"กลบทมาลินีโสภิต"
๓๑ มกราคม ๒๕๖๑ / ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ วันพระครับ
๐ หทยะ สะดุดหยุดเดินฝ่า
ลุสติ ปัญญาพาก้าวคล่อง
เชาว์ชาญเพียร เธียรสอนคิดย้อนมอง
ประสงค์ผ่าน ภัยผองต้องแกร่งตัว
๐ ละวางเป็น เห็นสุขห่างทุกข์หาย
สุริยะ ยังฉายประกายทั่ว
รุจิระ เรืองฟ้าอย่าหวาดกลัว
งามเห็นแสง ใสมัวเปรียบชั่วดี
๐ คละลมเย็น หยุดร้อนผ่อนคลายล้า
สบายองค์ อุรากล้าทุกที่
ปรมะ ละวางศานต์ทางมี
สรณะ นำชี้สุขีใจ
๐ ธรรมบ่งแว่ว แก้วกรรณพลันดังอยู่
กถาสงฆ์ เสริมรู้ชูสิ่งไหน
วิปัญโญ ย้ำจิตคิดดีนัย
สุจิระ ราษฎร์ไทยใฝ่วิชา
๐ มนุชะ สดับรับโอวาท
ธัมโมพร ผ่านปราชญ์ทุกศาสน์หล้า
พระสังโฆ ครูณัฐชนศรัทธา
เจริญพร โมทนาสาธุเทอญ ฯะ
"มาลินีฉันท์๑๕"
๐ หทยะลุสติเชาว์ชาญ เพียรประสงค์ผ่าน
ละวางเป็น
๐ สริยะรุจิระงามเห็น...แสงคละลมเย็น
สบายองค์
๐ ปรมะสรณะธรรมบ่ง...แว่วกถาสงฆ์
วิปัญโญ
๐ สุจิระมนุชะธัมโม...พรพระสังโฆ
เจริญพร ฯะ
กิติราช ทับทิม
ร้อยกรอง
Re-run date : 31/01/2018
ขอบคุณข้อมูลศึกษาเพิ่มเติม
จาก เวปไซด์ [บ้านกลอนน้อย]
อนุโมทนา ขอบพระคุณครับ
กลบทมาลินีโสภิต -
นั้นปรากฏอยู่ในการประพันธ์ลำดับที่ ๘๔ ของตำรา
กลบทศิริวิบุลกิตติ์ :ซึ่งพิจารณาโดยรวมเห็นว่า มีแตกต่าง
จากกลอนทั่วไป คือ ...
ให้ ๓ คำแรกของวรรคสดับ และ วรรครับ (วรรค ๑ และ วรรค ๒) ใช้ น คณะ (ลหุ-ลหุ-ลหุ) นำหน้า
ให้ ๓ คำแรกของวรรครอง (วรรค ๓) ใช้ ม คณะ (ครุ-ครุ-ครุ) นำหน้า
ให้ ๓ คำแรกของวรรคส่ง (วรรค ๔) ใช้ ย คณะ (ลหุ-ครุ-ครุ) นำหน้า
ให้ ๓ คำแรกของต่อไป (วรรค ๕) ใช้ ย คณะ (ลหุ-ครุ-ครุ) นำหน้า
จากนั้นวรรคต่อไป ก็ให้วนกลับมาใช้ข้อกำหนดที่ ๑ ไล่ต่อไปเรื่อย ๆ จนจนสำนวนกลอนนั้น
. และเมื่อนำข้อกำหนดทั้ง ๕ วรรค
.คือนำสามคำแรกของทั้ง ห้า วรรคมารวมกันแล้วก็จะกลายเป็นบัญญัติของ "มาลินีฉันท์ ๑๕" นั่นเอง
อนุโมทนาครับ
ขอบคุณภาพประกอบ จากอินเทอร์เน็ต ครับ