Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
>>
สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า:
1
[
2
]
3
4
...
7
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน (อ่าน 56481 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#15 เมื่อ:
25 สิงหาคม, 2561, 10:30:18 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๘-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ แล้วชะลอรอราหน้าห้วงน้ำ
ที่กระทำการตั้งค่ายได้เหมาะสม
เสร็จจึงขอหมอช้างเฒ่าเจ้าอาคม
เดินจงกรมในวนาหาลู่ทาง
๏ เมื่อพบไม้มงคลต้นสูงใหญ่
มีดอกใบสวยงามต้องตามอย่าง
ทำพิธีห่มพฤกษาผ้าแพรบาง
ธูปเทียนวางประกาศอาราธนา
๏ บวงสรวงท้าวเจ้าพนาเทพารักษ์
ตรงตามหลักวิธานการเปิดป่า
แม้นล่วงล้ำก้ำเกินก็ขอขมา
เทิดวันทาวอนช่วยอวยพรชัย
๏ สำเร็จการร่วมพรานไพรไปสืบหา
โขลงคชาเลิศดีอยู่ที่ไหน
ดูรอยทางวางแผนงานประการใด
จึงเมื่อตกลงใจไม่รอรี
๏ ระดมพลโยธามาทั้งนั้น
ช่วยตัดฟันต้นไม้กลางไพรศรี
สร้างเพนียดเร็วพลันมั่นคงดี
แนวผามีเพิ่มสามด้านงานง่ายดาย
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#16 เมื่อ:
25 สิงหาคม, 2561, 10:31:11 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๙-
ธนุ เสนสิงห์
๏ จึงแบ่งช้างทั้งผองเป็นสองหมู่
หนึ่งอ้อมสู่ขอบไศลไกลจากค่าย
โอบล้อมก่อนต้อนช้างป่ามาทางท้าย
สองคัดย้ายช้างทั่วไปไม่ต้องการ
๏ เหล่าช้างงามตามคชลักษณ์นั้น
ถูกผลักดันเข้าเพนียดเดินอีกด้าน
จนได้ดังตั้งจิตปิดทวาร
คชสารคลุ้มคลั่งแทบพังทลาย
๏ รอจนกว่าท่าทางช้างสงบ
ร่วมปรารภคัดสรรกันทั้งหลาย
มีครูหมอ นายพรานร่วมบรรยาย
“สมุทรโฆษ” จดจำหมายที่ใจจง
๏ จุดสำคัญวรรณฉวีสีขาวเผือก
ค่อยคัดเลือกให้ได้งามตามประสงค์
ร่างสูงใหญ่ไอยราสง่าทรง
ครบถ้วนองค์กำหนดคชลักษณ์
๏ ร่วมตกลงจำนงใจได้เจ็ดช้าง
สารพางค์ทั้งผองต้องตามหลัก
จึงพระองค์ทรงช้างศึกฮึกหาญนัก
นำพลพรรคผู้เชี่ยวชาญการคชา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#17 เมื่อ:
27 สิงหาคม, 2561, 09:42:56 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
๒๐-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ เข้าเพนียดขนาบได้ถนัด
เหวี่ยงพระหัตถ์ซัดบาศเข้ารัดขา
เพิ่มรัดรึงดึงชักผลักนำพา
ออกสู่หน้าเพนียดมิเนิ่นนาน
๏ จึงพลไกรใจหาญชาญกุญชร
เข้าผูกพันตามขั้นตอนจนพ้นผ่าน
เจ็ดช้างได้ตามหมายตาคชาธาร
แม้ทำพันธนาการแน่นแน่นอน
๏ แต่ยังทำการนำพาหาได้ไม่
ต้องกำราบปราบให้ช้างโอนอ่อน
เลิกดิ้นรนจนกระเส่าหรือเร่าร้อน
จึงพาจรแรมไพรไปบุรินทร์
๏ ราชบุตรสุดยินดีกิจที่ตั้ง
สำเร็จดังใจหมายได้ทั้งสิ้น
เหลือแต่เพียงนำพาคืนธานินทร์
เพื่อเป็นปิ่นคชาแห่งธานี
๏ ช่วงพักรอขอเที่ยวชมพนมนิเวศ
สุดพิเศษสารพัดสัตว์ ปักษี
มากหลายหมู่ปู ปลาในวารี
ชื่นชีวีตราตรึงตะลึงใจ
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#18 เมื่อ:
27 สิงหาคม, 2561, 09:44:28 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๑-
ธนุ เสนสิงห์
๏ “มฤคา มฤคีล้วนมีคู่
เริงระรื่นชื่นชู้อยู่เคียงใกล้
พยัคฆา พยัคฆีที่ครองไพร
มีเยื่อใยพ่อแม่ลูกผูกสัมพันธ์
๏ หมู่ปักษา ปักษีที่เหินหาว
ร่อนลงราวเคียงคู่กู่ก้องขัน
แมลงทับจับคู่อยู่ทับกัน
พนาวันทุกชีวีมีชีวา”
๏ เหล่าไกรสร ไกรศรีมีสุขแสน
ครองดินแดนกว้างไกลในดงป่า
ประหนึ่งราชินีมีราชา
เจ้าอาณาเดชดำรงแห่งพงพี
๏ พวกอาชา พาชีที่พนัส
เที่ยวเลาะลัดว่องไวไปทุกที่
เริงระรื่นชื่นชมสมฤดี
อกข้านี้ไร้คู่เรียงเคียงอุรา”
๏“สมุทรโฆษ”โอดครวญหวนละห้อย
จิตล่องลอยหวามทรวงดวงยิหวา
ใกล้ถึงยามสุริยนสนธยา
กลับพลับพลาพาให้ใจอ้างว้าง
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#19 เมื่อ:
27 สิงหาคม, 2561, 09:45:30 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๒-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ไหว้เจ้าเขา เจ้าป่าเทพารักษ์
ผู้พิทักษ์ธารรุกข์สิ้นทุกอย่าง
ช่วยคุ้มครองป้องกันสรรพางค์
ขอพักค้างสนิทในนิทรา
๏ สิ้นบำบวงสู่ห้วงสุบินนิมิต
นำเนื่องจิตกระสันใฝ่ฝันหา
อกหวามไหวไปด้วยแรงแห่งกามา
ดุจเมฆาคะนองรอโรยพิรุณ
๏ ครานั้นเทพารักษ์อันศักดิ์สิทธิ์
ผู้ทรงฤทธิ์มากหลายหมายเกื้อหนุน
แจ้งวิจักษณ์สักขีผู้มีบุญ
กุศลกรรมทำเป็นทุนมานานกาล
๏ เห็นใจนักจากพาราเอกาองค์
นอนพฤกษ์พงแทนพระราชฐาน
หนาวสายลมพรมน้ำค้างกลางพนานต์
จึงพิจารณ์สมานคู่ไม่ดูดาย
๏ รำลึกกาลผ่านมาสังสารวัฏ
ปฏิพัทธ์องค์ชายาพระฤๅสาย
บัดนี้นางห่างเหเอกากาย
นิมิตหมายถึงโฉมฉิน “พินทุมดี”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#20 เมื่อ:
29 สิงหาคม, 2561, 12:21:27 PM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๓-
ธนุ เสนสิงห์
๏ ธิดา “สีหนรคุปต์” ภูธร
แห่ง “รมยนคร” รุ่งเรืองศรี
กับ “กนกวดี”นาถ..ราชินี
พระบุตรีเลิศพิไลหาใครปาน
๏ ตกลงใจได้มิช้าเทพารักษ์
จะนำชักกษัตริย์สองปองสมาน
สะกดจิตนิทรานฤบาล
แลข้าราชบริพารไพร่พล
๏ แล้วอุ้มพระบุตราพาเหาะเหิน
โดยดำเนินแน่วไปในเวหน
ลงสู่ห้องบรรทมแม่นิรมล
วางองค์บนบรรจถรณ์นอนเคียงพลัน
๏ จึงเทพารักษ์ได้คลายมนตรา
ทั้งสองฟื้นตื่นนิทราอุราสั่น
พระกรสอดกอดก่ายแนบกายกัน
ต่างงงงันในพระหฤทัย
๏ “สมุทรโฆษ” ย้อนคิดพินิจว่า
นอนหลับที่พลับพลากลางป่าใหญ่
บัดนี้อยู่คู่นางกลางวังใน
หรือเป็นไปด้วยเทวัญดลบันดาล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#21 เมื่อ:
29 สิงหาคม, 2561, 12:22:36 PM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๔-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ส่วน “พินทุมวดี” ศรีสมร
พระกายอ่อนสุดผลักจะหักหาญ
พิศพักตร์พระกษัตราอุราสะท้าน
คือชายชาญที่ฝันถึงคะนึงนัก
๏ เทพบุตร บุรุษชาติมิอาจรู้
แม้เป็นผู้เพิ่งเห็นเป็นประจักษ์
ดวงใจพลันมั่นแม่นว่าแสนรัก
มิทันทักเอ่ยถามความอันใด
๏ “สมุทรโฆษ” โลมไล้สายสวาท
ดุจฟ้าฟาดวิชชุดาพายุใหญ่
พรรณพฤกษาสุดท้าสู้ลู่ลมไป
โอนเอนไหวปานล้มทับธรณี
๏ ธารฟูฟองยามเมื่อท้องทะเลคลั่ง
คลื่นซัดฝั่งหาดผายให้เสียดสี
เหมือนนาคาเกี้ยวกระหวัดรัดนาคี
ท้องนทีมินิ่งอยู่เนานาน
๏ พิรุณโรยโปรยปรายหยาดสายสินธุ์
ธรณินทร์อิ่มอาบแสนซาบซ่าน
พระชวนนางค้างเมืองแมนแดนพิมาน
สมสราญแล้วสนิทสู่นิทรา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#22 เมื่อ:
29 สิงหาคม, 2561, 12:23:39 PM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๕-
ธนุ เสนสิงห์
๏ ก่อนรุ่งแจ้งแสงทองส่องเวหน
องค์เทวัญผู้บันดลวนมาหา
เห็นพระสอดกอดแก้วกัลยา
สองพักตราเอมอิ่มดั่งพิมพ์จันทร์
๏ รู้พระนางต่างเกษมอิ่มเอมรัก
ชื่นมื่นนักตอบรับประทับขวัญ
แม้พระทัยไม่อยากให้พรากกัน
แต่การณ์นั้นมีภาวะอันตราย
๏ “พินทุมดี” ธิดาเดียวแห่งท่านไท้
แสนรักหวงดวงฤทัยใครอย่าหมาย
การอุ้มสมสวาทอาจท้าทาย
เรื่องความรักจักเป็นร้ายได้แท้เทียว
๏ คิดดังนั้นเทวัญคลายก่ายตระกอง
แยกทั้งสองครองโสดอยู่โดดเดี่ยว
ทอดทิ้ง “พินทุมดี” นอนแดเดียว
พระกรเกี่ยวองค์บุตราคืนป่าดง
๏ ครั้นรุ่งแจ้งแสงทองส่องฟ้าใส
พระบุตราอาลัยฤทัยหลง
เหมือนยังไม่อยากตื่นฟื้นพระองค์
หัตถ์ยังคงกอดพระเขนยเคียง
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#23 เมื่อ:
31 สิงหาคม, 2561, 09:26:08 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๖-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ เหล่าช้างสารควาญนำไปในดงหญ้า
หมู่นกกากินผลกันสนั่นเสียง
สติคืนตื่นสดับรับสำเนียง
เดียวดายเพียงพระองค์กลางพงไพร
๏ ลำดับการณ์ผ่านมาครายามค่ำ
อกชื่นฉ่ำเคียงนุชวิสุทธิ์ใส
เป็นจำนงองค์เทวัญหรือฝันไป
กำหนดใจไตร่ตรองมองรอบกาย
๏ เมื่อคืนนี้ที่นอนแม้นแดนสวรรค์
ได้เชยขวัญเคล้าโลมแม่โฉมฉาย
ฉมกลิ่นปรางนางติดอยู่มิรู้คลาย
พอยามสายตื่นกลับอยู่พลับพลา
๏ ฤๅนารีที่สี่พราหมณ์ว่าความไว้
เป็นไปได้อัศจรรย์นั่นเจียวหนา
เทพคงซึ้งพี่คะนึงถึงกานดา
จึงนำพาให้สุขสมภิรมย์รัก
๏ หรือภูตผีมีอิทธิฤทธิ์หลอน
กลางดงดอนงำจิตคิดประจักษ์
เป็นนางไม้ไพรอำพรางหรือนางยักษ์
มานำชักไปด้วยกลมนต์มายา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#24 เมื่อ:
31 สิงหาคม, 2561, 09:27:34 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๗-
ธนุ เสนสิงห์
๏หรือนวลปรางเป็นนางไพรในดงนี้
ดวงฤดีพี่หมายมั่นด้นดั้นหา
ทั่วถิ่นถ้ำเถื่อนแถวแนวพนา
หมายพบหน้าพาคืนมาชื่นชู้
๏ จึงออกตามนำโยธาท่องป่ากว้าง
ค้นหานางกลางไพรใจหดหู่
ทุกหุบห้วงคูหาประดาดู
โอษฐ์ป่าวร้องก้องกู่หาชู้ชม
๏ หลายทิวาราตรีมิพานพบ
แม้น้อมนบเทวัญผู้นำสู่สม
แต่เงียบงำมินำพาดั่งอารมณ์
ทุกข์ระทมเรียกโยธาคืนนาคร
๏ กลับถึงวังยังไห้หวนเฝ้าครวญคร่ำ
อกร้องร่ำพร่ำหาสุดาสมร
ทุกค่ำเช้าเฝ้าถวิลทั้งกินนอน
จึงภูธรระดมหาบรรดาพราหมณ์
๏ ผู้เชี่ยวชาญการเดินทางต่างแว่นแคว้น
ทุกดินแดนที่ไปให้สอบถาม
พระบุตรี ธิดาพะงางาม
อันทรวดทรงนงรามตามพรรณนา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#25 เมื่อ:
31 สิงหาคม, 2561, 09:28:37 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๘-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ “รูปโฉมสวยสำอางไปทั้งสิ้น
ไร้ราคินแม้นิดหนึ่งอย่าพึงหา
พรรณเรืองรองผ่องพิศุทธิ์ดุจนางฟ้า
พิศโสภาทั่วสรรพางค์กาย
๏ หากพบหน้าเลิศนารีดั่งนี้แล้
สืบความนัยให้แน่แม่โฉมฉาย
กำลังทุกข์หรือยังสุขอยู่สบาย
แม้นฟูมฟายโศกาเศร้าอาลัย
๏จิตประหวัดด้วยพลัดพรากจากคนรัก
จำจุดหมายให้ประจักษ์นางอยู่ไหน
แล้วขยับกลับหลังยังเวียงชัย
แจ้งข่าวให้ฉันรู้อย่าอยู่ช้า
๏ อาจเป็นได้ก็ไม่แน่แม่โฉมศรี
นาม “พินทุมดี” สี่พราหมณ์ว่า
เป็นคู่สร้างแต่ปางบรรพ์ร่วมกันมา
ปรารถนาให้จริงจังดังว่านั้น
๏ แม้ชีวิตมนุษย์สุดจักหมาย
สิ่งทั้งหลายสมฤดีที่ใฝ่ฝัน
แต่ก็ยังหวังคืนชื่นชีวัน
สายสัมพันธ์มิเลือนไปในเวลา”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รพีกาญจน์
,
เชนนิช
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#26 เมื่อ:
01 กันยายน, 2561, 09:50:39 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๒๙-
ธนุ เสนสิงห์
๏ ย้อนถึง “พินทุมดี” นารีนาฏ
คืนสวาทสู่เมืองแมนแสนหรรษา
ได้ชื่นชู้คู่ชมสมอุรา
ตื่นนิทราไม่พบพระสวามี
๏ เฝ้าย้ำคิดสะกิดใจฤๅในฝัน
ความสัมพันธ์เพ้อรักไร้สักขี
มองพระแท่นแสนยับยู่ดูกายี
การเคลื่อนคลี่ภูษาครองฉลององค์
๏ จึงมั่นใจได้เคียงคู่ชื่นชูจิต
มิได้คิดมากไปจนใหลหลง
“เป็นเทวินทร์ อินทราช ขัตติยวงศ์
ผู้ดำรงมนตรามาลอบชม
๏ เมื่อเชยชื่นรื่นใจแล้วไกลจาก
เขาฝังฝากรอยราคินสิ้นสุขสม
ช่างใจดำทำได้แกล้งให้ตรม
จึงลอยลมจากลาไม่อาวรณ์
๏ แม้นน้องเป็นเช่นมาลีที่วังหลวง
บิดาหวงดูแลแต่วัยอ่อน
ยามอ้างว้างกลางราตรีมีภมร
มาออดอ้อนลิ้มหวานซ่านฤดี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#27 เมื่อ:
01 กันยายน, 2561, 09:51:48 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๓๐-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ พี่เสนอน้องเผลอใจใฝ่สนอง
ได้เคียงครองสมอุราแล้วลาหนี
เขาจะคิดนิดไหมว่าใช่มาลี
เป็นสตรีมีทั้งตัวและหัวใจ”
๏ นางซมเซาเศร้าสร้อยละห้อยหา
ภัสดาลาร้างหนทางไหน
เฝ้าถวิลมิกินนอนร้อนฤทัย
จนนางในพี่เลี้ยงรู้มาดูแล
๏ ครานั้น “รัตนวารี” พี่เลี้ยง
แรกฟังเพียงคำรำพันแห่งขวัญแม่
เชื่อว่าเพ้อละเมอฝันนั้นจริงแท้
มิมีแน่ชายใดรอดสายตา
๏ หลายระยะทวาราปราสาททอง
อีกทั้งกองทหารกันแน่นหนา
แม้แมลงเหลือบริ้นบินบนฟ้า
มิอาจมาลอบย้ำปรางพระนางเลย
๏ เมื่อฟังคำรำพันกระชั้นเสียง
ค่อยเอนเอียงตามพจีที่พร่ำเผย
พิศพักตรากายาผู้มีชู้เชย
จึงเอื้อนเอ่ยโอดครวญหวนรำพัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#28 เมื่อ:
01 กันยายน, 2561, 09:53:11 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๓๑-
ธนุ เสนสิงห์
๏ “โอ้น้องพี่นี่ใครล้ำย้ำสมร
พระโอษฐ์อ่อน พระศอ ลออถัน
แลสองปรางด่างพร้อยด้วยรอยทันต์
เหมือนจะย่ำยีกันจนแหลกลาญ
๏ พี่เชื่อแน่แท้แล้วหนาแก้วตาพี่
หาทางแก้แง่ใดดียอดสงสาร”
พี่เลี้ยงตอบปลอบให้คลายร้าวราน
รำพึงจิตจักคิดอ่านประการใด
๏ “รู้ว่าพี่มีวิชาแลสามารถ
ที่จะวาดรูปฉายาประดาได้
ทั้งอินท์พรหม ยมพญา ราชาชัย
เจนจบในงานชนิดจิตรกรรม
๏ ขอพี่ช่วยด้วยหนาในครานี้
วาดรูปชายชาตรี..มิสูง - ต่ำ
ศุภลักษณ์งามเลิศประเสริฐล้ำ
ผู้ฝังจำกลางใจน้องไม่จาง”
๏ “รัตนวารี” สาวพี่เลี้ยง
ฟังสำเนียงวอนไหว้ใจหมองหมาง
สิ่งทำได้เต็มใจทำมิอำพราง
จึงเริ่มร่างรูปพักตราเทวาวงศ์
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
«
ตอบ
#29 เมื่อ:
03 กันยายน, 2561, 08:54:56 AM »
หน้าแรก
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๓๒-
สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ตั้งต้นวาดภาพพระนารายณ์
พรรณเฉิดฉายโสภาน่าลุ่มหลง
“พินทุมดี” มิมีปองต้องจำนง
ต่อด้วยองค์อินทราเทวาฤทธิ์
๏ แลพระพรหมเทวัญผู้สรรค์สร้าง
โลกากว้างใหญ่ ธ ทรงประสิทธิ์
สัตว์ มนุษย์ทั้งหลายให้ชีวิต
มิตรงจิตฝังจำเป็นสำคัญ
๏ วาดเทวะโลกบาลนั้นทั้งหลาย
พระพิรุณ พระพาย กายเฉิดฉัน
พระอัคนีมีคุณอเนกอนันต์
แลพระยมผู้บั่นทุกชีวิน
๏ วาดเทวัญอันตำรามีว่าไว้
ลำดับไล่ไปครบจนจบสิ้น
ลำดับมาว่าด้วยหมู่ภูบดินทร์
จอมนรินทร์ กินราที่ว่างาม
๏ มิพบองค์ตรงจินต์ “พินทุมดี”
ยิ่งโศกีด้วยรักเกินหักห้าม
วิจิตรศิลป์มิสิ้นค่าพยายาม
ลดลงตามชั้นอีกชุดราชบุตรา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า:
1
[
2
]
3
4
...
7
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...