หลายอารมณ์
ความเศร้า..
เป็นรำพึงจากใจวางให้อ่าน
แสนเนิ่นนานกาลล่วงหลายช่วงฝัน
เหมือนไล่คว้าอากาศแล้ววาดมัน
เป็นรูปนั้นรูปนี้ที่ใจนึก
แล้วหลงเชื่อรูปปั้นอันว่างเปล่า
ไร้แม้เงาลอยอยู่ให้รู้สึก
ยังวนเวียนล่วงล้ำถลำลึก
โดยไม่ตรึกตรองทั่วที่ตัวคิด
ท่ามกลางความหม่นเศร้าที่เฝ้าข่ม
เมื่ออารมณ์ขมไหม้นั้นไล่จิต
บี้ด้วยเล่ห์มายามาเนืองนิตย์
เผลอพลั้งผิดติดบ่วงที่ลวงนั้น
ความรัก..
คือความหวานอาบใจที่ใฝ่หา
ต่างไขว่คว้ามาครองมาคล้องขวัญ
ธรรมชาติสร้างให้ไว้ผูกพัน
เพื่อเสริมแรงฝ่าฟันผ่านวันคืน
ย่อมอบอุ่นละมุนอยู่ในรู้สึก
และล่วงลึกอุราเกินกว่าฝืน
ด้วยสายใยล้อมรัดช่วยหยัดยืน
สุขใดอื่นฤาเทียบเปรียบยามรัก
ต่างหวังให้ใจคงดำรงมั่น
ตราบคืนวันผันผ่านไม่รานหัก
จวบเมื่อชีพวอดวายจึงคลายภักดิ์
แรกประจักษ์ทรวงสองร่วมครองกัน
ความหวัง..
เพื่อเป้าหมายปลายทางที่ข้างหน้า
แม้อ่อนล้าเพียงใดไม่เคยหวั่น
จะป่ายปีนบันได สูง-ไกลนั้น
เพื่อถึงวันสมหวังดังจินตนา
สิบ ร้อย ล้ม ก็จะลุกขึ้นทุกหน
แม้ไร้คนเคียงใกล้ให้ห่วงหา
เพียงหัวใจไม่แพ้แม้บางครา
ต้องปวดปร่าขมขื่นจะฝืนทน
ตราบที่ลมหายใจยังไม่หยุด
ไม่สิ้นสุดความหวังแม้ห่างหน
จะไขว่คว้ามาวางข้างกายตน
กว่าชีพป่นจึงหยุดเพราะสุดคว้า
ความฝัน..
มีมุมหนึ่งของใจเอาไว้ฝัน
ยามไหวหวั่นปั่นป่วนคร่ำครวญหา
จะแอบพบนิมิตในนิทรา
กล่อมอุราคลายทุกข์ที่รุกใจ
รู้ว่าภาพกลางจินต์ถวิลนั้น
ไม่มีวันเคลื่อนคล้อยจนลอยใกล้
รู้ว่าวันยิ่งห่างยิ่งร้างไกล
แต่ขอเก็บเอาไว้ข้างในทรวง
โอ้..สายรุ้งหลากสีที่ปลายฟ้า
จะหยิบมาผูกเล่นให้เป็นบ่วง
เข้าคล้องรัดฤทัยใครอีกดวง
ล่ามพัน-พ่วง กับขวัญมั่นไม่คลาย
วลีลักษณา
ที่มา
https://www.klonthaiclub.com/index.php?topic=10743.0