Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
กลอนคิดถึง
>>
~*~ ฝากกานต์ ~*~
หน้า: [
1
]
2
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ~*~ ฝากกานต์ ~*~ (อ่าน 17942 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ ฝากกานต์ ~*~
«
เมื่อ:
07 สิงหาคม, 2562, 07:09:18 PM »
หน้าแรก
~*~ ฝากกานต์ ~*~
~*~ ฝากกานต์ ~*~
*ต่อจากบท ~*~ เพลงชีวิต ~*~
๐ ลมโชยแผ่วแว่วเสียง จำเรียงคล้าย
สื่อความหมายฝากถึง คะนึงหา
วอนพระพายพัดหวน อย่าด่วนลา
ช่วยนำพาร่ายพร้อง ไปคล้องพัน
๐ แล้วร้อยลักษณ์ถักพจน์กำหนดไว้
ยามห่างไกลนิเวศน์สุดเขตขัณฑ์
แม้มิได้รั้งก้อยเกี่ยวร้อยกัน
ด้วยสวรรค์ปั้นวางเพียงร่างเงา
๐ ให้เพลงพาทย์ลอยล่องทำนองเอื้อน
ปนป่ายเปื้อนห้วงหนถึงคนเหงา
ยามพลบค่ำมืดคลึ้มฟ้าทึมเทา
วานสายลมแผ่วเบาคลอเคล้าทรวง
๐ เพื่อคลายความว้าเหว่ เพลงเห่กล่อม-
จะตะล่อมล้อมศัพท์สำทับสรวง
ลามร่ายรจน์จรดจิต ลิขิตปวง-
หมายให้หน่วงเหนี่ยวขวัญพันธนา
๐ เย็นเยียบสายลมร่ำฟ้าฉ่ำฝน
แต่ร่วงหล่นคือจินต์ถวิลหา
ปนพิรุณรินหลั่งประดังพา
พจนาฉ่ำหวานซึมซ่านใจ
“๐ อย่ารู้ร้าง รู้วาย สายสวาสดิ์
จงร้อยวาสน์พาดลงอสงไขย
อักขระคละมนต์จักวนไป
ตราตรึงในนิทราทุกราตรี”
๐ แม้ยามตื่นฝืนข่มอกขมเฝื่อน
ทุกสิ่งเลือนรางแฝงกลางแสงสี
ฝากภาพฝันแทรกล่วงห้วงฤดี
อย่าได้มีวันร้างเจือจางรอย
๐ คีตาแว่วแผ่วเคล้า...........ลมครวญ
จันทร์ดับอับแสงนวล..........หลีกเร้น
ลมค่ำร่ำสายทวน .............โหมเห่ กล่อมเฮย
ราวเกริ่นนัยฝากเน้น...........ว่าละห้อยคอยหา
๐ คิดถึงจึงเกลื่อนห้วง.........คคนางค์
ยังหวั่นจักเจือจาง..............หว่างฟ้า
หากพจน์พร่ำอำพราง..........ลางสิ่ง
ความสื่ออาจเพราะว้า-.........เหว่เร้ารุมขวัญ
๐ ใจเอยคงแหลกร้าว-..........รานลง
ดวงชีพมิยืนยง...................อยู่ได้
รอนรักดั่งปลดปลง..............ปราณดับ เทียวเนอ
แลดับทั้งโลกไร้.................ศศิเรื้อง, เลือนสูร
วลีลักษณา
๗ สิงหาคม ๒๕๖๒
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=08-2019&date=07&group=26&gblog=137
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
รอยทรายบนสายลม
,
Wirin
,
พิณจันทร์
,
เฒ่าธุลี
,
ดิล ดีวาน่า
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
Re: ~*~ ฝากกานต์ ~*~
«
ตอบ
#1 เมื่อ:
14 สิงหาคม, 2562, 12:57:36 PM »
หน้าแรก
Re: ~*~ ฝากกานต์ ~*~
“...ล่องลอยเอ๋ย...จากพิมาน
ข้ามสีทันดร...ตระการ
สู่แคว้นแดนไทย...
ปิ่นจอมขวัญ ปักใจพี่มั่น...ตรึงหมาย
กี่ชาติกี่ภพ...ไม่มีคลอนคลาย
รักเจ้าไม่หน่าย....ไม่คลายจากกัน...”
ล่องลอยเอยสู่เจ้า........จอมใจ
เหมือนดั่งดวงฤทัย.......เกี่ยวคล้อง
หลุดข้ามอสงไขย.........คล้อยเคลื่อน
หวนกลับคืนสู่ท้อง-......ถิ่นครั้งเคยแหน
แทนใจโยงผูกร้อย........รำพัน
แม้บทเยื้อนจำนรรจ์.......บทนี้
อาจมิคู่เคียงกรรณ.........ควรโสต แม่เนอ
ขอฝากเพียงบ่งชี้...........ถ่องถ้อยคำแถลง
จำปาลาว โลมกลิ่น ถวิลหวน
หอมอบอวล เอมอิ่ม บ่ ถิ่มถอย
จักกี่ฝัน ฟั่นเฟือน หลุดเลื่อนลอย
นั่งตาปรอย คอยเฝ้า เช้าจรดเย็น
จำเรียงลักษณ์ อักษร ส่งกลอนหวาน
ผูกพ่วงมาน สานวาสน์ อาจลำเข็ญ
ขอแอบรัก เยี่ยงนี้ ดั่งที่เป็น
มิกระเส็นกระสาย ขยายความ
แค่เคียงร้อย คอยร่ำ คำหวานรัก
มอบทายทัก ภักดี ที่ไหวหวาม
เสมือนหนึ่ง โสนน้อย ในเรือนงาม
ซุกซ่อนนาม ลี้หลบ มิพบเจอ
จักขอเพียง เท่านี้ ดีพอแล้ว
มิอาจแผ้วพานใกล้ หวั่นไผลเผลอ
ฝากลำนำ แว่วหวาน กานท์ละเมอ
เพื่อบอกเธอ คิดถึง คะนึงครัน
Soul Searcher
Inspired to write 14/8/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
วลีลักษณา
,
สุวัฒน์ ไวจรรยา
,
Wirin
,
รอยทรายบนสายลม
,
พิณจันทร์
,
เฒ่าธุลี
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ ดวงจำปา ~*~
«
ตอบ
#2 เมื่อ:
18 สิงหาคม, 2562, 01:12:10 PM »
หน้าแรก
~*~ ดวงจำปา ~*~
~*~ ดวงจำปา ~*~
๐ แว่วเครื่องสายสีเสียดละเมียดเสียง
ความจำเรียงยิ่งล้วนให้ชวนฝัน
ล่องลอยเอ๋ย ร่ายคำ พร้องรำพัน
เฉกเถาวัลย์รัดรั้งภวังค์ตรึง
๐ อ่อนหวานนั้น อ้อนเอื้อนยังเคลื่อนไหว
ปนลมไล้ ลอบลิด ความคิดถึง
จนปลิดปลิวลิ่วลอยคล้ายร้อยดึง
ด้วยสายใยล่ามขึงประหนึ่งตรวน
๐ หวั่นวันเดือนเลื่อนล่วงเลือนห่วงหา
สร้อยสัจจากลบกลืนไม่คืนหวน
ดุจลมเพลมพัดสะบัดทวน
เย็นฉ่ำชวนชื่นใจเพียงไม่นาน
๐ ลั่นทมเอย หวั่นจะพรากออกจากช่อ
ยามลมคลอหล่นคงน่าสงสาร
ดอกรักเล่าหลุบหลู่มิรู้บาน
ฤๅเกรงกาลรานเจ้าให้เฉาโรย
๐ แดดพร่างพรายกรายทาบระนาบฟ้า
ในวรรษาแล้งร้อนอ่อนระโหย
รอเวลาเม็ดฝนจะหล่นโปรย
เพียงลำลมโบกโบยแผ่วโชยชาย
๐ จำปาลาวไหวก้านสะท้านสั่น
กลิ่นหอมพลันกำจรในตอนสาย
หอมเจ้าเอย อวลอยู่อย่ารู้วาย
วานกำจายกรายทรวงผู้ห่วงคอย
๐ รับรู้เถิดเมื่อพรากสุดฟากภพ
ก็ยิ่งทบทวีเท่าแต่เหงาหงอย
เพียงภาพฝันฟูฟ่องอันล่องลอย
อาจทยอยลับเลือนตามเดือนปี
๐ แสงวันแผดแวดล้อมโอบห้อมหล้า
ปลุกชีวาดิ้นรนบนวิถี
จำปาลาวกลั่นกลิ่นอย่างยินดี
ก่อนบัดพลีดอกดวงซบห้วงดิน
๐ แต่ดอกรักปักลงยังคงอยู่
ครั้นแสงหวังทอดลู่ลงปูถิ่น
เอิบอาบความอบอุ่น หนุนชีวิน
ผลัดความเศร้าโศกสิ้นจากจินตนา-
๐ จากนี้จงงดงามทุกยามผ่าน
แลเบ่งบานกลางทรวงผู้ห่วงหา
ฝากปักปลูกกลางใจคนไกลตา
อย่าปล่อยให้โรยราแม้คราใด
๐ ลมพัดหวนเห่ห้อม........หอมเอย
อวลกลิ่นกรุ่นรำเพย........ผ่านฟ้า-
โชยล่องลัดพาดเกย.......ทรวงหนึ่ง
ซึมซ่านคลายอ่อนล้า......ผ่อนว้าเหว่หาย
๐ อาจไกลห่างต่างห้วง.....รอบวาร
เพียงลิขิตคำกานท์.........สื่อให้
พรางรูปมิรู้พาน-...........พบพ่วง นาพี่
ยังแต่รักฝากไว้............ประจุห้วง หทัยถวิล
วลีลักษณา
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๒
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=08-2019&date=18&group=26&gblog=138
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
สุวัฒน์ ไวจรรยา
,
รอยทรายบนสายลม
,
พิณจันทร์
,
โซ...เซอะเซอ
,
เฒ่าธุลี
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
รอยทรายบนสายลม
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 354
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ทิพย์ธิดาสุรีย์
|
|
Re: ~*~ ฝากกานต์ ~*~
«
ตอบ
#3 เมื่อ:
21 สิงหาคม, 2562, 06:41:45 PM »
หน้าแรก
Re: ~*~ ฝากกานต์ ~*~
จำปาดวง
- กลบท งูกระหวัดหาง -
สดับเสียงเคียงกานท์สื่อสารรัก
เรียงร้อยนักเพลงกลอนอาทรศิลป์
ซ่อนอารมณ์จมจ่อพะนอจินต์
จำปาลาวร่วงริน ห้วงหทัย
ทิว..วสันต์ผันผ่านเนิ่นนานเนิ่น
น้ำตาเดินเคลิ้มรินถึงอินได้
ด้วยประหวั่นพรั่นพล่านซึมซ่านไป
ปล่อยโยงใยคำหวานให้ผ่านมา
มากคีตะพาทย์เพลงบรรเลงล่อง
ลามร่ายรจน์ จรดจ้อง..ถวิลหา
หากความรักเปรียบม่านกำบังตา
ต้องวิญญาเข้าแล้วเป็นแนววาง
หว่างหัวใจเคียงร้อยจำรอยชัด
ชุ่มชื่นรัดเนื้อใจให้หม่นหมาง
เหมือนอดีตรังสรรค์จำนรรจ์จาง
จนเคว้งคว้างยินขรมเสียงข่มใจ
จากคนไกลใคร่รักสมัครสมาน
เสมือนดั่งลาน ไขหมด ปลดลงใส
เสียงบรรเลงเพลงซึ่งตรึงทรวงใน
นานเท่าใด (ใจ)สะท้านทุกการเยือน
ณัฐสุรางค์
Inspired to write : 21/08/2562
ขอบคุณบทกลอนอันไพเราะ จากพี่พี่ ทั้งสองท่านนะคะ
อ่านได้อารมณ์สุนทรีย์ มีความสุขมากๆค่ะ พี่ วลีลักษณา และ คุณลุงโซล
แวะเข้ามาวางกลอนบ่อยๆนะคะท่าน
สวัสดี มีความสุขค่ะ
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
Wirin
,
พิณจันทร์
,
วลีลักษณา
,
โซ...เซอะเซอ
,
เฒ่าธุลี
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
~♥ " รวมทุกสำนวนของ รอยทรายบนสายลม "♥~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
...ดอกลั่นทม...
«
ตอบ
#4 เมื่อ:
23 สิงหาคม, 2562, 07:32:45 AM »
หน้าแรก
...ดอกลั่นทม...
ดอกลั่นทม (โหมโรง เดอะมิวสิคัล)
“...(แม่โชติ) โอ้ดอกลั่นทมสีขาวสะอาด
งามสวยราวกับวาด
ไม่อาจหักใจไม่มอง
เจ้าดอกลั่นทมขาวดูผุดผ่อง
ละอองน้ำค้างที่กลีบ
เป็นประกายวิบวับวาวสดใส
(นายศร) สวย เจ้าสวยจนพี่หวั่นไหว
คล้ายหัวใจร้องเรียก
เป็นเพลงรัก ได้ยินไหม
(แม่โชติ) ใครนะช่างมาเอ่ยชม
ดอกลั่นทมให้โน้มต้นตาม
เชื่อคำได้หรือไร
เป็นแค่เพียงถ้อยคำหวาน
หว่านเสน่ห์กันแค่ลวงใจ
ไม่อาจรู้
(แม่โชติ และ นายศร)
โอ้ดอกลั่นทมสีขาวสะอาด
งามสวยราวกับวาด
ไม่อาจหักใจไม่มอง
เจ้าดอกลั่นทมขาวดูผุดผ่อง
ละอองน้ำค้างที่กลีบ
เป็นประกายวิบวับวาวสดใส
(นายศร) สวย เจ้าสวยจนพี่หวั่นไหว
คล้ายหัวใจร้องเรียก
เป็นเพลงรัก ได้ยินไหม
ขอมองให้นานอีกหน่อยได้ไหม
ยิ่งมองทำไมถึงได้สวยมากขึ้นอย่างนี้
ครวญเพลงชื่นชมเจ้าดอกลั่นทม
บอกให้รู้ที
ว่าเจ้ามีใจให้พี่คนนี้ บ้างไหม...”
เสียงซออ้อนออดซึ้ง ถึงปลายโสต
สบพิโรธ ร้าวฉาน แม้นมานเฉือน
ครั้นหยาดพจน์ ชโลมไล้ หทัยเรือน
ขับคล้อยเคลื่อน ขุ่นข้อง พร่องเพลาจาง...
งามสวยปานวาดแล้......ลั่นทม
อกพี่ร้าวระบม...............เจ็บช้ำ
สายตาซ่อนขื่นขม..........หมอง,เหม่อ
คอยหยาดชื่นสุขล้ำ........อาบไล้ชโลมขวัญ
จำนรรจ์รินฝากนี้............จากใจ
จำแนกจาระไน...............หมดสิ้น
จำเหินห่างรักไกล...........คร้ามหม่น
จำจวบแม้ด่าวดิ้น...........ไป่ร้างเลือนสมร
คำบอกรัก...เฝ้าเขียน วนเวียนคิด
เหมือนตอกย้ำ เนืองนิตย์ พิศมิสร่าง
ระลอกแล้ว ระลอกเล่า เคล้าเคลียปาง-
จะมอดม้วย ด้วยมือนาง...หนอลั่นทม
ยินคำพี่ บ้างไหม ใจเจ้าเอ๋ย
อย่าเมินเฉย เชือนแช พ่ายแพ้ข่ม
ปล่อยคืนวัน เหว่ว้า อุราตรม
เกินไขว่คว้า มาชม ชื่นสมปอง
ดั่งลมเพ ลมผัน วสันต์สวาท
ที่มิอาจ เกี่ยวไว้ ด้วยใจสอง
ได้แต่เฝ้า ลอยล่อง จ้องเมียงมอง
เก็บตระกองกอดไว้ ในทรงจำ
ชโลมใจพิไรร้อย.........สลักพร้อยภิรมย์ริน
โศลกร่ำระส่ำยิน..........สนิทพร่างมิสร่างภักดิ์
เชลงหอมถนอมเจ้า......จะแก่เฒ่าระยังปัก
พะวงเดือนมิเชือนชัก.....กระซิบรักประจักษ์กาล
Soul Searcher
Inspired to write 23/8/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ดิล ดีวาน่า
,
รอยทรายบนสายลม
,
Wirin
,
วลีลักษณา
,
เฒ่าธุลี
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ สลันทมสุมาลย์ ~*~
«
ตอบ
#5 เมื่อ:
25 สิงหาคม, 2562, 07:21:02 AM »
หน้าแรก
~*~ สลันทมสุมาลย์ ~*~
~*~ สลันทมสุมาลย์ ~*~
“เปรียบรักดนูทะนุถนอม
ขณะย้อมประนอมมาน
ขออย่าตระบัดสัตยผลาญ
นิรกานตรานกลาย”
๐ เม็ดฝนพรมลมพลิ้วเสียงหวิวหวีด
ปนสังคีตครวญขับแล้วดับหาย
ย่ำค่ำคล้อยภพภูมิยังฟูมฟาย
เกลื่อนผกายไฟเต้นฟาดเส้นเรือง
๐ เสียงครวญคร่ำกำสรวลทุกส่วนสรวง
ทุกส่วนทรวงหม่นอับอยู่นับเนื่อง
ทุกสิ่งหวังพังภินท์ดูสิ้นเปลือง
ให้ต้องเปลื้องปลดลงและปลงวาง
๐ ฤๅลิขิตเบื้องบรรพ์ขีดคั่นภพ
เกินจะลบเพรงบาปที่ทาบขวาง
รอบกาลเหลื่อมเชื่อมชนคนละทาง
เพียงร่องรอยเลือนรางหวั่นร้างรา
๐ ให้พบพานสานโศลกในโลกฝัน
พร้องรำพันจากทรวงคนห่วงหา
ถ้วนถ้อยคำร่ำบทรจนา
ก็ตรึงตราใจอยู่มิรู้เลือน
๐ ลมล่องลัดพัดไล้บาดไอ้ชื้น
ราวหยิบยื่นคมมีดคอยกรีดเฉือน
ฟากฟ้าอับดับราวร้างดาวเดือน
คงดับเหมือนทรวงหนึ่งรำพึงครวญ
๐ ขณะยังหนาวเหน็บและเจ็บร้าว
ฟ้ากลับพราวดาวดื่นเดือนคืนหวน
เพลงพาทย์แผ่วแว่นหวานกอปรกานท์ทวน
ฤาเล่ห์ลมเรรวนม่านม้วนลำ
๐ “พจน์นั้น” ลิขิตแล้วจงแน่วแน่
อย่าเชือนแชแปรปรวนให้ครวญคร่ำ
จะรอคอยร้อยกานท์บรรสานคำ
ผจงพร่ำพร้องพลอดตลอดไป
๐ เรียงร้อยวลีลิขิตกานท์
พจมานยแจงนัย
ถ้วนคำแถลงรติพิไล
เฉพาะไว้ผสานหวัง
๐ ฝากลงจรดอุระสลัก
ดลภักดิจีรัง
ผูกพันธนามนภวังค์
และจะรั้งสมานขวัญ
๐ จากนี้ลุกัลปสมัย
หฤทัยก็ผูกพัน
รอทอนตะกอนบุรพทัณฑ์
ลหุบรรพกรรมสูญ
๐ งามเอยสลันทมสุมาลย์
ผลิบานผอูนพูน
ยืนยงนิรันดรจรูญ
บริบูรณ์เสมอกาล
วลีลักษณา
๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๒
บทประพันธ์ วสันตดิลกฉันท์
สลันทมสุมาลย์ อ่านว่า สะ-ลัน-ทะ-มะ-สุ-มาลย์
สลันทม (ดอกลั่นทมในภาษาเขมร) แปลว่า ดอกไม้แห่งความรักที่มั่นคง
สุ แปลว่า ดีงาม
มาลย์ แปลว่า ดอกไม้
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=08-2019&date=25&group=26&gblog=140
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ดิล ดีวาน่า
,
เฒ่าธุลี
,
รอยทรายบนสายลม
,
โซ...เซอะเซอ
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
...ดวงจำปา/จำปาลาว...
«
ตอบ
#6 เมื่อ:
29 สิงหาคม, 2562, 12:17:07 AM »
หน้าแรก
...ดวงจำปา/จำปาลาว...
...ดวงจำปา/จำปาลาว...
...อ่อนช้อยเชลงสุตะกวี
รติคลี่ประโลมมาน
อวลอุ่นอณูลหุสะคราญ
พิเราะแว่ววลีหวาม...
เสียงหยาดฝน ปนลม ลิ่วพรมพัด
พลอยมนัส พลัดหลง พะวงท่าม-
กลางร้อยร่ำ คำคม คารมงาม
จึ่งใคร่ถาม ถึงนิยาม ของความรัก
ครั้งคราใด ใกล้ชิด สนิทเชื้อ
หรือเกิดเมื่อ เหว่ว้า อุราหัก
เยื้อนบุพเพสันนิวาส ยาตราทัก
ยิ้มพยักพเยิด ชวนเปิดใจ
ยินร้อยร่ำ กำสรด พจนารถ
ดุจเพลงพาทย์ พรรณนา คราอ่อนไหว
ริ้วระลอก ความคิด สถิตใน
สะท้อนคลื่นลมไหน ใจคร่ำครวญ
เกรงความรัก โลมลวง จึงหน่วงช้า
หวั่นพลาดท่า เสียที รี่กำสรวล
คอยหลีกเร้น ลี้หลบ คล้ายทบทวน
ปล่อยรัญจวน รักสิ้น ร้างกลิ่นอาย
...งามเอยสลันทมสุมาลย์
ขณะบานดนูปราย-
ตามองชะม้อยอจลหมาย
มติมอบฤทัยทูน
หากแม้นเลบงระบุระบิล
ผิวะสิ้นมิจำรูญ
ความรักนิยาม ฤ ปริปูรณ์
ปะทุท่วมระทมเทียว...
“...เพลงนี้มีประวัติยาวนานโดย ท่าน อุตมะ จุลมณี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลาว ได้แต่งเพลงนี้ไว้ในช่วงที่เข้าร่วมขบวนการต่อสู้กู้เอกราชของคืนจากฝรั่งเศส เมื่อปี พ.ศ. 2492-2496 เพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ให้ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นเจ้าอาณานิคมในสมัยนั้นได้เห็น
โดยท่านอุตมะ ได้ใช้ "ดอกจำปา" หรือดอกลั่นทม ที่ชาวลาวนิยมปลูกแต่ในอดีต เป็นสื่อบอกถึงความรักแผ่นดินถิ่นเกิดของชาวลาว เพลงนี้แผ่ขยายไปอย่างรวดเร็ว และสร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับชาติลาว จนในที่สุดฝรั่งเศสก็ยอมคืนเอกราชให้กับประเทศลาว”
จำปาลาวสิเน่ห์เรื้อง.......จำรูญ
หอมกลิ่นคล้อยคำนูณ....ยิ่งแล้
ความรักทวีคูณ..............ยามห่าง กันนา
หมองหม่นอาลัยแม้........กลิ่นแก้มนวลถวิล
Soul Searcher
Inspired to write 28/8/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม
,
วลีลักษณา
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ หนี้รัก ~*~
«
ตอบ
#7 เมื่อ:
04 กันยายน, 2562, 09:18:50 PM »
หน้าแรก
~*~ หนี้รัก ~*~
~*~ หนี้รัก ~*~
๐ ร้อยเรียงเผดียงพิเราะพิไล
เฉพาะให้หทัยเดียว
อื่นใดมิหมายมนจะเกี่ยว
รติเหนี่ยวสมานฝัน
๐ สบรักประจักษนยะแจ้ง
สิแถลงแสดงบรรณ
แจงคำนิยามบทอนันต์
ฤจะพรรณนาไหว
๐ ลมล่องลัดพัดเอื่อยโชยเฉื่อยช้า
โรยลำผ่อนสายมาจากฟ้าไหน
หอบรำพึงจากแดนอันแสนไกล
ปนมาบ้างหรือไม่นะสายลม
๐ ฤาพัดเพเรรวนแล้วด่วนพราก
ทิ้งเพียงซากเศษทรามมิงามสม
พยางค์รักทักทายยามวายชม
คงเหลือเพียงระทมห้อมห่มทรวง
๐ ฤดูมรสุมอันชุ่มชื่น
ม่านเมฆกลืนดวงวันกลบชั้นสรวง
ฝนสร่างเม็ดเก็จแก้วก็แพรวดวง
เกาะแกมพวงลั่นทมกลางลมโชย
๐ หอมอ่อนอ่อนผ่อนสายกำจายกลิ่น
ปนปรุงจรุงถิ่นรวยรินโผย
วันพรุ่งคงถึงช่วงการร่วงโรย
ปลิดกลีบหมองหม่นโปรยแต่โดยดี
๐ แต่ดอกหนึ่งเบ่งบานแม้กาลล่วง
อยู่แนบทรวงนิ่งนานตระการสี
จะปักปลูกเอาไว้ด้วยไมตรี
โดยไม่มีวันร่วงจากห้วงใจ
~*~~*~~*~~*~~*~~*~
"๐ อย่าถามหานิยามของความรัก
หากประจักษ์ด้วยใจใสพิสุทธิ์
คุณค่าในอารมณ์ เกินสมมุติ
ยากหาจุดกำหนดพจนา
๐ สัมผัสได้ทีในหัวใจนั่น
บ้างสุขสันต์สมวาดปรารถนา
บ้างโดดเดี่ยวดุ่มดั้นกลางมรรคา
ท่องเวลาเดียวดายสุดปลายทาง
๐ หากมิก่อเงื่อนไขใดใดแล้ว
แม้ต้องแคล้วคลาดกันพรากผันห่าง
สักกี่ร้อยเขตคั่นที่กั้นกลาง
มิอาจขวางคำนึงส่งถึงกัน"
วลีลักษณา
๔ กันยายน ๒๕๖๒
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=09-2019&date=04&group=26&gblog=141
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
,
Wirin
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
...ปลดหนี้รัก...
«
ตอบ
#8 เมื่อ:
09 กันยายน, 2562, 07:18:50 AM »
หน้าแรก
...ปลดหนี้รัก...
...ปลดหนี้รัก...
น้ำคำประหนึ่งอภิรตี
อรุณีจรุงปัน
ไออุ่นละอองจิระจรัล
ภวะวาบภวังค์หวาม
หนี้รักนะหรือถิรนิวรณ์
ริจะถอนสิวายตาม
ไหวหวั่นดนูประลุจะข้าม
ปฏิภาควิบากกรรม
อภิรตี : ความรื่นรมย์ยินดียิ่ง
อรุณี : แสงเงินแสงทองยามเช้า
จรุง : กรุ่น, อบอวล, ชื่น
จิระ : ช้าช้า
จรัล : เดิน, ผันผาย
ภวะ : เกิด
ถิระ : มั่นคง
ปฏิภาค : เปรียบเทียบ, เทียบเคียง
สายลมเอื่อย เฉื่อยฉิว โปรยปลิวช้า
สัมผัสความ เหนื่อยล้า อุรานั่น
ปล่อยอาวรณ์ อ่อนไหว ในจำนรรจ์
ยามหนี้น้าว- เหนี่ยวทัณฑ์ เข้าบั่นทอน
คล้ายติดหนี้ ลี้หลบ แต่ภพชาติ
คุ้นเคยวาท สืบสาน เช่นกาลก่อน
แบกหนี้รัก หนักหนา ดุจภากร-
มิลดรอน ร้าวแดด เผาแผดเลย
หนี้หัวใจ ใครหนอ รอเรียกเก็บ
ช่างหนาวเหน็บ เจ็บใน ฤทัยเอ๋ย
เหมือนสุข-ทุกข์ คลุกเคล้า เย้าหยอกเปรย
มิคืนเคย สงบ แผ้วพบพาน
อยากปลดหนี้ หัวใจ ใครช่วยบอก
ปลดทั้งดอก ทั้งต้น ผล กิ่งก้าน
โปรดเมตตา สักนิด คิดเจือจาน
ยกเป็นทาน เพิกถอน ร้าวรอนทิ้ง
ฝันอยากเห็น เยื่อใย เกินไกลหนี้
ดอกรักคลี่ เบ่งบาน ตระการยิ่ง
ดั่งเนื้อทอง บริสุทธิ์ ผุดผ่องจริง
มิแอบอิง ไขว่คว้า แค่หาครอง
เหมือนปล่อยวาง เงื่อนไข ในความรัก
ภาระหนัก ทุกข์หม่น ท้นมัวหมอง
ทิ้งทิฐิ ติฉิน สิ้นลำพอง
เหลือเพียงสอง ใจคะนึง ส่งถึงกัน
แบกดำเนินหนี้รัก............ไปไย
เพี้ยงปลดเปลื้องหัวใจ......เหนี่ยวคล้อง
เสียงแห่งทุกข์อาลัย.........ผันเปลี่ยน
เหลือแต่ศิลป์เสกซ้อง.......อ่อนซึ้งรังสรรค์
Soul Searcher
Inspired to write 9/9/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ดิล ดีวาน่า
,
วลีลักษณา
,
Wirin
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ เพราะรัก ~*~
«
ตอบ
#9 เมื่อ:
29 กันยายน, 2562, 07:36:15 PM »
หน้าแรก
~*~ เพราะรัก ~*~
~*~ เพราะรัก ~*~
๐ เนิ่นนานเกินนับวันที่ฝันร้าง
เพียงม่านพรางกลางกมลอันป่นปรัก
ดุจเก็จแก้วแวววามแสนงามนัก
มาแตกหักแหลกลาญลงหว่านดิน
๐ ทนอยู่อย่างเดียวดายเมื่อคลายเศร้า
ยังเงียบเหงาทรวงอยู่มิรู้สิ้น
แม้ไม่มีน้ำตาไหลบ่าริน
ยามชีวินร้าวรานจนด้านชา
๐ ทิ้งซากขมซมซานฝ่ากาลล่วง
ตัดขาดบ่วงกลเล่ห์เสน่หา
ค่อยค่อยฝืนชีวันท่องมรรคา
ด้วยอุราย่อยยับอับปราชัย
๐ แล้วคล้ายสรวงทอดทางลงวางเทียบ
ให้ย่างเหยียบเดินฝ่าผ่านฟ้าใส
รวยรินกลิ่นหอมอวลเย้ายวนใจ
กลางอุ่นไอแสงสูรจำรูญดวง
๐ ฤาพลัดพรากครานั้นเพื่อวันนี้
เพื่อวันที่ฤทัยอันใหญ่หลวง
เผยให้เห็นนัยงามเนื้อความปวง
ว่าหมายพ่วงคล้องขวัญสู่วันไกล
๐ อยากยินถ้อยกล่าวย้ำด้วยคำนั้น
พร้องรำพันวันนี้จะมีไหม
หรือวันวานเลยล่วงสิ้นห่วงใย
หมดอาลัยอาวรณ์เช่นก่อนเคย
๐ ภาพถวิลจินตนายังปรากฏ
มธุรสบทสร้อยที่ร้อยเผย
ยังซาบซึ้งตรึงทรวงไม่ล่วงเลย
ทุกคำเปรยฤาจะหายตามสายลม
๐ วอนเพรงบุญหนุนพาแล้วอย่าผ่าน
อย่าบั่นรานเลือนหายให้กลายขม
ปองใจแล้วแคล้วคลาดมิอาจชม
คงสุดข่มทุกข์เข็ญไม่เว้นวัน
๐ หากเป็นเพียงเล่ห์กลแห่งมนต์สรวง
แต่งภาพลวงหลอกจิตให้คิดฝัน
ยามตื่นตามาร้างอ้างว้างครัน
ดวงชีวันจะเหลือไว้เพื่อใคร
๐ ลิขิตแล้วแนวทางปูวางลาด
อย่าแคล้วคลาดทุกวงอสงไขย
ทอนเพรงบาปสาปทัณฑ์สะบั้นไป
หลอมรวมสองดวงใจด้วยนัยเดียว
วลีลักษณา
๒๙ กันยายน ๒๕๖๒
ที่มา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=waleelaksana&month=09-2019&date=29&group=26&gblog=142
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ดิล ดีวาน่า
,
โซ...เซอะเซอ
,
ธนปกรณ์
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
“...ฉันจะฝันถึงเธอ...”
«
ตอบ
#10 เมื่อ:
30 กันยายน, 2562, 06:30:41 AM »
หน้าแรก
“...ฉันจะฝันถึงเธอ...”
“...ฉันจะฝันถึงเธอ...”
ประพันธ์โดย : อาจารย์ดนู ฮันตระกูล
“เมื่อตะวันลับลา ฟ้าก็มองมืดหม่น
ทนเงียบเหงา…อ้างว้าง
เมื่อเธอลาลับไกล กลับอุ่นไอไม่สร่าง
ใจฉันค้างเคียงเธอ
รู้…หรือไม่ ว่าภายในดวงตาสองนั่น
ฉันได้พบความอบอุ่นใจ
รู้…หรือเปล่า ว่าข้างในรอยยิ้มของเธอ
ฉันแอบเพ้อละเมอคร่ำครวญ…
...อิ่มอกอ่วนอาย...
อยากจะบอกสักคำ ฉันได้ถลำหัวใจ
ตกอยู่ในความรัก
เมื่อตะวันนิทรา ฟ้าจะรอพบจันทร์
ฉันจะฝัน…ถึงเธอ”
เมื่อตะวันลับฟ้า................กว่าเหลียว
หลงอยู่แต่ผู้เดียว..............เปลี่ยวช้ำ
เมื่อลมรักโลมเรียว............ไล้ลูบ
คล้ายหยอกเยื้อนตอกย้ำ....บ่มคล้อยคะนึงหวน
ก่อนตะวัน ลับลา ฟ้าหม่นซีด
แฝงรอยกรีด กลางทรวง เหมือนลวงหาย
ละเลยเห็น กลับคะนึง ถึงมิวาย
ข่มเงียบเหงา เดียวดาย จึ่งคลายจาง
รู้หรือไม่ ใจฉัน นั้นห่วงหา
“อิ่มอกอ่วนอาย” อุรา ทุกคราห่าง
ภาพยวนยิ้ม ปิ่มเปรอ เพ้อมิวาง
แอบคั่งค้าง เกินไกล ใจลบเลือน
คล้ายตกสู่ หับห้วง ภวังค์รัก
มิตระหนัก หากใน ฤทัยเสมือน
น้าวหวนลม ห่มพัด กระหวัดเยือน
เฝ้าย้ำเตือน ให้ฉัน...ฝันถึงเธอ
Soul Searcher
Inspired to write 30/9/2019
“อิ่มอกอ่วนอาย” : ตอนแรกฟังเผินๆ
เหมือนกับ “อิ่มอบอวลไอ” แต่พอมารู้ว่า
ผู้ประพันธ์ “อาจารย์ดนู” ใช้คำว่า
“อิ่มอกอ่วนอาย”
ยิ่งสัมผัสได้ถึง ความลึกซึ้ง
และความละเมียดละไมในการใช้ภาษา
ของผู้ประพันธ์ยิ่งนัก
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ธนปกรณ์
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
,
Wirin
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ~*~ ฉันจะฝันถึงเธอ ~*~
«
ตอบ
#11 เมื่อ:
07 ตุลาคม, 2562, 01:58:04 PM »
หน้าแรก
Re: ~*~ ฉันจะฝันถึงเธอ ~*~
คำหวานอ้อนออดซึ้ง.........ตรึงทรวง
หวานอื่นหมื่นแสนปวง...ไป่สู้
หวานจากฤดีดวง-.........จิตกลั่น-
กรองร่ายออกให้รู้........รติถ้อยแทนถวิล
เพลงนั้นแว่วแผ่วพรมปนลมเหนือ
สื่อถึงเนื้อความนัยชวนใจเผลอ
หากเป็นเพียงรำพันฝันละเมอ
จะแก้เก้ออย่างไรนะใจเอย
วันนี้บอกคิดถึงคะนึงหา
หากวันหน้าเงียบงำทำเมินเฉย
ลืมหมดสิ้นคำหวานเมื่อกาลเลย
ที่เฉลยเอ่ยย้ำความคร่ำครวญ-
เพียงขณะหนึ่งล่วงสู่ห้วงฝัน
พอตื่นพลันผันพรากมิอยากหวน
หวั่นเหมือนลมห้อมเห่พัดเรรวน
ผ่านแล้วล้วนเลือนหายมิกรายเยือน
วลีลักษณา
๕ ตุลาคม ๒๕๖๒
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ธนปกรณ์
,
โซ...เซอะเซอ
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
,
Wirin
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
...บุพเพสันนิวาส...
«
ตอบ
#12 เมื่อ:
16 ตุลาคม, 2562, 08:28:41 PM »
หน้าแรก
...บุพเพสันนิวาส...
...บุพเพสันนิวาส...
คำหวานซ่อนแอบเร้น......จำเรียง
ไพเราะเสนาะเพียง..........เคลื่อนย้าย-
ใจตามรติเสียง...............สัมผัส
อวลอุ่นละมุนละม้าย........โอบห้อมหทัยสอง
จากเพลงรัก ตรงใจ ในส่วนลึก
สู่น้อมนึก รังสรรค์ จำนรรจ์เสมือน
รติไห้ ห่วงหา มิราเลือน
เฝ้าย้ำเตือน หวนจิต คิดคำนึง
มิอาจเอื้อม เอ่ยทัก เพียงสักว่า
ส่งภาษา เยื้อนออก บอกคิดถึง
แม้นบุพเพสันนิวาส ผ่านพาดตรึง
ผูกซาบซึ้ง สองใจ ไม่รู้ลืม
คราสัมผัส ไออุ่น ละมุนละม้าย
ก็คลับคล้าย อาบฝัน อันดูดดื่ม
เก็บร้อยพัน หรรษา คว้าหยิบยืม
ทุกปลาบปลื้ม มิวาย จนก่ายกอง
Soul Searcher
Inspired to write 16/10/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
,
ธนปกรณ์
,
วลีลักษณา
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
วลีลักษณา
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 362
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~*~ บัญชารัก ~*~
«
ตอบ
#13 เมื่อ:
22 ตุลาคม, 2562, 08:37:29 PM »
หน้าแรก
~*~ บัญชารัก ~*~
~*~ บัญชารัก ~*~
๐ ปลายคาบกาลวรรษาท้องฟ้าหม่น
คลับคล้ายกับอกคนกมลหมอง
ลมหนาวเริ่มโชยกลับเข้าจับจอง
กลืนห้วงห้องฟ้าฝั่งอีกครั้งคราว
๐ เมฆลอยเลื่อนเคลื่อนครอบสุดขอบสรวง
พระลบหลบเร้นดวงจากห้วงหาว
ร้างไร้แสงพราวแพรวจากแววดาว
โลกดับราวห้อมห่มด้วยพรมดำ
๐ เย็นยะเยียบเพียบอกสะทกสั่น
เมื่อฟ้ากลั่นน้ำตาเพลาค่ำ
ความเงียบเหงาเลาะลอบเข้าครอบงำ
พิรุณร่ำพรำหลั่งประดังประเด
๐ ปนเสียงแผ่วแว่วคีตประณีตสาส์น
ความอ่านหวานหว่านล้อมเหมือนกล่อมเห่
พิเราะร่ายบรรเลงเพลงบุเพ
ทอนว้าเหว่กลางทรวงจนล่วงรอย
๐ แต่กลับแทรกแซมพิษความคิดถึง
ลอบตอกตรึงลงแล้วอย่างแผ่วค่อย
จากนี้คงเฝ้าฝันทุกวันคอย
รอร่วมร้อยไมตรีไว้ที่เดียว
วลีลักษณา
๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๒
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
Mr.music
,
รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า
หอมหวานใดเทียมทันรำพันลักษณ์
ศาสตราวุธใดจักเทียบอักษร
เฉือนคมบาดขาดวิ่นชีวินรอน
ทั้งสร้างสรรค์บั่นทอนต่างตอนกรรม
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3892
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
...มันคงเป็นความรัก...
«
ตอบ
#14 เมื่อ:
25 ตุลาคม, 2562, 01:18:57 PM »
หน้าแรก
...มันคงเป็นความรัก...
...มันคงเป็นความรัก...
เข้าปลายฝนต้นหนาว อีกคราวหนึ่ง
เหมือนถูกทึ้ง ท่ามกลางเหงา อันเปล่าเปลี่ยว
คัดผสม อักษร อ่อนกลมเกลียว
แล้วขับเคี่ยว จนข้น ประพนธ์ร้อย
ครั้นหมู่เมฆคลาไคล เลื่อนไกลลิบ
พากย์กระซิบวิบวาม ก็คร้ามค่อย
แต่แว่วคำ ซ้ำซาก ฝากฝังรอย
ดั่งทุกถ้อยทวนนั้น มั่นรัดรึง
เย็นยะเยียบกลางทรวง เพราะห่วงหา
ท่วมเอ่อล้น อุรา รี่บ่าบึ่ง
พรั่งพรูพจน์ ไหลหลาก สุดลากดึง
ปล่อยคะนึง ริ้วธาร ผ่านวลี
หากว่าความ คิดถึง คะนึงนั้น
อาจน้อย,สั้น เกินไป แต่ใจนี่
ยังแน่แน่ว จงรัก และภักดี
ตราบวิถี แห่งธรรม เอื้อดำเนิน
Soul Searcher
Inspired to write 25/10/2019
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
Mr.music
,
วลีลักษณา
,
รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
หน้า: [
1
]
2
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...