กลอนชนะเลิศ
(ประจำเดือน สิงหาคม ๒๕๖๐)
หัวข้อ"ความรักของแม่ที่ฉันเห็น?"ประกวดกลอนสุภาพ ประจำเดือนสิงหาคม ๒๕๖๐
หัวข้อ “ ความรักของแม่ที่ฉันเห็น ”
ผู้แต่ง:ไชยเชษฐ์
ฉันสบตาดูดนมแม่อมยิ้ม
จนฉันอิ่มแน่นท้องแม่ร้องกล่อม
เฝ้าระวังมดมิไต่ไรมิตอม
มือละมุนละม่อมพร้อมไกวเปล
กระตุ้นพัฒนาการจากคลานเข่า
เลยวัยเยาว์สู่วัยรุ่นกรุ่นเสน่ห์
สอนและฝึกศึกษาอย่าเสเพล
เห็นลูกเท่ห์หล่อแท้แม่ภูมิใจ
วันลูกรับปริญญาน้ำตาหลั่ง
สุขสมหวังเป็นจริงอย่างยิ่งใหญ่
ทุกหยาดเหงื่อแม่นี้ที่เสียไป
มิเคยคิดจะได้สิ่งใดคืน
วันที่ฉันห่มผ้ากาสาวพัสตร์
มองเห็นชัดแววตาแม่แลสดชื่น
อิ่มเอมบุญความดีที่หยัดยืน
ยิ้มระรื่นใบหน้าน้ำตาคลอ
เมื่อถึงวันฉันแต่งงานประสานรัก
ภาพประจักษ์ซึ้งใจอยู่แม่สู่ขอ
จัดเสร็จสิ้นพิธีไม่รีรอ
แล้วเลี้ยงหลานพะนอปีต่อมา
นี่คือภาพผูกพันที่ฉันเห็น
เล่าประเด็นด้วยร้อยกรองมองคุณค่า
ขอตอบแทนยึดมั่นกตัญญุตา
แด่มารดาด้วยรักสลักทรวง
ไชยเชษฐ์
รางวัลรองชนะเลิศ"อันดับที่ ๑
ประกวดกลอนสุภาพหัวข้อ "ความรักของแม่ที่ฉันเห็น"
ประพันธ์โดย ตะวันรอน
..............
สำนวนที่ ๖
จากแรกคลอดเกิดมาสบตาแม่
พูดอ้อแอ้ฝึกเสียงสำเนียงขาน
ดูดนมแม่สนุกซุกซนคลาน
คือเหตุการณ์แม่เล่าให้เราฟัง
เริ่มตระหนักรักแม่แต่บัดนั้น
ยิ่งย้อนวันยิ่งซึ้งถึงความหลัง
แม้ยามทุกข์ยามป่วยด้วยเซซัง
แม่ผุดนั่งผุดนอนอาทรเรา
ยอมอดเพื่อลูกอิ่มแม่ยิ้มสู้
ลูกมารู้ทีหลังต้องนั่งเศร้า
ตอนเด็กไม่เคยรู้ทำหูเบา
บัดนี้เฝ้าห่วงแม่แก่ชรา
หวังแทนคุณยิ่งใหญ่ให้เหมาะสม
เพียงน้ำนมหนึ่งหยดทดแทนค่า
คงมิอาจชดใช้ให้มารดา
ตราบชีวาท่องจำย้ำกมล
แม่คือพรหมของบุตรสุดประเสริฐ
จึงควรเทิดทูนไว้ในทุกหน
เพราะแม่ให้สายโลหิตติดสกนธ์
ลูกทุกคนควรมั่นกตัญญู
ทุกความรักของแม่ที่แลเห็น
เฉกน้ำเย็นชโลมใจไม่หดหู่
คิดถึงแม่บางคราน้ำตาพรู
มีแรงสู้ชีวิตพิชิตตรม ฯ
ตะวัน
หัวข้อ "ความรักของแม่ที่ฉันเห็น?"
ผู้แต่ง วิริน
สำนวน ๓
ผู้ที่ให้กำเนิดเกิดมนุษย์
บริสุทธิ์คือแม่มิแปรผัน
ขนานนามแต่แรกที่แบกครรภ์
ด้วยแม่นั้นอุ้มท้องป้องโพยภัย
แม่ยากจนทนอดรันทดท้อ
เพียงเพื่อขอลูกอิ่มแม่ยิ้มไหว
แม่รักลูกสุดสวาทแทบขาดใจ
ผูกสายใยสัมพันธ์แต่นั้นมา
ตอนลูกอยู่ในครรภ์หวั่นใจยิ่ง
เห็นลูกนิ่งแม่พร่ำคอยคลำหา
ยามลุกนั่งรั้งกายตั้งหลายครา
กลัวลูกยากระเทือนหากเคลื่อนแรง
พร่ำสวดมนต์ขอพรวิงวอนไหว้
เทวาในโลกทั่วหัวระแหง
ดลบันดาลสุขให้ไม่เคลือบแคลง
หญิงชายแกร่งเก่งกล้าหาใดปาน
ครั้นลูกคลอดออกมาหน้ายิ้มชื่น
จนลูกตื่นลืมตาพาขับขาน
เสียงอ้อแอ้แม่นั้นพลันเบิกบาน
สวมวิญญาณของแม่แน่ทุกตอน
แม่ฟูมฟักเลี้ยงดูสู้ชีวิต
คอยใกล้ชิดด้วยรักมิพักผ่อน
ทั่วเขตคามสามภพจบสาคร
ไหนจะเทียมมารดรผู้อ่อนโยน
๑๑/๘/๖๐
รางวัลรองชนะเลิศ"อันดับที่ ๒
หัวข้อ "ความรักของแม่ที่ฉันเห็น?"
ผู้แต่ง สิริวตี
สำนวน ๑
ทุกค่ำคืนครั้งใดใจหวนนึก
ความรักอันล้ำลึกและมากค่า
เริ่มตั้งแต่ในท้องประคองมา
จวบเวลาลุเข้าเก้า-สิบเดือน
เมื่อลืมตาดูโลกรู้โลกกว้าง
ทุกสิ่งอย่างมอบให้ไม่คลาดเคลื่อน
ยามเมื่อร้องอุแว้! ไม่แชเชือน
รีบพากายล้างเปื้อนมาป้อนนม
ยามตัวร้อนหรือไอเจ็บไข้หนาว
ประหนึ่งเป็นเรื่องราวร้าวขื่นขม
น้ำตาเริ่มรินไหลคล้ายระทม
เสียงลูกร้องระงมไม่เลิกรา
ยามเติบโตเตาะแตะและวิ่งคล่อง
วางแผนจับทดลองการศึกษา
ค่อยเสริมสร้างชีวิต-จิตวิญญาณ์
มอบวิชาขัดเกลาเข้าโรงเรียน
ค่อยค่อยสร้างหนทางอย่างกล้าหาญ
ลองเรียนรู้วิชาการจากอ่าน-เขียน
ให้รู้เงินรู้ยากรู้พากเพียร
รู้ปรับเปลี่ยนอย่าดื้ออย่าถือตัว
อ้อมกอดนี้จากใจมากไออุ่น
ยิ้มของเธอยังละมุนอยู่ถ้วนทั่ว
เธอมาสร้างสว่างบนทางมัว
มาลบทุกความหวาดกลัวจากหัวใจ
สิริวตี