Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
กลอนเศร้า
>>
~ดาวอับแสง~
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ~ดาวอับแสง~ (อ่าน 6126 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
masapaer
หนึ่งวินาทีในหัวใจคน..ไม่เท่า
บรรณารักษ์
ออนไลน์
กระทู้: 1078
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณ คือรางวัลอันยิ่งใหญ่
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
~ดาวอับแสง~
«
เมื่อ:
09 พฤษภาคม, 2559, 09:51:51 PM »
หน้าแรก
~ดาวอับแสง~
~ดาวอับแสง~
แสงสวรรค์สรรค์สร้างสว่างหรือ
แสงไฟสื่อสีสันร้อยพันสาย
ดอกนีออนซ้อนเหลื่อมกระเพื่อมพราย
กลบดาวรายเกลื่อนฟ้าแสงลาจาง
หลากสีสันแต่งแต้มแซมเมืองใหญ่
ตระการใจใครคนยลเมืองกว้าง
แสงดาราหม่นหลัวมัวเลือนราง
แนบซอกใจมีบ้างหรืออย่างไร
แสงสีนวลชวนมองไยหมองหม่น
เช่นบางคนหม่นมานนั้นไฉน
กี่เพลาดาวเมืองเรืองแสงไกล
จะดับไฟมืดลงตรงราตรี
ให้แสงนวลน้อยหนึ่งพึงกะพริบ
หวังกระซิบแสงแลแม้ริบหรี่
เพียงโอกาสวาดฝันอันน้อยมี
สู่ใจเธอคนดีนี้เพียงคราว
ณ เบื้องบนดาดฟ้าราตรีล่อง
เธอจะมองท้องถนนหรือบนหาว
มองที่ใดไฟส่องหรือมองดาว
ที่แสงจางรอคราวดาวอับแรง
คงจะมีเพียงฝันอันน้อยหนึ่ง
ไฟเมืองถึงซึ่งคราวดับเงาแสง
หวังเพียงเธอมองดาวคราวฟ้าแปลง
รอแสดงแสงนวลยวนใจเธอ..
...แค่นาที..
~พิณนรี~
8/12/2010
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ชลนา ทิชากร
,
รพีกาญจน์
,
อ้ายอ่ำ
,
โซ...เซอะเซอ
,
Wirin
,
กวินพัฒน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"masapaer"ค่ะ~
~สติตัวเดียวก็เอาอยู่~
ชลนา ทิชากร
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 736
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
Re: ~ดาวอับแสง~
«
ตอบ
#1 เมื่อ:
11 พฤษภาคม, 2559, 06:45:08 PM »
หน้าแรก
Re: ~ดาวอับแสง~
แสงสวรรค์พรรณรายฉายส่องหล้า
เหม่อมองฟ้าพาเศร้าเหงาเสมอ
คิดเรื่องราวคราวก่อนหลอนละเมอ
น้ำตาเอ่อเหม่อมองจ้องฟ้าพราว
หลากสีสันวันวานร้านเลิศหรู
นั่งเคียงคู่อยู่เคล้าเอาใจสาว
งามแสงไฟใสผ่องส่องสกาว
ยิ่งกว่าดาวพราวฟ้าคราเด่นดวง
แสงสีนวลชวนน้องจองอาหาร
ตักใส่จานขานไขด้วยใจห่วง
เบียร์ฟูฟ่องฟองพราวหนาวเหน็บทรวง
เริ่มเคลิ้มง่วงหน่วงตาอ่อนล้าใจ
ให้แสงนวลยวนใจในห้องหรู
หมอนเคียงคู่หรูหราน่ารักใคร่
เขาทรุดนั่งรั้งเราเข้าซุกไซ้
หวิวทรวงในไหวหวั่นสั่นระรัว
ณ เบื้องบนหม่นหมองเหม่อมองฟ้า
เช็ดน้ำตาบ่าไหลไฟสลัว
ดาวอับแสงแหนงหน่ายชายน่ากลัว
เผลอลืมตัวมัวหมองมองมืดมน
คงจะมีที่ใหม่ให้คลอเคล้า
เขาลืมเราเศร้าหมองหายล่องหน
ฟ้ามืดมนหม่นมัวทั่วสกล
น้ำตาหล่นหม่นไหม้คืนไร้ดาว
ชลนา ทิชากร
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ
,
อ้ายอ่ำ
,
รพีกาญจน์
,
masapaer
,
Wirin
,
กวินพัฒน์
บันทึกการเข้า
masapaer
หนึ่งวินาทีในหัวใจคน..ไม่เท่า
บรรณารักษ์
ออนไลน์
กระทู้: 1078
รอยยิ้มและเสียงหัวเราะของคุณ คือรางวัลอันยิ่งใหญ่
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ~ดาวอับแสง~
«
ตอบ
#2 เมื่อ:
13 พฤษภาคม, 2559, 08:38:30 PM »
หน้าแรก
Re: ~ดาวอับแสง~
~เพียงข้ามคืน~
แสงอันน้อยค่อยอ่อนซ่อนความหม่น
กึ่งระคนค้นถึงซึ่งห้วงหาว
ถิ่นประกายรายล้อมรัตน์พร้อมพราว
ส่องสกาวเจ้าถิ่นปิ่นอำไพ
งามเพียงคืนเดือนดับยออับแสง
เด่นเพียงคืนสิ้นแรงแสงแขไข
สวยเพียงคืนพ้นวันอันอุ่นไอ
ผ่องเพียงในราตรีที่มืดดำ
หายเลือนรางจางลาคราฟ้าใส
งามประไพมีค่าเพียงป่าถ้ำ
รอจังหวะประกายเริงร่ายรำ
เมื่อเวลากลางค่ำย่ำราตรี
นวัตกรรมธรรมชาติอันดาษดื่น
แต่มิตื่นฝืนวัฒน์รัฐกรุงศรี
ประติมากรรมวัตถุสู่ธานี
นิรมิตแสงคลี่ที่งามตา
ล่อลวงนัยน์หวนทิศพิศสีแสง
ตระการแจ้งจำรัสอันจัดจ้า
สิ้นเสียแล้วแวววันขวัญดารา
คนเขาคว้าชมชื่นดื่นดวงไฟ
คงจะเห็นดาวดวงช่วงสว่าง
บัดสิ้นร้างแสงสีนี้ใช่ไหม
ดาวจะผลิบานเด่นเพ็ญวิไล
เมื่อดาวใหญ่ไฟดับอับกลางเมือง
แสงดาวฤา จะเท่าสปอร์ตไลท์..อิอิ
(งานเก่านะคะ แต่บังเอิญรับสัมผัสพอดีค่ะ ขออภัยที่ขี้โกง งานกำลังจะเข้าจะต่อกลอนสดคงอืดๆนิดค่ะ)
09 ธันวาคม 2010
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์
,
ชลนา ทิชากร
,
อ้ายอ่ำ
,
Wirin
,
โซ...เซอะเซอ
,
กวินพัฒน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"masapaer"ค่ะ~
~สติตัวเดียวก็เอาอยู่~
ชลนา ทิชากร
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 736
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
|
Re: ~ดาวอับแสง~
«
ตอบ
#3 เมื่อ:
13 พฤษภาคม, 2559, 10:54:37 PM »
หน้าแรก
Re: ~ดาวอับแสง~
แสงอันน้อยพลอยลับดับสนิท
มิคาดคิดชิดกายหมายปลดเปลื้อง
ใจวูบหวั่นสั่นไหวให้ขุ่นเคือง
เราหาเรื่องเปลืองตัวมั่วผู้ชาย
งามเพียงคืนตื่นเช้าเขามองเห็น
ไม่ตื่นเต้นเย็นชาน่าเบื่อหน่าย
เพียงข้ามคืนขื่นขมตรมมิวาย
ต่างแยกย้ายบ่ายหน้าไม่กล้ามอง
หายเลือนรางกลางฟ้าอาทิตย์แจ่ม
สวยแฉล่มแต้มฟ้าจ้าแสงส่อง
งามข้ามวันพลันลับดับแสงทอง
จันทร์เรืองรองส่องฟ้ายามราตรี
นวัตกรรมลำค่าจ้าแสงใส
แสงอำไพไฉไลไฟแสงสี
แสงงามผ่องส่องสว่างกลางธานี
ดาวลิบหรี่หนีหายคล้ายลับดวง
ล่อลวงนัยภัยร้ายชายเจ้าชู้
มีเมียคู่อยู่เคล้าเฝ้าเป็นห่วง
เปลี่ยนรสชาติมาดร้ายชายหลอกลวง
หญิงไม่หวงห่วงตัวมั่วโลกีย์
คงจะเห็นเด่นตาน่าเคารพ
มีพานพบจบจากพรากหลีกหนี
เพียงข้ามคืนขื่นขมตรมฤดี
ชายเขามีที่ห่วงดุจดวงใจ
ชลนา ทิชากร
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
อ้ายอ่ำ
,
รพีกาญจน์
,
Wirin
,
โซ...เซอะเซอ
,
กวินพัฒน์
,
masapaer
บันทึกการเข้า
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> ห้องศิลปวัฒนธรรม
===> หมวดการท่องเที่ยว
===> หมวดอาหาร
===> หมวดศิลปกรรม
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...
