กำเนิดมโนราห์นำมาเล่า
สืบสานศิลป์ถิ่นใต้ให้นานเนา คงเป็นเค้าหนึ่งในหลายตำนาน
๏ องค์กษัตริย์ผู้ครองนครราช นาม “พระยาสายฟ้าฟาด”ศักดิ์ ไพศาล
ราชินี “ศรีมาลา”ยุพาพาล บุญบันดาลได้เอกองค์ราชธิดา
๏ นาม “นวลทองสำลี” ศรีสมร องค์เอมอรเลิศวิไลหนึ่งในหล้า
ราชันรักห่วงใยดั่งนัยนา อยู่วังหลังห่างตาชายใดชม
๏ พี่เลี่ยงสามสิบนางต่างห้อมล้อม อย่างพรักพร้อมไร้ทุกข์อยู่สุขสม
ในวันหนึ่งพระธิดาตื่นบรรทม มีอารมณ์คำนึงถึงสุบิน
๏ จะชำระพระพักตร์ชะงักค้าง ดวงจิตนางยังครวญหวนถวิล
เมื่อพี่เลี้ยงทั้งหลายได้ยลยิน จึงเล่าสิ้นทุกการณ์ที่ฝันไป
๏ “เหล่าอัปสรสำอางล้ำรำโนราห์ สิบสองท่าแสนงามยังจำได้
เครื่องดนตรีประกอบชวนชอบใจ หกชิ้นไซร้ไพเราะนักสลักทรวง
๏ มีกลอง ทับ โหม่ง ฉิ่ง แตระกรับ ปี่ เข้าจังหวะงามดีเชิงชั้นช่วง
ตั้งแต่วันนั้นมาสุดาดวง จึงเตรียมการทั้งปวงเครื่องดนตรี
๏ แล้วร้องรำตามฝันกระชั้นเสียง เหล่าพี่เลี้ยงแสนสนุกเป็นสุขี
ค่จนดึกำร่วมฝึกหัดดัดกายี มโหรีก้องดังทั้งวังใน
๏ จนวันหนึ่งพระธิดาเกิดอาการ อยากเสวยอาหารที่แปลกใหม่
“เกสรบัว” บึงหน้าพาราไกล มินานวันทรามวัยได้ตั้งครรภ์
๏ การฟ้อนรำยามราตรีมิหยุดยั้ง เหล่าชาววังปรีดิ์เปรมเกษมสันต์
ยลยินไกลไปยังวังราชัน คืนหนึ่งนั้นราชามาเยี่ยมยล
๏ พิศดูครรภ์ธิดาน่าสงสัย เห็นโตใหญ่แปลกตาน่าฉงน
พระยิ่งคิดจิตข้องหมองกมล แล้วทรงพลจึงถามความเป็นมา
๏ ทั้งเรื่องการร่ำเรียนท่าร่ายรำ ครูไหนนำมาสอนสั่งให้ดังว่า
ชายใดได้เนื้อเย็นเป็นชายา ตอบวาจาให้ชัดตามสัจจริง
๏ ธิดาเล่าเค้าความตามนิมิต จากดวงจิตแสนซื่อสิ้นทุกสิ่ง
เรื่องทรงครรภ์นั้นไร้ใครแอบอิง สงสัยยิ่งจากเสวยเกสรบัว
๏ ราชาฟังดังนั้นพลันโกรธขึ้ง "ไยเจ้าจึงมิบอกข้าว่ามีผัว
เสื่อมเกียรติญาติพงศ์ต้องพลอยหมองมัว ชาวเมืองทั่วไปจะว่าน่าอับอาย
๏ ตั้งท้องไม่มีพ่อเช่นชาวบ้าน อันสามานย์เขานินทาว่ามากหลาย
ตามกฎจะต้องมล้างให้วางวาย แต่ยังหมายลดโทษทัณฑ์ถึงบรรลัย”
ธนุ เสนสิงห์