Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนรัก >> โปรยปราย
หน้า: 1 2 [3] 4 5   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: โปรยปราย  (อ่าน 49723 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: ~* อาทิตย์อับแสง *~
« ตอบ #30 เมื่อ: 21 ตุลาคม, 2560, 09:24:06 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: ~* อาทิตย์อับแสง *~
อ้างจาก: สิริวตี ที่ 20 ตุลาคม, 2560, 12:01:12 PM
อ้างจาก: soul searcher ที่ 20 ตุลาคม, 2560, 09:38:23 AM



ระลอกลมลิ่วคว้างหว่างความคิด
โรมรันทั่วสารทิศไร้ปิดกั้น
พิมานเมฆฟุ้งฟ้าวิลาวัณย์
สารพันสารพัดปรัดปรารมภ์

เรื้อจันทร์แรมร้างหาราตรีหม่น
ดาวร่วงหล่นสู่พื้นรื้นรานข่ม
เยื้อนกลอนเก่าพร้อยพร่ำรำพันพรม
เพียงชื่นชมชูช่อหล่อเลี้ยงใจ...

ลอยลมระลอกริ้ว.................รำเพย
หวานแว่วอาบคุ้นเคย...........ออดอ้อน
กลิ่นแก้มกรุ่นหอมเชย..........ชิดชื่น
สุดจะฝืนดับร้อน...................ผากแผ้งคะนึงหา

จำปาลาวทัดเกล้า................แซมผม
เริงรื่นหอมชื่นฉม..................แช่มช้อย
ไออุ่นอาบผสม.....................อิ่มเอิบ นวลเอย
ครวญคร่ำเรียงคำร้อย..........ฝากเจ้าจอมขวัญ


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~


Soul Searcher
Inspired to write 20/10/2017

จำนรรจ์ขวัญฝากไว้      บทกวี
ละลิ่วล่องวิถี              หลับคล้าย
เรียงอุระวจี                มาเพื่อ ตอบนา
ใจมิเคยโยกย้าย          เกี่ยวคล้อยตามใคร

สุขใดจะเท่านี้            ที่รัก
วิสุทธิ์สามิภักดิ์           ถักร้อย
ถนอมความประจักษ์     วิเศษ นี้นา
โคลงนี้คือคำถ้อย        เผื่อร้างห่างหาย

สิริวตี

ปล. คนเล่นเปียโน กะสีไวโอลิน รุ่นพี่วตีเอง ลุงชอบเหรอ              


มิคลายจางเจตสิ้น..........ระบิลรัก
คงว่ายเวียนวนวรรค........กระหวัดซ้ำ
เวิ้งกาลเนิ่นนานนัก..........หาหน่าย
กอบเก็บรานบอบช้ำ........เชื่อมร้อยอักษร

เชลงกลอนปลดเปลื้อง......อารมณ์
สัมผัสผิวพรายพรม..........แผ่วพลิ้ว
สดับคลื่นระทม................ขมขื่น
ละล่องลอยตามริ้ว...........โศกสร้อยเสกสรร

จำนรรจ์ฤาอาจเพี้ยง.........เพลงวลี
เก่งกาจแกล้วกวี...............กล่อมเกื้อ
เสมือนมากฤทธี...............โน้มเหนี่ยว
น้าวหนักคล้อยอ่อนเอื้อ....เคลิบเคลิ้มขับขาน

วันวานพ้นผ่านแล้ว..........มิไย
หวนคิดโหยอาลัย............เกี่ยวคล้อง
จำพรากห่างเหินไกล........เกินกู่
ยังมิหยุดร่ำร้อง...............อดีตรั้งคืนถนอม

Soul Searcher
Inspired to write 21/10/2017

ป.ล. ช่าย เสียงไวโอลินเสียดซึ้งจับขั้วหัวใจยิ่งนัก






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
มนต์คำ, รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀, ธนุ เสนสิงห์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~

สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #31 เมื่อ: 21 ตุลาคม, 2560, 09:32:42 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย
ร้อยรสท่วงถ้อยวลีส่ง
เจตน์คำดำรงที่คงมั่น
คือกลอนชีวิตนิจนิรันดร์
สวรรค์คงเห็นเป็นเช่นนี้

สิริวตี



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
มนต์คำ, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #32 เมื่อ: 22 ตุลาคม, 2560, 08:43:29 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย


เสกสรรฟั่นร้อยสร้อยเกี่ยว
ผูกแน่นแก่นเกลียวเหนี่ยวชี้
กำสรดกำสรวลกวี
พาถ้อยพาทีปรีชา

รสคำร่ำครวญหวนห่วง
เสียดสรวงต่ำดินผินหล้า
สดับคมสันมันตรา
วิญญาณ์เคลิ้มคล้อยลอยลม

ลุล่วงเมืองแมนแดนฟ้า
ผู้ล้าเหนื่อยนักพักบ่ม
สู่ฝันสุขชื่นรื่นรมย์
อาศรมนักกลอนรอนแรม...

Soul Searcher
Inspired to write 22/10/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
สิริวตี, รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #33 เมื่อ: 22 ตุลาคม, 2560, 03:56:47 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย
ใจเอยเคยชื่นชมชิด
ยังคิดครวญความตามแต้ม
เติมต่อต้นรักปักแซม
ใจแจ่มจึงละเมอพลัน

โดนปลุกตอนตัวเผลอหลับ
ที่เกิดนั้นกลับเป็นฝัน
รอยยิ้มชื่นหน้า, จาบัลย์
อีกความสุขอันตรธาน

สิริวตี



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* จันทร์ *~
« ตอบ #34 เมื่อ: 23 ตุลาคม, 2560, 08:17:12 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* จันทร์ *~


~* จันทร์ *~

“...จันทร์เอ๋ยจันทร์ที่ลอยเด่นฟ้า
จะมีน้ำตาหลั่งมาเหมือนฉันบ้างไหม

คงมีวันที่จันทร์เจ้าจะเต็มใบ
แต่ว่าหัวใจฉันจะมีไหมวันนั้น

ฤารักฉันจะเป็นเพียงความฝัน
ไม่มีวันนั้น วันที่ใจเต็มดวง...”





“จันทร์คืนแรมวับแวมอยู่บนปลายฟ้า”
คงอ่อนล้า คล้อยลับกลับแมนสรวง
จะหวังแสงหิ่งห้อยก็น้อยปวง
จมสู่ห้วงอุ้งหัตถ์ รัตติกาล

มืดสลัวจับจ้องมองมิเห็น
ยากลำเข็ญนัยน์ตาพร่าเลือนผ่าน
สัมผัสอื่นอาบซึ้งติดตรึงมาน
เพียงโสตฆาน กลิ่นเสียงคลอเคียงเคล้า

ห่มละเมียดละไม เมื่อไร้ทัศน์
เหมือนไร้ข้อจำกัดรัดรึงเก่า
ขจ่างศิลป์บรรเจิดพริ้งเพริศเพรา
เชื่อมงามเงารูปพราง อย่างใจย้อม

ยามสดับ แว่วหวานกังวานยิ่ง
สัมผัสลมอ้อยอิ่ง มิ่งถนอม
หลงกรุ่นกลิ่นบุหงา กว่าดมดอม
เอิบอาบห้อมหทัย วาบไหวนัก

หลับตาปล่อยแผ่วผิวละลิ่วล่อง
ทั่วถิ่นท่องเขตแคว้น แม้นประจักษ์
จวบสุดท้ายปลายทาง หว่างใจภักดิ์
คงมั่นรักหนึ่งนี้ ที่อาวรณ์

โชยอวลอุ่นไอดินกลิ่นดอกหญ้า
เรื้ออกร้าจำพรากจากสมร
รำพึงฝากบุหลัน ร่ำ”จันทร์”กลอน
ร้าวรานรอน แรมบั่น จันทร์เต็มดวง

 



จันทร์เจ้าเอยเด่นฟ้า..............ลอยดวง
หายลับกลับคืนสรวง.............ผละหล้า
จันทร์เสี้ยวเปลี่ยวเหงาลวง....โลมจิต
เมื่อไหร่จันทร์แจ่มฟ้า.............จักแจ้งกลางใจ

อาลัยรุ่มรุกเร้า......................รานราย
เหงาข่มขมใจกาย.................แหลกแล้
ฝากลมห่มหนาวคลาย...........ทุกข์โศก
จนกว่าคืนรักแท้....................สู่เจ้าจันทร์สมร

อาวรณ์เวียนเฝื่อนเฝ้า............คะนึงหา
บอกรักจากภาษา..................จิตน้อม
ปรารมภ์ปรารถนา.................ไออุ่น อกพี่
เอื้อปลอบหายโศกพร้อม........ร่วมร้อยเคียงขวัญ

Soul Searcher
Inspired to write 23/10/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #35 เมื่อ: 23 ตุลาคม, 2560, 11:55:20 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย
คืนจันทร์จันทร์ลับหล้า         เวหน
ดาวพร่างพรายเพียงยล       แยบใกล้
ราตรีเหว่ว้าคน-                     เคียงจิต
ลิขิตเขียนฝากให้                 หนึ่งนี้นิจนิรันดร์

สิริวตี                 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #36 เมื่อ: 24 ตุลาคม, 2560, 11:45:27 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย


คืนจันทร์แรมบั่นเสี้ยว........เปลี่ยวเหงา
ชวนจิตแห้งเหี่ยวเฉา..........เหว่ว้า
ทะเลหม่นขุนเขา................เวิ้งหวั่น
มัวแต่เหม่อหมองฟ้า...........พร่ำเพ้อรำบาย

Soul




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* คิดถึง ( Gypsy Moon ) *~
« ตอบ #37 เมื่อ: 30 ตุลาคม, 2560, 07:45:58 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* คิดถึง ( Gypsy Moon ) *~


~* คิดถึง ( Gypsy Moon ) *~


“...จันทร์กระจ่างฟ้า นภาประดับด้วยดาว
โลกสวยราวเนรมิตประมวลเมืองแมน
ลมโชยกลิ่นมาลากระจายดินแดน
เรียมนี้แสนคะนึงถึงน้องนวลจันทร์

งามใดหนอ จะพอทัดเทียบเปรียบน้อง
เจ้างามต้องตาพี่ไม่มีใครเหมือน
ถ้าหากน้องอยู่ด้วยและช่วยชมเดือน
โลกจะเหมือนเมืองแมนแม่นแล้วนวลเอย...”




...เพลง “Gypsy Moon “ หรือชื่อเดิมว่า “Zigeunerweisen” หรือ “Gypsy Airs” โดย Pablo de Sarasate คีตกวีชาวสเปนได้ประพันธ์เพลงนี้ขึ้นในปี ค.ศ.1878

และเจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี ได้ประพันธ์ เนื้อร้องเป็นเพลง “คิดถึง” เมื่อ พ.ศ. 2477 (ค.ศ. 1934)...

(ขอบพระคุณ ข้อมูลจาก
http://bangkrod.blogspot.com
และ YouTube ครับ)
~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

แสงสูรย์ สูงสุดเอื้อมเงื้อมมือคว้า
ห้วงหาว ดาวโพ้นฟ้านภาแหน
รุจิเรข มลังเมลืองดุจเมืองแมน
ฤ ควรคู่ ข้นแค้นต่ำแดนดิน

งามใดหนอฉ่ำหวานกังวานแว่ว
งามเพริศแพร้วขับพ้อละออศิลป์
งามหยดย้อยแย้มอรรถระบัดจินต์
งามสุบินเฟื่องฟุ้งจรุงจาร

งามต้องตาต่างนี้หามีเหมือน
ผิ ดาวเดือนเลื่อมพรายคล้ายผสาน
สุขอักษรเพทผลดลบันดาล
เคลิบเคลิ้มปานพลัดล่วงห้วงภวังค์

นวลจันทร์พร่างกระจ่างฟ้าราตรีค้น
ดุจต้องมนต์คำสาปกำซาบสั่ง
ให้เพ้อพร่ำคร่ำครวญซวนเซซัง
มิหยุดยั้งพลั้งเอ่ยเผยความนัย

หากรสทิพย์รักซ้อนซุกซ่อนพิษ
ตราตรึงจิตดื่มกินสิ้นสงสัย
แม้นต้องตายวายวอดมอดประลัย
ด้วยเต็มใจเพราะรักจักยินยอม

ถูกศรรักปักแล้วฤาแคล้วคลาด
ชะตาขาด มิคลายหน่ายถนอม
รู้ทั้งรู้ขื่นขมนั้นตรมตรอม
ก็ยังพร้อมแพ้พ่ายแม้วายปราณ



แสงสูรย์สูงสุดเอื้อม............มือถึง
ฝืนข่มข้ามขีดขึง.................ไขว่คว้า
ถาโถมหยั่งร้าวรึง...............ยามห่าง
ขืนขัดไหวอ่อนล้า................หักห้ามใจฝัน

นวลจันทร์กระจ่างฟ้า...........ราตรี
ฉมเฉิดฉินมาลี....................มลากฟุ้ง
โฉมฉายด่ำรดี....................ประดับ
ริ้วฉาบทอแถบรุ้ง................เจิดจ้ารำบายสรวง

ดาวดวงคืนค่ำนี้..................ละลาน
สวยส่องแสงตระการ............เกลื่อนฟ้า
ระยิบระยับคาน...................จันทร์แจ่ม
ลบขื่นรื้นเหว่ว้า....................ผ่านถ้อยพะวงถึง

หวนคะนึงขณะเคล้า............โคลงครวญ
ราญจิตร้อยรัญจวน..............เจ็บช้ำ
หวานรักบ่ เรรวน.................หลอนหลอก
เยื้อนบอกย้อนตอกย้ำ..........อกละม้ายมิวายหวาม

Soul Searcher
Inspired to write 30/10/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: โปรยปราย
« ตอบ #38 เมื่อ: 03 พฤศจิกายน, 2560, 06:54:40 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: โปรยปราย


ไอแดดเวิ้งฟ้าล้าลม
ไหวอ่อนอารมณ์ห่วงหา
หว่างวุ้งวงศ์วรรณมรรคา
พัดพาคลาคล่ำร่ำครวญ

มากครั้งจิตตกหมกมุ่น
คิดครุ่นสำนึกลึกส่วน
ครั้นคราภาพฝันรัญจวน
เย้ายวนหวนใคร่คะนึง

กระหวัดกระวนกวี
พาทีถักถ้อยร้อยถึง
ราตรีเปลี่ยวเศร้าเหงาจึง
รำพึงรำเพยเปรยนวล

Soul Searcher
Inspired to write 3/10/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
มนต์คำ, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
เดือนเพ็ญ : คืนเหงากระทงครวญ
« ตอบ #39 เมื่อ: 04 พฤศจิกายน, 2560, 09:30:13 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

เดือนเพ็ญ : คืนเหงากระทงครวญ


 เดือนเพ็ญ : คืนเหงากระทงครวญ



คืนเดือนเพ็ญเด่นฟ้าราตรีเลื่อม
เกินสุดเอื้อมไขว่ค้นท้นกำสรวล
มิวายปลอบขวัญคล้อยคอยรัญจวน
ยามเซซวนจำพรากผันจากลา

กระทงคลาด ปลาตเสียงจำเรียงหมาย
หนาวลมลู่สู่กายพัดป่ายหน้า
เคยซบเอื้อไออุ่นกรุณพา
จำเหว่ว้าล่องเลี้ยวกร่างเชี่ยวชล

ทั้งคลื่มลมโถมถั่งหยั่งกระทบ
ขับพระลบหลีกร้างหว่างเวหน
พลันโดดเดี่ยวเพ้อพร่ำด้วยจำนน
ในเวิ้งวนเวียนว่ายแห่งสายธาร

หวั่นจันทร์เจ้าเพลินหลงอสงไขย
ทิ้งเยื่อใยเฝ้าปลูกผูกผสาน
คราต้องร้างห่างเหินไกลเนิ่นนาน
ฤาคำหวานรักนั้นคงมั่นยืน

หนาวลมระเรื่อยเย้า.........ยวนเพ็ญ
หนาวอกยะเยียบเย็น........ยอกย้อน
หนาวใจบ่ มิเห็น...............ขวัญอยู่
ฤาสุขใดทุกข์ร้อน.............ห่วงไห้พะวงถึง

รำพึงร่ำพจน์เคล้า............คลอจันทร์
นวลแจ่มหากสัมพันธ์........ต่างต้อง
จำหายห่างเหินกัน............พิสูจน์
คำมั่นคงจิตคล้อง.............ใช่เพี้ยงภวังค์หลง

Soul Searcher
Inspired to write 4/10/2017

ป.ล. แม้ว่าเดือนเพ็ญ เวอร์ชั่น
อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ นี้ได้ถูกนำมาลงหลายครั้ง
แต่ขณะแต่งกลอนไป ใจก็หวนคิดถึง
จึงขอนำมาลงอีกครั้งครับ





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* ในดวงใจนิรันดร์ (Still on my mind) *~
« ตอบ #40 เมื่อ: 07 พฤศจิกายน, 2560, 11:10:55 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* ในดวงใจนิรันดร์ (Still on my mind) *~



           ขออัญเชิญ บทเพลงพระราชนิพนธ์
“~* ในดวงใจนิรันดร์ (Still on my mind) *~”
            ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ




“...อยากลืม...ลืมรักลืมมิลง
กลับพะวงหลงเพ้อ...เงา
เปรียบปาน...เพลิงรักรุมสุมเศร้า
เปลี่ยวเปล่าร้าวรอน
แต่เพียงกาลเวลา...อันหมุนเวียน
ฤๅอาจผลัดเปลี่ยน เบียนรักคลอน
รสรักจาก กรสอดสวมกร
ยังถาวรติดเตือน



เมื่อยามอาทิตย์...ลอยคล้อยต่ำ
ย่ำยามท้องฟ้า...เลือน
ยังหวัง...เชยชิดกันฉันเพื่อน
ติดเตือนตรึงใจ
สุดประพันธ์บรรเลง...ให้ครบครัน
วันอาจจะผ่าน เวียนผันไป
รักนั้น จะเนาแน่นแฟ้นใน
ดวงใจ...นิรันดร์...”




“...I can't get you off my mind,
However I try.
The flame kindled in my heart
Keeps burning high.
Though time has the power to quell,
It really cannot dispel
The magic touch of your hand,
So gentle in mine.



When night's curtain starts to fall
And light fades away,
My thoughts fly back to that day,
You were so near.
This song will never, never end.
And time we cannot suspend.
You'll be ever and ever,
Still on my mind...”





อยากลืม ลืมรักแม้...........มิลง
ห้อมรักห่วงพะวง..............ห่มเพ้อ
แฝงเงาอาบลุ่มหลง...........ท้นท่วม
เปล่าเปลี่ยวเหลียวชะเง้อ...จดจ้องมองหา

ยามอาทิตย์ต่ำคล้อย........ตราตรึง
เตือนจิตหวนคำนึง............ตราบเจ้า
กรสวมสอดกรกลึง............กรายกรุ่น
จนกว่ารานรุ่มเร้า..............อกนี้พึงสมาน

ชุบดวงมานชื่นนี้..............กระไร
ความถอด ถ้อยกินใจ.......เคลิบเคลิ้ม
กำซาบลึกซ่อนใน............กำสรด
เพลงรักร้อยหยาดเยิ้ม......แน่นแฟ้นนิรันดร์สอง

  



....เพลงพระราชนิพนธ์เพลงนี้ ทำนองแจ๊สออดเอื้อน
แฝงความสนุกสนาน กับคำที่นำมาใช้ในเนื้อเพลง
ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ช่างละเมียดละไม
มีความหมายกินใจเหลือประมาณ

ลองหลับตาฟังเพลง ร้องคลอตาม
แล้วปล่อยให้ความหมายของคำแทรกซึมไปในห้วงคิด...
จนต้องถอนหายใจ...ออกมาเบาเบา

ช่างถ่ายทอดอารมณ์ของคนที่ตกอยู่ในห้วงภวังค์
แห่งความรักได้อย่างซาบซึ้งเสียนี่กระไร...

Soul Searcher
Inspired to write 7/11/2017

ป.ล. ขออนุญาตนำมาลงหลายเวอร์ชั่น
เพราะแต่ละเวอร์ชั่น ให้ความรู้สึกซาบซึ้งใจ
กันไปคนละแบบ



...แต่ครั้นพอฟังจบ...ความอาลัยรำลึกถึงพระองค์ท่าน
กลับหลั่งไหลมา...สุดจะหักห้ามได้...




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, รพีกาญจน์, ชลนา ทิชากร
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* หากฉันรู้สักนิด *~
« ตอบ #41 เมื่อ: 11 พฤศจิกายน, 2560, 09:38:03 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* หากฉันรู้สักนิด *~


~* หากฉันรู้สักนิด *~



“...หากฉันรู้ สักนิดว่าเธอรักฉัน
บอกกันวันนั้นให้รู้สักหน่อย
ว่าดวงใจที่ฉันเฝ้าคอย
คงไม่เลื่อนลอย เป็นของใคร...”


หากว่าเพียงหยั่งรู้..........สักนิด
สัมผัสดื่มด่ำคิด..............หนึ่งได้
แม้มิอาจเชยชิด.............โฉมอย่าง ใจเนอ
ดอกรักร้อยส่งให้............ค่ำเช้าเสมอเหมือน

คราเยือนเหย้าทุกข์ร้อน....รานใด
แหนรักห่วงอาลัย.............โอบล้อม
เสมือนกอดอุ่นไอ..............อกพี่
คอยปลอบน้าวจิตน้อม......คราบน้ำตาสลาย

หมายใจมอบส่งเจ้า..........จันทร์งาม
แม้อาจเพี้ยงฝันความ........หยั่งรู้
ลิขิตรักลุกลาม..................ล้นหลั่ง
ฉมชื่นอวลชิดชู้.................อาบเยื้อนอักษร

หากว่าเพียงหยั่งรู้อยู่สักนิด
หากว่าเพียงล่วงคิดลิขิตมั่น
หากว่าเพียงนิดนัยหนึ่งใจนั้น
หากว่าเพียงคือฉัน หายหวั่นวน

หากใช่เพียงครวญคร่ำรำพันเพ้อ
หากใช่เพียงกริ่งเก้อเผลอสับสน
หากใช่เพียงไหวอ่อนเร่าร้อนรน
หากใช่เพียงกลอนกลดลจิตน้อม

หากว่าใจล่วงรู้คู่เคียงแล้ว
มิเคลื่อนแคล้วคลาไคลใคร่ถนอม
ปลูกต้นรักสวยสมไว้ดมดอม
มิหน่ายตรอมแม้กาลเนิ่นนานรอ

ดอกรักเอยเบ่งบานโชยหวานชื่น
หอมกลิ่นรื่นยวนภมรเย้ายอนช่อ
หากว่าดาษดื่นใดไล้โลมคลอ
พึงละออเด็ดเดี่ยวยั้งเกี่ยวคล้อง

ฝากบทกลอนบทนี้ถึงที่รัก
ผู้พิทักษ์ล้อมใจในทุกห้อง
เพียงหนึ่งนี้ปรีดิ์เปรมเกษมปอง
เป็นคู่ครองเคียงขวัญนิรันดร์กาล

“...หากฉันรู้ สักนิดว่าเธอรักฉัน
บอกกันวันนั้นว่ารักสักหน่อย
ยอดดวงใจที่ฉัน เฝ้าคอย
คงไม่เลื่อนลอย จากสุดที่รักเอย...”

Soul Searcher
Inspired to write 11/11/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, มนต์คำ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* ขอพบในฝัน *~
« ตอบ #42 เมื่อ: 15 พฤศจิกายน, 2560, 08:50:44 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* ขอพบในฝัน *~


~* ขอพบในฝัน *~

หวาน ใดหวานจับขั้ว..........ดวงมาน
หวาน ผ่องแผ้วพบพาน........พากย์พริ้ง
หวาน ผลักทุกข์ร้าวราน.......พ้นโศก
หวาน ถกวิโยคทิ้ง...............สยบเศร้าสราญหวน

ยวน ใจยามหยดย้อย..........เยือนยล
ยวน อาบซึ้งกมล.................ยากยั้ง
ยวน หยั่งรุ่มร้อนจน..............มิอาจ
ยวน หยุดยื้อฉุดรั้ง................ถักถ้อยระวิงไหว

ใจ เอยเคยหนักน้อม............มั่นคง
ใจ รักแหนงหน่ายปลง..........ปลดเปลื้อง
ใจ ย้อนห่วงพะวง.................หลงอยู่
ใจ ผูกเย้าโยงเบื้อง..............บ่วงสร้อยอักษร

ยามต้องเขียนกลอนรักให้หนักจิต
หวั่นลิขิต ท่วมทุกข์น้อยสุขสาน
หากพจน์กลอนนั้นเป็นเช่นสะพาน
จักพาดผ่านเชื่อมสู่ประตูใจ

ยามแสงทองรองเรือง ค้างเคืองขุ่น-
แหลกเป็นจุณ รายร้างพลางสดใส
เยื้อนอุษาสวาสดิ์เย้า เบียดเหงาไกล
คลอขับไพร แย้มรับกับตะวัน

คล้อยยามบ่ายพ่ายแรงแสงแผดล้า
เรื้องเจิดจ้ารังสีรพีบั่น
ฝืนกลอน กลับคลับคล้ายหน่ายประพันธ์
ท่ามกลางเปลวสุริยัน พาดพรั่นพรึง

ครั้นเคลื่อนครบตะวันยันยอแสง
ส้มแสดแดงเหลืองเหลือบไปเกือบครึ่ง
เพ้อตัดพ้อรำเพยเปรยรำพึง
ดังอื้ออึงข้างหูอู้ลมพลัน

พอตกดึกพระลบจบผืนฟ้า
เยื้องจันทราหยั่งแม้นถึงแดนฝัน
ดุจเงียบเหงาเศร้าส่งมาลงทัณฑ์
คร่ำครวญหันหารัก ปรัก*คืน

ทุกคำกลอนสื่อให้จากใจนี้
มิได้มีหมายมุ่งยุ่งโยงอื่น
อกสะท้อนอ่อนไหวใจกลัดกลืน
ก็ปรุงชื่น, ขื่น ถ้อยมาร้อยเรียง

ยั้งสดับยกพร่ำรำพันแล้ว
วอนกานท์แก้วอย่าหายคิดบ่ายเบี่ยง
แม้คำรักมิหวานเทียบขานเคียง
ทุกสุ้มเสียงจริงใจส่งให้กัน

เปรียบคำหวานมิอิงสิ่งแอบแฝง
กลัดกินแหนงแคลงใจให้ป่วนปั่น
ฝากลมเคล้าเคลียคลอพะนอจันทร์
แนบเนาขวัญเคียงหมอนก่อนนิทรา

Soul Searcher
Inspired to write 15/11/2017



ประภาษประพจน์พร้อย..ประพนธ์
ประดิดประดอยยล........ประดุจได้
ประสูตประสิทธิ์ดล.........ประเสริฐ ประสงค์แล
ประลุประลุงไล้..............ประเล้าประโลมหมาย

ป.ล.
*ปรัก : [ออกเสียง ปะหรัก] หัก
ประภาษ : บอก, พูด
ประพจน์ : ข้อเสนอ, ข้อความที่กล่าว
ประพนธ์ : ผูก, แต่ง, เรียบเรียง
ประดิดประดอย : บรรจงทำให้งดงามละเอียดลออยิ่งขึ้น
ประดุจ : เช่น, คล้าย, เหมือน, ดัง
ประสูต : ขวนขวาย
ประสิทธิ์ : ความสำเร็จ
ประเสริฐ : วิเศษ, ดีเลิศ
ประสงค์ : มุ่งหมาย
ประลุ : บรรลุ
ประลุง : ปลาบปลื้ม, ยินดี
ประเล้าประโลม : เล้าโลม, ปลอบโยนเอาอกเอาใจ




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, ❀ Sasi ❀, สุวัฒน์ ไวจรรยา, ชลนา ทิชากร
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* โลกมายา *~
« ตอบ #43 เมื่อ: 16 พฤศจิกายน, 2560, 11:36:37 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* โลกมายา *~


~* โลกมายา *~

“...รุ่งสุริยาขอบฟ้าขลิบทอง
วิหคเร่าร้องเสียงก้องพงไพร
ม่านฟ้าเรืองแสงทองยองใย
โลกตื่นจากหลับไหล สู่ความโสภา

รุ่งแจ้งแสงทองแซ่ซ้องปักษิน
บ้างก็ผกผินเหินบินเมฆา
โลกสวยด้วยแสงสุริยา
มองสุขสันต์หรรษา ดูน่าภิรมย์

โลกเรานี้ ล้วนมีมายา
เฮฮาหัวร่อ แล้วก็ระทม
มัวเศร้าอยู่ใย ร้องไห้ ร้องห่ม
ทำไมให้เสียน้ำตา

รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ
วิหคขับขานก้องดานดงป่า
โลกฝันมายิ้มกันดีกว่า
ลืมโลกแห่งมายา มาร่าเริงกัน...”



เพียงคำร้อยแต่งแต้ม.....เติมความ
ดูง่ายแต่งดงาม.............มิ่งแม้
มายาโลกนิยาม.............เหมือนดั่ง
สุขทุกข์ปนเปแท้............โศกเศร้าเสสรวล

โชยหอมอวลอบฟุ้ง.........มาลี
เยื้องหยั่งเย้าสตรี............อยู่ใกล้
ชวนแช่มชื่นฤดี...............ประดุจ
น้ำทิพย์ชโลมไล้............ดับแห้งกระหายโหย

คำโปรยปรายอาบซึ้ง......ปานใจ
จะหลุดร่วงตามไป...........ฉะนี้
เอ๋ยรักห่วงอาลัย.............ว้าวุ่น ทรวงแล
หาญหักหายหลีกลี้..........ยิ่งร้าวรานถวิล

“รุ่งสุริยาขอบฟ้าขลิบทอง”
เสียงเร่าร้องวิหคพ้องผกผิน
ขยับปีกป้ายหางหว่างเมฆินทร์
ล้อปักษินแกร่งกล้าท้าแดดลม

อันโลกแห่งมายาพายวนเย้า
มีสุขเคล้าทุกข์โศกวิโยคห่ม
มีเงียบเหงาฟูมฟายหน่ายระทม
ตามอารมณ์คลื่นพัดซัดสาดเท

“รุ่งสุริยาม่านฟ้าตระการ”
สดับขานเจื้อยแจ้วแล้วหันเห
เหมือนหลงทิศหลงทางกลางทะเล
กับมายาเสน่ห์เล่ห์ลวงพราย

ดุจชะงักชะงันในวันฟ้า
แม้ฉาบทาทึมเทา พริ้งเพราฉาย
แสงตะวันลอดช่องส่องประกาย
คงความหมายหนึ่งนี้ในชีวิน

Soul Searcher
Inspired to write 16/11/2017




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, สุวัฒน์ ไวจรรยา, ชลนา ทิชากร, ❀ Sasi ❀, มนต์คำ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4068



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
~* ยามเมื่อลมพัดหวน *~
« ตอบ #44 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน, 2560, 08:47:48 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

~* ยามเมื่อลมพัดหวน *~



~* ยามเมื่อลมพัดหวน *~

“...จากคนละฟ้า จากคนละแผ่นดิน
กลับมาโบยบิน ข้ามไปสุดฟ้า
จน ได้พบ กัน
อาจเป็นเพียงลม ที่พาเรา พบพาน
ให้เราได้รัก กัน และให้ฉัน
ต้อง ฝืนใจ ลา

อาจเป็นเพราะรัก ที่ผ่านมากับลม
ผ่านมาเชยชม เพียงแผ่วพริ้ว
แล้วมันก็จาง ไป
เก็บความทรงจำ เก็บงำ ใน หัวใจ
อยู่เพียงเดียวดาย ในเมื่อรัก
จากไปพร้อมสาย ลม

เมื่อเป็นความ รัก ที่ไม่อาจ เผยใจ
เก็บมันเอา ไว้ เก็บมันเอา ไว้
ไม่อาจยอม ให้เธอรู้
เมื่อใดที่ลม พัด ให้ผ่านมาหน่อยได้ ไหม
อยากให้คืนวัน ที่ดี เหล่านั้น ได้หวนมา
เมื่อใดที่ลม หวน ที่เธอจะกลับมา หา
เฝ้ารอเวลา ที่ลมแห่งรัก นั้น จะพัดพา
มาอีกครั้ง...”




จากคนละฟากฟ้า...........ฝั่งฝัน
พานพบสร้างเสกสรร......สุขซ้อง
แม้เพียงช่วงเธอฉัน.........เผลอเปิด ใจเนอ
ความรักยังเรียกร้อง.......จากห้วงหทัยสงวน

หวนลมพัดห่มย้อน........โยงพา
ผิวแผ่วชื่นอุรา................ผูกรั้ง
แม้อดีตล่วงลา...............มิอาจ
หวนกลับคืนอีกครั้ง........หักห้ามเลือนไฉน

อาลัยในรักเย้า...............ยวนเคียง
คืนห่อนยินสำเนียง..........สุขล้ำ
กลอนรัก บ่ หวานเรียง.....เหมือนเก่า
พกแต่ความชอกช้ำ.........ฉาบไล้ลมหวน

จากคนละ ฟากฟ้าสุธาถิ่น
ใจรวยรินโบกโบยโชยมาถึง
ผ่านลมพัดหวนหาคราคะนึง
แล้วปักตรึงกลางทรวงก่อนล่วงลา

ทิ้งเพียงความทรงจำคำหวานชื่น
กับรสรื่นอุ่นอวลชวนหรรษา
ปานสลักภาพสวยด้วยวิญญาณ์
ให้รักตราตราบไว้...ในนิรันดร์

Soul Searcher
Inspired to write 25/11/2017





ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ธนุ เสนสิงห์, ❀ Sasi ❀, รพีกาญจน์, เฒ่าธุลี, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
หน้า: 1 2 [3] 4 5   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.389 วินาที กับ 231 คำสั่ง
กำลังโหลด...