...สิ่งที่เห็นอาจมิเป็นเช่นที่คิด
ความถูกผิดอาจมิใช่สิ่งหมายมุ่ง
สรรพสิ่งซ่อนแฝงการแต่งปรุง
เป็นสายรุ้งตามจริตที่บิดเบือน
...เช่นแสงสีจัดสรรให้สวยสะ
แล้วให้กระทบกับการขับเคลื่อน
ของสัมผัสแห่งจิตคอยติดเตือน
ให้แชเชือนชิงชังหรือคลั่งไคล้
...ว่ารูปสวยหรือทรามสู่ความคิด
ต่างมีสิทธิ์ชมชอบฤามิใช่
หากส่วนรวมสวมสิทธิ์ตามจิตใด
หรือจริตมิผิดไปจากความจริง
...อาจเห็นถูกเป็นผิดตามจิตบอก
โลกก็จึงลวงหลอกและกลอกกลิ้ง
ใส่หน้ากากติดกายละม้ายลิง
ความยุ่งขิงจึงมิคลายไปจากคน
...
อย่าจริงจังกับตัวอักษรครับ
ของเล่นทั้งนั้น...จ๊ะ
เพียงอักษร กลอนคลุก สนุกด้วย
จะรูปสวย ฤาทราม ตามสนน
สรรพสิ่ง เพียงผาด อาจกมล
ให้สับสน ตีค่า ราคามอง
หากอักษร กลอนกานท์ มานวิจิตร
คราพินิจ ชิดยล ดลสนอง
เห็นสิ่งเร้า เนาใน ฤทัยตรอง
คล้ายจำลอง หลอมพจน์ รจนา
ขอร่วมสนุกกับตัวอักษรด้วยนะครับ
Soul Searcher
ท่องไป..ในบู้ลิ้มด้วยใจรัก
กายเสียบฝักกระบี่ไว้ที่บ่า
ท่องทั่วนอนเหนือใต้ไพรพนา
แขนหนีบไหสุรามานานเนา
จอกหนึ่ง สองจอก..เอ้าอีกจอก
ชนกันให้กระฉอกด้วยจอกเหล้า
ท่องหล้าหาสหายได้มึนเมา
เหลือไหเปล่าเมื่อไรแยกย้ายนอน
..
เอ้า..กรึ้บๆๆๆๆ
ข้าน้อยขอ นบน้อม จ้าวจอมยุทธ์
คมประดุจ กระบี่ คลี่อักษร
อิงแอบคำ ธรรมบท รสสุนทร
ร้อยเรียงกลอน ไพเราะ เสนาะยิน
คาราวะ หนึ่งจอก บอกนับถือ
สองจอกคือ ปล่อยวาง ทั้งหยางหยิน
สามจอกออก อารมณ์ ผสมจินต์
สี่จอกสิ้น กระบวน ม้วนเสื่อนอน
...จะขอคาราวะสักไห ก็ยังเกรงใจ
วันนี้ขอสักสี่จอกก่อนนะครับ
ยินดีที่ได้รู้จักและขอขอบพระคุณ
ที่ร่วมต่อกลอนกันครับ...
Soul Searcher
แต่ละซดสุราเปรียบฟ้าหลั่ง
เติมพลังแรงใจจนไหวว่อน
ปานอุทกตกหลากฝากสาคร
สาดอักษรกับสระเคล้าคละกัน
เช่นไม้ท่อนตามทุ่งและคุ้งน้ำ
รอคอยล่องลอยลำไปตามฝัน
ท่องเที่ยวเดียวดายจากไพรวัลย์
ผ่านอาทิตย์ผ่านจันทร์ไม่คณนา
.
เราก็เป็นเช่นคล้ายกับไม้ท่อน
ที่ซุกซ่อนคมเสี้ยนมากมหา
หนึ่งเสี้ยนคือหนึ่งซึ่งศาสตรา
ชักออกมาเป็นคำให้คมคาย
.
กวัดแกว่งดั่งทวนคู่เป็นพู่กัน
แต่งแต่มสีสันให้หลากหลาย
แล้วร่ำร้องบรรเลงวาดลวดลาย
จรดกลายปรากฏเป็นบทกลอน
.
ยินดียิ่งครับ..ผม
อันสุรา นารี มีแสลง
แม้เพิ่มแรง อ่อนไหว ฤทัยหลอน
ครามิเสพ ขื่นขม ห่มอาวรณ์
ดุจภมร โหยหา ช่อมาลี
หากว่ากาย คล้ายเห็น เช่นท่อนไม้
คลาเคลื่อนใน คุ้งคาม ตามวิถี
ผ่านทุกข์ยาก หลากหลาย สายนที
เปรียบฤดี เปี่ยมวาย ปลายเสี้ยนแทง
คราเยื้องย่าง วางกลอน สุนทรกล่าว
รายเรียงราว แย้งแยก แตกแขนง
หากเสี้ยนคา ปักใจ ใส่สำแดง
ส่งเป็นแรง บันดาล ผ่านพจี
ยลยินกลอน ชำแรก แทรกแง่คิด
ฟุ้งจริต ติดตาม งามวสี
ดื่มด่ำพจน์ รดหลั่ง ดั่งวารี
ชื่นชีวี สุขสม อารมณ์กลอน
Soul Searcher
Inspired to write 25/10/2016
แต่ละหยดบทบาทที่หยาดหลั่ง
ซ่อนพลังแรงใจของไม้ท่อน
แต่ละคิดแต่ละเขียนคือละคร
สรรสระและอักษรจากก้อนจินต์
.
แม้นมิถึงซึ่งกวีมากมีชื่อ
ทุกคำคือลำแสงแห่งสีศิลป์
แม้นมิเฟื่องเรื่องลือระบือบิล
ก็เผยสิ้นถึงฤดีคีตกานท์
.
ที่พร่ำพร้องก้องใจเป็นลายหมึก
ผูกติด,จิตสำนึกอย่างฮึกหาญ
แม้เป็นกวินแค่จินตนาการ
แต่ก็ใช้จิตวิญญาณมากลั่นคำ
.
ที่ละน้อยทีละนิดความคิดนึก
ของรู้สึกโศกเศร้าจากเช้าค่ำ
แต่ละกรีดมีดไม้ที่ร่ายรำ
คือระบำของหัวใจผู้ร่ายเอง
.
จะหวีดหวิวพลิ้วไหวหรือไร้รส
ความจืดชืดปรากฏในบทเร่ง
ท่านผู้ชมชื่นชังเหมือนฟังเพลง
ร่วมบรรเลงลีลาสร้างอารมณ์
.
ชอบมิชอบมอบให้ด้วยใจรัก
สานสลักอักษราอย่างสาสม
จากในทรวงดวงนั้นของพันคม
ฝากผู้ชมด้วยดวงใจผู้ร่ายเอย
.
.๐..พันคม..๐.
