O อาวรณ์..ที่ซ่อนเร้น...? O
O เผยออกมาสักทีจะดีไหม
ซ่อนเร้นอยู่ทำไม .. หนอ-ใจนั่น ?
เมื่อต่างก็มีใจมอบให้กัน
พร้อมใฝ่ฝันเฝ้าอยู่ .. อย่างรู้คอย
O คิดถึง .. ละห้อยเห็นเมื่อเร้นหน้า
กับแววตาว่างเปล่า-แสนเศร้าสร้อย
เพียงภาพเคยจับจอง .. ที่ล่องลอย-
สร้างรูปรอยแล่นเลื่อนขึ้นเตือนใจ
O ไย-ถึงต้องแฝงเร้นอยู่เช่นนั้น
กดข่มความผูกพัน .. ห้าม-สั่นไหว
ก็เมื่อแววในตา .. แสนอาลัย
นึกหรือว่าความนัย .. ปิดได้พ้น ?
O วาบวามความอ่อนหวาน-เมื่อผ่านช่วง
ก็รับรู้แหนหวงที่ร่วงหล่น-
ลงในการร่ายรำ .. แววจำนน-
ที่เอ่อล้นเผยล่วงผ่านดวงตา
O กี่ครั้งแล้วแววตา-เกินกว่าซ่อน
เผลอ-เผยความอาวรณ์ออดอ้อนหา
รับรู้แววอ่อนหวานส่งผ่านมา
ย่อมรู้ว่าเกินคิดจะปิดบัง
O เพียงแววตาฉายทอจะพอหรือ
ว่านั่นคือรูปรอยให้คอยหวัง
แล้วหัวใจเต้นแผ่วจะแว่วดัง-
ให้รับฟังเสียงสั่น .. เอาวันใด ?
O เพียงแววตาฉายทอ .. ไม่พอหรอก
จะพูดบอกความถวิล .. จนสิ้นได้
หากต้องมีพจน์พากย์คอยฝากนัย
จึงอาจรู้อาลัยที่ในทรวง
O ซ่อนเร้นด้วยขัดเขินมาเนิ่นนาน
จน-รับรู้อ่อนหวาน .. เมื่อผ่านช่วง
โดยพจีงดงาม, ถ้อยความปวง-
ย่อมลามล่วงสู่ใจผู้ใฝ่คอย
O คล้ายเนิ่นนานหนักหนากับท่าที-
แฝงไมตรีปรุงเปรียบ .. อย่างเงียบหงอย
จนความหมายสืบสร้าง .. ไม่พรางรอย-
แล้ว-จึงค่อยนำวาง .. ลงกลางใจ
O เมื่อท่าที, บทบาท-ไม่ขาดช่วง
ย่อมยากล่วงเลือนกัน .. จากกันได้
ด้วยต่างคอยรับรู้ .. ว่าผู้ใด-
ส่งรับแรงอาลัย .. มีให้กัน
O หยุดเถิด-ความอาวรณ์ที่ซ่อนเร้น
หยุดบีบเค้นหัวใจ, ความใฝ่ฝัน
ด้วยว่าความทรมาน .. จากนานวัน
จักค่อยผันผ่านช่วง .. จนล่วงพ้น
O หยุดเถิด-รอบดวงใจที่ไหวสั่น
ด้วยว่านั่นเป็นช่วงการร่วงหล่น-
ของอาวรณ์อาลัยที่ในตน
อย่างจำนน, รอพร้อม-อุ่นอ้อมทรวง !
O หรือจะให้คำนึงมีถึงกัน
ต้องถูกกั้นกีดชาติจนขาดช่วง
หรือจะให้แรงกรรมเคยบำบวง
ต้องเลือนล่วงสูญเปล่า .. ไม่เข้าที
O ก็แค่เผยความนัย .. ออกให้รู้
เป็นนัยชู้พร้อมสรรพสำหรับที่-
จะใช้เป็นสายใยแห่งไมตรี
โอบรัดชีวิตสองมาพ้องกัน
O คอยเถิด .. วงแขนโลภ .. รอโอบกอด
เมื่อร่างทอดลงทับ-การรับขวัญ
อกอุ่น, แรงปราโมช คือโทษทัณฑ์-
ไว้กักกันอาวรณ์ .. เคย-ซ่อนเร้น !
O หรือจะให้คำนึง .. แม้หนึ่งช่วง-
จังหวะดวงใจคอยละห้อยเห็น-
ต้องแกว่งไกวรอเฝ้า ทั้งเช้าเย็น
เพราะถูกรักซ่อนเร้น .. บีบเค้นเอา ?