นิราศมอหินขาวเรื่องจริงอิงนิยายรักน้ำเน่า
°จวนนิราศคลาดไปใจโศกศัลย์
มอหินขาว ร้าวอุราแสนจาบัลย์
สุดจะกลั้นห้ามน้ำตาคราจากจร
เพียงชั่วคืนชื่นกมลยามยลห้วง
แสงจันทร์ดวงส่องริ้วทิวสิงขร
วิบวับพราวดาวพร่างกลางป่าดอน
โอบแนบซ้อนกายน้องเฝ้ามองเดือน
°ผาหัวนาค กระชากใจให้ไหวหวั่น
เราพบกันแต่แรกครั้งก็ดั่งเหมือน
ต้องมนตรามายั่วเย้าคอยเฝ้าเตือน
ให้เอ่ยเอื้อนคำรักออกบอกความนัย
สายตาจ้องมองวิวทิวทุ่งท้อง
พลันเหลือบมองพักตร์นวลชวนหลงไหล
คราเยือนมา ผาหัวนาค ชากฤทัย
บันทึกไว้รวบรวมความทรงจำ
°จุดกลางเต้นท์เน้นแอบให้แนบชิด
พรหมขิลิตหรือไรหนานึกน่าขำ
เห็นน้องเจ้าเข้ามาเผยชวนเอ่ยคำ
ฝืนใจย้ำเอ่ยเกี้ยวเกินแบบเขินอาย
นึกกังขาว่านี่หรือคือความรัก
ใช่หาญหักยามห่างแล้วร้างหาย
แม้จริงจังดั่งคำของน้องบรรยาย
อันอกชายอย่างเรานี้ย่อมปรีดา
เพียงพบกันวันแรกก็แปลกนัก
คิดหลงรักเผลอใจจริงยิ่งแปลกหนา
หรือสวรรค์สรรสร้างขีดทางมา
ให้พบพาเพียงแรกมองต้องฤทัย
°สองเราเชิญเดินเที่ยวแกมเกี้ยวหยอก
เคล้าสายหมอกรับลมปลิวพริ้วไสว
ย่ำทิวาราตรีแฝงแสงนวลใย
ดูฟ้าใสพร่างพรมลมเหมันต์
เห็นดาวตกอกวาบหวิวลอยลิ่วฟ้า
ยามมองหน้าน้องนี้พี่สุขสันต์
นึกขอพรอ้อนดาวพร่ำคำจำนรรจ์
ขอคู่กันอยู่เคียงข้างอย่าร้างไกล
เสียงใบไม้ไหวเอนไม่เว้นว่าง
หยาดน้ำค้างพร่างยามดึกตกผลึกใส
ความเยือกเย็นเล่นแผ่กรองละอองไอ
เพิ่มสายใยเราแน่นเหนียวให้เกลียวกลม
กอดประครองน้องแอบเข้าแนบชิต
แผ่ดวงจิตเคล้าไออุ่นกรุ่นผสม
สัมผัสบ่วงห้วงกายป้องสายลม
โอบแขนห่มจวนอุษาฟ้าสีทอง
อรุณรุ่งมุ่งลัดตัดชายเขา
ฟังน้องเจ้าเอ่ยพร่ำคำสนอง
สำเนียงสั่นกลั่นมาน้ำตานอง
จะจากน้องแล้วอุราสุดจาบัลย์
แต่ตัวเราเขลานักเรื่องรักใคร่
ดูเหมือนไร้เดียงสาช่างน่าขัน
อีกคำหวานอ่านเอื้อนอิดยังผิดพลัน
แต่สัมพันธ์รักนั่นยังมั่นคง
หากจะเทียบเปรียบศักดาชั่งน่าเศร้า
ด้วยสองเราดั่งดินฟ้าดั่งกาหงส์
พี่เจียมตนจนจำด้วยต่ำวงศ์
น้องสูงส่งดั่งดอกฟ้าพี่กาดำ
ยามได้รักมักไม่สนคำคนว่า
คำนินทราใช่ประเสริฐใช่เลิศล้ำ
ว่าความรักมักบอกผ่านการกระทำ
จะคอยย้ำเตือนจิตให้คิดตรอง
°ยามตะวันบั่นครอบโคลนขอบฟ้า
จวนเวลาแล้วเราต้องเศร้าหมอง
ก่อนจำพรากจากไปห่างไกลน้อง
ขอประครองกอดจำเรียงสักเพียงครา
กุมมือเดินเพลินภิมรมย์เที่ยวชมชื่น
ยลแผ่นผืนแดนสวรรค์ช่างหรรษา
มอหินขาว ขาวฉุดสะดุดตา
ยามสบหน้าน้องช่างสุดสะดุดใจ
°ถึงบทนี้มีสิ่งหนึ่งพึงเฉลย
จะขอเอ่ยให้หายคลายสงสัย
ขอใจกล้าท้าผู้อ่านผ่านความนัย
ยอดดวงใจเรานี้หรือก็คือชาย
หากแม้ใครได้รู้รับคงขับขัน
หัวเราะลั่นเป็นแน่จนแพร่หลาย
เปิดใจออกบอกคารมคำคมคาย
้เป็นเส้นสายรักลิขิตชีวิตเรา
ชายกับชายหมายรักใคร่มักไม่ผิด
ใครจะคิดเกลียดชังก็ช่างเขา
รักอื่นใดไหนเปรียบจะเทียบเท่า
รักไหนเล่าสู้รักแท้แลรักจริง
°เวลาเคลื่อนเลื่อนรีบเข้าบีบคั้น
โอ้ใจหวั่นสั่นไหวไม่หยุดนิ่ง
ยามน้องเจ้าเข้าแนบมาแอบอิง
เหมือนทุกสิ่งจะหยุดลงตรงแววตา
เอ่ยคำลาพาใจให้แสบเสียว
เพียงคืนเดียวทำให้รักจนหนักหนา
สองเรากอดพลอดพร่ำคำสัญญา
เคล้าน้ำตาโอ้อุราแสนอาลัย
สองข้างแก้มแต้มรอยลิ้มริมฝีปาก
จวบยามพรากมองหน้าน้ำตาไหล
แลกลายมือชื่อเราสองคราต้องไกล
แทนสายใยเชื่อมปลูกผูกสัมพัน
เสียงเพื่อนเราเขาร้องมาว่าขึ้นรถ
แสนรันทดวิโยคสุดโศกศัลย์
ทรมานปานสายฟ้าผ่ากลางคัน
สุดจะกลั้นน้ำตาด้วยอาวรณ์
ยามรถเลื่อนเคลื่อนไหวไปข้างหน้า
โอ้อุราดั่งโดนฉุดสุดจะถอน
เสียงเจ้าน้องร้องเตือนเหมือนวิงวอน
แม้จากจรจากลาอย่าลืมกัน
ถึงเวลาลาแล้วหนอ มอหินขาว
กับเรื่องราวแสนสนุกและสุขสันต์
ขอบคุณแคว้นแดนดินถิ่นไพรวัน
ให้เธอฉันได้พบรักประจักษ์ใจ
ขอจบคำนำอักษรกลอนนิราศ
หากผิดผลาดขอเมตตาอย่าผลักไส
ประสบการณ์ผ่านมาน้อยด้อยเกินไป
ผมมือใหม่ฝึกรู้เรียนหัดเขียนเอย
ปล.
ผู้ชายคนนี้ อายุ 25 ห่างกับผม 2 ปี
เป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อ ว่าแค่2วัน1คืน
แล้วเพิ่งมาเจอกันโดยบังเอิญ แต่ทำให้เรา2คน
รู้สึกรักกันมากเหมือนมีความผูกพันกันมาก่อน
เหมือนรู้จักกันมาก่อน ตอนที่ลาจากกันวันนั้น
มันทำให้ผมรู้สึกทรมานมาก เป็นความรู้สึกเหมือนเคยเกิดขึ้น
ผมก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ทุกวันนี้ผมก็ยังติดต่อกับน้องเขาตลอดครับ
ทั้งเฟสทั้งไลน์โทรศัพท์
แต่ผมเองก็คิดเจียมตัวตลอดนะ ตระกูลน้องเขา
เป็นตระกูลใหญ่โตมีชื่อเสียง
ผมเองแค่ทายาทผู้หรับผู้ใหญ่ของจังหวัดในอดีต
น้องเขาก็เป็นเจ้าของธุระกิจ แถวย่านสาทร สีลม
ผมล่ะ ยังตกงานอยู่เลย ชีวิตยังไม่มีอะไรเลย
เป็นไงครับ เหมือนนิยายน้ำเน่าไหมครับ
มนต์ เมืองชัยภูม�