Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ >> สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า: 1 ... 5 6 [7]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน  (อ่าน 83659 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #90 เมื่อ: 06 ตุลาคม, 2561, 06:42:36 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๓-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ เสวยผลไม้ใกล้องค์นั้น
          คิดได้พลัน “พินทุมดี” เล่า
          จักขึ้นฝั่งยังแดนใดในลำเนา
          หรือว่าเจ้าชีพวายกลางสายชล

          ๏ กิจสำคัญอันจะออกซอกซอนหา
          แม้นเหินฟ้าไปก็เห็นมิเป็นผล
          ควรจะถามความดูจากหมู่คน
          ต้องดั้นด้นให้ทั่วถิ่นทุกดินแดน

          ๏ มิเหมาะที่มีเครื่องทรงวงศ์กษัตริย์
          เที่ยวจรจัดผู้คนฉงนแสน
          เครื่องทรงนอกถอดออกมาผ้าคลุมแทน
          จึงเหมือนแม้นพราหมณ์อันรักสัญจร

          ๏ มิต้องหาอาหารชาวบ้านให้      
          ตอนกลางวันครรไลไม่หยุดหย่อน
          สืบเค้าลางนางกษัตริย์พลัดนคร
          ต้องเร่ร่อนตามหาสวามี

          ๏ ออกซอกซอนจรไปเทียวไต่ถาม
          ทุกเขตคามถามแต่แม่โฉมศรี
          กล่าวถึงรูปสมบัติกษัตรี
          จนผู้ที่ยินวาจาระอาใจ



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~

ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #91 เมื่อ: 06 ตุลาคม, 2561, 06:43:57 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๙๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



           ๏ ผู้ถามหาสารรูปซูบโซมาก
        เมื่อเอ่ยปากหามิ่งมิตรพิสมัย
        ยอดนารีที่บรรเจิดเลิศพิไล
        เหลือเชื่อได้ในคำพร่ำพรรณนา

        ๏ เพียงตอบพอขอไปทีมิมีจิต
        ที่จักคิดเป็นจริงจังเหมือนดังว่า
        มักบุ้ยใบ้บ่ายเบี่ยงเลี่ยงกายา
        บ้างคิดพ้นเป็นคนบ้านินทากัน

        ๏ จึงมิได้ความใดใครพบหน้า
        ผู้โฉมงามตามวาจาพรรณนานั่น
        แม้ซักถามพราหมณ์ทั้งหลายได้ยืนยัน
        หญิงผ่องพรรณมิเห็นมีวิถีใด

        ๏ ถึงจะถามความผู้ที่มีพบเห็น
       “พินทุมดี” ก็มิเป็นเช่นขานไข
        เพราะผิวพรรณจำแลงเปลี่ยนแปลงไป
        มิมีใครมองซึ้งถึงความงาม

        ๏ เมื่อทรงปลอมกายาเช่นทาสี
        ดังเพชรดีเปื้อนโคลนคนมองข้าม
        แลเมื่อละโสภีเป็นชีพราหมณ์
        เปลี่ยนรูปนามความนัยยากใครรู้




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รอยทรายบนสายลม, โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #92 เมื่อ: 07 ตุลาคม, 2561, 03:28:39 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ คนเรามักมองพักตราผ้าสวมใส่
          เป็นฉันใดแล้วแยกจำแนกหมู่
          กิริยา วาจา ใจมิได้ดู
          บางคนหลู่ผู้ผิวกายไร้โสภา

           ๏ เขาจะดีมีคุณใดไม่เกิดผล
           เพราะเริ่มต้นก็หยามหมิ่นคนสิ้นค่า
           แยกเลว ดี ขี้เหร่ สวยด้วยสายตา
           เปื้อนธุลีตีตราคนราคิน

          ๏ พระบุตราพยายามตามมุ่งมั่น
          จรจรัลเรื่อยไปหลายท้องถิ่น
          จนล่วงเข้ามัทราชธานินทร์
          จึงได้ยินว่าถิ่นนี้มีโรงทาน

          ๏ จุนเจือให้ผู้ใดที่มีทุกข์ยาก
          แม้นอดอยากจาคะกระยาหาร
          ที่พึ่งพาบรรดาคนพิกลพิการ
          ผู้แรมรอนจรผ่านมีบ้านพัก

          ๏ “สมุทรโฆษ” ลิงโลดใจมุ่งไปหา
          เพื่อเล่าสู่ผู้ไปมาน่ารู้จัก
          โฉมฉิน “พินทุมดี” ที่แสนรัก
          คอยถามทักเรื่อยไปตามรายทาง


 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #93 เมื่อ: 07 ตุลาคม, 2561, 03:29:32 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๙๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ เมื่อมาถึงโรงทานดังมั่นหมาย
       คนมากมายเต็มในโถงใหญ่กว้าง
       แถวลำดับรับอาหารเดินผ่านพลาง
       แล้วตั้งวางกินกันโรงชั้นใน

        ๏ ที่อิ่มหนำสำราญกันทั้งหลาย
        เริ่มแยกย้ายร่วมอีกหมู่สู่โรงใหญ่
       เพื่อรับทรัพย์โภคภัณฑ์สิ่งอันใด
       ที่ตั้งใจขอรับสำหรับตน

        ๏ ขณะนั่งรอในโถงใหญ่นั้น
       กิจสำคัญมั่นไว้เพื่อหมายผล
       ผู้รับทานทั้งหลายยังได้ยล
       ภาพวาดบนผนังข้างศาลา

          ๏ “สมุทรโฆษ” ครานั้นพลันพินิจ
        มิทันคิดชมภาพศิลป์จินต์หรรษา
        เมื่อดูไปคล้ายชีวาตม์อาตมา
        จึงย้อนพิจารณาอย่างจริงจัง

        ๏ เริ่มแต่เทพอุ้มสมภิรมย์รัก
        สุขยิ่งนักเพียงราตรีที่สมหวัง
        แล้วความฝันพลันสลายไม่จีรัง
        ดวงจิตยังปองหมายมิคลายคลอน


 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #94 เมื่อ: 07 ตุลาคม, 2561, 03:32:14 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๙๗-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ พระบิดามาเห็นใจให้ประกาศ
          กษัตริย์ชาติมากหน้ามายกศร
          ผู้ยกผ่านการเสร็จสมสยมพร
          ได้ครองคู่ภูธรดั่งใจจินต์

           ๏ ออกเซ่นไหว้เทวาในป่าลึก
          ความรู้สึกชื่นชมสมถวิล
          พิทยาธรเจ็บมากจากเมฆินทร์
          ร่วงลงดินช่วยไว้ได้ขรรค์ชัย

           ๏ ด้วยเดชะพระขรรค์นั้นสูงค่า
           นำเหินฟ้าสู่แดนไกลใดก็ได้
           จึงชวนชมหิมพานต์อันพิไล
           เริงอยู่ในพนาวันนั้นเนานาน

            ๏ แสนตื่นตาสารพัดอัศจรรย์
          สัตว์ พฤกษ์พรรณนานาหาศาล
         สระเทโวอโนดาตพิลาสธาร  
         ปทุมมาลย์ดาษดื่นแสนรื่นรมย์

          ๏ ชมบรรพตกำหนดหมายถึงไกรลาส
          คีรีมาศนคราน่าสุขสม
          ปราสาทรายหลายหลากมากเกินชม
           ถลาลมกลับวนหิมพานต์



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #95 เมื่อ: 11 ตุลาคม, 2561, 09:04:45 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๙๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ มากมายยิ่งสิ่งล้วนชวนประพาส
        ธรรมชาติสรรค์ศิลป์ถิ่นสถาน
        ขุนคีรีที่สูงเยี่ยมเทียมวิมาน
        พิสดารทั่วไปในแดนดิน

        ๏ ชมพงไพรในมุมมองของปักษา
        เหินนภาเที่ยวไปได้ทุกถิ่น
        แสนเพลิดเพลินเนิ่นนานปานเทวินทร์
        ดั่งลืมดินมั่นนักในศักดา
 
         ๏ หิมพานต์อันพิไลท่องไปทั่ว
        มิคิดกลัวทางไกลในแดนป่า
        วันหนึ่งเพลินท่องไพรให้เหนื่อยล้า
        แวะคูหาหนึ่งนอนพอผ่อนคลาย

        ๏ เคลิ้มหลับไปไม่นานนักพักกลางวัน
        เมื่อตื่นมาครานั้นพระขรรค์หาย
        พลันหัวอกตระหนกล้นกระวนกระวาย
        เมื่อรู้ว่าต้องพากายเดินสายไพร

        ๏ อนิจจาชะตาผันฝันสลาย
        สุดมาดหมายกลับยังเวียงวังได้
        มิรู้ทิศรู้ทางย่างครรไล
        ก็จำเป็นจำไปเดินในดง
-๙๙-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ พบธารากลางป่าใหญ่น้ำไหลล่อง
          เราทั้งสองนั่งท่อนไม้คล้ายบุญส่ง
          ผ่านหลายวันเวลาน้ำพาลง
          สู่สมุทรสุดจำนงคะนึงคะเน

          ๏ ตกชะตาวาระทะเลบ้า
          คลื่น ลม ฟ้าผลักไสให้หักเห
          ไม้ขาดกลางร่างแยกไกลในทะเล
          ต้องว้าเหว่อ้างว้างกลางธารา

          ๏ เมื่อชายที่ฝากชีวามาไกลจาก
          การจำพรากทั้งแสนรักเศร้านักหนา
          ชีพยังรอดหรือวอดวายในคงคา
          อนิจจาความหวังช่างมืดมน

          ๏ สิ้นสติมิรู้นานสักปานไหน
          น้ำซัดให้ขึ้นฝั่งอย่างกุศล
          มิย่นย่อต่อเวรกรรมหรือจำนน
          จึงดั้นด้นตามหาสวามี

         ๏ แต่จะไปในฐานะขณะนั้น
          อาจผกผันปัญหาพาเสื่อมศรี
          ยามเดินเดี่ยวชายเกี้ยวพาเกิดราคี
          จึงบวชชีพราหมณ์ให้ไร้มัวมล



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, พิณจันทร์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #96 เมื่อ: 11 ตุลาคม, 2561, 09:06:49 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เข้านครจรไปไต่ถามหา
        ภัสดาภูบดินทร์สิ้นทุกหน
        จากนั้นมาพบตายายใจดีล้น
        ให้พักตนร่วมเคหาตั้งตารอ

        ๏ ในที่สุด “สมุทรโฆษ” ถึงโอดไห้
        ดวงฤทัย“พินทุมดี” ของพี่หนอ
        ปากเพ้อพร่ำร่ำหาน้ำตาคลอ
        เกิดทุกข์ท้อเกินจักหักอาวรณ์

        ๏ ผ่านสักพักพนักงานแจกทานอยู่
        เมื่อรับรู้เช่นที่นายกล่าวไว้ก่อน
        เธอจึงได้รายงานนางอย่างรีบร้อน
        มีคนจรเห็นภาพวาดอนาถใจ

        ๏ “พินทุมดี” ชื่นชีวันพลันมาพบ
        เมื่อประสบกับพระองค์สิ้นสงสัย
        นำพาออกนอกโรงทานเข้าบ้านใน
        แล้วจึงได้ละเพศที่เป็นชีพราหมณ์

        ๏ และถวายเครื่องทรงพระภูษา
        เตรียมรอท่าอย่างดีไม่ผลีผลาม
        สองพระองค์ทรงคืนมาสง่างาม
        เมื่อสิ้นความที่กระทำการจำแลง
-๑๐๑-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ แสนตื้นตันพลันสองตระกองกอด
         แลพร่ำพลอดรำพันพร้อมกรรแสง
         กายพรากไกลไม่อาจผลักรักเปลี่ยนแปลง
         คงฤทธิ์แรงสวาทมิคลาดคลาย

        ๏ ผลัดกันเล่าเรื่องราวคราวพลัดพราก
         ความทุกข์ยากร้าวรานการณ์ทั้งหลาย
         คลื่นทะเลเหห่างแทบวางวาย
         รักมิกลายปรารถนามาพบกัน

        ๏ ด้วยบุญดลกุศลชูจึงอยู่ยั้ง
         ได้กลับคืนชมชื่นดังที่ใฝ่ฝัน
         สิ้นเคราะห์กรรมเสียทีหนอชีวัน
         ถึงกาลอันควรคืนหลังยังพารา

          ๏ ป่านฉะนี้ปิตุรงค์ มาตุราช
         ปวงพระญาติทั้งผองสองวงศา
         ที่อยู่หลังกังวลใจไปนานา
         ด้วยลับลามาไกลไร้ข่าวคราว        
  
        ๏ จักคืนถิ่น “พินทุมดี” มีบรรหาร
         ให้แม่บ้านเชิญยายตามาแล้วกล่าว
         ถึงความจริงทุกสิ่งสรรพ์อันยืดยาว
         ทั้งแจ้งข่าวที่ต้องพรากจากกันไกล



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, พิณจันทร์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #97 เมื่อ: 11 ตุลาคม, 2561, 09:12:27 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



        ๏ “อันเงินทองของมีค่าคณานับ
        หมายนำกลับยังพาราก็หาไม่
        ขอแบ่งสรรปันกองสองส่วนไซร้
        กึ่งหนึ่งให้ยายมอบตอบแทนคุณ

        ๏ อีกกึ่งนั้นวานยายแจกจ่ายต่อ
        สิ่งที่ขอโปรดด้วยช่วยเกื้อหนุน
        ผู้ยากไร้จงได้เอื้อช่วยเจือจุน
        ร่วมสร้างบุญด้วยกันมิผันแปร”

        ๏ ยายรับปากฝากคำแล้วย้ำว่า
        “ขออาศัยไปประสายายตาแก่
        เพียงรับงานการเป็นผู้คอยดูแล
        ทรัพย์ทั้งหลายมิหมายแท้จักให้ทาน”

        ๏ ร่วมอนุโมทนาแล้วลาจาก
        เมื่อจบคำจำพรากจากถิ่นฐาน
        ครั้นลับตาคราไปไกลเรือนชาน
        สองพระองค์ทรงทะยานขึ้นเมฆี

        ๏ ลอยล่องลิ่วปลิวลมดั่งพรหมมาสตร์
        มิเคลื่อนคลาดจำนงตรงวิถี
        โดยเร็วพลันบรรลุถึงบุรี
        ขึ้นเฝ้า “สีหนรคุปต์” ราชัน
-๑๐๓-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ ทั้งองค์พระราชา ราชินี
          ทรงยินดีปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
          ประกาศข่าวชาวพารามาร่วมกัน
          งานรับขวัญจัดยิ่งใหญ่ในนคร

          ๏ “สมุทรโฆษ - พินทุมดี” มีสุขสม
          รื่นอารมณ์สมอุราเหมือนคราก่อน
          นึกขึ้นได้ให้สัญญาว่าจะย้อน
          เมืองบิดร “พินทุทัต” ผลัดวันมา

          ๏ ทูลลา “สีหนรคุปต์” ท้าว
          ยินเสียงกล่าวคำเปรยเอ่ยขึ้นว่า..
          “อย่าไปนานควรแก่กาลคืนพารา
          ทำพิธีราชาภิเษกพลัน

          ๏ ด้วยบิดาชรามากอยากสละ
          ซึ่งราชสมบัติรัฐเขตขัณฑ์
          หมายกำหนดเป็นนักพรตในอรัญ
          ครองชีวันสงบวัยปลายชีวี”

          ๏ แล้วมีพระบัญชาเสนามาตย์
          จัดเตรียมราชยาตราสง่าศรี
          เพื่อเดินทางไปยัง “พรหมบุรี”
          ให้เป็นที่สมพระเกียรติเกริกไกร



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, พิณจันทร์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #98 เมื่อ: 12 ตุลาคม, 2561, 01:06:12 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ กองช้างศึกเคยฮึกหาญชาญณรงค์
        แต่งเครื่องทรงชูธงทิวปลิวไสว
        กองอัศวทหารผู้ชาญชัย
        แต่งยศใหญ่หมวกยอดพู่ดูโสภี

        ๏ เหล่าพลราบปราบริปูผู้เหี้ยมหาญ
        ประจำการโห่ร้องก้องวิถี
        ทั้งสองแถวแนวมรรคาประชาชี
        ร่วมยินดีส่งเสด็จถึงชายแดน

        ๏ ครั้นถึงเขต “พรหมบุรี” มีพหล
        เป็นกองพลเมื่อทราบความตามแห่แหน
        ประชาชีดีใจหาใดแม้น
        ชมบุญญาหนาแน่นถึงวังใน
 
         ๏ “ท้าวพินทุทัต - นางเทพยธิดา”
        ความห่วงหาเลือนหายกลายสดใส
        ตั้งตารอจนแทบท้อหฤทัย
        สองพระองค์ทรงเดินไพรไปนานครัน

         ๏ เมื่อเข้าเฝ้าเล่าความยามที่จาก
        ทนทุกข์ยากเดินทางกลางไพรสัณฑ์      
        บุญช่วยดลกุศลส่งคงชีวัน
        แม้ผกผันห่างหายหลายเพลา



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #99 เมื่อ: 12 ตุลาคม, 2561, 01:07:16 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ พระบิดร พระมารดามารับขวัญ
          ราชบุตรพร้อมกันพระสุณิสา
         “สิ้นเคราะห์โศกมีโชคชัยให้วัฒนา
          แต่วันนี้ถึงภายหน้าสถาวร

          ๏ จะให้มีพิธีราชาภิเษก
          เป็นงานเอกใหญ่กว่าที่มีมาก่อน
          ตั้งให้ลูกทั้งสองครองนคร
          เป็นมิ่งขวัญราษฎรสืบต่อไป”

           ๏ ครานั้น “สมุทรโฆษ - พินทุมดี”
          เมื่อทรงมีพระเมตตามิช้าได้
          กราบถวายพระบังคมราชาชัย
          รับหน้าที่อันมีในสันตติวงศ์

          ๏ “พินทุทัต” ออกหมายกำหนดการ
          ให้จัดงานพระราชพิธีที่ประสงค์
          เชิญพระญาติกามาทุกองค์
          เจตจำนงประจักษ์สักขีพยาน

          ๏ ทั้งราชาสหายหลายแว่นแคว้น
          ผู้ครองแดนใกล้ไกลอันไพศาล
          ลุวาระราชกุศลมงคลวาร
          ทำพิธีที่โอฬารกลางเวียงวัง



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #100 เมื่อ: 13 ตุลาคม, 2561, 08:41:13 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ ราชาภิเษกสถาปนา
       “สมุทรโฆษ” เป็นราชาเหมือนใจหวัง
        สืบราชสกุลไปให้ยืนยัง
        ครองบัลลังก์สร้างพาราสถาพร

        ๏ “ลูกพานพบประสบการณ์เป็นฐานอยู่
        ที่เรียนรู้ถือครุอุทาหรณ์
        ไว้ปกครองป้องอาณาประชากร
        สิ้นเดือดร้อนกังวลพ้นทุกข์ภัย

        ๏ เป็นมิ่งขวัญปวงชนมณเฑียรรัตน์
        มงคลนามงามจรัสนิรัติศัย”
       “พินทุทัต” ตรัสอำนวยอวยพรชัย
        พร้อมทั้งได้ให้โอวาทโอกาสนั้น
    
        ๏ “สมุทรโฆษ”และ “พินทุมดี”
        ครองธานีปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
        แต่มีห่วงล่วงกาลมินานวัน
        นึกถึงคำสำคัญก่อนวันมา

        ๏ “สีหนรคุปต์” สั่งเอาไว้
        อย่าอยู่ให้เนิ่นกาลนานนักหนา
        จึงย้อนคืนยัง “รมยพารา”
        ตามสัญญาว่าไว้ไม่นานวัน



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #101 เมื่อ: 13 ตุลาคม, 2561, 08:42:18 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๐๗-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ จึง “สีหนรคุปต์” ท่านไท้
          ราชาภิเษกให้ครองไอศวรรย์
          สถาปนา “สมุทรโฆษราชัน”
          ครอง“รมยนคร” นั้นอีกหนึ่งเมือง

          ๏ ทรงเสด็จไป มามิอาธรรม์
          ยิ่งสร้างสรรค์สองเวียงชัยให้ฟูเฟื่อง
          องค์ราชาเมตตาธรรมงามประเทือง
          ชนลือเลื่องเชิดเดชะเกริกขจร
 
           
           ๏ “พระนางพินทุมดีราชินี”
          มั่นภักดีในองค์พระทรงศร
          คงจาคะสละทานชานบัญชร
          ทั้งสองพระนครตั้งโรงทาน

          ๏ ร่วมสร้างคุณบุญญาบารมี
          ยิ่งนานปีเกริกไกรแผ่ไพศาล
          ทรงครองราชย์โดยธรรมยิ่งยืนนาน
          จนถึงกาลสองพระองค์ทรงชรา

          ๏ เมื่อทั้งสองพระองค์สิ้นอายุขัย
          บำเพ็ญบารมีใหม่ในภพหน้า
          นิทานชาดกนี้วิสัชนา
          หมดกถาเพียงนี้โชคดีเอย



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า: 1 ... 5 6 [7]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.202 วินาที กับ 126 คำสั่ง
กำลังโหลด...