ฟ้าคำราม ครืนลั่น สนั่นไหว
เสียงในใจ เตือนดังก้อง ต้องฝ่าฝน
มองออกไป ขวักไขว่ ด้วยผู้คน
แสนสับสน หนทางเดียว คือต้องเดิน
***
เห็นฝนตกใจหวนนึกถึงวันก่อน
เมื่อคราตอนมัธยมผมหางม้า
ถึงเพื่อนเก่านานแล้วเราจากลา
หลายปีกว่าที่ผ่านมามิพบเจอ
ในตอนนั้นฝนกระหน่ำซ้ำซัดสาด
ร่มก็ขาดเสื้อเปียกโชกจนป้ำเป๋อ
แต่อุ่นใจที่ข้างข้างยังมีเกลอ
แม้คุณเธอจะน่าถีบตกกระได
ข้ามสะพานเจอคู่รักอยู่หนึ่งคู่
ฝนพรั่งพรูแม้ไร้ร่มผมบังไหว
ถอดเสื้อออกคลุมให้หญิงของใจ
เราก็มองกันไซร้คล้ายละคร
แล้วก็แซวไยฉันไม่เจอบ้างนะ
เธอก็ว่าใครล่ะจะเลือกหล่อน
เราสองคนสมแล้วที่เปียกปอน
เที่ยวตะลอนเดินร่อนลืมเวลา
เสียงฟ้าลั่นถูกกลบด้วยเสียงหัวเราะ
ถึงไม่เพราะแต่ก็น่าค้นหา
แม้ว่าฝนไร้วี่แววว่าจะซา
แต่เราบ้ากันสองคนไม่สนใคร
แม้ไร้คู่แต่ใช่อยู่โดดเดี่ยว
แกคนเดียวที่ทำให้ฉันยิ้มไหว
จับมือกันฝ่าฝนผ่านพ้นไป
ความทรงจำของใจไร้ทางลืม
กุมภาคม