masapaer
|
"ยายจ๋า..อยากถามยาย"
“ยายจ๋า..อยากถามยาย?”
*
เขาว่าคนมีคู่ดูเป็นสุข เขาสนุกสำราญสวรรค์สร้าง จริงหรือยายบอกหนูให้รู้พลาง ตอนยายว่างสอนหนูให้รู้ที
ยายจ๋ายายตอนนี้มีเรื่องแปลก ดรุณแรก..แตกเนื้อสาว..หนาวฉวี เป็นอย่างไรยายเอ่ยเปรยก่อนมี สมัยที่ยายรุ่นดรุณกาล
ยายจ๋ายายไยหนูดูตื่นเต้น เหงื่อกระเซ็นเป็นคลองหนองละหาน ยายจ๋ายายหนูหวามตามดวงมาน เมื่อเห็นเพื่อนข้างบ้านเดินผ่านมา
นะยายจ๋าสอนหนูให้รู้หน่อย หนูใจลอยบ่อยเกินเขินประหม่า เดินผ่านชายรูปงามยามสบตา เขินมากมายยายจ๋าน่าอายจัง
ตอนยายสาวคราวรุ่นดรุณแรก ยายมีไหมหวิวแปลกแทรกเหมือนคลั่ง ยายจ๋ายายไขเพียงอย่าเสียงดัง เดี๋ยวข้างหลังได้ยินมิสิ้นอาย
ยายจ๋ายายเมื่อหนุ่มมากรุ้มกริ่ม ทำเป็นยิ้มสบตาหาความหมาย ใจมันเต้นสะเทือนเหมือนละลาย หนูต้องตายหรือไม่ไขหลานที
..นะจ๊ะยาย..
หลานดาวค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ระนาดเอก
Webmaster
ออฟไลน์
กระทู้: 1100
~"พลิ้วไหว..ดั่งสายน้ำ"~
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
ตาตอบแทนได้ไหมในกระทู้ เพราะอ่านดูหวนสมัยใจเต้นถี่ เมื่อแตกหนุ่มกรุ้มกริ่มยิ้มนารี เคยมาจี้เจาะใจวัยคะนอง
คงเพราะธรรมชาติอาจจะบอก มาเย้าหยอกดรุณรุ่นเอี่ยมอ่อง ว่าเจ้าแตกเนื้อสาวพราวเนื้อทอง รูปลักษณ์ต้องสายตาอารมณ์ชาย
อารมณ์เขินเกินห้ามทั้งหวามหวิว ควบคุมคิ้วตาปากหลากหลายฝ่าย ตามประสาต้องใจเกิดในกาย ว่าเจ้าหมายชายหนุ่มนะพุ่มพวง..
คุณตาระนาดจ้ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ลิตเติลเกิร์ล
นักกลอนผู้มีไฟ
ออฟไลน์
กระทู้: 174
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
ยามเขินอายเอียงม้วนล้วนสิ้นท่า ควบคุมกายกริยายากหนักหน่วง สติหายพ่ายแพ้หนอแดดวง ความสาวพ่วงความอาย เคียงกายนาง
อยากบอกเขาถึงความคิด ติดเขลาขลาด ไยยืดยาดยืนอยู่หยุดเยื้องย่าง อาย อ๊าย อาย อายยิ่งทุกสิ่งทาง ทั้งสองปรางแดงปลั่งร้อนดั่งไฟ
ลิตเติลเกิร์ล
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
masapaer
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
ฟังความตายายกล่าวเล่าเรื่องรัก อย่ารีบปักรักในวัยแรกผลิ ไม่หวานมันอย่างเห็นเช่นกะทิ หากรีบริรักไวใจจะครวญ ( สระอิหนอ)
อย่าเพ่อร้อนหวามไหวกับใครเขา (ยายสอนไว้) หลานกลัวเหงาหากผลัดพลาดรถด่วน จะตึดแหงกชานชาลา (ชานชรา) ลาขบวน อาจกำสรวลเหี่ยวใจให้อายคน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
สวัสดีค่ะ พี่ดาว พี่สาวน้อง เหมือนเราสอง..พลัดมาน้ำตาหล่น หอบเสื้อผ้า ลาจร ให้ร้อนรน แต่มิจนหนทางแม้ต่างมา
อาจมิได้เข้มแข็งแสดงเห็น ด้วยน้องเป็น อ่อนด้อย น้อยศึกษา เกิดจากบ้านหลังนั้นจำนรรจา เป็นครูบาเริ่มเรียนเขียนอ่านตน
สัญญาใจในบ้านเคยขานสื่อ บ้านเราคือหลังเดี่ยวมิเที่ยวสน บ้านหลังไหนไม่งามอร่ามยล เราสุขล้นด้วยกันทุกวันเนา
เพียงนกจิบหยิบกลอนอักษรรัก มิรู้จักนกเหยี่ยวปราดเปรี่ยวเขา กุญแจใจให้หมดสะกดเรา กลายเป็นเจ้าถิ่นฐานครอบบ้านครอง
เคยวิ่งเล่นสนุกสนานสำราญรส วันนี้หมดที่เล่นเย็นทั้งผอง ให้นั่งซุกจุกใจเพียงได้มอง เพียงหนึ่งน้องอดทนสู้ทนไป
เพราะมีครูผู้ให้อยู่ในนั้น แต่ทุกวันไม่เห็นเป็นอยู่ไหน จึงได้บ่ายหน้ามาเดินหาใจ หนึ่งทรวงในอยู่นี่คือพี่ชาย
.............
ไม่เขียนต่อ ไว้กลอนหน้าขอเรียบเรียงดีๆก่อนนะคะ ไม่ต้องบอกพี่ก็รู้ว่าน้องเป็นไง ให้น้องพร้อมก่อนนะพี่ ..ลบออกได้นะคะ..
ต่ายค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศิลาสีรุ้ง
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1070
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
policeprinting webiz.co.th
พิษลมปาก
คงมิกล้าลบกลอนน้องให้หมองจิต ต่างเจอพิษลมปากลำบากหลาย เคลือบหน้าเนื้อเจือกรดรดราดกาย แฝงยิ้มพรายพ่ายกล..มนต์จังงัง
เห็นรูปน้องจ้องปืน..ยืนจังก้า ยิ่งมิกล้ากดปุ่ม..กลัวคลุ้มคลั่ง ขอไม่ลบดีกว่าต้องระวัง กลัวโดนสั่งด้วยปืนกลหม่นอุรา
แหะ..แหะ..ค่อยพูดค่อยจาเถิดหนาน้อง ปลดลำกล้องปืนลงคงดีกว่า ล็อคเซฟปืนด้วยเชียว..เสียววิญญาณ์ . ลูกกระสุน..ไม่พูดจา..ตาไม่มี... ...แหะ..แหะ..
ขอบคุณครับ
ศิลาสีรุ้ง ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ jakrabb.inwshop.com
ขอบคุณภาพจากInternet ครับ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
masapaer
|
Re: "ยายจ๋า..อยากถามยาย"
ฟังความตายายกล่าวเล่าเรื่องรัก อย่ารีบปักรักในวัยแรกผลิ มิหวานมันอย่างเห็นเช่นกะทิ หากรีบริรักไวใจจะครวญ ( สระอิหนอ)
อย่าเพ่อร้อนหวามไหวกับใครเขา (ยายสอนไว้) หลานกลัวเหงาหากผลัดพลาดรถด่วน จะตึดแหงกชานชาลา (ชานชรา) ลาขบวน อาจกำสรวลเหี่ยวกายให้อายคน "ถามยาย"
หนุนตักยายฟังคำที่พร่ำสอน คำบวรสอนหลานผสานผล กลัวหลานอายให้ต้องหมองดวงมน เกรงเขายลสูญเสียเพลียหัวใจ
โธ่ !ยายจ๋าหลานยายกลัวสายนัก หากจะรักแต่ช้ากว่าพบได้ ทั้งสังขารผ่านเกินเจริญวัย อายุไปไม่ทันขันธ์ร่างกาย
มันร้อนรุ่มกลุ้มหนาวเข้าห้าสิบ รักไกลลิบหยิบมือ ฮื้อ! ใจหาย ยังมิเคยเรียนรักจักเปล่าดาย นะคุณยายไขเพิ่มเสริมปัญญา
คืออะไรกันแน่แค่หนุ่มจ้อง เสียงใจก้องร้องถี่แทบปรี่หา หนูอายจังครั้งชายใกล้สบตา ใจประหม่าสั่นรัวทั่วสรรพางค์
ชายหนุ่มน้อยคอยมองคล้องคำหวาน ใจลนลานไหวยวบจวบฟ้าสาง ถามยายจ๋าหากชายเข้าใกล้นาง มีหนทางอย่างใดให้วางตัว
โอกาสมีไม่มากแม้อยากใกล้ ประหวั่นใจวัยหลานนั้นเริ่มหลัว เกรงเกรงกึ่งกล้ากล้าคละกลัวกลัว เอาให้ชัวร์นะยายทำไงดี..อิอิ
หลานขี้สงสัย..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|