โอ้ต้นไผ่ไหวโอนมิโค่นล้ม
โอ้ต้นไผ่ไหวโอนมิโค่นล้ม
มิต้านลมเสียดทานให้ผ่านพ้น
เพื่ออยู่รอดปลอดภัยในตัวตน
หนทางหนึ่งเพียงต่อขอชีวี
หากแข็งข้อต่อกรไม่ผ่อนหัก
ด้วยเพียงรักตัวเองจึงหลีกลี้
เพียงเพื่อตนอยู่ได้ใช่อยู่ดี
อยู่อย่างนี้อยู่ไปทำไมกัน
เพื่อนไม้อื่นอีกมากยากอ่อนไหว
ฤๅทำได้ดั่งไผ่ไปเช่นนั้น
มีแต่หักแต่งอเฝ้ารอวัน
ให้หวาดหวั่นใจห่อพ่ายต่อลม
เปรียบต้นไผ่ไหวตามกับความชั่ว
หลงเมามัวอุบายให้เขาสม
หยุดสวรรค์ปั่นชีวีมีแต่จม
อยู่ใต้ตมโคลนเน่าเจ้าแห่งพาล
เปรียบลมแรงแห่งชั่วตัวมารร้าย
คอยทำลายศีลสัตย์ประหัตประหาร
ธรรมต้องเหี้ยนศีลหดหายพ่ายตามกาล
ฤๅจะทานต่ำช้าสารเลว
ธรรมดาน้ำไหลไปทางต่ำ
หินปากถ้ำฤๅอยู่ไหวไม่ลงเหว
ฤๅหินใดอยู่รอบขอบช่องเปลว
ต้องแหลกเหลวล่นเลื่อนเหมือนสายลม
ถ้าเปรียบลมดังเผด็จการเป็นมารยักษ์
คอยปั่นหักค่อยกะเทาะไม่เหมาะสม
ความเป็นธรรมเสื่อมไปในสังคม
ความล่มจมหายนะแทรกมาพลัน
ถ้าเปรียบลมดังนายทุนวุ่นการค้า
จะคลั่งบ้าโกยกอบชอบแข่งขัน
ธรรมชาติถูกทำลายเป็นรายวัน
ชีวิตสั้นเพราะมลพิษฤทธิ์นายทุน
ถ้าเปรียบลมเป็นคนก็คนร้าย
ธรรมหดหายศีลจมสังคมวุ่น
จะมีหรือเมตตาความการุญ
เพราะขาดคุณแห่งธรรมทำโลกจม
ถ้าเปรียบลมกับนักการเมืองเรื่องบริหาร
ก็ป่วยการพึ่งพาหาได้สม
เห็นมากเหลือเชื่ออะไรในคารม
ส่วนใหญ่ต้มชาวประชาดูน่าชัง
โอ้ไผ่ลมสมดังความชั่งชั่ว
คอยเป็นตัวดับคุณหนุนเหนี่ยวรั้ง
อย่าเป็นลมเป็นไผ่ไร้จิตตัง
จะหมดหวัง "ธรรมครองโลก" ทุกข์โศกเอย