไม่ถ่ายถอน รอคืนวันผันเปลี่ยนหมุนเวียนวอน นิรันดรดื่มด่ำ...ร่ำรักเปรย...
“อาทิตย์อับแสง”สิแล้ว...ใจเอย หอมฝากลมฝันเปรย.......ไป่รู้ คืนค่ำรำพันเผย..............ยามห่าง ยังชื่นชวนชิดชู้...............อุ่นเอื้อฤาไฉน
ไกลพรางกางกีดกั้น........พาที ไหววาสน์เหมือนอาจมี.....คราสคลุ้ม หนอทวยเทพปรานี..........พันผูก พรหมลิขิตโอบอุ้ม...........คลาดแคล้ว...คืนสรวง
Soul Searcher Inspired to write 20/10/2017
|
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 4730
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
Re: ~* อาทิตย์อับแสง *~
ระลอกลมลิ่วคว้างหว่างความคิด โรมรันทั่วสารทิศไร้ปิดกั้น พิมานเมฆฟุ้งฟ้าวิลาวัณย์ สารพันสารพัดปรัดปรารมภ์
เรื้อจันทร์แรมร้างหาราตรีหม่น ดาวร่วงหล่นสู่พื้นรื้นรานข่ม เยื้อนกลอนเก่าพร้อยพร่ำรำพันพรม เพียงชื่นชมชูช่อหล่อเลี้ยงใจ...
ลอยลมระลอกริ้ว.................รำเพย หวานแว่วอาบคุ้นเคย...........ออดอ้อน กลิ่นแก้มกรุ่นหอมเชย..........ชิดชื่น สุดจะฝืนดับร้อน...................ผากแผ้งคะนึงหา
จำปาลาวทัดเกล้า................แซมผม เริงรื่นหอมชื่นฉม..................แช่มช้อย ไออุ่นอาบผสม.....................อิ่มเอิบ นวลเอย ครวญคร่ำเรียงคำร้อย..........ฝากเจ้าจอมขวัญ
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Soul Searcher Inspired to write 20/10/2017
|
จำนรรจ์ขวัญฝากไว้ บทกวี ละลิ่วล่องวิถี หลับคล้าย เรียงอุระวจี มาเพื่อ ตอบนา ใจมิเคยโยกย้าย เกี่ยวคล้อยตามใคร สุขใดจะเท่านี้ ที่รัก วิสุทธิ์สามิภักดิ์ ถักร้อย ถนอมความประจักษ์ วิเศษ นี้นา โคลงนี้คือคำถ้อย เผื่อร้างห่างหาย สิริวตี ปล. คนเล่นเปียโน กะสีไวโอลิน รุ่นพี่วตีเอง ลุงชอบเหรอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|