นั่งจดจ่อจิจิ้มพิมพ์อักษร
คิดคำกลอนโชว์กึ๋นมึนสมอง
ท่ามกลางแดดแผดเผาเฝ้าเหม่อมอง
ฝุ่นละอองถอกเทปุ๋ยเคมี

หรือมัวเมาเช้าตรู่มืดดูข่าว
หนังแขกยาวพราวพร่างร่างฉายสี
เรื่องโด่งดังสังข์ทองประลองคลี
รายการดีกีฬาบ้าฟุตบอล

รถสวนแซงสายตาขับฝ่าเพ่ง
ร้องบรรเลงเมาขำจำต้องถอน
มักเครื่องเทศเผ็ดพริกพิษไซซอน
เพราะเข้านอนดึกดื่นตื่นฟ้าฮาม

ดื่มยาเพิ่มพลังฤทธิ์คั่งค้าง
เชื่อมเหล็กรางบัดกรีจี้อร่าม
โรคเบาหวานซ่านซุกสูงคุกคาม
แมงหวี่ตามไต่ดอมต่อมน้ำตา

ล้วนแล้วแต่แน่หนอข้อสังเกตุ
รวมหลายเหตุรุมกันเกิดปัญหา
ชี้ช่องทางอย่างเดียวสุดเยียวยา
ช่วยรักษาคืนไวใช่ครั้งคราว

ควรเสพสมสารสะก่อประโยขน์
สัมผัสโสตนุ่มนิ่มยลยิ้มสาว
ลอกฝ้าจางฟางเห็นสั้นเป็นยาว
ตาลุกวาวแฉะลายหายทันที

 

แฉะนานสิบวันไม่ได้แต่งกลอน

รพีกาญจน์

จะจิกจิ้มอักษรเป็นกลอนหวาน
ตอนว่างงานด้วยจิตมิคิดหนี
นั่งคิดถ้อยคำเห็นเป็นวลี
ไฟมิมีเขียนไม่ออกบอกตามตรง

แรงบันดาลขาดหายกายก็เฉา
นั่งกอดเข่าคิดกลอนจนนอนหลง
เก็บปากกาเข้าพกหวังตกลง
เลยนั่งปลงทำใจในค่ำคืน

เป็นเวลาเนิ่นนานงานสดุด
มิยอมหยุดจับปากกาพาใจฝืน
จะเขียนกลอนคำหวานงานกล้ำกลืน
เมื่อไรฟื้นบันดาลใจได้กลับมา

เฝ้านั่งอ่านงานเขียนเรียนรุ่นพี่
ต่างเขียนดีแคล่วคล่องคล้องจองหนา
กัดฟันนั่งลงทำนำปากกา
ตั้งใจว่าเขียนบรรเลงมิเกรงใคร

แรงบันดาลการเขียนที่เพียรหา
ฟื้นกลับมาอีกทีมีสดใส
อ่านงานเขียนเป็นร้อยค่อยทำใจ
กว่าจะได้กลอนมาระอาเอย

มนตรี  ประทุม
“มันแกว”
๑๘ ต.ค.๖๑