ช้างไทย สัตว์ประจำชาติของไทยเรา

"ช้างไทย"คือสัตว์ประจำชาติ
ประวัติศาสตร์ยาวนานล้วนขานกล่าว
มีบทบาทสำคัญหลายเรื่องราว
และผ่านร้อนผ่านหนาวท่ามชาวไทย

เป็นสัญลักษณ์พิทักษ์ถิ่นแผ่นดินอยู่
ยามต่อสู้ข้าศึกทั้งน้อย-ใหญ่
มีดวงจิตแข็งแกร่งแรงชิงชัย
หาสัตว์ใดเทียบเคียงคงไม่มี

สัญลักษณ์ความสำเร็จและมีโชค
แสดงเห็นกันทั้งโลกถึงศักดิ์ศรี
เป็นทั้งสัตว์คู่บุญบารมี
คู่กษัตริย์ไทยนี้มาช้านาน

สัญลักษณ์ความมั่นคงดั่งขุนเขา
มิอาจเบาด้วยปัญญาคชสาร
ทั้งเข้มแข็งแกร่งดั่งหินบาดาล
ไม่สะท้านยามกระทบสบทุกข์ภัย

สัญลักษณ์ช้างไทยในความเชื่อ
ก็มากมายล้นเหลือความยิ่งใหญ่
พุทธวรรณกรรมนำจิตใจ
สถิตในวิถีชีวิตคน

อนุรักษ์ไว้เถิดให้เฉิดฉาย
อย่าทำลายรากเหง้าราวสับสน
เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญกำลังพล
ออกศึกสู้ผจญในสงคราม.

เอราวัณ..เจ้าแห่งช้างทั้งปวงในสากลจักรวาล

ปรากฎในวรรณกรรมนำเล่าขาน
เป็นตำนานพาหนะพระโกสีย์
มีรูปลักษณ์กายสีเผือกทั้งอินทรีย์
พละกำลังมากมีกว่าผู้ใด

มีงา ๔ งวง ๓ ตามคำกล่าว
พระเศียรราว ๓๓ ร่างสูงใหญ่
ถือเป็นเจ้าแห่งช้างทั่วแดนใน
สากลโลกไซร้ให้ยินดี

เป็นสัญลักษณ์ความสมบูรณ์และพูนสุข
สะท้อนยุคสมัยทุกถิ่นที่
เสริมสิริมงคลความโชคดี
บารมีเพิ่มพูนพ้นผองภัย

สัญลักษณ์ในเชิงศาสนา
ชาวประชาสักการะความยิ่งใหญ่
ต่างขอพรเป็นที่พึ่งทางจิตใจ
ตามความเชื่อที่กล่าวไว้ให้ศรัทธา

พิพิธภัณฑ์ยังมีที่จัดตั้ง
ประติมากรรมงามดั่งเทพรักษา
อาคารแยก ๓ ชั้นต่างมรรคา
จัดตามจิตจินตนาผู้จัดแสดง

จึ่งกลายเป็นรากเหง้าแห่งชีวิต
ทั่วทุกทิศแดนไทยทุกหนแห่ง
คือเส้นทางดำเนินดังลายแทง
กลับสู่แหล่งที่มาอย่างชัดเจน.

.

คัมภีร์คชลักษณ์

มรดกภูมิปัญญาตำราช้าง
เผยข้อมูลสรรค์สร้างตามเอกสาร
อยู่คู่ชาติเมื่อครั้งแต่โบราณ
แลคู่บ้านคู่เมืองมานานเนา

มีชื่อเรียกคัมภีร์คชลักษณ์
เพื่อประจักษ์ที่มาช้างทุกเหล่า
ศุภลักษณ์ ทุรลักษณ์ ตามคาดเดา
ตำราเก่าเล่าขานตามลักษณา

กำเนิดช้าง ๔ ตระกูลตามบันทึก
๔ วรรณะตราตรึกควรศึกษา
วรรณะกษัตริย์ วรรณะพรหมา
วรรณะแพศย์และศูทรากรรมกร

ในวรรณะยังแบ่งออกอีกหลายหมู่
เพื่อเรียนรู้การจำแนกตามคำสอน
ต่างหน้าที่ ต่างที่มา ซึ่งกุญชร
กรมศิลปากรผู้จัดทำ

เพื่อคงไว้ซึ่งการอนุรักษ์
พึงตระหนักถึงคุณค่าอย่าเหยียบย่ำ
ร่วมสืบทอดความรู้ดั่งผู้นำ
คชกรรม คชลักษณ์ ประจักษ์ความ

รายละเอียดมากคุณค่าตำราช้าง
ใช่กล่าวอ้างเลื่อนลอยเมื่อไถ่ถาม
ทุกอย่างล้วนมีที่มาอยู่ทุกนาม
กล่าวไปตามคัมภีร์คชลักษณ์.

เจ้าพระยาปราบหงสาวดี

" เจ้าพระยาปราบหงสาวดี "
แต่เดิมทีเรียก"พลายพุทรากระแทก"
ชาวกรุงเก่าขานไว้มิได้แปลก
บ้างเรียกแยก"พลายภูเขาทอง"

เป็นช้างคู่พระบารมีในพระนเรศ
สร้างชื่อเสียงท่ามเขตไทยทั้งผอง
ชนะศึกยุทธหัตถีท้าประลอง
ความกล้าหาญประกาศก้องทั้งแผ่นดิน

แม้นช้างทรงมหาราชตัวเล็กกว่า
พระมหาอุปราชายังดูหมิ่น
อาศัยยันโคนพุทราฝ่าราคิน
พระนเรศจึงปราบสิ้นราชศัตรู

หลังจากขึ้นระวางเข้าทำเนียบ
ตามระเบียบบรรดาศักดิ์ร่วมต่อสู้
"เจ้าพระยาไชยานุภาพ" ต่างเชิดชู
ความเป็นอยู่สมเกียรติเจ้าพระยา

พระราชทานนามนี้ที่กล่าวขวัญ
และให้ความสำคัญร่วมฟันฝ่า
สัญลักษณ์ความกล้าหาญที่ผ่านมา
เป็น"เจ้าพระยาปราบหงสาวดี"

มีบันทึกเป็นหลักฐานประวัติศาสตร์
ความองอาจร่วมศึกยุทธหัตถี
พระราชพงศาวดารกรุงเก่ามี
จารึกไว้ให้เรานี้ได้จดจำ.