Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
กลอนให้แง่คิด
>>
นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า:
1
...
6
7
[
8
]
9
10
11
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง) (อ่าน 86361 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 5 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#105 เมื่อ:
02 กุมภาพันธ์, 2557, 11:15:40 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๔
๏ เมื่อตกลงเวลากะทันหัน
รีบไปสรรเอาม้ามิช้าได้
ถึงอัศวศาลาของราชัย
ซึ่งภายในมีม้าเกินห้าร้อย
๏ วาหุกเข้าไปชิดพินิจหา
เดินไปหน้าหยุดยั้งบางครั้งถอย
คัดตัวดีได้สี่ม้ามายืนคอย
แต่ราชัยเคืองไม่น้อยคิดต่างกัน
๏ “ข้าเห็นว่าอาชาดีมีอยู่หลาย
อันมีกายอ้วนล่ำกล้ามแข็งขัน
แลไฉนไม่เลือกมาเหล่าม้านั้น
คัดที่มันผอมเหมือนกะพยาธิกิน
๏ ถ้าเจ้าทำล้อเล่นอยู่เช่นนี้
การพิธีอันข้าหวังคงพังสิ้น
อับอายชาวพาราทั่วธานินทร์
เมื่อเจ้ายินแล้วจักต้องตรองจงดี”
๏ วาหุกฟังดังว่ามากล่าวเน้น
“การล้อเล่นกับราชาหาใช่ที่
อันกิจซึ่งหม่อมฉันสรรพาชี
เหตุผลมีตามทักษะอัศวการ
๏ ม้าเหล่านี้ล้วนเลิศประเสริฐล้ำ
เกิดริมน้ำสินธูอู่สถาน
มิอ้วนพีแรงดียิ่งวิ่งทนนาน
รูนาสิกกว้างบานเปิดรับลม
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
,
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#106 เมื่อ:
02 กุมภาพันธ์, 2557, 11:17:24 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๕
๏ “ขวัญม้าดีถ้วนหนาหาได้ยาก
หนึ่งหน้าผากขวัญอยู่ดูเด่นสม
สองขวัญคู่อยู่กลางศีรษะกลม
อกซ้ายขวาเหนือราวนมสองขวัญไซร้
๏ ยังอีกสี่สีข้างฝั่งละสอง
โคนหางหนึ่งพึงมองแลเห็นได้
สิบขวัญแห่งอัศวการม้าชาญชัย
ที่เหลือใช้ความเชี่ยวชาญการบังคับ
๏ ฤๅพระองค์เห็นว่าอาชาไนย
พึงพอใจตัวอื่นมีที่งามสรรพ
เชิญพระองค์ทรงสรรหม่อมฉันรับ
มาผูกกับราชรถบทจร”
๏ ราชาฟังดังแจงเหตุเป็นเด็ดขาด
ยอดวิชาอัศวราชมิอาจค่อน
กล่าวเห็นชอบตอบความตามสุนทร
มิเกี่ยงงอนแต่ไว้ท่าในพาที
๏ “เจ้ามั่นใจก็ไม่ห้ามตามที่ว่า
จักสรรม้าร่วมไว้มิใช่ที่
ถ้าเกิดไปไม่ทันในงานนี้
เจ้าโทษม้าข้าไม่ดีเสียปะไร”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#107 เมื่อ:
02 กุมภาพันธ์, 2557, 11:18:49 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๖
๏ ในครานั้นพระนลคนรูปชั่ว
เมื่อเตรียมตัวจะผูกม้าหาได้ไม่
สี่ม้าคู้เข่านอนเหมือนอ่อนใจ
มิคึกคักเลยไฉนยอดพาชี
๏ วาหุกเดินเข้าไปใกล้ใบหน้า
มือสัมผัสกายาม้าทั้งสี่
แล้วเอื้อนเอ่ยสุนทรอ่อนหวานดี
จ๊ะจ๋ามีจำนรรจ์ฉันคนรัก
๏ สี่ม้ายืนขึ้นพลันสั่นหางหู
ร้องก้องอยู่ด้วยคึกเต้นกึกกัก
จึงผูกม้าเสร็จได้ไม่ช้านัก
จับสายชักสายขับกระชับพลัน
๏ ขอราชาอนุญาตประกาศหา
ซึ่งนายวาร์ษไณยอยู่ใกล้นั่น
มาขึ้นรถเร็วไวไปด้วยกัน
เผื่อได้ช่วยหม่อมฉันขับรถทรง
๏ รถวิ่งแล่นลิ่วไปดังใจคิด
ด้วยมหิทธิเดชาพระนลส่ง
ดุจธนูจากแหล่งลำแสงตรง
ฝ่ารกพงมิพรั่นพรึงคำนึงใด
๏ วาร์ษไณยใคร่ครวญหวนรำลึก
ความรู้สึกกลางจิตคิดสงสัย
ดูลีลาวาหุกนี้ที่เป็นไป
เหมือนกันในเชิงทักษะของพระนล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#108 เมื่อ:
02 กุมภาพันธ์, 2557, 11:19:54 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๗
๏ ฝีมือม้าคราอยู่กันนั้นบ่งชี้
ละเอียดล้วนถ้วนถี่มีเหตุผล
เกิดเหมือนกันฉันใดให้พิกล
มิพูดบ่นแต่คิดพลางกลางพนา
๏ ท้าวฤตุบรรณนั้นนั่งนึกกำหนด
ราชรถพุ่งไปไวแกล้วกล้า
ไม่ผิดคำที่เคยเอ่ยวาจา
องค์ราชาเพ่งพิศพินิจเพลิน
๏ “เออจริงนะพจีที่เปรียบไว้
รถพุ่งไปพลิ้วผ่านปานเหาะเหิน
ท่วงทีขับขยับกายงามหลายเกิน
เหลือประเมินความสามารถอัศจรรย์
๏ ปรารถนาแห่งข้าวิชานี้
ขอโดยดีเขาจักให้เราไหมนั่น
ฤๅต้องใช้วิชามาแลกกัน
ดวงจิตแห่งราชันพลันวุ่นวาย”
๏ ราชรถทะยานไปกลางไพรกว้าง
ถิ่นแถวทางเถื่อนทุ่งมุ่งที่หมาย
ข้ามเขาเขินเนินดินโดยง่ายดาย
ตะลุยสายธาราฝ่าพงรก
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#109 เมื่อ:
02 กุมภาพันธ์, 2557, 11:21:06 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๘
๏ กำลังม้าพารถมิลดหย่อน
สุรีย์รอนอ่อนแสงแรงไม่ตก
ราชันนึกตรึกในไวดั่งนก
จึงหยิบยกผ้าคลุมปล่อยลอยลมไป
๏ เรียกวาหุกให้สั่ง “รั้งม้าหยุด
อย่ารีบรนจนสุดนักก็ได้
ภูษาอันพันอังสาข้าคลุมไว้
หลุดลอยไกลเกินจะกะประมาณ
๏ รถเรารั้งรอไว้ไม่ต้องย้อน
พักม้าก่อนกินน้ำหญ้าหน้าละหาน
วาร์ษไณยไปเก็บมามิน่านาน”
ก็กระทำตามการที่บัญชา
๏ ยามเมื่อวาร์ษไณยคล้อยไปนั้น
องค์ราชันพลันเอ่ยเปรยขึ้นว่า
“อันปวงชนคนทั่วทั้งโลกา
ฤๅประสิทธิ์วิทยาได้มาครบ
๏ บุรุษใดใครเชี่ยวชาญทุกด้านถ้วน
บางสิ่งควรดีเด่นเรียนเจนจบ
หากศิษย์ครูคู่กันมาน่าเคารพ
เพื่อนที่คบรู้แจ้งอาจแบ่งปัน
๏ ต้นสมอพิเภกไพรกลุ่มไกลโน้น
จำนวนโคนสิบห้าแน่มิแปรผัน
นับเพียงใบแก่ทั้งกอเมื่อรวมกัน
สังขยา*ห้าโกฎิสรรเศษมิเอา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#110 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:48:19 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๐๙
๏ ผลสมอทั้งกอใหญ่ได้แสนสี่
กิ่งใหญ่นั้นอันข้าชี้สองพันเก้า
หัวใจสกาใช้มิได้เดา
ใจของเจ้าจักเชื่อความตามนั้นฤๅ”
๏ “ลูกสกาหามากสักเท่าใด
ยังทำให้เสียสินจวนสิ้นชื่อ
ผลสมออาจขอทายในกำมือ
ทั้งกิ่งคือใจมิเหลือที่เชื่อเลย
๏ อยากขอให้ฉันไปฟันกิ่งอันว่า
นับต่อหน้าด้วยกันนั้นเฉลย
จะตกลงดังจงใจได้ไหมเอย
โปรดอย่าเฉยนิ่งช้าพาเสียการ
๏ แม้นตรวจนับผลดูจึงรู้ได้
จักมิใช้เวลาช้าเลยท่าน
ม้าได้พักแล้วจักโผนโจนทะยาน
มิเนินนานถึงปลายทางโปรดวางใจ”
๏ “ถ้ากระนั้นฟันโดยไวอย่าได้ช้า
แล้วตรวจตรานับให้ดีมีเท่าไหร่
หากหล่นลงตรงโคนนั้นคราฟันไม้
จงนับไว้รวมกันตามกติกา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#111 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:49:29 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๐
๏ ตกลงความตามใจที่หมายมั่น
วาหุกรีบไปฟันกิ่งพฤกษา
เริ่มนับพลันหวั่นเรื่องเปลืองเวลา
กองละห้าร้อยไล่ไปจนครบ
๏ วาหุกถึงตะลึงหลงงงงันอยู่
ฤตุบรรณท่านถามดูผลประสบ
วาหุกหันมาระยอบนอบน้อมนบ
“ท่านเจนจบจริงถูกต้องมิพร่องเลย
๏ ยอดยิ่งนักจักมีใครในโลกนี้
วิชาดีอยากวานท่านเฉลย
หัวใจอาชาไนยให้ชดเชย
แลกเปลี่ยนกันท่านจงเอ่ยมาตามตรง”
๏ ใกล้เวลาสายัณห์ตะวันลับ
ต่างรีบรับด้วยจิตคิดประสงค์
“เริ่มหัวใจสกาข้าดำรง
หากจิตจงสังขยากีฬาคณิต
๏ ก่อนศึกษาวิชาดีมีข้อแม้
ให้แน่วแน่จำนงจงในจิต
มิละโมบโลภหลายหมายฆาตมิตร
และมีสิทธิ์เพียงคราละหนึ่งครั้ง
๏ เมื่อหัวใจสกาขลังตั้งมั่นแล้ว
จักผ่องแผ้วในฤดีดังที่หวัง
ตัดสินใจไปตามจิตนิมิตภวังค์
มิพลาดพลั้งเป็นแน่แท้จริงเจียว
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#112 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:50:49 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๑
๏ ชวนกันนั่งหลังโขดเขินเนินไศล
คาดมิให้ใครจ้องมาข้องเกี่ยว
ขีดเขียนดินโดยใช้กิ่งไม้เรียว
ประเดี๋ยวเดียวเสร็จสมอารมณ์ปอง
๏ ฤตุบรรณคะยั้นคะยอ “ขออย่าช้า
สอนให้ข้าเข้าใจไม่เป็นสอง
ซึ่งหัวใจอาชาไนยข้าใฝ่ปอง
ตามครรลองตรรกะไฉนกัน”
๏ วาหุกทูลราชาว่า “ข้าบาท
มิบังอาจโยกโย้มีโมหันธ์
ก็จักหมายขยายนัยใจม้านั้น
ความสำคัญแม้สักนิดมิปิดบัง
๏ หัวใจแห่งพาชีเมื่อมีแล้
รู้เที่ยงแท้พิสุทธิ์ดุจมนต์ขลัง
อาชาที่ฝีเท้าเลิศเกิดพลัง
ความดุจดังมุ่งมั่นสรรม้ามา
๏ หลักสำคัญอันเน้นเป็นเอกอุ
คือบรรลุข้ามชาติพันธุ์ภาษา
มิคิดเห็นเป็นแต่แค่อาชา
ใจเชื่อมกันมิฉันทาพาเลิศแล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#113 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:51:59 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๒
๏ จุดประสงค์จำนงใดกล่าวให้แจ้ง
ช้าเร็วแรงสำแดงความตามกระแส
ถึงจุดใจเชื่อมใจได้จริงแท้
ก็คือแง่แห่งตรรกะอัศวการ
๏ มีเคล็ดหนึ่งซึ่งพระองค์ต้องทรงคิด
ด้วยดวงจิตเป็นกุศลบนพื้นฐาน
เลี้ยงสมบูรณ์พูนพละอภิบาล
เมตตาทานนั่นคือทุนบุญความดี
๏ แล้วจึงชวนฤตุบรรณร่วมผันผาย
พากันย้ายจากเนินดินถิ่นไพรศรี
ออกดำเนินเดินไปหากลุ่มพาชี
วาหุกมีอธิบายขยายนัย
๏ มือสัมผัสผิวกายใช้จิตส่ง
เจตน์จำนงสิ่งนั้นเป็นไฉน
เคล็ดวิชาดังว่านั้นบรรยายไป
โดยมิให้ใครอื่นดูและรู้ความ
๏ เป็นครูศิษย์เสร็จสมหวังกันทั้งสอง
คลายหม่นหมองแห่งจินต์สิ้นคำถาม
วาร์ษไณยกลับมาเวลางาม
ฤตุบรรณนั้นได้ตามน้ำใจจง
๏ แต่วาหุกครานั้นมิทันย่าง
กลีออกจากร่างดังประสงค์
ดิ้นเร่าเร่าอยู่บนพื้นมิคืนทรง
“ขอเมตตาข้าพระองค์อย่าทำลาย”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#114 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:53:07 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๓
๏ “ยอมต่อพระเมตตาบารมีท่าน
แลข้าแสนทรมานเจ็บปวดหลาย
คำสาปทมยันตีมีฤทธิ์ร้าย
เข้ากล้ำกลายวิญญาณผลาญย่ำยี
๏ คาบที่สองต้องพิษฤทธิ์แรงร้อน
ดังกองฟอนสุมกายไม่อาจหนี
นั่นคือพิษรุนแรงแห่งนาคี
จนชีวีแทบมลายอยู่หลายครา
๏ และถึงคาบที่สามในยามนี้
พระองค์ได้วิชาดีมากมีค่า
คือหัวใจตรรกะแห่งสกา
ล้วนนำพาข้าแดดิ้นสิ้นพลัง
๏ บุญฤทธิ์อิทธิสร้างแต่ปางก่อน
ถูกลิดรอนมลายพ้นด้วยมนต์ขลัง
พระองค์ย่ำซ้ำก็ดิ้นสิ้นเอวัง
หากว่ายังเมตตาข้าขอจร”
๏ เมื่อพระนลมิมีจิตคิดจะปราบ
กลีกราบกระย่องกระแย่งเรี่ยวแรงอ่อน
แล้วลาลับวับไปในดงดอน
นลราชามาผ่อนร้อนกายใจ
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#115 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:54:19 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๔
๏ เหลือแต่รูปร่างกายภายนอกแล้ว
จิตราชันนั้นดั่งแก้วเปล่งแววใส
ดั่งร่างองค์เบาลงเสียกระไร
สำนึกได้ไร้อธรรมครอบงำครอง
๏ จึงรีบขึ้นไปนั่งเตรียมตั้งท่า
ขับอาชาต่อไปไม่หม่นหมอง
เถื่อนวิถีเหมือนมีใจให้สมปอง
สนธยาฟ้าทองถึงวิทรรภ์
๏ นายประตูผู้ใหญ่ครั้นได้พบ
เป็นคำรบที่มากะทันหัน
รีบกราบทูลองค์ภีมราชัน
แล้วเชิญท้าวฤตุบรรณเข้าวังใน
๏ รถทะยานผ่านประตูสู่วังราช
กัมปนาทลั่นเลือนสะเทือนไหว
มีทั้งเสียงรถม้าที่คลาไคล
ม้าต้นของพระนลไซร้ประสานกัน
๏ อยู่ในโรงคงรู้ว่านายมานี่
เหล่าพาชีคะนองเสียงร้องลั่น
จากกันคราพาบุตราบุตรีนั้น
วาร์ษไณยรับบัญชาธิดา
๏ รถวิ่งตามถนนวนวังใหญ่
ดูแคล่วคล่องว่องไวยิ่งนักหนา
ทมยันตียินเสียงนี้ที่คุ้นมา
รีบออกไปยังหน้าพระบัญชร
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#116 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:55:34 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๕
๏ ทั่ววังทองผ่องสีสะท้อนแสง
เจิดแจรง*เรืองจรัสประภัสสร
แว่วยินเสียงสวรรค์ประทานพร
มองอมรรุ่งอร่ามงามพิไล
๏ ที่สวนขวัญนกยูงงามรำแพนหาง
ร่ายรำอย่างสนุกสุขสดใส
ช้างลำพองร้องเสียงสังข์ดั่งอวยชัย
ทมยันตีนั้นมั่นใจในครานี้
๏ แม้นภัสดามิมาชมให้สมรัก
ไม่พบพักตร์ขององค์พระทรงศรี
ตัดสินใจไม่ขออยู่สู้ชีวี
จะขอพลีร่างให้พระเพลิงมลาน
๏ รำพึงใจใช่พระนลคนพูดปด
ทรยศต่อใครให้หักหาญ
สิ่งเลวทรามยามจิตดีมิแผ้วพาน
จะพิจารณ์ร้ายใครไม่เคยยิน
๏ พระทัยงามตามจิตจริตแท้
พระดูแลเมียดังหวังถวิล
ความจงรักมิจางใจไปจากจินต์
ตราบจนสิ้นชีวันจากกันไกล
๏ เทวีพิไรครวญป่วนในจิต
จักพบองค์ทรงสิทธิ์ได้ไฉน
เป็นจริงจังดังคิดหรือผิดไป
ร้อนฤทัยระทมมิสมประดี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#117 เมื่อ:
09 กุมภาพันธ์, 2557, 08:56:55 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๖
๏ ท้าวฤตุบรรณครั้นลงราชรถ
จุดกำหนดชานชาลาสารถี
เสด็จสู่ปราสาทในไม่รอรี
จึงท้าวภีมราชามาทักทาย
๏ มิได้รู้เบื้องลึกนึกฉงน
ถามเหตุผลที่แท้แก่สหาย
“ท่านรีบมาฉะนี้เหตุดีร้าย
ขอขยายให้แจ้งประจักษ์ใจ”
๏ ครานั้นฤตุบรรณอันมีศักดิ์
ทรงฉลาดยิ่งนักด้วยรู้ได้
หากมีการสยมพรแน่นอนไซร้
เจ้ากษัตริย์น้อยใหญ่เต็มพารา
๏ พราหมณ์ทุกหมู่ผู้ชาญการพิธี
มาร่วมงานวันนี้มิพบหน้า
นึกคำนึงจึงเจ้าอโยธยา
เอ่ยความว่า “มาเยี่ยมองค์พระทรงธรรม์”
๏ ภีมราชก็รู้นัยว่าใช่ที่
อยู่ดีดีจะมาหาดังว่านั่น
ร้อยโยชน์ไกลมิใช่ว่ามาเยี่ยมกัน
โดยไร้เหตุสำคัญอันบ่งชี้
๏ ชวนให้พักผ่อนกายหลายวันก่อน
นัยแฝงอยู่รู้แน่นอนมิอาจหนี
จึงเชิญเจ้าอโยธยาจอมธานี
“ขอจงมีสำราญพระหฤทัย”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
masapaer
,
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#118 เมื่อ:
15 กุมภาพันธ์, 2557, 11:35:22 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๗
๏ ครานั้นหนาวาหุกสารถี
นำพาชีสู่โถงโรงม้าใหญ่
ปลอบม้าเดิมที่พรากจากกันไกล
และม้าใหม่ให้ชินคุ้นกลิ่นกัน
๏ แล้วทำความสะอาดราชรถ
โศกกำสรดถึงเทวีฤดีสั่น
สยมพรที่ว่ามาก่อนนั้น
ดูการณ์อันเป็นไปไม่น่ามี
๏ ทมยันตีมีใจดั่งร้อน
จะพักผ่อนนอนหลับใหลก็ใช่ที่
แสนสงสัยใช่ไหมหนอนลบดี
มีวิธีให้เผยร่างได้อย่างไร
๏ รับสั่งเรียกเกศินีสาวพี่เลี้ยง
มานั่งเคียงปรึกษาฟังปราศรัย
เมื่อตกลงกันได้จึงให้ไป
เริ่มซักไซ้เค้าความตามกระบวน
๏ เกศินีพี่เลี้ยงผู้ฉลาด
ไปสัมภาษณ์วาหุกสิ้นทุกส่วน
ด้วยลีลาคารมอันสมควร
เรื่องมาด่วนอยากรู้เหตุเจตนา
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
«
ตอบ
#119 เมื่อ:
15 กุมภาพันธ์, 2557, 11:36:59 AM »
หน้าแรก
Re: นิทานพระนลคำกลอน(ฉบับร่าง)
หน้า ๑๑๘
๏ “สยมพรพิธีที่กล่าวขาน
ท้าวอโยธยาต้องการขนิษฐา
ด้วยพระองค์ทรงฤทธิ์คิดเมตตา
ช่วยธิดาพ้นโศกวิโยคใจ
๏ รู้ข่าวดีที่เวลากะทันหัน
มาเร็วพลันมิแวะวนแห่งหนไหน
วันเดียวบึ่งถึงวิทรรภ์พร้อมท้าวไท
ความเป็นไปทุกส่วนล้วนสัจจริง”
๏ ครานั้นนางเกศินีฟังที่เล่า
เริ่มซักเค้าความทั้งหลายไปทุกสิ่ง
“สารถีที่ตามมาน่าติติง
เขาเคยทิ้งพระนลเหตุผลใด”
๏ “พระนลแท้แลผิดติดสกา
จะสนใจอาชาก็หาไม่
เขามีนามว่านายวาร์ษไณย
เคยรับใช้การอัศวพระนล”
๏ “เขารู้แหล่งแห่งหนพระนลหาย
หลีกเร้นกายจากไปกลางไพรสณฑ์
หรือรู้ที่แอบแฝงแหล่งตำบล
พระทรงพลซ่อนกายได้เนานาน”
๏ “เขามิรู้ความใดในสิ่งนี้
เมื่อพระนลมิมีการประสาน
คงอัดอั้นตันใจในการงาน
ฉะนั้นถึงไปพึ่งท่านฤตุบรรณ”
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า:
1
...
6
7
[
8
]
9
10
11
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...