เล่ามั่งดิ
ครั้งวัยเยาว์เล่าย้อนว่าตอนนั้น
ไม่ค่อยทันเทียมใครใจหดหู่
จะเป็นวันอะไรได้แค่ดู
ครอบครัวหนูยากจนจำเจียมใจ
มีพี่น้องแปดคนแม่ทนเลี้ยง
ฝ่าแดดเปรี้ยงลมกล้าเมื่อยล้าไหล่
ต้องพายเรือล่องลำน้ำเชี่ยวไกล
กว่าจะได้เงินตรามาเจือจุน
ใช่ว่าไม่อยากได้แต่ไม่ขอ
รู้แม่พ่อเหนื่อยยากลำบากวุ่น
ไม่มีเงินหมกถังมีตังค์ตุน
นับว่าบุญยังดีที่เติบโต
เด็กวัยเดียวเที่ยวเล่นก็เห็นอยู่
บ้านเบ้อเร่อหราหรูรถตู้โก้
เทียบกับบ้านเราเล่าเก่าเซโซ
กะโปโลเรือนร่างมอมด่างดำ
กะโหลกกะลาคว้าได้เล่นขายของ
กระบี่กระบองบอบ้าตัวคราคร่ำ
ม้าก้านกล้วยขี่เล่นเต้นระบำ
ต่องแต่งต่ำโหนดะ...ทางมะพร้าว
เหงื่อไคลเค็มเต็มคราบลงอาบน้ำ
โผผุดด่ำมุดโลดโดดพุ่งหลาว
ว่ายแหวกเวียนวกแวะแกะเบ็ดราว
โตเป็นสาวใช่เลือนยังเหมือนเดิม
กลับบ้านสวนหวนหลังยังสนุก
มีความสุขเสมอไม่เห่อเหิม
ลงลอยคอรอคนจนเป็นเริม
กลับบ้านเติมแต้มยา...ตาก็บวม.....?
ดินเดี๋ยวนี้น้ำในคลองลงเล่นไม่ได้เหมือนก่อน
คัน ตาบวม เป็นเม็ดตามริมฝีปาก